เขาวางเมียลงบนเตียงก่อนจะยกราวกั้นขึ้นเพราะมายเป็นคนนอนดิ้นมากพอสมควรเลย จากนั้นถึงได้แต่งตัวด้วยเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อข้างล่าง แล้วก็ไปค้นกระเป๋าของเมียหยิบลิปมันมาทาไม่งั้นได้ปากแห้งแตกแน่นอน
เมียนอนหันหลังให้เขาแทบจะทันทีและเขาก็ส่งข้อความคุยกับเพื่อนเพื่อจะให้มันช่วยด้วยในเรื่องนี้ เขามั่นใจว่าไม่ได้ไปเอากับใครต่อให้เมามากขนาดไหนก็ตาม ต่อให้เขาไปเที่ยวตลอดก็ใช่ว่าจะออกไปกับใครเพราะมีเมียอยู่แล้ว ตอนเราเลิกกันก็ไม่มีอารมณ์จะเอาใครนอกจากร้องไห้ เศร้าซึมและตามง้อเมีย ผู้หญิงสองคนนั้นก็รู้จักชื่อของเขาทั้งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใครกันแน่ถึงได้มาทำแบบนี้ มันพยายามโวยวายทำให้ทุกคนสนใจ แต่พอไอ้กายมันขู่ว่าจะฟ้องเพราะทำให้เสียหายแล้วถ้าตรวจว่าไม่ได้ท้องจะเล่นงานให้หนัก มันเรียกลูกน้องมา ยัยสองคนนั้นก็ทำท่าเลิ่กลั่กแล้วรีบวิ่งออกไปนอกบาร์ทันที
เรื่องนี้มันต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน
ทำไมไม่เป็นมายที่ท้องแทนวะ
คืนนี้พยาบาลเข้ามาตรวจค่อนข้างบ่อยมากแล้วมายก็นอนพลิกไปพลิกมาไม่หยุดเพราะน่าจะไม่คุ้นที่เลยนอนไม่สบายมาก เขาลุกขึ้นไปห่มผ้าให้บ่อยแล้วจัดท่าให้เพราะกลัวว่าจะทับสายน้ำเกลือจนหยุดไหลเอาได้ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงตีสามกว่าๆหลังจากพยาบาลออกไปแล้วเขาก็ตัดสินใจขยับตัวเมียแล้วขึ้นไปนอนด้วยซะเลยจะได้หลับฝันดี เพราะว่าหลังจากคืนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราบ้าง
ในตอนแรกเขายืนยันเลยว่าจะไม่มีทางเลิกกับเมียอีกครั้งแน่นอนเพราะทนอยู่คนเดียวไม่ไหวจริงๆ ไหนจะหวงเมียจนไม่อยากจะให้ใครมายุ่งด้วย แต่หลังจากคุยกับเพื่อนแล้วก็คิดว่าจำเป็นต้องเลิกเพราะเรื่องนี้มันไม่น่าจะหยุดง่ายๆแน่นอน
เขาจำเป็นต้องหลอกเพื่อล่อให้มันเผยตัวออกมาว่าเป็นใครที่แอบถ่ายรูปเขาส่งไปให้เมียเพื่อสร้างความร้าวฉาน เพื่อนก็จะสืบยัยสองคนนั้นด้วยเผื่อจะได้อะไรเพิ่ม เขาเคยทำผิดพลาดไปทำในเรื่องที่ใครหลายคนไม่มีทางให้อภัยกันง่ายๆแต่มายก็ยอมให้โอกาส ผลที่ตามมาคือมายรู้สึกไม่มั่นคงในความรัก ระแวงเขาหลายอย่างและกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง
เขาไม่เคยอยากจะเลิกกับเมียเลยสักครั้งนะ
เขาเสียใจไม่ต่างกันหรอก
เช้าวันต่อมาพยาบาลเข้ามาตรวจเหมือนเดิมแล้วบอกว่าช่วงสายหมอจะเข้ามาดูอาการอีกครั้งและคาดว่าน่าจะได้กลับบ้านในวันนี้เพราะไม่มีอาการน่าเป็นห่วง แต่ที่เธองงคือพี่เชียร์ขึ้นมานอนด้วยตอนไหนวะ เมื่อคืนเขาก็นอนที่โซฟาไม่ใช่รึไง เธอจำได้นะว่าเขานอนเล่นโทรศัพท์ตรงนั้นน่ะ แล้วช่วงประมาณเกือบตีสามเขาก็พาเธอไปเข้าห้องน้ำก่อนจะจูบหน้าผากบอกฝันดีแล้วนอนหลับไปทันทีเลย
เธอค่อยๆแกะมือที่กอดกันออกอย่างแผ่วเบาแล้วลุกจากเตียงด้วยความเงียบที่สุด เธอลากเสาน้ำเกลือไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นก็เดินกลับมาแล้วห่มผ้าให้กับเขาจะได้นอนหลับสบายขึ้นเพราะเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเลย ส่วนตัวเธอนอนที่โซฟาแทนจะได้ไม่ต้องไปเบียดพี่เชียร์
ในระหว่างที่ยังไม่หลับก็ค้นหาห้องเช่าใหม่ที่ถูกใจเพราะจำเป็นต้องย้ายออกจากคอนโดไปอยู่คนเดียวจนกว่าเรื่องทำผู้หญิงท้องจะแน่ชัดกว่านี้และต้องมีอะไรมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ด้วย ลึกๆก็หวังว่าจะไม่ใช่พี่เชียร์ที่เป็นพ่อเด็ก แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปเขาจะเล่นกันไง ถ้าจะมาแอบอ้างความเป็นพ่อของเด็กอย่างน้อยก็ต้องรู้จักกันมาก่อนสิและเคยได้กันด้วยถึงมั่นใจมากขนาดนั้นว่าใครคือพ่อ
แล้วจากนิสัยของพี่เชียร์ที่คบกันมาตั้งสามปีก็ยิ่งทำให้แปลกใจมาก เขาเป็นคนกล้าทำกล้ารับแต่ครั้งนี้เขาปฏิเสธอย่างเดียวเลย เขาเองก็น่าจะรู้สึกถึงความแปลกและตั้งสติได้มากกว่าถึงยอมง่ายๆเพื่อเคลียร์ปัญหาก่อนจะลามปาม
พึ่งกลับมาคืนดีกันได้ไม่กี่เดือนเองนะ
เฮ้อ…คิดแล้วก็เครียด
หลังจากวันนั้นผ่านไปทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความเงียบเหงามาก มายหนีมาอยู่กับเพื่อนแล้วรอจังหวะที่พี่เชียร์ต้องไปออกงานที่ต่างจังหวัดเข้าไปเก็บของตัวเองออกมาย้ายที่อยู่ไปคอนโด แล้วจากนั้นก็จัดของทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ว่าพี่เชียร์จะโทรหาเท่าไรก็ไม่รับ ข้อความมาก็ไม่อ่านและไม่ตอบด้วย เธอตัดสินใจแล้วที่จำเป็นต้องทำแบบนี้ถึงใครจะว่าโง่หรือหูเบาเชื่อคนง่ายเกินไปก็ตาม แต่ใครไม่เป็นเธอไม่มีทางรู้หรอกว่าเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องบอกเลิกเขาไปแบบนั้น
เฮ้อ…อยู่คนเดียวมาหนึ่งอาทิตย์แล้วโคตรเหงา
คิดถึงผัวเก่าแล้วอะ
คืนนี้เพื่อนชวนไปเที่ยวแล้วจะมารับเองเนื่องจากว่ารถของเธอยังซ่อมไม่เสร็จเลยเพราะรออะไหร่อยู่ ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำที่เราจะไปมันน่าจะช่วยให้รู้สึกดีได้มากขึ้นกว่านี้บ้าง เธอใส่เกาะอกเอวลอยสีขาวคู่กับกางเกงขาสั้นสีขาว ก่อนจะหยิบเอาเสื้อแขนยาวสีแดงตัวใหญ่มาคลุมทับต่อเพื่อไม่ให้โป๊มากเกินไป จากนั้นถึงได้เดินออกจากห้องด้วยความสบายใจและบังเอิญเจอกับห้องตรงข้ามเป็นครั้งแรกที่ย้ายมาอยู่ที่นี่
เขามองเธอเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันงั้นแหละ
หรือเคยเห็นคลิปเธอเต้นกับเพื่อน
“น้องมายใช่รึเปล่าครับ?”
