ห้องทำงานของเอริค เวสต์ฟิลด์ในบริษัทเวสต์ฟิลด์ กรุ๊ป ยังคงสื่อถึงความเป็นระเบียบและเคร่งขรึม โทนสีเข้มที่ถูกใช้ในการตกแต่งห้องทำให้เกิดบรรยากาศที่ดูหนักแน่นและมีอำนาจ หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ให้ทัศนียภาพของกรุงเทพฯ ที่คึกคักด้านนอกสะท้อนเข้าสู่ภายใน
รวมถึงร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ที่อยู่ตรงข้ามถนน
เอริคยืนเงียบ ๆ ข้างหน้าต่าง มือขวากำแก้วกาแฟที่เย็นจนชืดแล้ว แววตาของเขาจับจ้องไปที่ร้านเบเกอรี่ของเอวา ผ่านกระจกใสบานกว้าง เขาเห็นเธอกำลังจัดดอกไม้หน้าร้านด้วยรอยยิ้มที่สดใสราวกับแสงแดดในยามเช้า เอริครู้สึกถึงความไม่พอใจที่แทรกซึมเข้าไปในความคิด เขาขมวดคิ้วกัดฟันแน่น ความหงุดหงิดค่อยๆ สะสมในอกเหมือนเมฆฝนที่พร้อมจะระเบิด
“เอวาวัน ๆ ทำตัวไร้สาระ จัดดอกไม้ ทำขนม แล้วยังมีหน้าจะคิดมาหุบบริษัทกูอีก เด็กอย่างเธอที่ไม่มีความสามารถ แล้วยังโง่ทุกด้านอีก ยังจะโลภเอาทุกอย่างที่เป็นของกูมาครอบครองอีก ช่างไม่เจียมตัวจริง ๆ” เอริคพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เสียงหัวเราะเบา ๆ ทำลายความเงียบในห้อง ลูคัสที่นั่งอยู่บนโซฟาเล็ก ๆ เงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมา มองเห็นเพื่อนที่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างนานผิดปกติ “มึงส่องอะไรอยู่วะ?” ลูคัสถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ ในมุมปาก
เอริคหันกลับมามองเพื่อนด้วยสายตาเย็นชาและแสยะยิ้มอย่างเบา ๆ "กูส่องตัวหายนะที่สร้างปัญหาให้ชีวิตกูอยู่"
ลูคัสหัวเราะเบา ๆ ราวกับเพลิดเพลินกับความหงุดหงิดของเอริค “มึงเกลียดเธอขนาดนั้นเลยเหรอวะ? หรือจริง ๆ แล้วแอบชอบเธอ แต่ไม่อยากยอมรับ?” เขาพูดพลางขยิบตาอย่างล้อเลียน
เอริคหรี่ตามองลูคัสด้วยความไม่พอใจ
“พูดอะไรของมึงวะลูคัส? กูไม่เคยชอบยัยนั่น คนที่ทำให้ชีวิตกูวุ่นวาย”
ลูคัสยิ้มมุมปาก รู้ว่าเพื่อนของเขากำลังหงุดหงิด “เอาน่า เพื่อน มึงก็แค่มีน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่งที่อยากจะใกล้ชิดกับพี่ชายของเธอหน่อยเอง มันจะเป็นอะไรไป”
เอริคขมวดคิ้วแน่น สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ “ยัยเด็กนั่นไม่ใช่น้องสาวกู และจะไม่มีวันได้เป็น เธอไม่ใช่คนในครอบครัวนี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม”
ลูคัสหันไปมองเอริคด้วยสายตาขบขัน
“มึงนี่ก็คิดเยอะเกินไป เอวาแค่เป็นเด็กผู้หญิงที่พยายามทำตัวให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง มึงจะโกรธเธอไปถึงไหนวะ?”
เอริคหันกลับไปมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง เขาเห็นเอวายิ้มให้ลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน ใบหน้าของเธอดูสดใสและเต็มไปด้วยความสุข มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดยิ่งขึ้น “เธอไม่มีวันได้อะไรจากกู” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ลูคัสหัวเราะเบา ๆ “มึงจะจริงจังไปถึงไหนวะ? ทำไมไม่ลองผ่อนคลายบ้าง เผื่อว่ามึงอาจจะเห็นอะไรที่ต่างออกไป”
เอริคหันกลับมามองลูคัส “กูไม่ต้องการเห็นอะไรที่ต่างออกไป กูรู้ว่าเธอมีเป้าหมายอะไร เธอพยายามจะเข้ามาแทนที่กู และกูจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น”
ลูคัสยักไหล่ “ก็แล้วแต่มึงละกัน แต่บางทีนะ มึงอาจจะคิดมากเกินไป เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น”
เอริคไม่พูดอะไรต่อ เขายังคงมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ ความรู้สึกที่เขามีต่อเอวานั้นซับซ้อนและยากที่จะอธิบายได้ แต่เขารู้ดีว่าเขาจะไม่ยอมให้เธอเข้ามาแทนที่เขาในชีวิตนี้
ลูคัสมองเพื่อนด้วยความห่วงใย แต่ยังคงยิ้มขำๆ “มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่อยากลองให้โอกาสเธออีกซักครั้ง?” เขาถามขึ้นอย่างกวนๆ “บางทีเธออาจจะไม่ได้แย่อย่างที่มึงคิดก็ได้ หรือบางทีเธออาจจะแค่อยากให้พี่ชายที่เย็นชาแบบมึงยิ้มบ้างสักครั้ง”
เอริคถอนหายใจ “มึงไม่เข้าใจหรอกลูคัส มึงไม่ได้รู้จักเธอแบบที่กูรู้จัก”
ลูคัสยิ้มกวน ๆ “เออ ๆ ตามใจมึงละกัน แต่กูว่าเรื่องนี้มันน่าสนุกดีว่ะ ดูมึงหัวเสียทุกครั้งที่พูดถึงเธอ กูนี่ล่ะชอบดูมึงเป็นแบบนี้ที่สุด”
เอริคไม่ตอบอะไร แต่หันกลับไปมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะไม่ยอมให้เอวาเข้ามาแทนที่เขาเด็ดขาด