“เราอนุญาตให้เจ้าพกพาคู่หูไปด้วย” ก่อนจากเจ้าเนมเฟร์หันกลับมาพูดประโยคนั้นกับคอนเต เขาจึงต้องโค้งคำนับอีกครั้ง
“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ” และกล่าวตอบรับ เขาจะต้องพาคู่หูไปแน่
เจ้าชายรัชทายาท เตรียมตัวเดินทางเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนยังเมืองไทย แต่กลับบอกใครๆ ว่าจะเดินทางไปเยี่ยมดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในแถบมณฑลทางเหนือ เพื่อเป็นการขออนุญาตกับพระราชา พระราชาทรงอนุญาต เมื่อได้รู้ว่าบุตรชายมุ่งมั่นกับการสนใจความเป็นอยู่ของประชาชน สมแล้วกับการยกตำแหน่งทรงเกียรติให้ แต่ยังทรงห่วงความปลอดภัย ยิ่งช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อมักจะเกิดเหตุร้ายคาดไม่ถึง จึงสั่งให้องครักษ์มือดีเฝ้าตามเสด็จ
“เปปิตัส เซนซู และอาติเนต มากับเรา” เสียงทรงพลังสั่งองครักษ์ทั้งสามให้ออกเดินทางตามเสด็จ เพราะรู้ดีว่าสามองครักษ์นี้คือบุคคลมีความสามารถ ที่สำคัญไว้ใจได้อย่างมาก พวกเขาจะไม่มีทางปากโป้งนำเรื่องนี้ไปทูลพระราชา ถึงการบิดเบือนเส้นทางไปเยี่ยมประชาชนขององค์รัชทายาท
“พ่ะย่ะค่ะ” ทั้งสามองครักษ์โค้งคำนับพร้อมกัน ก้าวออกจากแถวซึ่งมีเหล่าบรรดาองครักษ์ร่วมร้อยชีวิตยืนหน้าตึงเพื่อเฝ้ารอคำสั่งให้ติดตาม
“พวกเจ้ามีหน้าที่ติดตามเรา” ตั้งแต่เมื่อคืนสามองครักษ์รู้ว่าพวกเขาต้องตามเสด็จ หากแต่การเสด็จครั้งนี้ล้วนเป็นความลับ พวกเขาจึงต้องตีสีหน้านิ่งเฉยหลังได้รับเลือก กระทั่งค่อยก้าวตามหลังเจ้าชายคีนอฟไปยังรถยนต์พระที่นั่ง
“ขบวนตามเสด็จ มากมายกำลังทำหน้าที่อย่างขันแข็ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับองค์รัชทายาทในการเสด็จเยี่ยมประชาชน นางข้าหลวง ทหาร เจ้าชายคีนอฟมองภาพคนเหล่านั้น คิดหาทางเลี่ยง ใครจะให้คนพวกนี้ตามไปทั้งหมด
“ท่านพ่อ ลูกขอผู้ตามเสด็จแค่สามคนเท่านั้น ขบวนยาวเหยียดเหล่านั้นลูกไม่ต้องการ ได้โปรดสั่งให้พวกเขากลับเข้าไปในวังเถิดพ่ะย่ะค่ะ” พอได้สำรวจด้วยสายตา กับขบวนตามเสด็จยาวเหยียดนั้น จุดหมายของเขาไม่ใช่เมืองทางเหนือแห่งใดในปาราคัสแต่เพราะคือเมืองไทยต่างหาก
“จะได้อย่างไรกันคีนอฟ เจ้าเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาท การเดินทางย่อมต้องมีผู้ตามเสด็จสิ อย่างน้อยเพื่ออำนวยความสะดวก รวมทั้งอารักขาเจ้า ข้างนอกวังนั้นอันตรายต่อสวัดิภาพขององค์รัชทายาทนัก เจ้าคงจะไม่รู้ถึงความอันตราย” พระราชาทรงนึกถึงตนเอง เมื่อก่อนจะขึ้นนั่งราชบัลลังก์ ซึ่งมีผู้คิดหาทางโค่นลงมาทุกเมื่อ
“ไม่ท่านพ่อ จะไม่มีคนพวกนี้ติดตามลูกไป เพราะลูกต้องการเยี่ยมประชาชนเป็นการส่วนตัว ท่านพ่อรู้หรือไม่การเยี่ยมประชาชนโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว จะทำให้กระหม่อมรู้ถึงสภาวะความเป็นอยู่อันแท้จริงของพวกเขา” เจ้าชายรูปงามพยายามกล่าวอ้างกับพระราชาซึ่งคือพระบิดา
