ตอนที่4

1298 คำ
สมิงนั่งเล่นกับน้องๆอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ มองผู้คนแจวเรือผ่านไปมา ทั้งน้ำใสไหลเย็น ฝูงปลาแหวกว่ายในน้ำ คอยไล่หากุ้งปูตัวน้อยเป็นอาหาร  สายลมพัดเอื่อย พากลิ่นหอมของดอกพิกุลที่ยืนต้นใกล้ท่า โชยเรื่อยมาตามลม บ้างก็นำพาดอกที่ร่วงหล่นมาที่ศาลา ให้คนเหม่อคิดถึงเรื่องต่างๆได้โยนลงน้ำเล่น "นี่พวกเอ็ง คิดกันหรือไม่ ว่าหากพวกเอ็งโตขึ้น จักเป็นเช่นไรกัน" จู่ๆสมิงก็ถามขึ้น เพราะคิดเรื่องของตัวเองแล้วเกิดอยากรู้ความคิดอ่านของน้องๆ "โตหรือ?"ไอ้อ่ำที่ใกล้เคียงคำว่าจะโตก่อนผู้ใดในกลุ่ม ขมวดคิ้วพิจารณาถึงคำถามของพี่ แล้วเป็นงงนัก พี่หมิงหมายความถึงกระไร "ก็…พวกเอ็งวาดฝันกระไรไว้ไหม" หมิงเห็นน้องๆทำหน้างง จึงอธิบายต่อ อันว่าตัวเขานั้น ถึงจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่ก็เกิดแต่นอกเรือน เป็นนายตนมาก่อน จึงมีความคิดอ่านต่างจากบ่าวไพร่ที่โตมาในเรือนทั่วไป ที่จะอยู่รับใช้เจ้านายจนตายคาเรือน โชคดีของสมิง ที่พ่อมันเคยบวชเรียนมา จึงพอได้ถ่ายทอดการอ่านเขียนให้มันมาบ้าง  "กูน่ะ เคยคิดว่าจะเป็นพ่อค้า ค้าขายกับพวกต่างด้าว ส่งขายของลงเรือไปที่ไกลๆ" สมิงเล่าถึงแผนของพ่อที่เคยบอกเขา มีแค่ที่ค้าขายอย่างนี้เท่านั้น จึงจะเป็นเศรษฐีเร็ว หากความคิดนี้ก็พังทลายลง เมื่อชีวิตพลิกผัน เกิดโรคห่าใหญ่ระบาด คร่าความเป็นอยู่ของผู้คนไปมาก ข้าวยากหมากแพง การค้าขายซบเซา ขดสน จนพ่อต้องพาสมิงมาฝากไว้ที่เรือนคุณหลวงเพราะเป็นทางรอดเดียว อยากน้อยก็ยังได้มีชีวิตต่อ "พี่ก็สมหวังแล้วนี่ คุณหลวงคุณฤาก็ทำการค้าขายกับพวกต่างด้าวอยู่" "นั่นงานท่าน มิใช่งานกู" "พี่เป็นสะใภ้ ก็ถือว่าเป็นคนในเรือน งานท่านก็เหมือนงานเราล่ะหนา" "ไม่เหมือนดอก หากไม่ใช่ของเรา ก็ไม่มีกระไรมั่นคง ว่าแต่พวกมึงเถิด มีความใฝ่ฝันกันหรือไม่" "มีแต่ฝันลมๆแล้งๆน่ะซี"ไอ้จุกว่าหน้าเศร้า "กระไร ไหนเล่า" สมิงซักไซ้น้องคนน้อย "อยากให้พ่อแม่มา…"เด็กน้อยว่าด้วยเสียงเบา คนฟังก็สะท้านใจไปด้วย ยิ่งคนร่าเริงเยี่ยงไอ้จุกมาซึม พวกพี่ๆยิ่งทำตัวกันไม่ถูก "เออน่า สักวันเมื่อเติบใหญ่ ค่อยออกสืบหา" สมิงจะปลอบน้องแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี "แล้วพวกมึงเล่า?"รีบหันไปถามคนอื่น เผื่อไอ้จุกจะลืมๆเรื่องของมันไป "ไอ้อ่ำคงเป็นผัวนังชบากระมัง"ไอ้จันที่อายุห่างไอ้อ่ำเพียงปี ตอบแทนเจ้าตัวพร้อมกับขำ ไอ้อ่ำหน้าดุหน้าแดง เขินหน้าขึงขัง จึงตบกบาลคนแซวเข้าให้ สร้างเสียงหัวเราะให้กลุ่ม ได้มีความบันเทิงกัน "ส่วนมึงก็คงหาเมียไม่ได้"ไอ้อ่ำแก้เผ็ดน้อง "ไม่เห็นจะอยากได้ "ไอ้จันว่าแลทำหน้าเยี่ยงที่พูดจริงๆ ไอ้อ่ำก็ว่าต่อไม่ออก พอเจอชื่อนังชบาทีไร สมงสมองมันก็พลันมารวนเรไปเสียทักครา "ฮ่าๆๆ"สมิงขำส่ายหน้าระอา คิดอยากให้ไอ้อ่ำสมหวังอยู่เหมือนกัน ก็ชอบเขาออกมากมายขนาดนั้น "แล้วมึงเล่า ไอ้คง"สมิงพะเยิดหน้ามาถามน้องอีกคนบ้าง "ข้าไม่รู้ดอกพี่ ไม่เคยคิดกระไรไกลเพียงนั้น" "เออ ก็พวกเอ็งยังเด็ก แลไม่เคยพานพบส่งใดมากมาย