“โอ...อย่างนั้นหรือจ๊ะ แม่ช่วยลูกได้เสมอ แลกกับการที่ลูกต้องมากินมื้อเย็นกับแม่ทุกวันจนกว่าเธอจะกลับไป ดีไหม”
อเล็กเซย์ทำหน้าประหลาด “ผมไม่ชอบอาหารไทย มันเผ็ด”
วาเลนติน่าทำหน้าเง้า หากเป็นเลฟคงได้ตอบกลับรับคำอย่างไว เพราะแม้ว่าจะไม่ชอบเสวนากับมารดาอย่างนาง แต่ไม่มีทางปฏิเสธอาหารไทยที่ถูกปากนักหนา
“เราสองคนไม่ได้ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันสักพักแล้วนะอเล็กเซย์”
“ครับ เอาเป็นว่าถ้าว่างแล้วผมจะมาแล้วกัน ตอนนี้รบกวนช่วยดูแลเธอ ตอนที่ผมออกไปข้างนอกจะได้ไหม”
“ข้างนอกอีกแล้วเหรอ บ้านมันร้อนหรือไงอเล็กเซย์ อยู่นี่ให้แม่นั่งมองลูกทั้งวันจะเป็นไร”
อเล็กเซย์ยิ้มแหยๆ เริ่มคิดหาทางออก
“เอ่อ...ผมควรแวะไปที่คลับสักนิด ดูเหมือนว่าลูกค้ารายใหญ่ของเราจะมีปัญหา”
“พวกที่มาจากมอสโกเหรอ” นางหมายถึงมาเฟียเจ้าถิ่นที่มักแวะเวียนมาที่เกาะเพื่อเล่นพนันและนัดแนะกันซื้อขายอาวุธ นางไม่ชอบเลยที่บิดาผู้ตายจากไป สร้างคลับเก่าแก่นั้นไว้เพื่อเป็นศูนย์กลางความโสมมทั้งหลาย แต่จะขัดก็ไม่ได้เพราะคลับทำเงินให้ครอบครัวนางมากมายเหลือเกิน
ฉากหน้าคือคลับหรูศูนย์รวมแห่งอบายมุก แต่ฉากหลังคือสถานที่อย่างเป็นทางการสำหรับพวกมาเฟียผู้มีอิทธิพล พวกเขาจะมาที่นี่ หาความสำราญและทำธุรกิจไปพร้อมกัน เลฟขายทุกอย่าง ตั้งแต่เพชรเม็ดจ้อยกระทั่งสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิง
“ครับ มีบางอย่างที่มีมูลค่าถูกขโมยไปจากกระเป๋าของลูกค้าที่คลับ”
“หวังว่าเราจะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องชดใช้”
“ผมก็หวังว่าอย่างนั้น อ่า...ผมต้องไปแล้วจริงๆ และถ้าเลฟมาตามหาเธอละก็ ช่วยซ่อนเธอไว้ให้มิดด้วย”
“แน่นอนจ้ะลูกรัก แล้วรีบกลับมานะ”
วาเลนติน่าอ้าแขนให้ลูกกอดเพื่อร่ำลา พออเล็กเซย์จากไป นางก็ได้หันมาหากระต่ายน้อยจากเมืองไทย
“เอาละนะสาวน้อย เรามาทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่า”
แล้วรอยยิ้มยินดีก็ปรากฏที่มุมปากของวาเลนติน่า ณัชรินทร์เผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ก่อนที่สาวใช้สามนางจะมายืนขนาบข้างเธอแล้วกึ่งลากกึ่งจูงให้เธอเดินตามเจ้าบ้านไป เธออยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เธอก็ได้รู้ หน้าที่ของของขวัญน่ะ ไม่ต่างจากตุ๊กตาดีๆ นี่เอง
แล้วตลอดทั้งวัน ณัชรินทร์ก็ถูกนางวาเลนติน่าแปลงร่างให้กลายเป็นตุ๊กตาของนาง เสื้อผ้าในตู้ที่เรียงกันเป็นตับถูกดึงจากไม้แขวนให้แม่สาวจากเมืองไทยได้ลองสวมใส่ สวมชุดนั้น ถอดชุดนี้ ลองเสื้อผ้าสตรีไปหลายสิบชุด ยังมีช่างแต่งหน้าช่างทำผมที่จัดหามาให้อีก แค่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องแต่งหน้าทำผมก็ได้มั้ง แต่าก็นั่นแหละ...คุณนายวาเลนติน่า ไม่เข้าใจ!
