Want to be
:: 3 ::
ไม่รู้ว่าเพราอะไรหรือแค่ถูกชะตา
:: NIGHT TALK ::
“นี่นาย ช่างสักอีกคนอยู่ไหม?”
“จะมาสักต้องรอคิวนะน้อง อีกอย่างช่างอีกคนมีเรียน”
“เขามีแฟนยังอะ?”
“...”
“แล้วเขาเพิ่งเลิกกับแฟนเหรอ?”
“...”
“เขานิสัยยังไงอะ นายบอกหน่อยดิ”
ผมได้แต่นั่งฟังยัยเด็กปากมากที่ถามผมอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่ผมกำลังยืนเช็กรายชื่อลูกค้าที่จองสักเอาไว้ แต่ยัยเด็กคนนี้ก็แพล่มแม่งไม่หยุด คงจะมาถามหาไอ้สองน้องชายของผมสินะ แน่นอนว่าร้านสักที่ผมกับไอ้สองร่วมหุ้นกันมันโด่งดังทั้งฝีมือและช่างสักที่แสนจะหล่อ โคตรเท่อย่างผม อย่างน้อยยัยนี่ก็ควรจะมองผมสักหน่อยไหมวะ ไม่ใช่เอาแต่ถามซอกแซกเรื่องไอ้สองจนผมปิดสมุดรายชื่อลูกค้าอย่างแรง สบเข้ากับดวงตากลมโตที่มองหน้าผม
ยัยนี่มีใบหน้าที่สวยเก๋มากๆ แถมยังตัวเล็กหากแต่ว่าอย่างอื่นแม่งไม่ได้เล็กตามเลยนะ หน้าอกใหญ่โคตรๆ แม้จะสวมเสื้อนักศึกษาตัวใหญ่เพื่อปิดบังมันก็เถอะ ยัยเด็กคนนี้สวยจนผมลอบมองเธออย่างเสียไม่ได้ ขณะที่ริมฝีปากบางเคลือบลิปสติกสีชมพูยังคงขยับพูดถามไปเรื่อยโดยที่มันไม่ได้เข้ามาในหัวสมองของผมสักนิด
“นาย ฟังอยู่หรือเปล่า?”
“อะไร”
“ก็ช่างอีกคนหนึ่งไง เขาจะมากี่โมง”
“อยากรู้ไปทำไม ชอบเขา” ผมเท้าเอวถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แปลกฉิบหายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เจอผมมักจะชอบผมมากกว่าไอ้สองด้วยซ้ำ รายนั้นเงียบขรึมโลกส่วนตัวสูงสุดๆ ถึงความหล่อจะเทียบเท่าพี่ชายคนนี้ แต่ผู้หญิงมักจะมองผู้ชายที่น่าเข้าหามากกว่าผู้ชายที่เข้าหายากอย่างไอ้สอง
“เออ ไม่ต้องรู้หรอก”
“จะมาถามเรื่องคนอื่นก็พูดจาให้มันเพราะๆ หน่อย”
“แล้วฉันพูดไม่เพราะตรงไหน?”
“ฉันแก่กว่าเธอนะยัยเด็กปากมาก” ดูก็รู้ว่าอ่อนกว่าผมหลายปี “ไปได้แล้ว ที่นี่ร้านสักไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาถามหาผู้ชาย”
“แต่ว่า...”
“จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้มออกไป”
“ชิ ไปก็ได้!”
