สองวันต่อมา ~~
โรงพยาบาล เค
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก ~~
ระหว่างที่ใบชากำลังนั่งพิมพ์บางอย่างบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรู บานประตูห้องถูกผลักเข้ามาตามมารยาทพร้อมกับร่างบางของเพื่อนสาวคนสนิท
“นะ..นุช “ริมฝีปากบางขยับขานเรียกเสียงสั่น ความรู้สึกผิดที่คิดปิดบังพลันฉายชัดอยู่ในจิตใต้สำนึก ทำเอาใบหน้างามเผือดสีลงทันที เนื่องจากเรื่องที่เธอป่วยยังไม่มีใครทราบนอกจากกระต่ายและเจ๊ใหญ่เท่านั้น
“ใช่ ฉันเองเป็นอะไรทำไมไม่บอกกันล่ะชา “น้ำเสียงทุ้มต่ำของนุชแฝงแววทอดถอนใจเอาซะเต็มประดา ขณะเดินเข้ามายืนข้างเตียงผู้ป่วยด้วยความน้อยใจ เพราะเหตุใดมีปัญหาทุกทีเพื่อนสาวแสนดีคนนี้ ถึงชอบเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้เพียงคนเดียวนักนะ ปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างเธอรู้เองทีหลังอยู่ปล่อยครั้ง
“ชาขอโทษ ชาไม่อยากให้ใครเป็นห่วง”
“เจ็บหนักขนาดนี้แล้วนะชา อย่างน้อยก็โทรบอกกันบ้าง ถ้าฉันไม่เข้าไปถามเจ๊ใหญ่ในผับ นุชคงไม่รู้ว่าชาโดนอะไรแล้วอยู่ที่ไหน “ใจหนึ่งก็ยังโกรธอีกใจหนึ่งก็สงสารจับใจคนดี ๆ อย่างใบชาไม่น่าเจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้เลย
“..”มองเห็นแววตาห่วงใยของเพื่อนสาวแล้ว ความรู้สึกผิดยิ่งถาโถมซัดเข้าใส่ ซึ่งเธอเองก็ต้องการจะระบายให้ใครสักคนฟัง ทว่ากลัวทำให้คนอื่นทุกข์ใจตามจึงเก็บไว้เพียงผู้เดียวจะดีกว่า
“ชาขอโทษจริง ๆ นะนุช..นุชยกโทษให้ชาได้ไหม? “ มือเล็กทั้งสองข้างเอื้อมจับมือเพื่อนสาวขึ้นมากุมไว้หลวม ๆ ขณะวิงวอนขอเสียงแผ่ว ๆ
“อือ ฉันยกโทษให้ก็ได้ คราวหลังมีเรื่องหนักขนาดนี้อย่าเก็บไว้คนเดียวนะชา ระบายให้ฉันฟังก็ได้ยังไงเราสองคนก็เป็นเพื่อนกัน”
“จ้ะ ขอบคุณมาก ๆ แต่เรื่องนี้นุชอย่าบอกใครนะ ชาอยากให้มันจบไว้แค่นี้ไม่อยากรื้อฟื้นอะไรอีกแล้ว “ใบชาพลางใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มนวลด้วยความร้าวราน สองวันที่ผ่านมาเธอยังนึกโกรธตัวเอง ผิดที่ตนหากไม่รีบตอบตกลงรับสมัครงานที่นั่นคงไม่เจอผู้ชายดุร้ายขืนใจเอา
“ไม่คิดเลยว่าคุณแพททริคจะเลวได้ถึงขนาดนี้…พูดแล้วก็เจ็บใจ!”
อากาศที่หายใจออกมาในแต่ละครั้งอัดแน่นไปด้วยความแค้นครั้นได้ยินชื่อผู้ชายสาระเลวคนนี้ทีไรก็ยิ่งนึกเกลียด “นุชรู้หมดเลยใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับชาบ้าง?”
“อือ ฉันขอร้องให้กระต่ายพูดเองแหละ เห็นว่าชาขาดการติดต่อเลยเป็นห่วง แล้วเกิดเรื่องอย่างนี้ชาจะยังทำงานต่อที่ผับอยู่ไหมหรือยังไง?”
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วงชา ส่วนเรื่องงานที่ผับก็คงทำต่ออย่างน้อยก็มีเงินใช้หนี้ให้ไร่ได้บ้างไม่มากก็น้อย”
“แล้วชาไม่กลัวว่าจะโดนเหมือน….. “นุชหยุดชะงักถ้อยคำสุดท้าย กลัวว่าจะสะเทือนจิตใจใบชาไปมากกว่านี้
“ไม่หรอกนุชอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้วให้ถอยก็จะดูอ่อนแอเกินไป “ถึงจะเป็นน้ำเสียงที่ราบเรียบทว่านัยน์ตาคู่งามกลับฉายแววแน่วแน่จริงจังอย่างเฉียบขาดในคำพูด
“อือฉันยอมรับในการตัดสินใจของแกนะ แล้วเรื่องงานที่บริษัทล่ะ ยังไงก็ต้องเจอผู้ชายคนนั้นอยู่ดี”
“ก็คงต้องทำต่อไป ยังไงมันก็คืองานของชาแล้วก็บริษัท”
“จะไหวเหรอชา? ที่ฉันถามไม่ใช่อะไรหรอกนะ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะทำอะไรแกอีก”
ประโยคของเพื่อนสาวทำเอาใบชารู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เธอเองก็ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้าได้หากเขายังคิดก่อกวนไม่เลิก เธอจะรับมือเขาได้หรือไม่..?
หลายวันต่อมา ~~~
บริษัท SUN
รถยนต์หรูสีดำขับเคลื่อนเข้ามาในโรงจอดรถชั้นวีไอพีสำหรับผู้บริหาร ยามที่เครื่องยนต์ดับสนิทไทม์ลูกน้องคนสนิทจึงรีบเร่งลงมาเปิดประตูให้เจ้านายหนุ่ม ขณะที่เจ้าตัวกำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูดูบางอย่างด้วยท่าทางสบายอารมณ์
ไทม์พลันโค้งศีรษะทำความเคารพ เมื่อแพททริคก้าวขาเรียวยาวลงจากรถ มือหนาทั้งสองข้างพลางล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็คอย่างน่าเกรงขาม
“ยัยนั่นมาถึงให้เข้าไปหากูทันที “แพททริคเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเดินเข้ามาในตัวอาคาร พนักงานทั้งชายและหญิงต่างยกมือไหว้อย่างเกรงกลัว โดยไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมองเนื่องจากผู้เป็นนายน่ากลัวเกินไปสำหรับพวกเธอ
“ครับ”
ติ๊งงง ~~~
“บอสสวัสดีค่ะ “บานประตูลิฟต์ตัวใหญ่เปิดเสียงหวานของเลขาสาวพลันเอ่ยทักทายประธานหนุ่มทันที เมื่อเขาเพิ่งก้าวเท้าออกจากตัวลิฟต์ได้เพียงก้าวเดียว พร้อมกับส่งรอยยิ้มยั่วยวน ทว่าแพททริคกลับเพียงแค่ปรายตาเย็นชามองเท่านั้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้าห้องทำงาน โดยไม่สนใจเลขาสาวที่เขามักมีอะไรกับเธอบ่อย ๆ และ นั่นทำเอาใบหน้างามของเธอบูดบึ้ง ก่อนจะทรุดตัวนั่งด้วยท่าทางฟึดฟัดไม่พอใจ