ใกล้เที่ยงวัน ท้องไส้ของณัชรินทร์เริ่มร้องครวญคราง ทั้งหิว ทั้งเหม็นกลิ่นสเปรย์ฉีดผมของช่าง เธอถูกจับแปลงโฉมเสียจนไม่เป็นตัวเอง ผู้หญิงในกระจกเงาช่างดูสง่างามและควรค่าแก่การเป็นคู่ควง ดวงตาเธอดูสวยคมและกลมโตขึ้น ปากนิดจมูกหน่อย ยิ่งถูกเครื่องสำอางราคาแพงแต้มแต่งบนใบหน้า ความงดงามของเธอก็ยิ่งถูกขับออกมาจนแม้แต่ตัวเองยังตื่นตะลึง
“โอ...ช่างแต่งหน้าของฉันเก่งขนาดนี้เชียวรึ” วาเลนติน่าหันไปยิ้มให้กับช่างหน้าช่างผม ก่อนจะไล่ทุกคนออกไปจากห้อง กระต่ายน้อยผิวเหลืองนวล พอจับแต่งเนื้อแต่งตัวเข้าหน่อยก็ใช้ได้ทีเดียว
“นะ...นั่น นั่นหนูหรือคะ”
“แน่นอนจ้ะสาวน้อย”
“เอ่อ...คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ หนูแค่...มารบกวน ให้หนูใส่ชุดสาวใช้ก็ยังได้”
“โอ...ไม่ได้หรอกจ้ะคนสวย คนที่ได้ขึ้นเตียงเลฟน่ะ จะให้ไปใส่ชุดสาวใช้ได้ยังไง เอาละนะ พอแต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จแล้วน่าอวดเสียจริง ไปเถอะ ไปเปิดหูเปิดตากันดีกว่า”
“คะ? ไปไหนคะ”
วาเลนติน่ายิ้มเย็น ก่อนจะเรียกหาผู้ช่วยของนาง แล้วไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เธอก็ถูกลากไปเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยที่เจ้าของจะอุ้มไปไหนก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา
เหมือนฝันที่เธอได้แต่งตัวสวย และนั่งรถคันโก้ วาเลนติน่าพาเธอเข้ามาที่ห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลับของตระกูลมากนัก พวกเธอเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ มีบอดี้การ์ดตามหลังเป็นพรวน บ้างช่วยหิ้วข้าวของ ที่เป็นพวกกระเป๋าเสื้อผ้ารองเท้า ตามหลังมา บอกแล้วว่าเหมือนฝัน เธออยากได้อะไร วาเลนติน่าก็ชี้นิ้วสั่งเพื่อซื้อให้เธอ แต่เชื่อไหม ต่อให้มีของดีๆ ใส่ มีความสะดวกสะบายที่เธอไม่อาจหาได้ในชีวิตนี้ แต่จนแล้วจนรอด เธอก็ไม่มีความสุขอยู่ดี เธออยากกลับบ้าน อยากกลับเมืองไทยจริงๆ
วาเลนติน่าเจอเข้ากับคนรู้จักที่ร้านขายเพชรร้านหนึ่ง เธอปลีกตัวออกมารอนอกร้าน อเล็กเซย์พอรู้ว่าพวกเธออยู่ที่ห้างใกล้ๆ ก็แวะมาหา น่าดีใจที่เธอยังไม่เจอเลฟเลยตลอดวันนี้ และภาวนาว่าอย่าให้ได้เจอ
“ไม่สนุกเหรอ”
“เปล่า คือ...ฉันไม่ค่อยชิน...เท่าไหร่” เธอก้มมองรองเท้าคู่สวยที่ราคาคงสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ ให้เธอได้สักสิบรอบ
“แม่ไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ”
เธอมองเข้าไปในร้านเพชรก็เห็นวาเลนติน่ากำลังจ้อเจรจากับเพื่อนวัยเดียวกับนางอย่างออกรส ไม่เห็นจะเหมือนที่อเล็กเซย์พูดเลย
“ถ้าไม่มีเงินคงไม่มีใครก้มหัวให้เรา ไม่มีความจริงใจในรอยยิ้มพวกนั้น ดูไม่ออกเหรอ” เขาย้อนถาม
ณัชรินทร์มองดูอีกที ความเหน็บหนาวในฤดูแห่งหิมะยังไม่หนาวเท่ารอยยิ้มที่ปั้นแต่งของสตรีเหล่านั้น
“เธอไม่เหมือนพวกเขา...ชาช่า”
“ค่ะ ฉันเป็นแค่นักท่องเที่ยวดวงตกในขณะที่คนพวกนั้นเป็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง”
“ผมหมายถึงรอยยิ้มน่ะ รอยยิ้มคุณดูจริงใจ และหาไม่ได้ที่นี่”
“นั่นทำให้คุณยอมช่วยฉันเหรอ”
เขายักไหล่เมื่อถูกถาม
“บางครั้งโชคชะตาก็อยากให้เราเป็นคนดี ผมช่วยคุณเพราะคุณดูน่าสงสาร บนเกาะนี้ไม่มีใครไปเดินย่ำหิมะเล่นตอนดึกดื่นอย่างที่คุณทำหรอก”
“มันหนาวใช่ไหมล่ะ”
“เปล่า...มันอันตราย ถ้าเป็นผู้ชายคุณอาจโดนปล้น ถ้าเป็นผู้หญิงคุณอาจถูกฉุดไปข่มขืน ก่อนที่เขาจะเอาคุณไปขาย”
“ขายให้พี่ชายคุณเหรอ”
อเล็กเซย์ทำหน้าขออภัย
“ผู้หญิงยังทำเงินให้เลฟได้มาก โดยเฉพาะผู้หญิงเอเชียที่ยังสดใหม่แบบคุณ”
ณัชรินทร์ไม่ได้นึกภูมิใจในข้อนี้เลย คงดีกว่าถ้าเธอเกิดเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง
หนุ่มสาวยังคุยกันอย่างสบายๆ ไม่ได้รู้เลยว่าถูกแอบถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ของใครบางคน และนอนว่าไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า มันจะกลายเป็นข่าวครึกโครม