หลังจากนั้นใครจะรู้ว่ายัยเด็กปากมากที่มาถามหาไอ้สองจะเป็นเพื่อนกับเมียของมัน ยัยเกี๊ยวหรือยัยแผ่นเกี๊ยวที่ผมชอบเรียกเธอแบบนั้นก็เพราะยัยนี่ชอบทำตัวให้น่าแกล้งมากๆ แถมยังปากจัดและด่าเก่งสุด มันอาจจะแปลกนิดหน่อยที่จู่ๆ ผมก็มีเวลาว่างลงไปตื๊อยัยนี่ ก็เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตมันง่ายเสียจนผมไม่ต้องทำอะไรเลย พอเป็นยัยเกี๊ยวผมก็อยากเข้าไปเล่นด้วยเพราะน่าสนุกเป็นบ้าที่ได้กวนประสาทเธอ อีกอย่างนอกจากแกล้งเธอแล้วสนุก
ที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือ... กินเกี๊ยวชิ้นนี้ให้หนำใจต่างหาก ถึงแม้ว่าจะกินยากกินเย็น แต่ผมเชื่อว่าการรอให้เกี๊ยวชิ้นนี้มันสุกจนส่งกลิ่นหอมหวานยั่วยวน ยิ่งต้มนานเท่าไหร่ถึงสุดท้ายเกี๊ยวมันจะเละ แต่ก็สามารถกินและกลืนมันได้อย่างง่ายดาย ผมเชื่อว่าสักวันผมจะได้กินยัยเกี๊ยว อยากลิ้มลองรสชาติแล้วสิ
ปัจจุบัน
“ไอ้ไนท์ มึงเป็นเหี้ยอะไร นั่งยิ้มนั่งขำอยู่คนเดียว”
“นั่นสิ ไม่สนใจแพทเลยนะคะ”
“โทษที พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
ผมตอบไอ้ลม เพื่อนสนิทกับสาวที่ควงอยู่ช่วงนี้ เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วผับที่มีถึงสองชั้น ด้านล่างจะมีเวทีให้กับนักท่องราตรีได้โยกย้ายปลดปล่อยความสุขออกมากับเสียงเพลงที่บรรเลงด้วยดีเจดังที่ผลัดกันมาให้ความสนุกสนาน นอกจากผมจะทำหน้าที่เป็นช่างสักแล้ว ตกดึกหน้าที่ของผมก็คือเปิดผับให้บริการผู้คนที่มาเที่ยวหรือมานั่งดื่ม
“งั้นคืนนี้ห้องแพทนะคะ”
“ได้” สบตากับสาวสวยที่ยิ้มยั่วยวนจากนั้นก็ขอตัวลุกขึ้นไปหาเพื่อนของเธอที่โต๊ะอื่น ซึ่งผมกับไอ้ลมจะนั่งกันอยู่ที่โซนวีไอพีเป็นโซฟาเบจสีแดงเข้ม มือซ้ายคีบบุหรี่เข้าปากมือขวาถือแก้ววิสกี้ที่ดื่มจนหมดและวางไว้บนโต๊ะกระจก เพื่อให้พนักงานมาชงเหล้าเพิ่มให้
“เมื่อกี้กูรู้กูเห็นนะ มึงกำลังคิดถึงสาวคนไหนอยู่?”
“รู้ดีนะมึง” ไอ้ลมเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยเรียน จนตอนนี้มันกลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงสุดๆ เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเนื่องจากเราสองคนเรียนจบวิศวะ หากแต่ว่าผมคนเดียวมั้งที่ไม่ได้มุ่งมั่นทำงานเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองเรียนมา เนื่องจากชื่อไนท์ก็ชอบอะไรที่มันมืดๆ มากกว่าร้านสักยังทึบ ผับเองก็มืด ผมว่าผมน่ะเหมาะกับอะไรแบบนี้มากกว่าเป็นนักธุรกิจที่วันๆ เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาส่วนตัว นี่ไอ้ลมปลีกตัวมาหาผมได้คือสุดยอดนะ “ไม่มีอะไร แค่เจอเด็กน่าสนใจ”
“ใครวะ”
“ก็เป็นเด็กแปลกๆ ที่ไม่สนใจกู ด่ากูยับเวลาเจอหน้าไง”
“มีด้วยเหรอวะผู้หญิงที่เห็นมึงแล้วไม่วิ่งเข้าใส่”
“มี ยัยเด็กเปรตคนนี้ไง” ผมคีบบุหรี่เข้าปากพลางพ่นควันบุหรี่เหนือศีรษะ วันนี้ยัยนั่นก็ดันถามอะไรผมแปลกๆ นะว่าทำไมผมถึงยังอยู่ไม่เทเธอเหมือนผู้ชายคนอื่น พูดอะไรกำกวมเหมือนคนเพ้อปกติเกี๊ยวเป็นแบบนั้นซะที่ไหนกันล่ะ
“ดูมึงสนใจเด็กคนนี้นะ ปกติไม่เห็นตื๊อใครหรือเก็บใครมานั่งขำเลย”
“สนใจเหรอ?”
