บทที่ 9
งามระยับหิ้วถังอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมาจากลิฟต์ และมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทำงานของไทเรลล์ด้วยความรีบร้อน เพราะแคทเธอรีนสั่งให้มาด่วน
“ทำให้สะอาดนะ เสร็จแล้วก็รีบออกมา อย่ามัวแต่โอ้เอ้ทำให้คุณหมอรำคาญเด็ดขาด”
“ค่ะ คุณแคทเธอรีน”
งามระยับก้มหน้าตอบรับคำสั่ง ก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าห้องทำงานของไทเรลล์ และยกมือขึ้นเคาะเบาๆ หนึ่งครั้ง
“แม่บ้านมาทำความสะอาดค่ะ”
“เข้ามา”
เสียงอนุญาตจากเจ้าของห้องดังขึ้นในวินาทีต่อมา หล่อนจึงตัดสินใจหมุนลูกบิดประตู และเปิดมันเข้าไป
“ขออนุญาตทำความสะอาดค่ะผู้อำนวยการ”
คนตัวโตนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ตัวใหญ่ ตรงหน้าของเขามีแฟ้มเอกสารกองอยู่มากมาย
ไทเรลล์คงงานยุ่งมาก งามระยับคิดในใจอย่างเห็นใจ ก่อนจะเดินมาหยุดกลางห้อง
“งามจะรีบทำความสะอาดให้เร็วที่สุดค่ะ จะได้ไม่รบกวนเวลาทำงานของผู้อำนวยการ”
“ขอบใจ งานฉันมันเยอะจริงๆ นั่นแหละ”
ไทเรลล์แกล้งก้มหน้าก้มตาทำงาน ทั้งๆ ที่จิตวิญญาณของเขาจดจ่ออยู่ที่ผู้หญิงคนนั้น คนที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับพื้น และในที่สุดก็ไม่อาจจะทนเสแสร้งทำงานต่อไปได้ เขาลุกขึ้นยืน เดินอ้อมโต๊ะออกไปหยุดตรงหน้า
“ค่อยๆ ทำ เดี๋ยวพื้นห้องเสียหมด”
งามระยับเงยหน้าขึ้นก็เห็นปลายเท้าของไทเรลล์อยู่ตรงหน้า หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา แก้มนวลแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว จนต้องเสหลบสายตาคมกริบคู่นั้น
“ค่ะ งามจะระวังค่ะ”
แล้วหล่อนก็เช็ดๆ ถูๆ คราบกาแฟจนเกือบจะหมดอยู่แล้ว คนที่ยืนตระหง่านอยู่ก็ย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า และเผชิญหน้ากับหล่อนในระดับเดียวกัน
ลำคอของหล่อนแห้งผากจนต้องพยายามกลืนน้ำลายลงไปเพื่อให้ความชุ่มชื้น
“เอ่อ...”
ดวงตาคมกริบที่จับจ้องมองมาในระยะกระชั้นชิดทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงราวกับกำลังถูกเขย่า
“ผู้อำนวยการ...ทำงานเถอะค่ะ งาม...จะเช็ดอย่างระวัง”
คนที่จ้องหน้าหล่อนอมยิ้ม รอยยิ้มของเขาทำให้หล่อนไม่ต่างจากถูกกระชากลมหายใจออกไปจนเกลี้ยงปอด หล่อนเบิกตากว้าง แก้มนวลเปล่งปลั่งแดงระเรื่อไม่หยุด
“เช็ดแบบนี้มันจะไปออกยังไงกันล่ะ มา ฉันจะเช็ดให้ดู”
ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาแย่งผ้าในมือของหล่อน ไอร้อนจากอุ้งมือหนาที่สัมผัสลงบนหลังมือเล็ก ทำให้หล่อนรู้สึกคล้ายกับโลกทั้งใบหยุดหมุน หล่อนเผยอปากค้าง ดวงตากลมโตสบประสานกับดวงตาคมกริบโดยอัตโนมัติ และเขาก็ยิ้มให้หล่อน
“ฉันไม่ได้คิดจะจับมือเธอหรอกนะ แค่จะหยิบผ้ามาเช็ดให้ดูน่ะ”
หล่อนก็ไม่อาจเอื้อมคิดแบบนั้นหรอก งามระยับคิดในใจ ก่อนจะรีบปล่อยผ้าในมือ และชักมือเล็กออกมา ร่างสาวรู้สึกเหมือนมีลาวาร้อนๆ ไหลคลั่กตลอดเวลา
“งาม...ไม่คิดแบบนั้นหรอกค่ะ”
ไทเรลล์อมยิ้ม และเช็ดรอยเปื้อนจากคราบกาแฟตรงหน้าจนเกลี้ยงเพียงแค่ถูไม่กี่ครั้งเท่านั้น จากนั้นเขาก็ยื่นผ้านั้นคืนให้หล่อน พร้อมกับลุกขึ้นยืน
“คราบออกหมดแล้วเห็นไหม”
หล่อนเงยหน้าช้อนตาขึ้นมองเขา ก่อนจะระบายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว จนเห็นลักยิ้มที่มุมปากทั้งสองข้าง
ไทเรลล์หัวใจเต้นแรง เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากจึงจะสามารถละสายตาจากรอยยิ้มของงามระยับไปมองที่อื่นได้ งามระยับทำให้เขาอ่อนแอเหลือเกิน
“เสร็จแล้ว...งั้นงามขอตัวก่อนนะคะ”
“เช็ดต่ออีกหน่อย คราบมันอาจจะฝังแน่นจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ได้”
“แต่เท่าที่งามมองมันก็ไม่เห็นมีอะไรสกปรกแล้วนะคะ”
งามระยับลุกขึ้นยืน เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดใส่ตะกร้าและทำท่าจะเดินออกไป ไทเรลล์จึงหันไปปัดแจกันบนโต๊ะทำงานจนตกลงมาแตกอีกชิ้น
เคล้ง!!!
