ตอนที่ 1
‘เขา’ เป็นเจ้าชายในนิทานของฉัน
แต่ ‘เขา’ ก็เป็นปิศาจที่จิตใจร้ายกาจด้วยเช่นกัน
ทั้งที่พยายามจะลืมเขาให้ได้
แต่ยิ่งอยาก ‘ ลืม’ มากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจกลับยิ่ง ‘จำ’ มากขึ้นเท่านั้น
ความร้ายของเขา ความเอาแต่ใจของเขา ก่อตัวขึ้นเป็นความรักของฉัน
ฉันต้องทำอย่างไรถึงจะลืมเขาได้กันนะ…
ลืมผู้ชายที่เห็นความรักของฉันเป็นแค่ขยะไร้ค่าคนนั้น
‘เธอ’ ไม่ใช่สเป็กของผม
‘เธอ’ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมเฝ้าฝันหา
และ ‘เธอ’ ไม่เคยอยู่ในสายตาของผมแม้เพียงวินาทีเดียว!
แต่…ทำไมตอนนี้ผมถึงอยากเป็นเจ้าของเธอ
ทำไมผมถึงไม่ต้องการให้ผู้ชายหน้าไหนมาเข้าใกล้เธอเกินร้อยเมตร
และทำไม…ในใจของผมถึงมีแต่คำว่า ‘เธอเป็นของของผม’
ผมต้องทำยังไง…ถึงจะลบความรู้สึกนี้ออกไปได้
ผมไม่อยากจะกลืนน้ำลายตัวเองโดยการตกหลุมรักเธอหรอกนะ!
“เรโนจะชอบหรือเปล่านะ”
หญิงสาวผมดำเข้มยาวสยายถึงช่วงเอวแต่มัดเป็นผมเปียของข้าง ไว้หน้าม้าปิดหน้าผากจนมิดชิด สวมแว่นตากรอบดำตามแบบฉบับเด็กเรียนสุดเฉิ่ม กระโปรงนักเรียนยาวคลุมหัวเข่าต่างจากนักเรียนหญิงคนอื่นๆที่เลยเข่าขึ้นมาเกือบคืบ เธอยืนถือห่อคุกกี้หลบอยู่ตรงทางขึ้นบันไดเพื่อรอที่จะมอบคุกกี้ให้กับผู้ชายที่เธอตกหลุมรัก
‘เรโน’ ชายหนุ่มสุดฮอตและป๊อบปูล่าร์ที่สุดในโรงเรียน เขาอาศัยอยู่บ้านข้างๆเธอมาโดยตลอด จะเรียกว่าเป็นเพื่อนบ้านกันก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นเวลาอยู่ที่โรงเรียน หญิงสาวก็ไม่เคยเข้าถึงตัวเขาได้เลย เพราะเรโนมักจะมีนักเรียนหญิงรายล้อมอยู่เสมอ หนำซ้ำเขายังเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี จึงมีเพื่อนเยอะมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า นอกจากจะเจอกันโดยบังเอิญที่บ้านแล้ว หญิงสาวแทบจะไม่ได้เห็นหน้าเขาเสียด้วยซ้ำ
วันนี้คือวันวาเลนไทน์ มีนักเรียนหญิงมากมายรอมอบช็อกโกแลตให้กับเรโน เธอเองก็คือหนึ่งในนั้น แต่เธอไม่มีความกล้าพอที่จะให้ต่อหน้าคนเยอะๆ จึงคิดที่จะรอให้คนอื่นๆมอบช็อกโกแลตให้เสร็จ และเธอจะมอบให้เป็นคนสุดท้าย เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่เธอตัดสินใจที่จะมอบให้เขาพร้อมกับสารภาพรัก หลังจากที่ทนเก็บความรู้สึกมานานหลายปี
“ไปกันหมดแล้ว… ถึงตาเราแล้วสินะ”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองพลางลูบห่อคุกกี้อย่างทะนุถนอม เธอตั้งใจทำมันทั้งคืน คุกกี้รูปหัวใจรสช็อกโกแลตของโปรดของเรโน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความกล้า
“เอาล่ะ…เธอต้องทำได้แน่นอนฝันรัก”
หญิงสาวออกเดินไปที่ห้องเรียนของเรโน ซึ่งเป็นจุดที่เขาจะรอรับของจากสาวๆ แต่ขณะที่ใกล้จะถึงประตูทางเข้าห้อง ประโยคสนทนาจากคนด้านในก็ทำเอาเธอหยุดชะงักเสียก่อน
“แล้วยัยฝันรักห้องหนึ่งไม่เอาของมาให้นายบ้างเหรอเรโน”
หญิงสาวหยุดกึก เธอรีบเดินเข้าไปยืนแอบอยู่หน้าประตูเพื่อฟังบทสนทนาเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองอยู่ในบทสนทนานั้น
“ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้สนใจยัยฝันร้ายนั่นสักหน่อย”
เรโนตอบกลับอย่างไม่แยแส
“ใจ้รายว่ะเรโน ยัยนั่นอุตส่าห์ทำนู่นทำนี่ให้นายตั้งมากมายไม่ใช่เหรอ ตั้งแต่ซื้อข้าวกลางวันยันทำการบ้าน แถมยังคอยเก็งข้อสอบให้นายตอนสอบอีก ผู้หญิงที่ทุ่มเทขนาดนี้น่ะหาไม่ได้ง่ายๆแล้วนะ”
“ฉันไม่ได้ขอร้องให้ทำสักหน่อย ยัยนั่นน่ะโง่เอง ชอบพร่ำเพ้อว่าฉันเป็นเจ้าชายในนิทานอะไรก็ไม่รู้ เด็กจริงๆ”
คำพูดของเรโนกรีดหัวใจของฝันรักจนยับเยิน เธอกำห่อคุกกี้แน่นจนคุกกี้แตกละเอียด แต่มันคงไม่ละเอียดเท่าหัวใจของเธอในตอนนี้
“ที่สำคัญนะ ตอนนี้ฉันหมายตาลิเดียอยู่ กะว่าเย็นนี้จะลองไปชวนเดตดูน่ะ”
“น้องลิเดีย ม. 5 ที่ย้ายเข้ามากลางเทอมน่ะนะ”
“ใช่ น่ารักใช่มั้ยล่ะ”
“โคตรน่ารักเลยแหละ! ได้ข่าวว่าน้องเขาเป็นดาวโรงเรียนจากโรงเรียนเก่าด้วยนะ แถมชาติตระกูลก็ดี ว่าแต่…จะไปขอออกเดตกับน้องลิเดีย แล้วน้องซาร่าของนายล่ะ”
“อ้อ! ฉันบอกเลิกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว คนนี้เด็ดก็จริงนะ แต่ขี้หึงไปหน่อย ฉันทนคบได้หนึ่งอาทิตย์นี่ก็ตำนานแล้วนะ”
“นายนี่เจ้าชู้ตัวพ่อเลยนะเนี่ย! เดี๋ยวฉันไปปลอบน้องซาร่าดีกว่า”
“ตามใจ ฉันยกให้”
เรโนยักไหล่ไม่แคร์ เขามองไปทางช็อกโกแลตกองโตที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะชี้นิ้วไปทางนั้น
“ช็อกโกแลตพวกนั้น…ถ้าจะเอาก็เอาไปนะ ฉันไม่ต้องการ”
“นี่ถ้าพวกผู้หญิงมาได้ยินเข้าคงร้องไห้ตายเลย”
ฝันรักยืนมองคุกกี้ในมือของตัวเองทั้งน้ำตา ผู้ชายที่เธอเฝ้าหลงรักมาตั้งแต่ชั้นประถมและคิดมาตลอดว่าเขาคือเจ้าชายในนิทาน แต่แท้จริงแล้วเขากลับเป็นซาตาน ซาตานที่ทำร้ายจิตใจและความรักที่บริสุทธิ์ของเหล่าหญิงสาวได้อย่างร้ายกาจ
ตึก…ตึก…
การกระทำไวกว่าความคิด ฝันรักเดินออกจากที่ซ่อนเข้าไปในห้อง เรโนชะงักไปเล็กน้อย ต่างจากเพื่อนๆของเขาที่หน้าถอดสีทันทีที่เห็นฝันรักเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่มีแต่คราบน้ำตา
“ได้ยินแล้วสินะ” เรโนถามโดยไม่มองหน้าเธอสักนิด
“สำหรับนาย ฉันเป็นตัวอะไรกันแน่เรโน” ฝันรักถามเสียงสั่นเครือ
“น่ารำคาญชะมัด อย่ามาร้องไห้แถวนี้นะยัยฝันร้าย!”
