ตอนที่ 24 : ภาพหลุด

1859 คำ
ความเดิม “คือ..หนูมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย...ค่ะ....เกี่ยว-กับ-พราว” (นั่นไง! ว่าแล้ว...ทำไมตากระตุก สังหรณ์ใจไว้ไม่เกินจริง งานเข้าของแทร่!!!) “....” 😑 ---------------------------- Tan Khun Part ...หลังจากฟังเรื่องที่น้องสาวเล่าให้ฟัง...ถึงกับอึ้ง ในสิ่งที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เป็นผู้หญิงที่เจอวิบากกรรมหนักจริง เธอซวยมากที่แฟนคนแรกกลับไปเจอผู้ชายแบบไอ้ไม้หน้าสาม สำหรับผมคิดว่าเรื่องคลิปหลุดจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราไม่ถ่ายตั้งแต่แรก ผมไม่มีรสนิยมแบบนั้น แต่ผู้ชายบางคนก็เลวเกินเยียวยาที่ตั้งกล้องแอบถ่ายแฟนตัวเองไว้ เหตุผลที่ทำไม่รู้ว่าเพราะความชอบส่วนตัว หรือ ตั้งใจเอาไว้แบล็คเมล์ผู้หญิง อันนี้ไม่รู้ได้แต่คนที่เสียหายที่สุดก็คือผู้หญิงนั่นละ! “เฮ้อ....” ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กับเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาเมื่อ 10 นาทีก่อน ตอนนี้ไล่น้องกลับไปห้องแล้วเพราะอยากใช้ความคิดกับเรื่องนี้คนเดียว เห็นคลิปแล้วคร่าว ๆ ก็ยังดีที่ไม่เห็นหน้า แต่คลิปต่อไปมันจะปล่อยอีกไหม เราเดาอะไรกับคนแบบนี้ไม่ได้เลย แล้วไอ้พวกคลิปแบบนี้ ถ้าได้หลุดไปแล้วคือตามลบยังไงก็ไม่หมดง่าย ๆ ดีหน่อยที่คืนนี้เป็นวันศุกร์ ยังมีเวลาอีก 2 วันกว่าจะไปมหาลัยอีกที ต้องระดมความคิดอีกสักนิดว่าจะช่วยเธอยังไงดี ป่านนี้ก็คงร้องไห้อีกแน่ … Prip Praw Part เมื่อคืนผ่านพ้นไปแบบช้ามาก ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองคือผีตายซากที่ ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย หน้าตาดูแทบไม่ได้ ข้าวก็ไม่อยากกิน วันนี้เป็นวันเสาร์ พรุ่งนี้กะว่าจะกลับบ้านไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟังเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น แต่อาจจะเล่าไม่หมดดีกว่าปิดบังไว้ พี่คุณขออนุญาตเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับทางทีมกฎหมายเรื่องคลิปวิดีโอ ซึ่งฉันก็ได้แต่ให้พี่เขาช่วยจัดการ ตอนนี้แทนใจกับพี่แทนคุณคือที่พึ่งของฉันยามยากที่แท้จริง เพราะเรื่องนี้มันบังเอิญเป็นเขาที่เข้ามาช่วยไว้ตั้งแต่แรก ใจจริงตัวฉันเองไม่อยากทำให้คนอื่นมาเดือดร้อนเพราะเรื่องความรักบ้าบอ มันไม่ควรจะเป็นปัญหาในชีวิตใครเลยด้วยซ้ำ! เรื่องความรักที่ฉันคิดมาตลอดคือ รัก กับ ไม่รัก ถ้าวันไหนที่ความสัมพันธ์ของคนสองคนมันต้องจบก็คือเลิกกันไป จะเลิกแบบดีหรือไม่ดี แต่มันคงไม่ถึงขั้นนี้ จุดที่ฉันกำลังโดนอยู่ ไม่เคยคิดเลยว่า จุดเริ่มต้นรักครั้งแรกกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกคนนั้น จะนำพามาซึ่งความฉิบหายวายวอดครั้งใหญ่ในชีวิต ... หลังจากผ่านพ้นคืนที่หลากหลายเรื่องราวประเดประดังชีวิตมาแล้วนั้น เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับได้ ก็ปาเข้าไปตอนตี 3 อยู่ห้องแทนใจยังดีที่มีเพื่อนช่วยคิด ช่วยพูดคุย ด้วยความที่ฉันเป็นลูกคนเดียว เวลามีปัญหาก็จะต้องตัดสินใจเองทุกอย่าง พอมีคนซัพพอร์ตความคิดและจิตใจเราได้นั้นมันดีมากเลย เพื่อนคนนี้ถือว่าเป็น Safe Zone ที่แท้จริง ฉันรู้สึกเกรงใจมันมากเลยกะไว้ว่าวันอาทิตย์คงจะต้องกลับบ้านได้แล้ว เลยคุยกับเพื่อนให้เข้าใจ วันนี้เป็นวันเสาร์ที่รากงอกที่สุด เราสองคนทำตัวขี้เกียจ ๆ อยู่ห้องกันทั้งวันไม่ออกไปไหน พยายามเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น แต่ใจก็ยังพะวักพะวน อยู่แต่กับเรื่องคลิป... “วันนี้กินชาบูกันไหมเพื่อนรัก” แทนใจที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เดินออกมาถาม “ไปกินข้างนอกเหรอ? หรือทำกินที่นี่?” ตัวฉันเองนั้นไม่อยากจะออกไปเจอคนเยอะเลยด้วยซ้ำ “กินที่นี่ละ เราออกไปซื้อของซุปเปอร์ใกล้บ้านมาทำกินกันดีกว่าของสดที่บ้านหมดด้วย” “อืม ก็ได้” พยักหน้าหงึกงัก แล้วเดินไปอาบน้ำ … ณ Supermarket ห้างดัง ตอนนี้เราสามคนเดินกันอยู่ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต แห่งหนึ่งและใช่ค่ะ อย่างที่ทุกคนคิด มันคือห้างสรรพสินค้าแถวคอนโดแทนใจนั่งเอง คนที่ปากบอกว่าไปซุปเปอร์ใกล้บ้านคือไม่จริงสักนิด และมันก็ยังไปชวนพี่ชายมาด้วยกันอีก ด้วยเหตุผลว่าของหนัก ขนของเข้าห้องไม่ไหว! ฉันไม่ค่อยอยากจะทำตัวสนิทสนมกับพี่แทนคุณเท่าไหร่ อย่างที่รู้กันว่า เรื่องคลิปอุบาทว์นั่นพี่เขาก็เห็นแล้ว ถึงจะนิดหน่อยก็ตามแต่ใครมันจะกล้าสู้หน้า แถมยังมีเรื่องที่ก่อปัญหามากมายตั้งแต่เมื่อวานเย็น ยันเมื่อคืน พี่เขาต้องมาเจอเรื่องทั้งหมดเหตุเพราะฉันคนเดียว ข่าวซุบซิบ แล้ววันนี้ถ้าเรายังออกมาเดินห้างเจอนักศึกษาที่ม. เอาไปเม้าส์ต่ออีกจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่อยากจะคิดถึงวันจันทร์เลย.... “นี่ พราว เหม่ออะไรอีกแล้ว” เพื่อนรักเอาขึ้นฉ่ายมาโบกไปมาผ่านหน้าฉันอยู่ก่อนหน้านี้เราเดินมาเลือกผักกัน ตอนนี้ใจลอยเผลอคิดอะไรไปเรื่อย “พี่คุณ ช่วยไปเลือกเนื้อสัตว์ให้หน่อยได้ไหม เดี๋ยวหนูกับพราวจะเลือกเครื่องปรุง ผัก น้ำซุปกันแล้วมาเจอกันตรงนี้นะ” “อืม...” ตั้งแต่เราขับรถจากคอนโดมาถึงห้างนี้ ตลอดทางคนที่พูดมากที่สุดคงจะเป็นแทนใจ เพราะพี่แทนคุณเงียบมากไม่พูดเล่นเหมือนตอนที่เจอครั้งแรกตอนที่ไปเอาโทรศัพท์เลย “พี่คุณแปลก ๆ วะ” ยัยเพื่อนหันมามองฉันแล้ว พูดเสียงเบา “แปลกยังไง?” หันไปมองตอบแล้วถามด้วยหน้าเรียบนิ่งคนก็ยิ่งกังวลใจเรื่องคลิปอยู่แล้วพฤติกรรมพี่เขาดูต่างไป คือเขาจะคิดกับฉันยังไงวะเนี่ย… “ไม่รู้ดิ ขรึมเวอร์...เก๊กหล่อแน่เลย 555” “เฮ้ออออออ สาระ!” ถอนหายใจใส่มันไปเออค่อยยิ้มได้หน่อย ช่วงที่เราเลือกซื้อของโซนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว ฉันก็เห็นพี่คุณเข็นรถตามพวกเรามาเรื่อย ๆ และก็ไม่พูดคุยถามไถ่อะไรสักคำ พี่เขามีสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา ถ้าเราไม่รู้จักกันเลยไม่เคยเห็นเขาพูดบ้างละก็ คงคิดว่าเขาแอคใส่แน่นอน แต่ฉันคิดว่าเขาคงมีเรื่องที่คิดไม่ตกเช่นกันปัญหามาจากตัวฉันเอง “นี่ ๆ เอากระดาษเช็ดครัวไปด้วยดีกว่า ลดราคา” แทนใจวิ่งไปหยิบม้วนทิชชูอเนกประสงค์ม้วนใหญ่ อุ้มมาใส่ในรถเข็น “อุ้ย ลืมซื้อ ผ้าอนามัยเดี๋ยวมานะ” แล้วเพื่อนฉันก็วิ่งปรู๊ดหายไปทันที “...” “....” ตอนนี้บรรยากาศเงียบฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับคนที่ยืนเข็นรถอยู่ตรงกลางทางเดินโซนของใช้ในบ้าน แล้วทำไมแทนใจมันต้องทิ้งฉันไว้ตรงนี้ด้วยพี่เขาทำหน้าตึงใส่ฉันอีกแล้ว ไม่รู้จะพูดอะไรก็เลยทำเป็นเดินไปดูหยิบจับนั่นนี่ ซึ่งมันไม่มีของที่จะใช้ทำชาบูแล้วไง เดินได้สักพักก็เหลือบไปมองเห็นรถเข็น ๆ ตามมาเรื่อย จนพี่คุณก้าวมายืนข้างฉันและก้มลงหยิบถุงขยะแบบมีกลิ่นหอม หลายไซซ์มาดม เลือก... ถ้าคนอื่นไม่รู้ ภาพที่มองมาอาจจะเหมือนเราสองคนมาด้วยกันแล้วเลือกของเข้าบ้านกันอยู่ และจังหวะนรกก็เกิดขึ้น เมื่อฉันได้ยินเสียง... แช๊ะ หืม... ใครแอบถ่ายรูปเรารึเปล่า? มองหาเสียงที่ได้ยิน ก็เห็นเป็นผู้หญิง สองสามคนเข็นรถผ่านไป จะใช่กลุ่มนี้ไหม หันไปมองด้านข้างตัว ผู้ชายหน้ามึนที่ยืนเลือกของอยู่ลังเลว่าจะคุยกับเขาดีไหมนะ? “เอ่อ...พี่ ได้ยินเสียงถ่ายรูปไหมคะ?” กลั้นใจเอ่ยถามออกไปกับเชลฟ์ขายของไม่ได้มองหน้า “ห่ะ อะไรนะ?” เสียงเข้มตอบกลับมาทั้ง ๆ ที่กำลัง เลือกสีของถุงขยะนั่นอยู่ “คือ...เมื่อกี้ พราวรู้สึกเหมือนโดนแอบถ่ายเลยค่ะ” ฉันหันไปมองหน้าพี่เขาด้วยสายตาหวั่นวิตก “คิดมากเกินไปรึเปล่า” แล้วก็หันไปหยิบถุงขยะกลิ่นมะนาวใส่รถเข็นไป “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจของฉันดังจนคนที่พึ่งเก็บของนั้นหันกลับมานิ่วหน้าใส่ “เอ่อ คือพราวไม่อยากทำพี่เดือดร้อนอีกแล้วค่ะ แค่ถามดูเฉย ๆ เหมือนจะเข้าใจผิดไปเอง...” “อืม ไม่มีอะไรหรอก พี่ไม่ใช่คนดังอะไร” (หรา) อยากจะกลอกตามองบน ไม่ดังแล้วทำไมเราสองคนเป็นข่าวละ หึ อยากจะบ้า ระหว่างเข็นรถรอแทนใจก็ยังไม่เดินมาสักที พี่คุณก็เข็นรถนำไปโซนอื่นต่อเหมือนจะเลือกซื้อของเข้าห้องตัวเอง และตอนนี้เหมือนเรามากันแค่สองคนเลย ระหว่างที่เดินทางไปแบบห่าง ๆ คนเข็นรถก็ตวัดสายตามามอง กดดันหนักเข้าไปอีก ทำให้ฉันต้องรีบเดินตามไปชิดกว่าเดิม... นิดนึง ระหว่างทาง เวลาที่เดินซื้อของฉันรู้สึกอึดอัดมาก ห้างนี้อยู่ใกล้มหาลัย ทำให้อาจจะเจอคนรู้จักได้ เพราะเสาร์อาทิตย์วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็จะมากินข้าวซื้อของกันที่นี่ ตอนนี้เหมือนเป็นโรคหวาดระแวง กลัวสายตาคนภายนอกที่มองมาว่าเขาจะเห็นคลิปหลุดหรือยัง กังวลว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไรกับเรา ทำตัวเหมือนพวกมีชงักติดหลังไม่มีผิด “เอ่อออ เดี๋ยวพราวขอไปตามแทนใจนะคะ” พูดจบก็รีบวิ่งหายไปโซนของใช้ผู้หญิงทันที (เฮ้อ น่ากลัวชะมัดเลยเวลาอยู่ใกล้หายใจไม่ออก เหงื่อออกมือ คนอะไรทำไมทำให้รู้สึกกดดันได้ขนาดนี้) ฉันโทรหาแทนใจ สรุปนางไปซื้อที่เช็ดเครื่องสำอางต่อ แล้วทิ้งฉันไว้อย่างนั้น โดนฉันบ่นไปชุดใหญ่งอแงอยากจะกลับคอนโดแล้วหลังจากหลอนหู ได้ยินเสียงถ่ายรูปก็เป็นตุเป็นตะ เลยเล่าให้เพื่อนฟังมันก็เข้าใจ เลยรีบไปหาพี่คุณแล้วก็ไปจ่ายเงินกันทันที ก่อนกลับพี่คุณหิวมาก ก็เลยขอแวะโซนร้านอาหารกินข้าวเที่ยงกันก่อน ชาบูค่อยทำตอนเย็นนี้ สภาพพวกเราหอบหิ้วของพะรุงพะรัง ไปกินข้าวชั้น 6 โซนอาหาร ยิ่งทำให้ฉันหวั่นใจสุด ๆ ว่าจะเจอเด็กมหาลัยเรา จะขอแยกออกมาก็ไม่ได้ เพราะแทนใจบอกว่าน่าเกียด เฮ้อ แล้วแต่ชะตาชีวิตกำหนดแล้วกันเจอก็เจอไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วมั้ง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม