(โป๊ะแช๊ะ!)
(พี่เขาโกหก!)
(ทำท่าเนียนมากแบบไม่มีพิรุธ)
“....” มันแอบเจ็บจุกในหัวใจนะ แต่ก็ต้องพูดออกไปอย่างเหมือนไม่มีอะไร...
“เหรอค่ะ นาฬิกา?
“…ไม่เคยเห็นพี่ใส่เลย”
“ใส่ค่ะ ตอนไปออกกำลังกาย ตอนเตะบอลก็ใส่นะ” เขาอมยิ้มอย่างอบอุ่นและใจดี ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันคงเชื่อและไม่ถามอะไรต่อ แต่ในเมื่อฉันรู้ความจริงแล้วบางส่วน มันอดคิดไม่ได้ว่า ภายใต้หน้านั่น มันซ่อนอะไรอยู่กันแน่!
“ไหนเลือกร้านนี้ไหมสรุป?” พี่เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วก็ทำท่าเลือกร้านอาหารที่เรากดดูค้างไว้ด้วยกัน ในใจฉันมันกินไม่ลงแล้วละ เพราะว่ามันเจ็บหน่วงมาก ๆ รู้อยู่แล้วว่ามันคือเสียงมือถืออีกเครื่อง แต่เลือกกลั้นสะอื้นความเสียใจไว้ กลืนมันลงไป ต้องพยายามทำตัวให้เนียน ถ้าจะจับได้คนอย่างพราวต้องเห็นกับตา มีหลักฐาน คาหนังคาเขา
เลยได้แต่กดเลือกอาหารมั่วไปก่อน แล้วขอตัวไปอาบน้ำ รอเวลาตอนเข้าไปในห้องน้ำ แอบเอามือถือเข้าไปกดเบอร์ที่แอบจดไว้ หาดูในไอดีไลน์ ว่าเบอร์นี้เป็นของใคร กดหาด้วยเบอร์โทรทันทีก็ขึ้นภาพผู้หญิงคนหนึ่ง!
เท่านั้นละ! รีบแคปหน้าเก็บไว้ดู ไม่ได้จะแอดไปทันที (เช็คเบ้าหน้าแล้วหนึ่ง!)
แอบเสิร์จ หาข้อมูลเบอร์นี้ในออนไลน์ต่าง ๆ ดู ก็เจอรายละเอียดนิดหน่อยเกี่ยวกับเจ้าของเบอร์ที่เคยไปลงขายกระเป๋าแบรนด์เนมไว้ใน Facebook กดดูไปเรื่อย จนเจอหน้าโปรไฟล์เจ้าของเบอร์และ โซเชียลมีเดียมากมาย
เข้าไปดูไอจี ไม่ได้ล็อกไว้ เห็นหน้าโปรไฟล์และชื่อ จิ้มเข้าไปดูรูปที่โดนแท็กมา กลุ่มเพื่อน คนที่เขากดฟอลโล่ ในนั้นมีไอจีของแฟนฉันอยู่ด้วย
ใจเริ่มสั่น มือเริ่มไม่มีแรง ไล่ดูรูปที่อัปโหลดของผู้หญิงคนนี้ จนรู้ว่าชื่อ 'หวาน' เรียนปี 1 มหาลัยเดียวกับฉัน
แต่ขาเสือกอย่างเราต้องไม่กดดูสตอรี่นะ เพราะเดี๋ยวเจ้าตัวจะรู้ว่าเราแอบมาส่อง ไว้สร้างแอคเค้าท์ลับก่อน ค่อยมาดูใหม่…
(ฉันเหมือนคนโรคจิตมากเลยตอนนี้)
ใช้เวลาในห้องน้ำนานมากจนพี่ไม้มาเคาะเรียก ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลยจ๊ะ มัวแต่สืบเรื่องเบอร์ และส่งรายละเอียดที่แคปได้ทั้งหมดนี้ให้ยี่หว่าดู ว่าใช้คนเดียวกันกับพี่เจอที่สนามบอลไหม
ก๊อก ก๊อก ก็อกก
“พราวคะ? ทำอะไรอยู่ อาหารมาแล้วนะ”
“อ่อ... พราวนั่งเล่นมือถือ เปิดอ่างตีฟองอยู่ค่ะ”
“พี่ไม้ทานก่อนได้เลยนะคะ”
“พราวขอแช่อ่างก่อน เดี๋ยวรีบออกไปค่า”
ยิ่งหาเจอว่าเบอร์แปลกเป็นผู้หญิงสวยคนนึง ใจมันเต้นเร็ว โกรธจนมือไม้สั่น ไม่อยากจะออกไปเผชิญหน้า ไม่อยากเห็นหน้าคนโกหก น้ำตามันพานจะไหลออกมา
ถ้าใครคิดว่า เรื่องมันแค่นี้เอง...เธอ อาจจะคิดมากไปรึป่าว? ก็แค่ผู้หญิงคนนึงโทรมา ใจฉันอยากจะคิดในแง่ดีแล้วนะ แต่ลึก ๆ เรารู้ดีว่า การแสดงท่าทางแบบนั้น ที่พี่ไม้เลือกที่จะโกหกกันแสดงว่ามันต้องมีอะไรมากว่านี้
เพราะถ้าเกิดไม่มีอะไร ยังไงซะพี่เขาต้องหยิบมือถือขึ้นมารับแล้วละ อาจจะตอบว่าเป็นของเพื่อนเขา หรือ เครื่องสำรอง เหตุผลที่จะบอกกันได้ มันมีอีกเยอะกว่าการที่จะบอกว่าเป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทซ์อันนั้น!
หลังจากคิดว่าตัวเองเก็บสีหน้าดีแล้ว แต่งตัว พร้อมเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย... ก็เดินออกไปห้องรับแขกเหมือนเดิม ในใจตอนนั้นแอบคิดว่าเขาจะโทรกลับไปหาเบอร์นั้นไหม ระหว่างที่ฉันเข้าไปอาบน้ำ
กินข้าวได้นิดหน่อย ก็เลี่ยงออกมา ขอตัวเข้าห้องนอนทันที อ้างว่าปวดหัว รีบเข้าไปนอน พี่ไม้เห็นฉันหลับแล้วก็เลยไม่ได้มากวน วันนี้เราสองคนก็เลยต่างคนต่างนอนกันไปตามปกติ ตอนแฟนฉันเข้ามานอนด้วยกันยังแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครมากอด
...
ตกดึกคืนนั้น ประมาณตีสองกว่า ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่ เลยถือโอกาสลุกไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นก็แอบเหลือบมองไปที่แฟนหนุ่มว่าหลับสนิทไหม และค่อย ๆ ทำตัวเงียบเรียบร้อย จำกัดเสียงเบาให้ได้มากที่สุด เปิดประตูออกไปข้างนอกห้อง เพื่อจะไปเช็กว่าในลิ้นชักนั้น ยังมีมือถืออยู่ไหม
ใจ ตุ๊มๆ ต่อม ๆ เหมือนแอบมาขโมยของยังไงไม่รู้
.
..
...
พอเดินไปถึงโต๊ะทำงานในห้องรับแขกมุมนั้น ก็รีบเปิดลิ้นชัก ออกมา ควานหามือถือเครื่องนั้น แต่หายังไงก็ไม่เจอ มันหายไปไม่มีแล้ว! ทุกที่โซนนี้ถูกฉันรื้อ เปิดดูหมด ทุกอย่างว่างเปล่า ไม่มีของสำคัญที่ฉันกำลังตามหา เหมือนเจ้าของห้องต้องการเอามันไปซ่อน และถ้าวันนี้ไม่บังเอิญได้หยิบขึ้นมาดูแล้วรอบหนึ่ง อาจจะทำให้ฉันเชื่อในสิ่งที่เขาพูดออกมาก็ได้
แต่คนที่เจอคนแรกมันคือฉันไงละ?
การกระทำนี้ยิ่งตอกย้ำชัดลงไปอีกว่า มันมีความลับ อยู่ในมือถือเครื่องนั้น จริง ๆ ซินะ
ทุกคนก็คงรู้ดีอยู่แล้วว่าบนโลกนี้นั้น เมื่อขึ้นชื่อว่า “ความลับ” มันไม่มีในโลกหรอก...