“ฉันเป็นอะไร…”
“…”
“…”
“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น เธอไม่ได้เป็นอะไรสำหรับฉันเลย”
“งั้นเหรอ เป็นแบบนี้สินะ”
ฝันรักสะอื้นหนักขึ้น แต่เรโนก็ยังไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเธอ
“รีบไปให้พ้นๆหน้าฉันได้แล้ว สารรูปเธอในตอนนี้มันยิ่งกว่าคำว่าดูไม่ได้อีก รู้ตัวหรือเปล่า”
“เฮ้ยเรโน! แรงไปหรือเปล่า”
เพื่อนอีกคนหนึ่งของเรโนแทรกขึ้น เขามองไปทางฝันรักที่ร้องไห้เหมือนคนหัวใจสลายด้วยความเวทนา
“ก็ฉันรำคาญ เอางี้นะฮันเตอร์ ฝากจัดการยัยนี่ด้วยละกัน ฉันไปล่ะ”
เรโนโบกมือลาเพื่อนเดินผ่านฝันรักไป ท่าทางไม่รู้สึกแยแสกับอะไรทั้งสิ้น แต่พอเดินสวนกัน ฝันรักกลับคว้าข้อมือเขาเอาไว้ ทั้งสองต่างยืนหันหลังให้กันและกัน
“ฉัน…ชอบนาย”
“แต่ฉันไม่”
“และฉัน…จะเลิกชอบนายตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
“มันเรื่องของเธอ ปล่อยฉันสักที”
ฝันรักปล่อยเรโนให้เป็นอิสระ เมื่อเรโนเดินออกจากห้องไป ฮันเตอร์และเพื่อนคนอื่นๆของเขาก็เดินเข้ามาล้อมฝันรักเอาไว้เพื่อปลอบโยน
“ไม่เป็นไรนะ…”
ไม่มีคำตอบใดๆจากฝันรัก นอกจากเสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจของเธอเท่านั้น…
‘อกหักดังตู้ม!’ ใช่แล้ว ปกติจะมีแต่คำว่าอกหักดังเป๊าะ แต่กรณีของฉัน ‘ฝันรัก’ คนนี้ คงต้องเรียกว่าอกหักดังตู้ม ดังยิ่งกว่าระเบิดพลีชีพในสนามรบเสียอีก แถมยังเป็นการอกหักที่น่าอับอายจนแทบแทรกรูหนีหรือไม่ก็เช่ายานอวกาศย้ายไปอยู่ดาวอื่นซะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ฉันเฝ้าใฝ่ฝันและบูชาให้เขาเป็นเจ้าชายมาตลอด ความจริงแล้วคือปิศาจใจสกปรกที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น อยากรู้จังว่าที่ผ่านมาฉันใช้อะไรมองตาบ้านั่น ถึงได้เห็นสีดำเป็นสีขาวมาได้หลายปีขนาดนี้ T^T
“ไอศกรีมมาแล้วค่ะ”
พนักงานเสิร์ฟวางไอศกรีมลงบนโต๊ะ วันวาเลนไทน์อย่างนี้มองไปทางไหนก็มีแต่คนมีคู่เดินจับมือกระหนุงกระหนิงยั๊วเยี๊ยะไปหมดเลย ขนาดคุณตาคุณยายสองคนนั้นยังจับมือประคองกันข้ามถนน เป็นคู่รักที่อมตะจริงๆเลยน้า
“ไม่เอาๆ เลิกเศร้าได้แล้วฝันรัก กินไอศกรีมให้หมดเดี๋ยวนี้”
ฉันออกคำสั่งกับตัวเอง ลงมือสวาปามไอศกรีมตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ถึงจะโดนหักอกต่อหน้าคนตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ฉันจะมัวมาเศร้าเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาไม่ได้ ฉันต้องเลิกชอบหมอนั่น เลิกไปคิดถึงแล้วหันกลับไปสนใจเรียนตามเดิม ก็แค่ผู้ชายปิศาจคนหนึ่ง ดีเสียอีกที่มารู้เช่นเห็นชาติแบบนี้เสียก่อน อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ถลำลึกถึงขั้นพลีกายให้หมอนั่นแบบผู้หญิงคนอื่นๆ