“ยังไม่ได้ใช่ปะละ”
“เออ เพราะแบบนี้ถึงอยากได้ไง” มีเหรอว่าคนอย่างผมจะไม่หวังประโยชน์จากสิ่งที่ตัวเองทำ แน่นอนว่ามันต้องคุ้มค่ากับสิ่งที่รอสิ “คุ้มแน่”
“ผู้หญิงก็มีเยอะแยะไม่เห็นจะต้องตามเลย คนอย่างมึงเนี่ยนะจะตามสาวเหมือนหมา” ไอ้ลมค่อนแคะผมพลางยกขวดเตกีล่ากระดกดื่มเป็นขวดที่สอง จากนั้นก็คีบบุหรี่เข้าปากจุดสูบพ่นควันไปทั่ว “ดูยังไงก็ไม่ใช่ไอ้ไนท์ เพื่อนกูที่เจ้าชู้โคตรๆ แค่มองตาสาวคนไหนก็พร้อมจะวิ่งเข้าหา”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ”
“อ้าว?”
“พอเห็นหน้ายัยนั่นแล้วมันอยากแกล้งยังไงบอกไม่ถูก”
“มึงโรคจิตปะเนี่ย”
ผมไม่ได้โรคจิตนะ แต่ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน อยู่จนอายุ 27 ปี ไม่เคยตามตื๊อใครมาก่อนในชีวิต จนมาเจอกับเกี๊ยวเนี่ยล่ะ ผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำมันเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง มันไม่ได้เกิดจากความพิศวาสหรือมีเรื่องชอบ ความรักมาเกี่ยวนะ แต่แบบผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ผมน่ะไม่มีวันรักใครแน่ๆ ก็ตั้งแต่โตมาผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันไม่มีอยู่ในสมองผมถูกใจใครก็แค่นอนด้วยน้ำแตกก็จบ จะไม่สานสัมพันธ์ต่อเลยถ้าติดใจก็ควบไปก่อน เบื่อก็แค่แยกย้าย
แต่ยิ่งเกี๊ยวผลักไสผมมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดึงดูดผมให้เข้าไปในชีวิตเธอมากขึ้นเท่านั้น เหมือนกับที่เธอพยายามหลีกหนีผม แต่ก็ต้องมีเรื่องให้วนมาเจอกันจนได้ จะว่าเคลียร์กับไอ้สองน้องชายผมเป็นสื่อยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เคลียร์เมียไอ้สองบอกเสมอว่าเกี๊ยวเกลียดผู้ชายประเภทผมมาก หากแต่ว่ามันก็ดันเหมือนมีเชือกผูกเราสองคนเอาไว้ให้ดึงเข้าหากันมาตลอด จะเป็นรูปแบบไหนก็ไม่อาจรู้ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือแค่ถูกชะตา?
ถูกชะตาบ้าอะไรกันล่ะ ยัยนั่นเกลียดผมเข้าไส้ขนาดนั้น
“กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเอาตัวเข้าไปพัวพันกับยัยนั่น”
“อะไรของมึง ยิ่งพูดกูยิ่งงงนะไอ้ไนท์”
“ไม่ได้รู้สึกชอบ ไม่ได้รู้สึกรักด้วยซ้ำ กูไม่มีความรู้สึกนี้มึงก็รู้”
“ใช่ ถ้ามึงมีมึงคงไม่ทำตัวเจ้าชู้ขนาดนี้หรอก ป่านนี้มีเมียแต่งงานไปแล้ว” ไอ้ลมแม่งก็พูดเวอร์เกิน ผมเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ไม่รีบหาเมียและไม่รีบแต่งงาน ถึงจะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของพ่อที่พยายามจะสรรหาให้ผมหาเมียให้เร็ววัน เพื่อที่จะได้รอวันอุ้มหลาน เหอะ พ่อคิดอะไรอยู่มันไม่มีวันนั้นให้พ่อได้ฝันถึงหรอก “ชักอยากเห็นหน้าเด็กที่มึงบอกแล้วดิ”
“ไม่ต้องสาระแนเลย ของใครเป็นของใคร”
“หือ?” ไม่รู้ว่าเผลอหลุดพูดอะไรออกไปถึงทำให้ไอ้ลมมีสีหน้าที่มึนงหนักกว่าเดิม
“หมายถึงมึงไม่แดกผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อน”
“แค่อยากเห็นหน้า ทำไมต้องพูดเหมือนจองจำเด็กคนนั้นด้วยอะ”
“กูพูดเหรอ?”
“เออน่ะสิ!” ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองพูดอะไรออกไป จำต้องสูบเอานิโคตินเข้าปอดอึกใหญ่ “มึงหวงก้างปะเนี่ย”
“ไม่ได้หวง แค่กูยังไม่ได้แดกมึงจะมาแดกของเหลือกูหรือไง”
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้ไนท์ มึงบ้าปะ”
[30%]
*-------------------------------------------------------*