ขณะเดียวกันรถยนต์รุ่นธรรมดาสีขาวกำลังขับเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบริษัท SUN “พี่วีเราสองคนจะไม่โดนอะไรใช่ไหม? ” นุชถามอย่างหวาดระแวง เมื่อเธอและหัวหน้าฝ่ายต้องเข้ามาคุยงานแทนใบชา เหตุเพราะเธอขอลากลับบ้านเนื่องจากมีเรื่องด่วน
“ไม่หรอกนุชเรามาคุยงาน ไม่ต้องกลัว”
“พี่วียังไม่เจอคุณแพททริคอย่าเพิ่งตัดสินเลย “ครั้นได้เอ่ยถึงชื่อชายหนุ่ม พลอยให้นึกแค้นใจแทนเพื่อนสาว จนอยากจะปารองเท้าใส่ใบหน้าอันหล่อเหลาให้หนำใจ
“เอาล่ะ เราเข้าไปข้างในกันเถอะเดี๋ยวสาย”
“ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูทำให้แพททริคที่กำลังอ่านเอกสารพลันละความสนใจและเงยหน้าขึ้น พร้อมกับวางท่าทางเคร่งขรึม มือใหญ่ทั้งสองข้างพลางประสานกันวางบนโต๊ะจ้องบานประตูเปิดด้วยแววตาเรียบเฉย
แกร๊ก ~~
คาที่บานประตูถูกผลักเข้ามา มุมปากหนาพลางแสยะยิ้มร้ายเล็กน้อย ทว่าหญิงสาวคุ้นตากลับไม่ใช่คนที่คิด พลันให้คิ้วหนาทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันวุ่นไปหมด
“บอสคะ คนของบริษัท Produce มาแล้วค่ะ ให้เข้ามาเลยหรือเปล่าคะ? “เลขาสาวเดินนวดนาดสะบัดบั้นท้ายงอนงามเข้ามาแจ้งให้เจ้านายหนุ่มทราบด้วยท่าทางยั่วยวนเช่นเดิม
“ไอ้ไทม์ไม่บอกอะไรเธอหรือไง!?”
“บะ…บอกค่ะ “น้ำเสียงสั่นของเธอรีบโพล่งขึ้นอย่างหวาดกลัว พร้อมกับรีบก้มหน้าต่ำหลบสายตาอันน่ากลัวของประธานหนุ่มที่มองสบเข้ามา แม้นว่าจะรู้เรื่องก็ตามทว่ากลับต้องการเข้ามา เพื่อหวังหว่านเสน่ห์อีกครั้ง หลังจากเมื่อหลายนาทีก่อนถูกเขาหมางเมิน
“บอก…แล้วจะเข้ามาทำไมวะ!!! “น้ำเสียงห้าวตะคอก ทำเอาเลขาสาวสะดุ้งตัวโหยง จนร่างเล็ก ๆ สั่นระริกขึ้นมาโดยไม่อาจควบคุมได้
“ขะ..ขอโทษค่ะบอส”
“ออกไป!!!”
“ค่ะ…ค่ะ!”
ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกมา ขณะดันปลายลิ้นหากระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ และบานประตูก็ถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณแพททริค”
เมื่อได้ยินเสียงกล่าวสวัสดีจากหญิงแปลกหน้า นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววเกรี้ยวกราดขึ้นมาอีกหลายส่วน ครั้นเธอทั้งสองไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาต้องการเจอ
“ ผมให้ผู้หญิงคนนั้นมา แล้วคุณสองคนมาทำไม? “น้ำเสียงกดต่ำอันเย็นเยียบของแพททริค ทำเอาสองสาวเสียวสันหลังวาบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ใบชาลาน่ะค่ะ วีกับนุชเราสองคนเลยมาคุยงานแทนค่ะคุณแพททริค”
“ลาไปไหน!?”
“ก็ลากลับบ้านไงคะ! “คราวนี้นุชเป็นฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงแข็ง แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกประหม่ามากก็ตาม ครั้นได้กล่าววาจาเช่นนี้กับคนใจโหดอย่างแพททริค แต่ความโกรธเคียงดันมีมากกว่า ซึ่งทำเอาวีหัวหน้าฝ่ายต้องรีบสะกิดดันหลังเป็นการห้ามปรามทันที เกรงว่าจะทำให้ประธานหนุ่มโมโหไปมากกว่านี้ และนุชเพียงเหลือบสายตาหงุดหงิดมองเท่านั้น ก่อนจะรีบกลอกตาไปทางอื่น
“งั้นออกไป!!!! “เมื่อได้ฟังเช่นนี้อารมณ์โทสะที่มีมากอยู่แล้วพลันพุ่งสูงปรี๊ดยากจะยับยั้งอย่างรู้สึกขัดใจ จึงตวาดไล่โดยไม่สนใจสายตาของสองสาวว่าจะมองตนยังไง
“คะ…คุณแพททริคพอจะมีเวลาลองคุยดูก่อนไหมคะ? “วียังทำใจกล้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทั้งที่ท่าทางขึงขังของประธานหนุ่มชั่งแสนจะน่ากลัว
“ผมจะคุยงานกับพัชชาคนเดียวเท่านั้น…คราวที่แล้วลูกน้องคุณไม่เข้าใจที่ผมพูดหรือว่ายังไง?”
“ต้องขอโทษคุณแพททริคด้วยนะคะ”
“ขอโทษแล้วก็ออกไปดิยืนบื้ออยู่ทำไม!! “ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงทันที ฝ่ามือทั้งสองข้างพลางตบลงบนโต๊ะทำงานเสียงดัง โต้ม !!! ด้วยอารมณ์หงุดหงิด สายตาคมกริบจ้องสองสาวตาเขม็ง ทำเอาพวกเธอตื่นกลัวตกใจ จนทำอะไรแทบไม่ถูก
“ค่ะ ละ..แล้วคุณแพททริคจะนัดอีกเมื่อไหร่คะ? วีจะได้แจ้งใบชาให้ทราบ”
“เรื่องของผม!...แล้วถ้าไม่อยากตกงานก็รีบออกไปซะ!!”
“ค่ะ “สิ้นสุดเสียงตอบรับสองเท้าจึงเร่งเดิน ฉับ ๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว การกระทำอันไร้มารยาทของประธานหนุ่ม ทำให้ประสาทสัมผัสในร่างกายตื่นตัวโดยอัตโนมัติยากเกินจะเก็บงำ
“_”
เพล้ง !!
“แม่งเอ๊ย!!!! “เมื่อบานประตูปิดสนิท มือใหญ่จึงคว้าแก้วกาแฟเขวี้ยงลงกับพื้นปูน “เธอกล้ามากนะที่ผิดนัดฉัน!! “สีหน้าดุร้ายฉายวูบ ขณะทรุดตัวนั่งเก้าอี้เช่นเดิม มือทั้งสองข้างพลางกำหมัดจนเส้นเอ็นตามท่อนแขนเด่นชัด
“เป็นไงล่ะพี่วี? คุณแพททริคน่ากลัวจะตาย แถมยังเอาแต่ใจตัวเองด้วย “นุชถามย้ำอีกทีด้วยสีหน้าหวาดผวา มิหนำช้ำยามที่เดินออกจากห้องประธานหนุ่มได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของแข็งบางอย่างแตกกระจายดังสนั่น
“ก็ไม่คิดว่าอาการจะหนักขนาดนี้”
“เราแย่แน่ทำงานกับคนแบบนี้ หล่อซะเปล่านิสัยโคตรแย่!”
“สงสารก็แต่ชาอะดิ ต้องเข้ามาคุยงานคนเดียวด้วย “วีกล่าวอย่างเห็นใจ พอเจอนิสัยของประธานหนุ่มกับตัวจริง ๆ ทำเอาแทบหยุดหายใจกันเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สุภาพอ่อนโยนอย่างใบชาจะรับมือได้หรือเปล่า
“...”