ตอนที่ไม่มีชื่อ

1420 คำ
บทที่ 7 เช้าวันนี้ไทเรลล์ออกไปทำงานสายกว่าปกติ คงเป็นเพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบตีหนึ่ง ในหัวเอาแต่คิดถึงสิ่งที่ค้างคาใจไม่ยอมหยุด รถคันงามแล่นออกจากรั้วใหญ่โดยมีสารถีคือริชาร์ดเช่นเดิม มันค่อยๆ แล่นผ่านป้ายรถเมล์ที่ปากซอย และเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองด้วยความเคยชิน แต่แล้วก็ต้องเลิกคิ้วดกหนาขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ เมื่อยังเห็นร่างอรชรในชุดพนักงานทำความสะอาดประจำโรงพยาบาลของเขายืนอยู่ สีหน้าของหล่อนดูกระวนกระวาย ผมเผ้ายุ่งเหยิงคล้ายกับรีบร้อนมากจนไม่มีเวลาจัดการกับมัน เขาหันไปบอกริชาร์ดให้จอดรถทันที “จอดรถก่อนครับลุงริชาร์ด” ริชาร์ดทำตามคำสั่ง หักพวงมาลัยรถจอดที่ข้างทางเลยป้ายรถเมล์มาเล็กน้อย แต่ก็อดที่จะถามเจ้านายหนุ่มสุดหล่อด้วยความสงสัยไม่ได้ “มีอะไรเหรอครับคุณหมอ” “ผมเจอคนรู้จักน่ะ” ไทเรลล์ตอบแค่นั้นก็เปิดประตูรถและก้าวเท้าออกไปทันที ริชาร์ดเอี้ยวตัวมองตามไปด้วยความไม่เข้าใจนัก “ป่านนี้ยังไม่ไปทำงานอีก ระวังจะสายนะ งามระงับ” เสียงทุ้มนุ่มหูดังขึ้นด้านหลัง ทำให้งามระยับที่กำลังด่าทอนาฬิกาปลุกของตัวเองต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะอ้าปากค้างเติ่ง และเบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “ผู้...อำนวยการ...!” ไทเรลล์ระบายยิ้มบางๆ แต่ทรงเสน่ห์ยิ่งนัก ทำเอาหัวใจของงามระยับร่วงหล่นลงไปกระแทกพื้นทันที “ตกใจอะไรหรือ” “ก็...” หล่อนรีหันขวางมองหาพาหนะที่นำพาเขามาหยุดตรงหน้าหล่อน ก่อนจะพบว่ามันจอดเลยป้ายรถเมล์ไปเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น “ผู้อำนวยการ...มีอะไรกับงามเหรอคะ” เขาอมยิ้มอีกแล้ว บ้าจริง จะยิ้มทำไมนักหนา หรือจะทำให้หล่อนหัวใจวายกันไปข้างหนึ่งเลย งามระงับค่อนขอดผู้ชายตรงหน้าในใจ “จะมาชวนนั่งรถไปด้วยกันน่ะ” “คะ?” หล่อนต้องยกมือขึ้นตบหูของตัวเองแรงๆ ก่อนจะถามใหม่เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ผู้อำนวยการว่าอะไรนะคะ” ไทเรลล์มองกิริยาตื่นๆ งงๆ ของผู้หญิงตรงหน้าแล้วก็อดที่จะหัวเราะขบขำอย่างอารมณ์ดีไม่ได้ “จะชวนนั่งรถไปทำงานด้วยกันน่ะ ไปหรือเปล่า” ไอ้อยากไปก็อยากไปหรอก แต่เขากับหล่อนมันคนละระดับกัน ขืนขึ้นไปนั่งแล้วดันทำเบาะรถเปื้อน หล่อนมิต้องจ่ายค่าทำความสะอาดหัวโตเลยเหรอ และดูจากความงามของรถแล้วน่าจะราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว “คง...ไม่ไปหรอกค่ะ” ไทเรลล์ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมอง และเร่งเร้า “แต่นี่เหลืออีกไม่ถึงสิบห้านาทีก็จะเข้างานแล้วนะ ถ้าเธอไปสาย เบี้ยขยันก็จะถูกตัด” หล่อนไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้โน้มศีรษะเข้ามาใกล้นัก ใกล้มากจนหล่อนมองเห็นแม้แต่กระทั่งสิวเม็ดเล็กที่ปลายจมูกโด่งสวยบนใบหน้าหล่อจัดนั้นเลยทีเดียว หล่อนแก้มแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และสองขาก็ก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ “ขอบคุณนะคะที่เมื่อวานช่วยเรื่องเบี้ยขยันของงาม” “ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันทำให้เธอเสียเวลาเอง แต่วันนี้ฉันคงช่วยไม่ได้แล้วนะ ถ้าไปสาย ยังไงก็ต้องถูกตัดเบี้ยขยัน” ไทเรลล์ไล่ต้อนลูกแกะจอมงกตรงหน้าอย่างมีชั้นเชิง “แต่ว่าเธอคงไม่สนใจอะไรกับเบี้ยขยันหรอกใช่ไหม แม้จะสะสมมาหลายปีแล้วก็ตาม” “สน...สนใจสิคะ แต่...” สีหน้าของหล่อนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “แต่อะไรหรือ” ใบหน้าของไทเรลล์ยังคงลอยอยู่ไม่ห่าง ตาบ้านี่ จะเอาความหล่อมาเข่นฆ่ากันทำไมนักหนานะ “แต่งาม...