งามระยับหันกลับมามองด้วยความตกใจ ในขณะที่ไทเรลล์ก็แสดงท่าทางตกใจไม่แพ้กัน
“แย่จัง ทำไมวันนี้ฉันซุ่มซ่ามนักก็ไม่รู้” ไทเรลล์มองหน้างามระยับก่อนจะพูดขึ้น “คงต้องรบกวนให้เธอทำความสะอาดเพิ่มอีกสักหน่อยแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” งามระยับเดินกลับมา และหยิบอุปกรณ์ออกมาทำความสะอาดอีกครั้ง ในขณะที่ไทเรลล์ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองอย่างกระวนกระวาย
“เมื่อไหร่จะมานะ”
เขาพึมพำเบาๆ ในลำคอ และเดินออกมามองงามระยับเก็บเศษแจกันที่แตกเกลื่อนห้องทำงาน
“ระวังจะบาดมือเอานะ”
“ขอบคุณค่ะ อุ๊ยยย”
ยังไม่ทันขาดคำ นิ้วเรียวก็มีเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา ไทเรลล์ตกใจรีบทรุดกายลงนั่ง คว้านิ้วเรียวที่มีแผลมาใส่ปากของตัวเองและดูดเบาๆ
“ผู้...อำนวยการ...?!”
มันเกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้งามระยับไม่ทันตั้งตัว หล่อนทำได้แค่เพียงมองไทเรลล์ดูดนิ้วที่มีแผลของตัวเองเอาไว้ในปากเพียงเท่านั้น มองด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักรุนแรง
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที แต่สำหรับหล่อนมันนานชั่วกัปชั่วกัลป์เลยทีเดียว
นิ้วของหล่อนหลุดออกจากอุ้งปากอบอุ่นของไทเรลล์แล้ว พร้อมกับเลือดที่หยุดไหลอย่างน่าอัศจรรย์
“เลือดไม่ไหลแล้ว”
“เอ่อ...ขอบ...คุณมากค่ะ”
หล่อนกล่าวขอบคุณสุ้มเสียงสั่นเทา และก็หน้าแดงก่ำราวกับเป็นญาติกับผลตำลึงสุก
ไทเรลล์ระบายยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าต่ำลงมาหา “นี่เป็นวิธีห้ามเลือดที่แม่ฉันสอนมา เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
จะว่าอะไรได้ล่ะ ในเมื่อเขาอมนิ้วหล่อนเสร็จไปแล้ว
“มะ ไม่ว่า...ค่ะ...”
เขาผุดลุกขึ้นยืน ในขณะที่หล่อนกำลังจะเก็บเศษแจกันที่แตกต่อ แต่เสียงห้าวห้ามเอาไว้เสียก่อน
“พอก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยทำต่อ”
“แต่งามอยากรีบทำให้เสร็จน่ะค่ะ”
“อย่าดื้อสิ” เขาคว้าแขนหล่อน และรั้งให้ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวเลือดไหลออกมาอีก ฉันไม่ดูดห้ามเลือดให้แล้วนะ”
หล่อนเสหลบสายตาของไทเรลล์อย่างเอียงอาย ไม่รู้ทำไมถึงได้หวั่นไหวขนาดนี้
“เอ่อ...งั้นงามขอตัว...” หล่อนยังพูดไม่ทันจบ ประตูห้องทำงานของไทเรลล์ก็เปิดออกเสียก่อน พร้อมๆ กับผู้ชายในชุดสีขาวสี่คนก้าวเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหาร
“มาพอดีเลย”
หล่อนได้ยินไทเรลล์พึมพำออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะหันมามองหล่อน
“กินข้าวด้วยกันนะ”
“คะ?” หล่อนตกใจ
“ฉันบอกว่ากินข้าวด้วยกันนะ”
หล่อนรีบส่ายหน้าปฏิเสธโดยที่ไม่ต้องหยุดคิดเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“เชิญ...ผู้อำนวยการตามสบายเถอะค่ะ งาม...ห่อข้าวมากินค่ะ”
“เธอก็เห็นว่าอาหารเยอะขนาดนี้ ฉันจะกินคนเดียวหมดได้ยังไงล่ะ มากินด้วยกัน”
“แต่ว่า...”
“ถ้าฉันไม่มีเพื่อนกิน ก็คงเหลือทิ้งเยอะเลย”
คำพูดของเขาทำให้หล่อนอดไม่ได้ที่จะปรายตามองอาหารบนโต๊ะกระจกริมหน้าต่าง ทั้งหน้าตาและกลิ่นของมันช่างยั่วยวนต่อมตะกละของหล่อนให้ทำงานดีเหลือเกิน หล่อนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคอ และกลั้นใจปฏิเสธอีกครั้ง
“งาม...จะไปตามคุณแคทเธอรีนให้มารับประทานเป็นเพื่อนผู้อำนวยการนะคะ”
“แคทเธอรีนออกไปกินข้าวข้างนอกกับแฟนน่ะ”
“หรือจะเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล ฝ่ายขาย หรือว่าฝ่ายจัดซื้อดีไหมคะ” หล่อนพยายามค้นหาบุคคลที่คู่ควรในการนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับเจ้าของโรงพยาบาลหนุ่ม แต่เขาเอาแต่ส่ายหน้าดิก
“เธอคิดว่าคนพวกนั้นจะไม่มีนัดหรือไง”
“ก็...”
“หรือว่าเพราะเธอมีนัด ก็เลยอยู่กินข้าวกับฉันไม่ได้”
สีหน้าของงามระยับเจื่อนลงเล็กน้อย “ความจริงงามก็ไม่ได้มีนัดอะไรหรอกค่ะ แค่เคยกินด้วยกันทุกวันเฉยๆ”
“งั้นก็อยู่กินกับฉันก่อน”
“แต่ว่า...”
ไทเรลล์เดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ และลากแขนของหล่อนให้ไปหยุดตรงหน้าโต๊ะที่วางอาหาร กลิ่นหอมฟุ้งของมันโชยเข้ามาในจมูก ทำให้ท้องไส้ของหล่อนปั่นป่วนเหลือเกิน
ของดีๆ ทั้งนั้นเลย อยากกิน...
หล่อนคร่ำครวญในใจ สายตาจับจ้องที่จานอาหารแต่ละจานด้วยความกระหายหิว
แต่มันไม่เหมาะ!
“แต่งามคิดว่า งามไม่ควรจะนั่งร่วมโต๊ะกับผู้อำนวยการนะคะ งามเป็นแค่พนักงานทำความสะอาด...”
“ฉันสนที่ไหนกันล่ะ นั่งลง แล้วกินเป็นเพื่อนฉัน”
“แต่...”
“ไม่มีแต่แล้ว ฉันหิว”
ร่างของหล่อนถูกจับกดให้นั่งลงบนโซฟา โดยมีเขาทรุดตัวนั่งลงตรงกันข้าม เขาเลื่อนจานข้าวให้หล่อน พร้อมเชื้อเชิญ
“เป็ดพะโล้ภัตตาคารนี้อร่อยมากนะ แล้วก็แพงมากด้วย ถ้าเธอไม่ได้กิน ถือว่าพลาดมาก”
น้ำลายของหล่อนสอออกมาจนแทบหยดแหมะ แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ จึงเลื่อนสายตามองเขาอีกครั้ง
“แน่ใจนะคะว่า...ให้งามร่วมโต๊ะด้วย”
“อืม”
“งั้นงาม...ไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
“ตามสบาย”
จบคำตอบแสนใจดีของเขา หล่อนก็จัดการกับอาหารมากมายตรงหน้าทันที ตักคำใหญ่ใส่ปากคำแล้วคำเล่า แทบจะสำลักติดคอ จนต้องรับแก้วน้ำจากมือใหญ่ที่ส่งมาให้ยกขึ้นมาดื่ม
“ขอบคุณค่ะ”
“ค่อยๆ กิน ฉันไม่แย่งหรอก”
ไทเรลล์มองงามระยับกินเอาๆ ด้วยความพึงพอใจระคนขบขัน
“กินจุเหมือนกันนะเนี่ย”
เขาพึมพำในลำคอ แต่หญิงสาวได้ยิน ก็เงยหน้าที่ปากกำลังคาน่องไก่อยู่ขึ้นมาฉีกยิ้มให้
“งามไม่เคยกินอะไรที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ”
“ถ้าชอบ ฉันจะซื้อให้กินบ่อยๆ เอาไหม”
หล่อนส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่เอาหรอกค่ะ แค่นี้งามก็เกรงใจผู้อำนวยการจะแย่อยู่แล้ว งามกินต่อนะคะ”
แล้วงามระยับก็ไม่สนใจอะไรอีก นอกจากจัดการกับอาหารมากมายตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย