ช่วงขาเพรียวกำยำก้าวไปตามทางเดินโอ่อ่าของบริษัท ซันกรุ๊ป ทางเดินนั้นถูกปูด้วยพรมแดงหนานุ่ม และทั้งสองด้านก็มีพนักงานสาวๆ ของบริษัทมายืนรอรับด้วยรอยยิ้มหวานหยด ก็แน่นอนล่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธความหล่อเหลือร้ายของคาร์โลสได้เลยสักคน
นัยน์ตาคมกริบดุดันกวาดมองพนักงานสาวๆ ด้วยความเหยียดหยัน ขณะเดินตรงเข้าไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องทำงานใหญ่ของท่านประธาน ซึ่งตอนนี้ ตำแหน่งสูงสุดนี้ก็คือของเขานั่นเอง
และเพียงไม่นานร่างกำยำสูงถึงหกฟุตสี่นิ้วก็เดินเข้ามาภายในห้องขนาดใหญ่ แต่ถึงแม้มันจะถูกตกแต่งไว้ดีแค่ไหน หากเทียบกับห้องทำงานในสเปนของเขาแล้ว ที่นี่ยังห่างชั้นนัก ชายหนุ่มเดินอ้อมไปนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่ขัดจนขึ้นเงา ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผู้ชายที่ยืนต้อนรับอยู่ภายในห้องตามลำพัง
“ยินดีที่ได้พบคุณ คุณอนิรุจ...”
นายอนิรุจ คุณานันท์ นักธุรกิจชาวไทยวัยเฉียดเกษียรระบายยิ้มแห้งๆ ให้กับชายหนุ่มรุ่นลูกตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงแผ่วเบา
“เช่นกันครับ คุณคาร์โลส...”
มุมปากหยักสวยสีสดยกโค้งขึ้นช้า ขณะเอ่ยชวนให้ชายชรานั่งบนเก้าอี้ตรงหน้า
“เชิญนั่งก่อนสิครับ เพราะผมคิดว่าปัญหาที่คุณต้องการคุยกับผมมันคงยาว...”
“ครับ...”
คาร์โลสระบายยิ้มกระด้างเมื่อบุรุษสูงวัยตรงหน้าก้มหน้านิ่ง
“และถ้าผมเดาไม่ผิด... คุณคงอยากให้ผมผ่อนผันให้คุณใช่ไหม...”
น้ำเสียงกระด้างเย็นชาจนคนฟังเสียวสันหลัง ใครๆ ก็รู้ว่าคาร์โลสเลือดเย็นแค่ไหน ในพจนานุกรมของหนุ่มหล่อร้ายคนนี้ไม่เคยบรรจุคำว่า ‘เสียเปรียบ’ เอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักมัน อะไรที่อยากได้ ก็จะต้องเอาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม
“ครับ... ผมอยากขอเวลา...”
“กี่สิบปีล่ะ ถึงจะสามารถใช้หนี้ผมหมด... ไม่เอาน่าคุณอนิรุจ คุณก็เป็นพ่อค้าเหมือนกับผมไม่ใช่หรือ ดังนั้นคุณก็น่าจะรู้กติกาในสังเวียนดีไม่น้อยไปกว่าผม วงการธุรกิจไม่มีญาติ มีแต่คู่แข่ง...”
คำพูดเหี้ยมเกรียมของคาร์โลสเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลแห่งแดนกระทิงดุทำให้อนิรุจถึงกับหน้าซีดเผือด ความหวังลดฮวบจนติดลบรุนแรง
“ถือว่ากรุณาเถอะครับ...”
“ถ้าจะมาพูดเรื่องนี้ก็กลับไปซะเถอะ ผมว่ามันเสียเวลาเปล่า...”
ร่างสูงใหญ่ของคาร์โลสลุกขึ้นยืน ก่อนจะผายมือเป็นการเชิญให้แขกตรงหน้าออกไปจากห้องทำงานที่ตอนนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาแล้วด้วยท่าทางเย็นชา
“เชิญกลับไปได้แล้วครับ... ผมต้องการนั่งดูเอกสารเงียบๆ คนเดียว...”
“แต่ว่า... คุณคาร์โลสครับ... กรุณาเถอะ...”
อนิรุจยังอ้อนวอน แต่ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆ ของคาร์โลสแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มยังคงยึดถือการตัดสินใจเดิมของตัวเอง
“เลิกทำตัวเป็นเด็กๆ ได้แล้วคุณอนิรุจ ผมบอกให้ออกไปไงครับ...”
ร่างของนายอนิรุจรีบผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังจะเดินคอตกออกไป แต่ประตูห้องก็ถูกกระชากให้เปิดออกซะก่อน สองหนุ่มต่างวัยจ้องมองแขกผู้ไร้มารยาทด้วยความรู้สึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
นายอนิรุจมองด้วยความตกใจ และห่วงใยต่อสวัสดิภาพของบุตรสาว แต่คาร์โลสกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น เขารู้สึกเหมือนกับพื้นห้องที่กำลังยืนอยู่มันแยกตัวออกจากกัน และสูบเขาลงไปในนรกอเวจีมากกว่า
ให้ตายเถอะ... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนน่าปรารถนาเท่ากับสตรีที่ยืนทำหน้าทำตาเอาเรื่องอยู่ในตอนนี้เลย
เลือดหนุ่มเย็นเฉียบเมื่อไล่สายตามองสำรวจไปทั่วเครื่องหน้าไร้ที่ติที่ประดับไว้อย่างลงตัวบนใบหน้ารูปหัวใจนั้น ไล่ตั้งแต่ดวงตากลมโตแสนหวานที่อยู่ใกล้เรียวคิ้วโก่งไม่ต่างจากคันศร จมูกโด่งเชิดน้อยๆ ที่บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวดื้อรั้นเพียงใด แต่ที่ติดตาตรึงใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรียวปากสีแดงสดไม่ต่างจากผลสตอเบอรี่ที่ถูกขยี้จนแหลกนั้น มันน่าจูบ น่าขยี้ด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวของเขายิ่งนัก
คาร์โลสกัดกรามแน่น นึกเกลียดชังตัวเองที่สุดที่ไม่อาจละสายตาจากผู้หญิงตรงหน้าได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เจ้าหล่อนงามหมดจดตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว ใบหน้าก็งาม ร่างกายก็อวบอิ่ม โดยเฉพาะอกสาวที่พุ่งดันเสื้อเชิ้ตสีขาวออกนั้น เขาสามารถคาดคะเนได้อย่างแม่นยำว่ามันไซส์อะไร
ระยำ! ให้ตายเถอะ...! นี่เขาถูกผีบ้าสิงเอาหรือไงนะ ถึงได้ร้อนรุ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ ทำไมปฏิกิริยาเคมีระหว่างเขากับแม่สาวน้อยหน้าหวานคนนี้ถึงได้รุนแรงถล่มทลายแบบนี้ ทำไมเนื้อตัวของเขาถึงได้อึดอัดคับแน่น โดยเฉพาะที่ซอกขามันปวดร้าวอยากปลดปล่อยขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน
สมองที่เคยมีแต่เรื่องงานและก็งานมันกลับผุดภาพยามที่เขาไล้ปลายลิ้นและฝ่ามือสำรวจตรวจตราร่างงามของสาวน้อยตรงหน้าขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่ จินตนาการนั้นช่างเหมือนจริงจนเขาอยากจะสาปให้นายอนิรุจเป็นหิน และเนรมิตห้องทำงานนี้ให้กลายเป็นเตียง จากนั้นก็จัดการกับแม่สาวน้อยคนสวยให้เต็มคราบ จัดการเสื้อผ้าน่ารำคาญพวกนั้นออก จับร่างงามแผ่หลาลงบนเตียง ดูดกลืน ไล้เลียทุกซอกมุมด้วยปากและลิ้นร้อนของเขาด้วยความหิวกระหาย และก็... ก็ทำให้เจ้าหล่อนเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ ครั้งแล้วครั้งเล่า...จะยาวนานแค่ไหนก็ได้จนกว่าเขาจะอิ่ม อิ่มเอมและไม่ปรารถนาเจ้าหล่อนอีก...
แม้ลางสังหรณ์บางอย่างจะร้องเตือนอยู่ภายในใจว่า... ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา... และเขาก็ไม่มีทางที่จะเพียงพอกับเซ็กซ์มหัศจรรย์เพียงแค่คืนสองคืนกับหล่อนเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านเคยมา
ไม่มีทาง... เป็นไปไม่ได้ เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนซ้ำเป็นครั้งที่สอง แค่ยกใหญ่ๆ บนเตียงครั้งเดียวก็น่าจะทำให้เขาหายคลั่งได้แล้ว
ใช่... แค่เขาได้ปลดปล่อยในร่างกายงดงามของเจ้าหล่อน เขาก็จะเลิกสนใจหล่อนไปเอง และสุดท้ายผู้หญิงนี้ก็ไม่ต่างจากเศษขยะที่เขาเขี่ยทิ้ง
คาร์โลสคิดอย่างถูกอกถูกใจ ก่อนจะระบายยิ้มหยันออกมา กวาดตามองร่างอวบอิ่มอีกครั้งด้วยสายตาหยาบกระด้าง ราวกับกำลังตีราคาค่าตัวของเจ้าหล่อนอยู่
“ญิกา...!”
นายอนิรุจหน้าซีดเผือด มองบุตรสาวด้วยความตกใจ และก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายของคาร์โลสที่มองลูกสาวของตัวเอง
“คุณไม่มีสิทธิ์พูดกับพ่อของฉันแบบนี้นะ!”
กัญญิกาที่หน้าแดงก่ำด้วยความอับอายเพราะถูกสายตาประเมินราคาของผู้ชายหล่อระเบิดเถิดเทิงตรงหน้ากวาดมองอย่างไม่ให้เกียรติ แม้หัวใจจะเต้นเร็วแรงเพราะแรงดึงดูดมหาศาลที่มีต่อผู้ชายตรงหน้า แต่หญิงสาวก็พยายามอย่างที่สุดที่จะข่มมันไว้ให้มิดภายใต้ร่างกายที่สั่นเทาของตัวเอง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีผู้ชายหล่อเหลาขนาดนี้อยู่ในโลก ผู้ชายตรงหน้าที่กำลังแสยะยิ้มเหยียดหยันหล่อราวกับไม่ใช่มนุษย์ เขาเหมือนถูกปั้นแต่งขึ้นมาจากจิตกรฝีมือเอกนามเลืองระบือ