แคว้นเป่ยฉี
งานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหก ผู้คนมาร่วมงานกันมากมาย ทั้งขุนนางและคุณหนูรวมถึงฮูหยินจากหลายๆจวน ซ่งจื่อเหยียนที่เป็นคุณหนูใหญ่ของจวนรองเจ้ากรมโยธา วันนี้นางถูกแม่เลี้ยงและน้องสาวพามาด้วย เดิมทีซ่งจื่อเหยียนไม่ได้สาวเท้าออกจากเรือน เพราะฮูหยินรองหลิวซื่อเหมยและน้องสาวของนางซ่งซย่าอวิ๋นกดขี่นางเอาไว้ในเรือน มารดาจากไปแล้วบิดาก็ไร้ใจ
ซ่งจื่อเหยียนที่ไม่มีคนรู้จักเท่าไหร่และไม่มีใครคุยด้วยได้แต่นั่งรออยู่ที่ศาลาริมน้ำ ซ่งซยาอวิ๋นเห็นพี่สาวต่างแม่นั่งอยู่ก็เดินมาหาก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“พี่ใหญ่ ท่านมานั่งทำอันใดตรงนี้กันเจ้าคะ ท่านแม่บอกว่าให้ท่านไปรอที่ห้องรับรองด้านข้างก่อน ตอนนี้ท่านหญิงเสด็จมาแล้ว ท่านแม่เกรงว่าท่านที่ไม่เคยได้ออกงานจะทำเรื่องให้ตนเองขายหน้าได้”
“น้องรอง..พี่อยากกลับจวนแล้ว งานนี้ความจริงไม่มีพี่ก็ได้ บอกแม่รองว่าพี่ขอกลับก่อนได้หรือไม่”
“พี่รองกล่าวอันใดเช่นนั้นกัน มาด้วยกันจะกลับก่อนได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านไปพักเถอะ”
ซ่งจื่อเหยียนไม่รู้ว่าน้องสาวกับแม่เลี้ยงวางแผนร้ายใส่ตนเองจึงเดินตามสาวใช้ไป ซ่งซยาอวิ๋นยิ้มร้ายตามแผ่นหลังที่เดินจากไป นางเตรียมคนขับรถม้าของจวนไว้ให้พี่สาวต่างแม่คนนี้เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงเข้าไปในนั้นเจ้าก็จะได้สามีเป็นคนขับรถม้าทันที
“ซ่งจื่อเหยียนถ้าจะโทษก็จงโทษใบหน้าจิ้งจอกของเจ้าที่ทำให้องค์ชายห้าหลงไหล ข้าอยากเห็นตอนที่เขาเห็นเจ้านอนกอดก่ายกับคนชั้นต่ำนั่นนัก หึ”
ซ่งขจื่อเหยียนไม่รู้เลยว่าโชคร้ายกำลังมาหาตนแล้ว และจะเปลี่ยนชีวิตนางไปตลอดกาล
ด้านงานเลี้ยงคนที่ไมชอบสุงสิงและเกลียดงานรื่นเริงได้ปรากฎตัวท่ามกลางสายตาชื่นชมและเชื้อเชิญจากสตรีทั้งแคว้น องค์ชายห้าเว่ยหยางหมิง และชินอ๋องผู้ตรวจการแผ่นดินเว่ยเซียวหยางอนุชาหนึ่งเดียวของฮ่องเต้เว่ยหยางเทียน
สองอาหลานเดินมาในงานก่อนจะทักทายบรรดาขุนนาง เว่ยเซียวหยางที่ไม่ชอบงานรื่นเริงเดินปลีกตัวออกมาอีกด้าน เขาอยากพักสักหน่อยเพราะเพิ่งมาถึงเมืองหลวง แต่หลานชายชวนมางานวันเกิดน้องสาวเขาจึงได้มา
“ท่านอ๋องไปพักห้องข้างไหพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงอยากให้พระองค์อยู่ในงานด้วย แต่นางก็เกรงใจเสด็จอายิ่งนัก”
“อืม ลู่กงกงท่านนำทางเถอะ”
ลู่จงหรือขันทีประจำตำหนักองค์หญิงพาเว่ยเซียวหยางไปยังห้องพักรับรอง ก่อนจะถึงห้องพักมีขันทีน้อยมาเรียกเขา เว่ยเซียวหยางจึงให้เขาไปทำหน้าที่ของเขาส่วนตนเองเดินไปหาห้องพักเองเพราะเคยพักที่ตำหนักหลานสาวบางครั้ง
เห็นห้องที่แง้มประตูอยู่เว่ยเซียวหยางแปลกใจ ใครมาวุ่นวายห้องพักเขากันจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ในห้องมีกลิ่นกำยานแปลกๆอบอวน แต่เพราะเขาเพลียมากนักจึงอยากพักสายตาสักหน่อย เว่ยเซียวหยางที่กำลังจะล้มตัวลงนอนบนเตียงกับเห็นว่ามีสตรีหน้าตางดงามและดูเหมือนว่านางกำลังทุรนทุรายจากอาการบางอย่าง
เขารังเกียจสตรีมิใช่ว่าไม่มีใครรู้ ใครเอานางแพศยานี่มาไว้ในห้องเขากัน เว่ยเซียวหยางที่กำลังจะลุกออกไปก็ปรากฏว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อนรุ่ม ตรงกลางลำตัวบวมและแข็งชันอยากปลดปล่อยออกมา ร่างงามบนเตียงบิดเร่าๆก่อนจะพยายามลุกมาหาเขา
“คุณชายช่วยข้าด้วย ข้ามรมานนัก อื้อ ข้าต้องการท่านได้โปรด ช่วยข้าที”
“อ่าห์..เจ้าเป็นใครกล้าวางยาข้าอยากตายมากหรือไง อ่าห์ สารเลวนักข้าจะตัดหัวเจ้า”
ซ่งจื่อเหยียนไม่ฟังเสียงตวาดของเขา นางปลดอาภรณ์ตนเองออกก่อนจะเดินมาหาเขากอดรัด เว่ยเซียวหยางผลักนางออกแต่ร่างกายนุ่มนิ่มกลับปลุกกำหนัดในกายเขาอย่างรุนแรง ให้ตายสิเขาถูกวางยาปลุกกำหนัดงั้นหรือ
“สตรีน่าตายเจ้ากล้าวางยาข้าหรือ อ่าห์ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคืออยู่ไม่สู้ตายมานี่เลย”
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงกลางเตียง ตอนนี้ซ่งจื่อเหยียนไม่รับรู้แล้วว่าเขาพูดอะไร นางต้องการเขาและต้องการอย่างมากด้วย เว่ยเซียวหยางไม่มีการเล้าโลมแต่อย่างใด เขาจับนางกางขาเรียวออกแล้วสอดใส่ทันที ซ่งจื่อเหยียนน้ำตาไหลพรากนางเจ็บมากนัก แต่นางกลับหยุดไม่ได้ร่างกายนางต้องการเขา
“อ่าห์ คุณชายแรงอีก แรงกว่านี้ อ๊า ข้าจะถึงอีกแล้วอ๊าย”
“อืม สตรีสารเลว อ่าห์ เสร็จกิจเมื่อไหร่ข้าจะฆ่าเจ้า นางสตรีแพศยา”
เว่ยเซียวหยางทั้งสอดใส่กระแทกกระทั้นตามอารมณ์ ซ่งจื่อเหยียนกระตุกเกร็งครั้งแล้วครั้งเล่าจนนางหมดแรง กว่าฤทธิ์ยาจะหมดก็ล่วงเลยไปถึงสองชั่วยาม งานเลี้ยงด้านนอกเลิกแล้ว ซ่งจื่อเหยียนที่หมดแรง และตอนนี้นอกอดก่ายอยู่กับเว่ยเซียวหยาง
ด้านนอกมีเสียงเรียกหานางไม่หยุด ซ่งซยาอวิ๋นทำทีร้องห่มร้องไห้ เว่ยหยางหมิงก็ตกใจ เขายอมรับว่าซ่งจื่อเหยียนงามมากนักยังคิดจะให้นางมาเป็นชายารองของเขาเลย นางหัวอ่อนไม่เหมาะกับตำแหน่งชายาเอก เมียรองพอได้อยู่ แต่ว่านางหายไปไหน เหมือนได้ยินสาวใช้ของคุณหนูรองบอกว่านางหนีไปกับคนขับรถม้า หากนางเป็นสตรีเช่นนั้นต่อให้งดงามเขาก็มิอยากได้ ซ่งซยาอวิ๋นมองหน้ากับอี้ถังสาวใช้ตนเองและมารดาก่อนจะเอ่ย
“อี้ถังเจ้าบอกว่าเห็นนางเดินมาทางนี้จริงๆหรือ นี่ดึกมากแล้วนางจะไปที่ใดได้ หรือว่านางหนีตามคนขับรถม้าของจวนไปจริงๆ คนขับรถม้าก็ไม่อยู่อีกด้วย พี่ใหญ่ท่านคึงไม่ทำเรื่องเลวร้ายไร้ยางอายหรอกนะ ฮือๆๆ”
"คุณหนูรองท่านอย่าร้องไห้อีกเลย นางไร้มารดาสั่งสอนจะทำตัวต่ำช้าก็ไม่แปลกนักหรอก ไปดูห้องนั่นเถอะเหลืออีกห้องที่ยังไม่ได้ค้น องค์หญิงหกได้หรือไมพ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าคุณชายที่ไม่เคยเห็นซ่งจื่อเหยียนก็คิดว่าซ่งซยาอวิ๋นเป็นสตรีที่งามที่สุดในเมืองหลวง พวกเขาจึงพยายามเอาใจนาง
“นั่นเป็นห้องพักของเสด็จอา พวกเจ้ากล้าค้นหรือไม่เล่า”
เว่ยซูถิงหรือองค์หญิงหกเอ่ยถามบรรดาคุณชายที่เอ่ยถามนาง
“แต่ว่าหาตั้งนานยังไม่เจอ ลองดูเถอะหากชินอ๋องคาดโทษพวกเราค่อยขออภัยนะเพคะ”
ซ่งซยาจื่อมั่นใจว่าชินอ๋องไม่อยู่ ถ้าเจอนางแพศยานั่นกำลังเสพสมกับคนขับรถม้า และยังเป็นห้องรับรองชินอ๋องอีกด้วย หากเขารู้ซ่งจื่อเหยียนเจ้าไม่รอดแน่ๆ ท่านอ๋องเกลียดสตรีมิใช่ทั้งเมืองหลวงไม่มีใครรู้
ซ่งซยาจื่อช้อนสายตากล้าๆกลัวไปยังองค์ชายห้า ในที่สุดมือหนาของเขาก็ผลักประตูเข้าไปเอง ด้านในลงกลอนเว่ยหยางหมิงสะมือทีเดียวประตูก็เปิดออก ภาพที่ทุกคนเห็นนั้นทำเอาไม่อยากเชื่อสายตา
ชินอ๋องนอนกอดร่างสตรีที่เปลือยเปล่า มีเพียงไหล่มนที่พ้นผ้าห่มออกมา ด้านชินอ๋องผ้าห่มคลุ่มเพียงช่วงเอวลงไป เว่ยเซียวหยางลืมตาขึ้นมาก่อนจะกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่มามุงดูเขา จากนั้นก็เอ่ยเสียงกังวาน
“มีเรื่องอันใดน่าดูหรือ ไส หัว ไป!!”
ทุกคนรีบออกไปทั้งหมด องค์ชายห้าแอบผิดหวังเล็กน้อยนั่นสตรีที่เขาหมายตาเชียวนะ เขากำลังจะสู่ของนางแล้วเชียว กลับมานอนอยู่บนเตียงกับเสด็จอาได้อย่างไร
ซ่งซยาอวิ๋นเห็นว่าผิดแผนตนเอง ทำไมกลายเป็นชินอ๋อง คนขับรถม้าไปไหนกัน นางหันไปมองสาวใช้แต่นางส่ายหน้า ซ่งซยาอวิ๋นไม่รู้ว่าขันทีน้อยมาตามลู่กงกงตอนนั้น เพราะเห็นมีคนแปลกหน้าลักลอบมาด้านในตำหนัก เกรงว่าองค์หญิงจะมีอันตรายเลยให้คนมาจับตัวไป และยังไม่ได้ไต่สวน