ไม่มีเงินค่าโดยสารจ่ายให้กับผู้อำนวยการมากนักหรอกนะคะ วันนี้งามเอาเงินติดตัวมาแค่ห้าสิบบาทเอง” ไทเรลล์แทบจะสะกดกลั้นเสียงหัวเราะขบขันที่ดังในอกเอาไว้ไม่ได้ นี่เจ้าหล่อนเค็มจัดขนาดเกลือเรียกแม่เลยใช่ไหมเนี่ย “ใครว่าฉันจะเก็บค่าโดยสารเธอล่ะ” ดวงตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลเมื่อครู่นี้เบิกกว้าง พร้อมกับรอยยิ้มตื่นเต้นยินดี “ไม่เก็บแน่นะคะ” “อืม...” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “งั้นงามก็ไม่เกรงใจแล้วนะคะ” ไทเรลล์ส่ายศีรษะไปมา มองร่างของงามระยับที่พุ่งตรงไปยังรถของเขาด้วยความขบขัน เขาอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินตามไปที่รถ และเปิดประตูให้หล่อนขึ้นไปนั่งเบาะหลังด้วยกัน “ให้งาม...นั่งหน้าก็ได้ค่ะ” “นั่งด้วยกันนี่แหละ ขึ้นไปเร็วสิ เดี๋ยวสายกันพอดี” งามระยับรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ต้องนั่งเคียงคู่กับผู้ชายในฝันของตัวเอง แต่ก็โอ้เอ้มากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะสแกนบัตรเข้าทำงานไม่ทัน “ขอบคุณค่ะ” หล่อนก้าวขึ้นไปนั่ง โดยมีไทเรลล์ที่ตัวโตกว่ามากมายขึ้นมานั่งขนาบข้าง แก้มนวลแดงระเรื่ออย่างสุดจะห้ามปราม สองมือเล็กขาวสะอาดบีบกันแน่นบนตัก “ทำไมวันนี้ไปทำงานสายล่ะ” “เอ่อ...” คำพูดชวนคุยสบายๆ จากไทเรลล์ ไม่ได้ทำให้หล่อนรู้สึกผ่อนคลายเลย เพราะหัวใจสั่นระริกไปหมด “ก็...เมื่อคืนกลับบ้านดึกน่ะค่ะ” เขาหันหน้ามาหา และหรี่ตามองอย่างสงสัย “งานที่ปั๊มน้ำมันเลิกดึกหรือ” “เลิกสี่ทุ่มครึ่งค่ะ” “ก็ไม่ได้ดึกเกินไปนี่นา” คนตัวโตพึมพำอย่างแคลงใจ หล่อนจึงต้องพูดต่อไป “แต่งามไปทำงานอื่นด้วยค่ะ” “งานอะไรหรือ” งามระยับเสหลบสายตาคมกริบของไทเรลล์ เพราะไม่อยากบอกว่าตัวเองไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยกะทันหัน “ว่าแต่ผู้อำนวยการเถอะค่ะ ทำไมวันนี้ไปทำงานสายคะ” “ฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ ก็เลยตื่นสาย” หล่อนอมยิ้มบางๆ “ทำงานเยอะๆ ก็เครียดแบบนี้แหละค่ะ เลยนอนไม่ค่อยหลับ” ใครว่าล่ะ เขาเครียดเรื่องหล่อนต่างหาก ไทเรลล์คิดเงียบๆ ในใจและไม่ได้เฉลยออกไป “คงงั้นมั้ง” ระหว่างเดินทางหล่อนกับไทเรลล์ก็คุยกันหลายเรื่อง จนกระทั่งรถคันงามแล่นมาจอดที่หน้าโรงพยาบาลเอกชน “งามลงตรงนี้แหละค่ะ ขอบคุณผู้อำนวยการมากนะคะ งามจะไม่ลืมพระคุณเลยค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ไทเรลล์ตามมารยาท กำลังจะก้าวเท้าลงไปจากรถ แต่แขนเรียวถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้เสียก่อน ความร้อนอบอุ่นจากอุ้งมือหนาทำให้หล่อนชะงักงัน และหันกลับมามองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ไทเรลล์รีบปล่อยมือจากแขนเรียวของงามระยับ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหล่อนทำตกเอาไว้บนเบาะส่งให้ “เธอทำหล่นน่ะ” หล่อนรับโทรศัพท์มือถือมาจากอุ้งมือใหญ่ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ กล่าวขอบคุณ “ขอบคุณมากค่ะ” “ไม่เป็นไร รีบไปรูดบัตรเถอะ” งามระยับยิ้มให้กับไทเรลล์อีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงไปจากรถคันงาม ท่ามกลางสายตาทุกคู่ของพนักงานที่อยู่บริเวณนั้นจับจ้องมาที่หล่อน แก้มของหล่อนแดงระเรื่อ รีบสาวเท้าเดินตรงไปยังเครื่องสแกนบัตรอย่างรวดเร็ว ไทเรลล์มองตามร่างเล็กของงามระยับไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันกลับมามองริชาร์ดเมื่อได้ยินคำถาม “ลุงริชาร์ดว่าอะไรนะครับ” “เด็กคนนี้น่ารักดีนะครับ” ไทเรลล์อมยิ้ม แต่ก็รีบพูดกลบเกลื่อน “น่ารักแบบงกๆ น่ะสิครับ ลุงรู้ไหมว่าเธอจะไม่ยอมมากับผม ถ้าต้องจ่ายค่าโดยสารแพงๆ น่ะ” “ผมว่าก็ดีกว่าเด็กสาวๆ บางคนในสมัยนี้นะครับ ที่ชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักอดออม” ไทเรลล์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นออกมาอีก เขาสั่งให้ริชาร์ดขับรถไปส่งตัวเองอีกประตูหนึ่งของโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม