คนชุดดำทั้งสามวิ่งตามเสี่ยวเอ้อและคุณชายจานมาติดๆ
“นั่นไง? พวกมือปราบ” จานเจิ้งมองเห็นคนในชุดแดงเลือดหมูกำลังเดินลาดตระเวนอยู่ด้านหน้าก็มีความหวัง เขาลากจูงเอาเสี่ยวเอ้อวิ่งแทรกไปตามฝูงชนอย่างไม่ลดละ
“เจ้าดึงเบาๆ หน่อย ข้าเจ็บ!”
ชายหนุ่มหันกลับมาดุเสี่ยวเอ้อหนุ่มน้อยในทันที “อดทนสิ! เจ้าต้องคุ้มครองจนกว่าข้าจะไปถึงพวกมือปราบ”
ชายฉกรรจ์ทั้งสามเกือบจะคว้าตัวกัวเจียงเยว่ในชุดเสี่ยวเอ้อได้หลายครั้ง ทว่าจานเจิ้งกลับว่องไวนัก ดึงนางหลบหลีกไปมา ผู้คนบนถนนในยามนี้ยังคลาคล่ำ พวกเขาคนหนึ่งจึงอ้อมไปขวางด้านหน้าไว้เพราะเกรงจานเจิ้งไปขอความช่วยเหลือจากมือปราบได้สำเร็จ
“แย่ล่ะ! พวกมันขวางอยู่ เราหนีเข้าตรอกด้านนี้ก็แล้วกัน”
กัวเจียงเยว่รู้สึกว่าจานเจิ้งจะพานางเข้าไปในตรอกตันที่นางเคยมาครั้งหนึ่ง นางกำลังจะร้องบอกให้เขาวิ่งไปตรอกข้างหน้าแต่ไม่ทัน
“ฮ่าๆ หนีไม่รอดแน่แล้ว คุณชายจาน วันนี้ล่ะข้าจะจัดการเจ้าเสียให้หมอบ” หนึ่งในสามของผู้ล่าจ้องหน้าจานเจิ้งอย่างหมายหัว
บุรุษในชุดคุณชายหรูหราหันกลับมาแล้วดึงเอากัวเจียงเยว่ออกหน้า
“เสี่ยวเอ้อน้อย เจ้ามีวรยุทธ์ ช่วยข้าจัดการที ถ้าข้ารอดไปได้ข้าจะตบรางวัลเจ้าอย่างงาม”
กัวเจียงเยว่ส่ายหน้า อยากจะร้องตอบออกไปนักว่า ‘ข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า’ แต่ชายฉกรรจ์ที่ตามฆ่าจานเจิ้งกลับพุ่งเข้ามาด้วยมีดสั้นในมือ หญิงสาวรีบพลิกตัวกระโดดถีบคนแรกที่พุ่งเข้ามาจนหงายไป จากนั้นก็หลบคนที่สอง จานเจิ้งถอยไปชิดกำแพงดูการต่อสู้ กระทั่งเสี่ยวเอ้อน้อยผู้นั้นใช้เท้ายันกำแพงหมุนตัวราวลูกข่างเตะคนร้ายทั้งสามกระเด็นไป คุณชายจานที่ยืนชมอยู่ถึงกับอ้าปากตบมือชื่นชมด้วยความลืมตัว
“สุดยอดจริงๆ ข้าอยากจ้างเจ้าเป็นผู้คุ้มกันเหลือเกิน!”
คนร้ายทั้งสามนอนโอดโอยอยู่บนพื้น กัวเจียงเยว่คิดจะมาแทงจานเจิ้งสักแผลสองแผลแก้หงุดหงิด นางถือมีดสั้นในมือเดินเข้าไปหาจานเจิ้งที่ยืนพยักหน้าชื่นชมอยู่
“ท่านคิดว่าตนเองควรจะรอดหรือไม่?”
“รอดสิ! นี่เป็นเพราะสวรรค์ส่งเจ้ามาแท้ๆ”
มือปราบกลุ่มหนึ่งกลับวิ่งตึงตังเข้ามาถึงในจังหวะที่กัวเจียงเยว่เหลืออีกเพียงสองก้าวก็จะได้ลงมือแทงจานเจิ้งตามที่ตั้งใจไว้
“คุณชายจาน ท่านปลอดภัยหรือไม่?”