“เอ่อ…ค่ะ”
“ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะเนี่ย แล้วพึ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอครับ พี่พึ่งเคยเห็น”
“ค่ะ ย้ายมาอยู่กับแฟน” เธอโกหกไปเฉยๆเพราะไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร เขาหุบยิ้มนิดเดียวก่อนจะยิ้มกว้างด้วยแววตาที่แข็งเล็กน้อย แล้วเดินไปพร้อมกับเธอเพื่อลงลิฟต์ไปด้วยกัน ไม่รู้สิว่าทำไมถึงรู้สึกว่าโดนแอบมองอยู่ตลอดเวลาทั้งที่เขาก็หยิบโทรศัพท์มาโทรคุยกับใครก็ไม่รู้เสียงเบามากแต่น่าจะเป็นเรื่องงานถึงได้ดูอารมณ์เสีย พอประตูลิฟต์เปิดเธอก็รีบเดินออกไปทันทีเลย
เมื่อกี้รู้สึกแปลกมากจริงๆนะ
เธอรู้สึกว่าถูกคุกคามทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไร
“เป็นอะไรวะมาย ดูลนๆ” รชาถามเพื่อนรักที่ย้ายมาอยู่คนเดียวได้ไม่นานมากแล้วมันไม่ค่อยจะออกไปไหน คืนนี้เลยมารับไปเที่ยวด้วยกันเผื่อจะรู้สึกดีขึ้น
“มึง…คือว่ากูรู้สึกแปลกอะ กู…เออช่างมันเถอะ” จะบอกเพื่อนว่าถูกแอบมองก็ดูจะเป็นการใส่ร้ายคนอื่นมากเกินไป แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรเธอมากกว่าทักทายตอนอยู่หน้าห้องด้วย
“ถ้าอยู่คนเดียวไม่ไหวเดี๋ยวกูโทรตามพี่เชียร์ให้เอาไหม?”
“พอเลย! ครั้งนี้เลิกจริงๆ”
“ครั้งก่อนก็พูดแบบเนี่ย!”
“แต่ครั้งนี้กูพูดจริงไง ไปกันเถอะกูคอแห้งแล้วอยากหาอะไรดื่มแล้ว”
รชาขับรถไปกับเพื่อนที่ปาร์ตี้วันนี้ก่อนจะอัพสตอรี่สนุกๆกัน แล้วเพื่อนบางคนก็ไลฟ์สดอยู่ด้วย พอหันกล้องมาทางนี้เธอกับมายก็ยิ้มกว้างให้ทันทีเลย จากนั้นเราก็นั่งดื่มนั่งคุยและเต้นกันอย่างสนุกมาก พวกมีคู่ก็จูบกับนัวเลยไม่แคร์คนโสด ส่วนบางคนก็มองหาคู่นอนในคืนนี้ แต่เพื่อนของเธอเนี่ยมันยกเหล้าเอาอย่างเดียวสงสัยว่าน่าจะคิดถึงผัวเก่ามากแน่นอน
นี่ไงสภาพคนปากดีไปบอกเลิกผัว
สุดท้ายนั่งคิดถึงผัว
“มึง…คนนั้นใครวะ?”
“ไหน?”
“ก็…หายไปไหนแล้วอะ เมื่อกี้กูเห็นเขายืนถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นน่ะ แต่หน้าไม่คุ้นเลยสงสัยจะมาใหม่มั้ง”
“มึงจะคุ้นหน้าทุกคนเลยรึไงห่ะรชา?”
“เอ้า! กูมาบ่อยแล้วมันก็มีแต่พวกหน้าเดิมๆนี่หว่า พอเห็นคนแปลกหน้าหน่อยก็ต้องสนใจดิ”
“ช่างหัวคนแปลกหน้าเถอะ! กูจะแดกเหล้า”
“แดกให้ตายมึงก็ลืมผัวไม่ได้หรอก”
“ปากหมา!!”
“แหม่…เล่นเสิร์ฟอาหารเม็ดทุกไตรมาสจะไม่ปากหมาได้ไงห่ะอีมาย!”
“รอบนี้…”
“เดี๋ยวพี่เชียร์มาง้อมึงก็คืนดีเหมือนเดิม”