แต่ถึงจะอยากพลีกายให้ สภาพอย่างฉันต่อให้ไฟดับทั่วประเทศแถมข้าวสารให้อีกล้านกระสอบพร้อมเงินเลี้ยงดูตลอดชีวิต หมอนั่นก็ยังไม่ต้องการเลยมั้ง ใครจะไปชอบผู้หญิงที่อายุเพิ่งจะสิบแปดหมาดๆแต่รูปร่างและการแต่งตัวเชยจนคุณป้ายังต้องหลีกทางให้แบบฉันกันล่ะ พอมาคิดๆดูแล้วที่เรโนพุดก็ถูกเกือบทั้งหมด เขาไม่เคยขอร้องให้ฉันทำอะไร มีแต่ฉันที่ไปทำให้เขาเองเพราะคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันมาตลอด และที่สำคัญ…จากสภาพหน้าตาของฉัน ชื่อฝันร้ายที่เรโนเรียกคงจะเหมาะกว่าชื่อฝันรักที่คุณยายตั้งให้เป็นกอง
“เชิญครับลิเดีย ร้านนี้ไอศกรีมอร่อยมากเลยนะ”
ฉันรีบก้มตัวลงต่ำเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง พอแอบเหลือบตาดูก็พบว่าเป็นไอ้ปิศาจเรโน! หมอนี่มากับสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง นี่มันคนหรือตุ๊กตาบาร์บี้นะ เทียบกับฉันแล้ว ผู้หญิงคนนี้ล้ำหน้าไปไกลแบบไม่ทิ้งฝุ่นเลย T_T
“ขอบคุณมากค่ะพี่เรโน”
เสียงก็หวานใสยิ่งกว่าลูกแก้วอีก มิน่าล่ะไอ้ปิศาจเรโนถึงได้หมายปอง แล้วนี่ทำไมฉันจะต้องมาหลบด้วยล่ะเนี่ย T^T
“อ้าว…ฝันรัก มากินไอศกรีมที่นี่เหมือนกันเหรอ”
ฉันเงยหน้ามองต้นเสียงที่เข้ามาทักอย่างตกใจ และเมื่อเหล่ไปมองไอ้ปิศาจเรโนก็พบว่าหมอนั่นหันมามองทางฉันพอดี บ้าที่สุด! อีตานี่ต้องคิดว่าฉันแอบตามมาแน่ๆเลย T^T
“สะ…สวัสดีอากิระ”
ฉันโบกมือทักทาย ‘อากิระ’ เพื่อนร่วมห้องที่เรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เขาเองก็ป๊อบปูลาร์ในหมู่สาวๆไม่น้อยไปกว่าไอ้ปิศาจเรโนหรอก แต่ได้ยินข่าวลือมาว่าอากิระไม่เคยรับช็อกโกแลตของผู้หญิงคนไหนเลย และพอมีใครมาสารภาพรักเขาก็จะตอบกลับว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้วเสมอ
“แล้วนั่นหาอะไรอยู่เหรอ ให้ฉันช่วยมั้ย”
อ๊ะ! คงเพราะฉันทรุดตัวลงมาหลบไอ้ปิศาจเรโนใต้โต๊ะ อากิระเลยคิดว่าฉันกำลังหาของล่ะมั้ง แต่ก็ดี แถไปตามน้ำก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งหาข้อแก้ตัว
“เจอแล้วล่ะ ไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ แฟนไม่มาด้วยหรือไง”
อย่าว่าแต่แฟนเลย หมาสักตัวยังไม่มองฉันเลยด้วยซ้ำ T^T ขนาดเดินผ่านยังไม่แม้แต่จะส่งเสียงหอนฉันสักแอะ ฮือๆๆๆ หมายังเมินฉันเลยคิดดู TOT
“ฉันไม่มีแฟนหรอก สารรูปแบบนี้จะไปมีได้ยังไงล่ะ”
“ฮึ!”
เสียงหัวเราะเย้นหยันดังมาจากโต๊ะข้างหลัง ไอ้ปิศาจเรโนนั่งเก้าอี้ติดกับฝั่งของฉันพอดี
“จริงเหรอ! ฝันรักไม่มีแฟนจริงเหรอ”
จะเสียงดังเอาโล่เลยหรือไงเล่า TOT
“มดสักตัวยังไม่มองฉันเลย (._.)”
“ดีใจจัง ^^”
“ฮะ?”
“ขอนั่งด้วยได้มั้ย”
“อื้อ เชิญสิ”
ฉันผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม อากิระรีบนั่งลงด้วยสีหน้าดีใจ ฉันคิดไปเองมั้ง เขาคงไม่ได้ดีใจเพราะได้นั่งกับฉันหรอก น่าจะเป็นเพราะโต๊ะในร้านมันเต็มแล้วมากกว่า
“ที่จริง…ฉันคิดมาตลอดว่าฝันรักมีแฟนอยู่แล้ว เพราะเห็นชอบนั่งเหม่อมองฟ้าด้วยสีหน้ามีความสุขเป็นประจำ ก็เลยคิดว่าเธอกำลังคิดถึงแฟน”
นั่นคงเป็นตอนที่นั่งคิดเรื่องของไอ้ปิศาจเรโนแน่ๆ คิดแล้วก็เจ็บใจ ช่วงเวลาที่ฉันควรจะได้พบเจอกับผู้ชายที่ดีจริงๆต้องมาหมดไปเพราะมัวแต่ไปลุ่มหลงหมอนั่น
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก คนอย่างฉันน่ะเหรอจะมีแฟน แค่อากิระคิดมันก็น่าเหลือเชื่อแล้ว”
“ทำไมล่ะ เธอออกจะน่ารัก ถ้ามีแฟนก็ไม่เห็นแปลกเลย ^^”
พรวด!!!
“O_O”
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่มีคนชมฉันว่าน่ารัก ไม่สิ! เขาอาจจะพูดว่าฉันหน้าหัก ถ้ามีแฟนก็คงแปลก แบบนี้มากกว่า TOT
“เป็นอะไรไปคะพี่เรโน จู่ๆก็พ่นน้ำออกมาจากปากแบบนี้เนี่ย”
“พอดีหูพี่ดันไปได้ยินเรื่องที่หลอนสุดๆเข้าน่ะครับ ขอโทษด้วยนะ ไม่เปียกใช่มั้ย”
ฉันเหล่ตามองข้างหลัง ไอ้ปิศาจเรโนกำลังเอากระดาษทิชชู่เช็ดน้ำบนโต๊ะ คงจะได้ยินที่อากิระชมฉันว่าน่ารักก็เลยตกใจจนน้ำพุ่งออกจากปากสินะ แล้วไอ้คำพูดเมื่อกี้นี้มันอะไรกัน เรื่องที่หลอนสุดๆงั้นเหรอ! มันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว T^T
“คือที่จริงแล้ว…จะเริ่มต้นยังไงดีนะ ครั้งแรกของฉันซะด้วยสิ”
อากิระเกาจมูกเบาๆพลางหันซ้ายหันขวาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ฉันเลิกสนใจไอ้ปิศาจเรโนแล้วหันกลับมาทางอากิระอีกครั้ง เขาเป็นอะไรหรือเปล่านะ -*-
“คือว่า…คือฉันมีเรื่องอยากจะบอกเธอน่ะ คือ…”
ฉันจ้องหน้าอากิระเพื่อรอฟังสิ่งที่เขาจะพูดอย่างตั้งใจ หน้าแดงไปจนถึงใบหูแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากแน่ๆ
“คือ…”
อากิระหันหน้าไปที่เคาน์เตอร์ของร้านซึ่งกำลังมีคนรอจ่ายเงินอยู่ ท่าทางเขินๆแล้วมองไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินแบบนี้ อ๊ะ! หรือว่า…
“รู้แล้ว! เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องอายเลย ฉันเข้าใจน่า”
ฉันโพล่งขึ้นแทรกอากิอระที่กำลังจะอ้าปากพูดออกมา คงเพราะว่าเราไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย อากิระก็เลยรู้สึกกระดากอายที่จะพูดแน่ๆ แต่ว่านะ…มีเพื่อนมาขอพึ่งพิงยามเดือดร้อนแบบนี้ก็ไม่เลวแฮะ เหมือนฝันเลย *O*
“ฮะ? ฝันรักรู้เหรอว่าฉันจะพูดอะไร”
“แน่นอนสิ! ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มื้อนี้เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง นายลืมเอากระเป๋าตังค์มาใช่มั้ยล่ะ”
