บทที่ ๕ บทลงโทษ
เพียงออยืนหน้าก้มหน้าข้างรถโดยพีรวัสดับเครื่องยนต์แล้วตามลงมาหลังมีเสียงเคาะกระจกหยุดยั้งบทพิศวาสที่กำลังดำเนินอยู่บนเบาะรถโดยคนเป็นป้าสุภาตั้งใจมาชวนทั้งคู่ไปหาพีรพงศ์ที่จะเดินทางคืนนี้ พอจอดรถใกล้รถพีรวัสก็เห็นสองคนกำลังกอดรัดกันอยู่ในรถ แม้นางจะเข้าใจความรู้สึกหนุ่มสาวแต่คิดว่ามันประเจิดประเจ้อเกินไป จึงเคาะกระจกเรียก ผลก็คือเพียงออลงมายืนก้มหน้างุดส่วนพ่อหลานชายตัวดีลงมายืนหน้างออย่างเด็กถูกขัดใจ
“ป้ามาชวนไปส่งพี่พงศ์ จะไปหรือเปล่า” สุภาถามเมื่อพีรวัสเดินมาหยุดใกล้ๆ
“ไปค่ะ”คำตอบของเพียงออเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ พีรวัสจึงถามป้าสุภากลับ
“ไปทำไมครับ เมื่อเช้าก็ลากันแล้ว ของฝากก็ให้ไปแล้ว”
“เอ๊ะ! ตาพี พี่เขาไปอยู่เมืองนอกนานๆ กลับมาที แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเมื่อไหร่อีก บางทีอาจได้มาตอนป้าตายทีเดียวเลย”
“คุณท่านอย่าพูดแบบนี้สิคะ” เพียงออรีบปราม ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็ไม่ปาน
“อะไรๆ มันเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกเพี้ยงเอ๊ย ป้าไม่ได้คิดมากแค่เตรียมใจเอาไว้ ถ้าถึงเวลาตายก็ต้องตายใครจะไปฝืนได้ใช่มั้ยล่ะ แต่ป้าก็หายห่วงเรื่องเราสองคนแล้ว แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาช่วยดูแลซึ่งกันและกันแบบนี้ตลอดไปนะลูก”
“ค่ะ” เพียงออรับคำแต่พีรวัสกลับเงียบทั้งยังชายตามองหล่อนแล้วเหยียดมุมปาก
เขารังเกียจหรือเยาะเย้ยกันแน่ เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาเขากับหล่อนยังไม่มีอะไรกันเหมือนผัวเมียทั่วไปเลย ซึ่งหล่อนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ทำไมพีรวัสถึงรังเกียจตนนัก และถ้ารังเกียจเนื้อตัวหล่อนจนไม่อยากแตะต้องจริงๆ แล้วยอมแต่งงานด้วยทำไมแล้วที่เผลอเป็นกอดเผลอเป็นจูบนี่คืออะไรกัน รังเกียจอีท่าไหน
แต่เพียงออก็มีคำตอบให้ตัวเองอยู่แล้วว่าเพราะเขากลัวไม่ได้ทรัพย์สมบัติจากป้าสุภา แต่อย่างน้อยเมื่อแต่งกันแล้วก็น่าจะทำหน้าที่สามีบ้าง ใช่ไหมล่ะ
“เอาละถ้าเราไม่ไป ป้าไปกับเพี้ยงสองคนก็ได้” ป้าสุภาว่า แล้วเดินไปที่รถ เพียงออลอบชายตาดูปฏิกิริยาของพีรวัส ก่อนวิ่งตามสุภาไปโดยไม่พูดอะไรและไม่รอฟังคำใดจากเขาด้วย
“ใครขับรถให้ป้า” พีรวัสยังตะโกนถาม
“ป้าขับมาเอง เดี๋ยวให้เพี้ยงขับต่อ ไปนะ” สุภาหันมาตอบ แล้วส่งกุญแจรถให้เพียงออ
หลานสะใภ้หมาดๆ รีบรับมาโดยดีแล้วเปิดประตูให้ พอหันตัวก็ชนกับร่างใหญ่ที่จงใจมายืนชิด โดยไม่ทันเห็นว่าเขาเดินตามมาตอนไหนทำไมไวขนาดนี้
“อย่ากลับดึกรู้ไหม แล้วก่อนเข้าไร่ก็ดูดีๆ ล็อกรถตลอดด้วยนะอย่าประมาท”
“ค่ะ” หล่อนไม่รู้ทำไมพีรวัสถึงสั่งเช่นนี้แต่รับคำไปเพื่อให้เขาสบายใจ พีรวัสถอยออกห่างเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพียงออได้เดิน แต่หล่อนยังไม่ทันได้เดินเขาก็เปลี่ยนคำสั่งใหม่
“ไม่ดีกว่าก่อนกลับรีบโทรมาบอก ฉันจะขับรถไปรอที่ปากทางเข้าไร่ เข้าใจนะ”
“ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วยค่ะ” เมื่อสงสัยหนักก็ต้องถาม แต่ทำให้คนถูกถามเคืองเข้าให้คำตอบจึงห้วนๆ สั้นๆ
“เพราะฉันสั่ง” แล้วเขาก็ถอยห่าง เดินกลับไปที่รถ
“ทำไมไม่บอกว่าเพราะห่วงบ้างละคะ” เพียงออพึมพำแค่ได้ยินคนเดียวก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถทว่าพีรวัสก็เปลี่ยนใจเดินกลับมาอีกครั้ง
“ขับเอง” เขายื่นกุญแจรถของตัวเองให้ยายหมาเน่าแล้วบอก
“ไปเอากระเป๋าสตางค์กับมือถือในรถมาหน่อย”
“อะไร ยังไงกันตาพี เดี๋ยวป้าก็สายพอดี” ป้าสุภาที่นั่งรออยู่อดถามไม่ได้
“ผมไปด้วยครับ เดี๋ยวขับรถให้เอง” แล้วหันมาเร่งเพียงออ
“เร็วๆ สิ”
“ค่ะ” เพียงออรับคำงุนงงตามอารมณ์คนเป็นสามีไม่ทันจริงๆ ก่อนจะเดินแกมวิ่งไปเปิดรถเพื่อหยิบของตามที่เขาสั่ง แล้วกลับไปขึ้นรถ พีรวัสออกเร็วทันทีเรียกว่าหล่อนยังไม่ทันปิดประตูด้วยซ้ำ
“เบาๆ น้องยังไม่ปิดประตูเห็นไหม เดี๋ยวได้ตกลงไปหรอก” สุภาร้องปรามทันทีเช่นกัน
“ไม่เป็นไรค่ะคุณท่าน เพี้ยงชินแล้ว คุณพีขับรถเหมือนซื้อใบขับขี่มา”
“พูดมาก ทีหลังมาขับเอง” พีรวัสว่าแต่ชะลอรถเพื่อให้เพียงออปิดประตูรถให้สนิทเสียก่อน
“ไม่เอาค่ะ ฉันชอบนั่งเป็นคุณนาย” หล่อนว่าแล้วปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะ แต่คนนั่งด้านหน้ายังคงได้ยิน พีรวัสหน้าง้ำ คิ้วขมวดทันที ส่วนสุภานั้นอดยิ้มขันไม่ได้ตอกย้ำว่าตนเลือกจับคู่คนไม่ผิด ทั้งคู่เท่าทันกันทุกอย่างแม้ท้ายที่สุดเพียงออจะเป็นฝ่ายยินยอมเสมอก็ตามที