หัวหน้าโหยวอีที่วิ่งนำหน้าลูกน้องมาถึงรีบร้องถาม เสี่ยวเอ้อน้อยจึงหันมาแล้วทำท่าเก็บมีดสั้นทันใด
“ปลอดภัยดีหัวหน้าโหยว ขอบคุณท่านมาที่มาทันเวลา ข้าได้เสี่ยวเอ้อน้อยผู้นี้ช่วยไว้ได้พอดี คนพวกนี้สงสัยจะเป็นกลุ่มที่แพ้พนันในบ่อนเมื่อหัวค่ำ จึงคิดจะมาชิงตั๋วแลกเงินเอาจากพวกข้า” จานเจิ้งชี้ไปยังคนทั้งสามที่ถูกถีบนอนจุกอยู่ที่พื้น
“จับพวกมันไปขังที่สำนักมือปราบให้หมด” โหยวอีหัวหน้ามือปราบหน่วยที่หนึ่งยิ้มน้อยๆ “ฝีมือเสี่ยวเอ้อน้อยผู้นี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก เดี๋ยวต้องเชิญท่านทั้งสองไปให้ปากคำที่สำนักมือปราบด้วยนะ”
“ได้เลยๆ ข้ากำลังคิดจะจ้างเสี่ยวเอ้อน้อยผู้นี้ไว้เป็นผู้อารักขาพอดี”
กัวเจียงเยว่กำลังคิดจะปฏิเสธ แต่ครั้นนึกขึ้นได้ว่าหากอยู่ใกล้ชิดจะยิ่งหาวิธีทำร้ายจานเจิ้งได้ง่ายขึ้นนางจึงตอบรับ “ขอรับคุณชาย”
คุณชายจอมเสเพลเดินเคียงข้างพูดคุยกับหัวหน้าโหยวอีอย่างสนิทสนม กัวเจียงเยว่นึกไม่ถึงว่าคนพาลเกเรอย่างจานเจิ้งจะสนิทกับหัวหน้ามือปราบที่ขึ้นชื่อว่าฝีมือดีที่สุดของสำนักมือปราบเมืองหลวง
โหยวอีสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดโดยมีมือปราบอีกผู้หนึ่งบันทึกปากคำ “พวกท่านลงลายมือชื่อรับรองเสียว่านี่คือถ้อยคำที่พวกท่านได้กล่าว ครั้งหน้าข้าว่าคุณชายจานควรจะหาผู้คุ้มกันติดตามมาด้วยสักสองสามคนหน่อยนะ คุณชายเถียนกับคุณชายเหมาน่ะข้าไม่ห่วง แต่ตัวท่านไม่มีวรยุทธ์หากวันนี้ไม่มีเสี่ยวเอ้อน้อย เห็นทีจะลำบาก”
กัวเจียงเยว่ให้การโดยใช้ชื่อปลอม เมื่อนางเดินตามหลังจานเจิ้งออกมาจากสำนักมือปราบ เขาก็เดินมากอดคอนางในทันที กัวเจียงเยว่ผงะ เผลอสะบัดไหล่เล็กน้อย แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะน้อยๆ ออกแรงกดเอาไว้ ทั้งสองยึกยักกันอยู่ครู่หนึ่ง เขาคำรามฮือๆ ให้นางหยุดดิ้น นางจึงต้องยอมจำนน
“วันนี้เจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ มาๆ ข้าจะพาเจ้าไปเลี้ยงอาหารดีๆ แล้วค่อยแยกย้ายกันกลับ พรุ่งนี้ข้าจะว่าจ้างเจ้ามาเป็นคนคุ้มกันของข้าค่าจ้างให้เท่ากับเงินเดือนมือปราบหน้าใหม่ เจ้าพอใจหรือไม่?”
“ขอรับ” เสี่ยวเอ้อน้อยรับคำเสียงอ่อยๆ
“ดีๆ ซูเยว่ ต่อไปนี้ข้าเป็นนายท่านของเจ้าแล้ว ไป! เราไปกินอาหารอร่อยกันแล้วค่อยแยกย้ายกลับ”
ซูหลีที่เพิ่งตามหาคุณหนูเจอได้แต่แอบดูแล้วตามไปห่างๆ ด้วยความสงสัย ‘คุณหนูบอกจะมาจัดการเจ้าคนชั่วนี่! เหตุใดจึงมาเดินกอดคอกันเสียได้?’
จานเจิ้งหันหน้าเข้าไปใกล้ จมูกของเขาได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของนางก็ลอบอมยิ้ม ก่อนจะแสร้งพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กระทั่งขึ้นรถม้า กัวเจียงเยว่ไม่อยากจะนั่งเบียดกันกับเขาแต่จานเจิ้งก็ไม่ยอมให้นางขยับออกห่าง กระทั่งถึงภัตตาคารบึงหงส์
“เจ้าเคยเห็นสหายของข้าทั้งสองแล้วใช่หรือไม่? คุณชายเถียน กับคุณชายเหมา พวกเรานัดหมายกันที่ห้องชั้นสองทุกครั้งที่มีเรื่องอย่างเช่นวันนี้”
“คุณชายเคยถูกคนไล่ทำร้ายอย่างนี้บ่อยหรือขอรับ?”
“ใช่! ทุกคนที่เหมาฮ่าวชนะพนัน พวกที่เสียเงินก็จะตามล่าพวกเราอยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่เคยทำร้ายข้าได้สักครั้ง เพราะข้าจะนัดหมายให้หัวหน้าโหยวอีพามือปราบมาตรวจตราละแวกนั้น ยามข้าหนี เขาจะได้ช่วยข้าทัน”
“ท่านสนิทสนมกับหัวหน้าโหยวอีหรือขอรับ?”
***************************