“หา?”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยังไงเราก็เรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่มอต้นนะ ถึงจะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แต่กับอีแค่ให้ฉันช่วยจ่ายตังค์ให้ก่อนน่ะไม่เห็นต้องอายที่จะพูดเลย”
ฉันล้วงหยิบกระเป๋าตังค์แล้วควักเงินออกมา รู้สึกดีจริงๆเลยที่อากิระไว้ใจและมาพึ่งพิงฉันแบบนี้ เพราะตัวฉันเองก็ไม่เคยมีเพื่อนสนิทกับเขาหรอก เพื่อนในห้องก็แค่คุยเฉพาะเวลาเรียนเท่านั้นเอง
“มะ…ไม่ใช่สักหน่อย เรื่องที่ฉันจะพูดไม่ใช่เรื่องนี้”
อากิระท้วงพลางลุกขึ้นยืนมองหน้าฉันด้วยสีหน้ามุ่งมั่นอย่างน่าตกใจ เล่นเอาฉันเหวอจนแทบหงายหลังตกเก้าอี้ไปเลย =O=
“จะ…ใจเย็นๆก่อนนะ ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ”
ภารกิจช่วยเหลือเพื่อนร่วมห้องครั้งแรกของเรา…พังไม่เป็นท่างั้นเหรอเนี่ย TOT
“ฟังนะฝันรัก ฉันจะพูดสิ่งที่อยากจะพูดให้เธอฟัง ฉัน…”
“…”
“ฉันชอบเธอ!”
“O[]O!!!”
พรวด!!!
“อ๊า! พ่นน้ำอีกแล้ว พี่เรโนเป็นอะไรกันแน่คะเนี่ย ไม่สบายหรือเปล่า >O_<//
“ว่ายังไงล่ะ ถ้าเธอยังไม่มีแฟน จะให้โอกาสฉันได้มั้ย”
อากิระถามเสียงอ่อนลง ฉันมองหน้าเขาหัวใจเต้นระรัว ความรู้สึกใจเต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากหน้าอกแบบนี้คืออะไรกันนะ ไอร้อนที่แผ่กระจายออกมาทั่วทั้งตัวนี่ก็ด้วย ให้ตายสิ…ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เลย =/////=
“คือ…”
“…”
“คือฉัน…”
อากิระเองก็เป็นคนดี แถมเขายังทักสวัสดีฉันทุกเช้าด้วย วันไหนที่ฉันขาดเรียนก็จะให้ยืมเลคเชอร์ตลอด ทั้งใจดี อบอุ่น แล้วก็อ่อนโยน คนละเรื่องกับไอ้ปิศาจเรโนอย่างสิ้นเชิง ใช่แล้ว เพื่อที่จะลืมไอ้ปิศาจเรโนให้ได้โดยเร็ว บางทีการคบกับอากิระอาจจะช่วยฉันได้
“ตก…”
หมับ!
“อ้าว…ฝันรักเองเหรอเนี่ย พอดีเลย เมื่อกี้คุณแม่เธอโทรมาหาฉัน บอกให้รีบพาเธอกลับบ้านด่วนนะ”
“O_O”
ฉันหันขวับไปมองไอ้ปิศาจเรโนที่จู่ๆก็เข้ามากอดคอฉันพลางพูดแทรกสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด อากิระที่ตั้งท่ารอฟังคำตอบมองไอ้ปิศาจเรโนด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ขอโทษด้วยนะครับลิเดีย วันนี้พี่มีธุระด่วนซะแล้ว เอ้า! รีบลุกสิฝันรัก คุณแม่เธอท่าทางจะมีธุระสำคัญมากด้วยนะ”
“จะ…จริงเหรอ”
“จริงสิ ไปได้แล้ว”
เรโนคว้ามือฉันให้ลุกขึ้นด้วยแรงอันมหาศาล ฉันหันไปมองอากิระที่ยังยืนนิ่งคล้ายกับยังงุนงงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“อะ…อากิระ ไว้ฉันจะโทร…”
“คืนนี้ฉันคงต้องรบกวนเธอติวหนังสือทั้งคืนเหมือนเดิมนะฝันรัก”
เรโนพูดแทรกอีกครั้ง ก่อนจะลากฉันออกจากร้านมาได้สำเร็จ ฮือๆๆๆ ความฝันที่จะได้มีแฟนครั้งแรกในชีวิตของฉัน ดับวูบลงในพริบตา TOT