“อืม เจ้ามีเหตุผลไม่เลวคีนอฟ พ่อภูมิใจในตัวเจ้าบุตรแห่งเรา งั้นพ่อเห็นด้วยตามที่เจ้าต้องการ เตรียมคนไปเท่าที่เจ้าต้องการ” พระราชายกมือหนาลูบไหล่บุตรชาย ความหวังอันมีค่ากับราชบัลลังก์
“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ ขบวนเอิกเกริกขนาดนี้ จะไม่สามารถทำให้ลูกได้รู้ความทุกข์ของประชาชน ทุกคนต่างจะทำดีบังหน้า จัดการอะไรล่วงหน้ารอ หากเป็นเช่นนั้นลูกจะไม่มีทางรู้ถึงปัญหาที่แท้ของพวกเขาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” เจ้าชายคีนอฟรู้สึกโล่งใจ ที่สามารถทำให้พระราชาคล้อยตามในความคิด ส่วนพระราชินีนั้นได้แต่ส่งยิ้มแห่งความภาคภูมิใจให้แก่บุตรชาย
“เจ้าช่างมองการณ์ไกล สมกับตำแหน่งพระราชาองค์ใหม่ เอ้า....พวกเจ้าเก็บข้าวของกลับเข้าไปในวัง ไม่ต้องตามเสด็จเจ้าชายรัชทายาท” คำสั่งก้องกังวานจากปากพระราชาทำให้ ขบวนตามเสด็จยาวเหยียดต่างทยอยกลับเข้าไปในราชวังเช่นเดิม
“ถ้าอย่างนั้นลูกขอตัวเดินทางก่อนพ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ” เจ้าชายคีนอฟโค้งศีรษะให้พระราชา และพระราชินี ได้เดินตามออกมาส่ง “ท่านแม่ ลูกไปนะพ่ะย่ะค่ะ”
“โชคดีลูก ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน สอบถามสารทุกข์ของพวกเขาให้ละเอียด อย่าให้เขาคิดว่าเจ้าคือองค์เหนือหัวไร้ซึ่งความสามารถ พวกเขาจะภูมิใจในความห่วงใยจากเจ้า” มือบางของพระราชินี ยกขึ้นแตะมือหนานุ่มราชบุตรชายคนโต ส่งผ่านความห่วงใยและภูมิใจผ่านสายตาแห่งความเป็นมารดา
“พ่ะย่ะค่ะท่านแม่” อ้าแขนสวมกอดมารดา ด้วยความรู้สึกอบอุ่น ก่อนผละออกมา ตั้งแต่เขาได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งองค์รัชทายาท อ้อมกอดนี้ช่างห่างเหินยิ่งนัก รู้สึกใจหายเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะเดินทางไปสู่ต่างแดน เอาน่า เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องมีโลดโผนนอกกรอบบ้าง ไม่น่าจะใช่ความอันใดร้ายแรง แค่ไปเที่ยวเอง พร้อมหาความรู้ ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วจะกลับมารับไออุ่นจากอ้อมกอดนี้อีกครั้ง
หลังจากล่ำลาทั้งสองพระองค์เสร็จสิ้น เจ้าชายรัชทายาทคีนอฟ จึงรีบก้าวขึ้นรถพระที่นั่งคันหรูสีดำเงาวับ ติดฟิล์มหนาทึบ มีเปปิตัส ทำหน้าที่ขับเคลื่อนยานพาหนะ เพื่อนำพาพวกเขาทั้งหมดไปถึงสนามบินนานาชาติประจำประเทศปาราคัส รถยนต์มุ่งสู่เส้นทางสนามบินปาราทีออร์
“ตามไปคอนเต” เงาของใครซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่งนอกพระราชวัง สั่งให้คนของเขารีบติดตามรถยนต์พระที่นั่งเจ้าชายรัชทายาทไปติดๆ คอนเตไม่รอช้าโค้งศีรษะทำความเคารพ เคลื่อนยานพาหนะตามรถยนต์เป้าหมายไปติดๆ ด้วยความเงียบ
เจ้าชายเนมเฟร์มองรถขององครักษ์เคลื่อนออกไปด้วยรอยยิ้มและแววตาเหี้ยมไม่แพ้ความคิดในใจ วาดหวังซ่อนเร้นความหวังบางอย่าง สิ่งที่เขาหวังไว้จะต้องเป็นจริงและสำเร็จในเร็ววัน เขาคลี่ยิ้มบางเบา แล้วเดินห่างออกจากจุดหลบซ่อนแผ่วเบา ความรับผิดชอบในราชวังต่อจากนี้เขาจะดูแลเพียงผู้เดียว ไพร่พลของเขาจะเริ่มทำงานหนักต่อจากนี้ แม้กระทั่งการฝึกหนักเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดอีกด้วย
“เจ้าปิดข่าวดีแน่แล้วใช่มั้ยเปปิตัส” ภายในรถเงียบสักพัก เจ้าชายคีนอฟ จึงทรงถามองครักษ์ทำหน้าที่หลังพวงมาลัยขึ้นทำลายความเงียบ
“พ่ะย่ะค่ะ พระองค์อย่าทรงกังวล กระหม่อมจัดการปิดข่าวเรียบร้อย แม้แต่สื่อจะไม่มีทางเสนอข่าวการเยือนต่างประเทศของพระองค์แน่นอน” แม้ความสง่างามของเจ้าชายคีนอฟจะโดดเด่น ยิ่งใช้เส้นทางพิเศษในสนามบินด้วยแล้ว เจ้าหน้าที่ในสนามบินย่อมรู้กันทั่วว่าต้องมีราชวงศ์องค์ใดองค์หนึ่งเสด็จออกต่างประเทศ แต่ด้วยองครักษ์จัดการแจ้งข่าวลับๆ นี้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน ถึงการเยือนต่างประเทศด้วยภารกิจไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้ เกรงผู้ไม่ประสงค์ดีจะทราบข่าวและอาจจะเคลื่อนไหวได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนจึงได้แต่ปิดปากเงียบ ไม่มีใครแสดงท่าทีพิรุธหรือให้การต้อนรับพระองค์อย่างออกนอกหน้า
“มีไม่กี่คนรู้เรื่องนี้” เขานึกไปถึงน้องชาย
“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เปปิตัสตอบ ก่อนก้าวลงจากยานพาหนะ เซนชู ทำหน้าที่เปิดประตูให้องค์รัชทายาท ทั้งสามก้าวไปยังช่องทางพิเศษ ซึ่งได้ถูกตระเตรียมไว้ก่อนหน้านั้น เขามองรอบด้าน โล่งใจ ไม่มีพวกเฝ้ารอรับเสด็จอย่างได้แจ้งเจ้าหน้าที่ ห้ามให้มีผู้รอรับเสด็จอย่างเด็ดขาด พวกเขาก้าวไปตามทางพิเศษใช้สำหรับ บุคคลสำคัญหรือราชวงศ์และเจ้านายชั้นสูง การเสด็จขององค์รัชทายาทผู้งามสง่าครั้งนี้ จะโดยสารเครื่องบินส่วนตัวไป เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนสถานที่จอดเครื่องบินส่วนตัว เหล่าราชองครักษ์ได้ติดต่อไว้เรียบร้อยเช่นกัน
“องค์รัชทายาทเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวงั้นหรือเปรุต”
“น่าจะใช่ เพราะเดินเข้าไปตรงช่องทางนั้น”
“เจ้าชายเนมเฟร์ไม่บอกข้อมูลนี้แก่พวกเรา ดีนะเราจองตั๋วไว้ก่อนหน้านั้น ไม่อย่างนั้นคงแย่” คอนเตมองหน้าคู่หู การเดินทางขององค์รัชทายาทลึกลับจริงๆ ซะด้วย
“เพราะเป็นความลับน่ะสิเจ้าชายเนมเฟร์จึงต้องการให้พวกเราติดตาม เพื่อรายงานแก่พระองค์ เราเดินทางกันดีกว่า คงถึงช้ากว่าองค์รัชทายาท แต่เจ้ารู้นี่ว่าสนามบินจอดเครื่องบินส่วนพระองค์คือที่ใด” คอนเต มองคู่หู ทั้งคู่จึงดำเนินการตามขั้นตอนของสนามบิน ระหว่างรอคอนเตโทรศัพท์สั่งการใครบางคน เขามักรอบคอบเสมอในการทำงาน ไม่เช่นนั้น เจ้าเนมเฟร์จะไว้ใจให้เขาทำงานใหญ่ๆ ได้อย่างไร