จึงเลือกไม่ถูก คิดไม่ออกว่าต้องการสิ่งใด เช่นนั้น หากมีโอกาสเหมาะ กูจักพาไปดูไปเห็น เผื่อพวกมึงจักรู้สึกอยากออกไปจากความเป็นไพร่ทาส ไม่เป็นเศรษฐีก็ยังเป็นนายตน ดีกว่าเป็นขี้ข้าจนแก่ตายคาเรือน" กลุ่มเด็กหนุ่มคุยเล่นหัวกันเรื่อยมาจนบ่านคล้อย ก็เห็นเรือคุณหลวงเข้ามาจอดเทียบท่า ทั้งสมิงและเด็กรับใช้รีบลงไปนั่งก้มหน้าแอบหลบทางกันอยู่บนพื้นเรือน  "พ่อฤาไปไหนเสียล่ะ"เสียงทุ้มนุ่ม เต็มไปด้วยอำนาจบารมี เอ่ยถามกับคนนั่งก้มหน้า เพราะรู้ว่าบ่าวผู้นี้กับบุตรชายตน ไม่ใคร่จะห่างตัวกันเท่าใดนัก "เห็นว่าไปฝึกวิชามวยขอรับ"สมิงตอบ ไม่กล้าหันขึ้นไปมอง ถึงคุณหลวงจะไม่เคยดุ แต่บ่าวหนุ่มก็เกรงรัศมีคนใหญ่คนโตของพ่อผัวนัก "งั้นรึ" คุณหลวงกล่าวรับรู้ "พวกเอ็งก็หากินข้าวกินปลาได้แล้วกระมัง ประเดี๋ยวเลยเวลาไปมาก จักปวดท้องปวดไส้เอา"ว่าด้วยเป็นห่วง ก่อนจะเดินผ่านเพื่อขึ้นเรือน สมิงยกมือไหว้ขอบคุณในความอาทรของคุณหลวง ที่มีต่อบ่าวไพร่ โดยไม่ใคร่จะรู้เลยว่า คุณหลวงไม่ได้ห่วงใยใครอื่นเช่นนี้มาก่อน เมื่อคุณหลวงปราบยศขึ้นเรือนไปแล้ว พวกเด็กหนุ่มก็ขึ้นมานั่งแกร่วกันอยู่ที่เดิม "เฮ้ย ข้าเกร็งแทบแย่"ไอ้จันว่า "มึงจักเกร็งกระไรวะ คุณหลวงออกจะมีเมตตา เมื่อครู่ยังถามไถ่สารทุกข์สุขดิบพวกเราอยู่เลย" "ก็ท่านเป็นใหญ่เป็นโต พี่จะไม่ให้ข้าเกร็งได้เช่นไร" "ช่าย ขนาดท่านไม่ดุ ยังน่าเกรงกว่าตอนอยู่ใกล้คุณฤาหลายเท่านัก" "ก็คุณฤายังไม่มียศมีตำแหน่งนี่ พอได้เป็นเจ้าขุนมูลนาย ประเดี๋ยวก็บารมีเยี่ยงคุณหลวงนั่นแหละ" สมิงว่าอุ้มชูผัว  "อ่าวนั่น เรือใครมาอีกล่ะนั่น"ไอ้คงหันไปเห็นเรือลำใหม่จะเข้าท่าอีกลำก็ร้องบอกคนอื่น สมิงแลพวกหันไปมองในทันที "ระวังหนา เรือมันโครง" ไอ้ขอน บ่าวอีกคนของคุณฤา บอกกับใครบางคนที่กำลังขึ้นจากเรือมา "นั่นไง คนนั้นล่ะที่มาอยู่ใหม่"ไอ้อ่ำกระซิบบอกพี่  สมิงมองชายหนุ่มร่างบางอย่างพินิจ งามน่ารัก ดูบอกบางน่าถนอม แลมีรอยยิ้มอ่อนโยน งามจนน่าหวั่นใจ กลัวใครจะมาเห็นแลต้องใจไอ้คนนี้เข้า มะยงแจกยิ้มไปทั่วทิศ ทำทีเป็นยังไม่เห็นคนบนศาลา จงใจยืนอ้อยอิ่งให้คนพินิจความงามของตนนานๆ "ขอบน้ำใจพี่ขอนมากนะจ๊ะที่มาส่งข้า"เด็กหนุ่มยิ้มหวาน ไอ้ขอนก็พลอยใจเต้นไปกับรอยยิ้มนั้นด้วย แต่ก็รีบสลัดความคิดต่อเด็กหนุ่มหน้าลออนี้ออกจากหัวโดยไว "ข้าไปก่อนหนา"บอกเท่านั้น นายขอนก็จ้ำพายออกจากท่าเรือ ไปยังทิศทางเดิมที่มา มะยงจึงค่อยเดินขึ้นมาที่ศาลาท่า แลหยุดทำเหนียมอายต่อหน้าคนกลุ่มนั้นที่นั่งอยู่ก่อน แก้วแดงสุขปรั่ง ดังคนเพิ่งแต่งงานใหม่ ช่างดูน่าหมั่นไส้นัก ไม่มีใครพูดหรือทักทายกระไร มะยงจึงไม่มีเหตุให้อยู่ต่อ เช่นนั้นจึงเลิกอ้อยอิ่งคอยท่าให้ถูกถามเสีย แต่ก่อนจะผละเดินไป ชายหนุ่มยกแขนข้างที่มีกำไลเงินนาคขึ้นมาปัดปอยผม จงใจให้สมิงได้เห็นกำไลงามในแขนอ้ายบ่าว  ริมฝีปากงามยิ้มแปลกประหลาด ก่อนจะเดินจากไปทางเรือนนอน "กระไรของเขา"ขนาดไอ้อ่ำยังรู้สึกได้ ถึงท่าทีพิศดารของบ่าวตัวบางคนเมื่อครู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม