ฤาชากลับมาถึงเรือนท่าทางไม่สมประดี ด้วยฤทธิ์น้ำเมา จึ่งให้เห็นช้างเท่ามด เห็นเมียเท่าเล็นไร
"มึงไปตามพ่อมะยงมาทีรึ กูจะพาไปแนะนำฝากฝังตนกับพ่อสมิงเสียหน่อย"ฤาชาสั่งเสียงอ้อแอ้ดังปกติคนเมา
"ขอรับ"ไอ้ขอนเป็นฝ่ายไปตามมะยงที่เรือนบ่าวตามคำสั่งนาย
ที่เรือนหลังเล็ก
"วันพรุ่ง กูจะไปเยี่ยมพ่อที่วัดบางอิน"สมิงบอกน้อง ทั้งยามทุกข์ให้รู้สึกคิดถึงพ่อนัก แลอยากจะไปสงบจิตสงบใจเรื่องผัวเสียหน่อย อันว่ารักเขามาก กลัวจักพูดหรือทำกระไรด้วยอารมณ์ไม่ควรแล้วให้เสียใจแต่ภายหลัง หากตั้งสติได้ คงพบเจอหนทางออก
"พี่ให้พวกข้าไปด้วยได้หรือไม่"ไอ้จันเป็นปากเสียงให้พวกพ้องที่คิดอ่านไปในทางเดียวกัน
"ก็อยากให้ไปด้วยอยู่ดอก แต่ข้าเกรงใจคุณหลวงท่าน"สมิงบอก พวกน้องๆทำหน้าจ๋อย
"เอานี่ ข้าให้เบี้ยอัฐไว้กินขนม แลระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ก็มานอนเฝ้าเสียที่เรือน"สมิงว่าพร้อมเปิดหีบใส่ถุงอัฐ แจกจ่ายให้น้องไว้ใช้คนละถุง
ไอ้จุกดีใจมิเคยได้ถือเบี้ยมาก่อน ลุกเต้นกระโดดไปรอบๆ จนพื้นเรือนสะเทือนไปทั้งหลัง
"พอ ๆ พื้นจักพังแล้วนั่น"ไอ้คงปรามน้อง จับให้ลงมานั่งดังเดิม
"แล้ว…เรื่องคุณฤาเล่าพี่ จักไปด้วยกันหรือไม่"ไอ้อ่ำถามเป็นห่วง
"คงไม่ดอก คงอยู่เฝ้าเรือนให้คุณหลวงกระมัง"
"เช่นนั้น…ข้อสงสัยของพี่…หากไม่ใช่ก็ดีไป แต่หากใช่เล่า มิเข้าทางดอกหรือ"
"หึ ก็ดี" คงเจ็บหนักหนา แต่สิ้นในดาบเดียว ดีกว่าถูกเฆี่ยนให้ทรมานไปเรื่อย ๆ จักได้แจ้งแก่ใจไปเลย มิต้องมาคอยคิดมาก หวาดระแวงสงสัยให้ทุกข์ใจเยี่ยงนี้อีก
"ดังหุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว"
"หากขนาดนั้นแล้ว จักทำกระไรได้เล่า กูคงต้องยอมปล่อยเขาไป" ปากบอกอย่างนั้น แต่ใจมิได้แข็งดังปาก แม้นนาทีนี้ยังหวังอยู่ตลอด ว่าให้เรื่องทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
"พวกเอ็งกลับเรือนไปได้แล้วล่ะ กลางค่ำกลางคืนงูเงี้ยวเขี้ยวขอชุมนัก"
"จ๊ะพี่"
คล้อยหลังพวกน้อง ๆ เดินลงเรือนไปไม่นาน ก็มีเสียงฝีตีนหนักลงส้นดังตึง ๆ ก้าวขึ้นเรือนมา
สมิงแค่ฟังเสียงก็รู้ว่าเป็นใคร แม้นความเมามายจักทำให้เดินเหินยากกว่าคราปกติ
คุณฤาไปเมาจากที่ใดกลับมาหนา ใช่ที่เรือนขุนไกรดังปากว่า หรือจากเรือนเช่าที่ตลาดกัน!
ชายหนุ่มถอนใจหนัก จากแต่ก่อนเก่า เมื่อผัวรักกลับเรือนมีแต่ความสุขสม มาครานี้ผิดแผกจากเดิมไปได้ด้วยเหตุใดกัน หรือลืมสิ้นแล้วสายใยสวาทรักเมีย
สมิงไม่อยากให้มีข้อขุ่นเคืองมีปากเสียงกันอีก ด้วยหมายมั่นแล้วว่า กลับมาจากเยี่ยมพ่อแล้วจึ่งมาสะสางความกันให้สิ้น ชายหนุ่มจึงล้มตัวลงนอนแสร้งทำเป็นหลับ คาดว่าคนเมาก็อยากจะนอนให้ส่างเมาเช่นกัน
"หมีงงงงๆ ตื่นมาประเดี๋ยวเน้"เสียงทุ้มอ้อแอ้เรียกคนบนเตียง มาตั้งแต่ตัวยังไม่พ้นขอบธรณีประตู
กลิ่นสุรารุนแรงใกล้เข้ามา ท่าทีดังจักหาเรื่องกันอย่างนั้น
"ตื่นก่อน"ว่าพร้อมมือหนาเอื้อมมาจับไหล่มนเขย่าปลุก
"ตื่น ๆ พี่มีเรื่องจะแจ้ง"
บอกดังนั้น คนแสร้งหลับก็ไม่อาจแสร้งต่อ ตาคมโตลืมตาพร้อมร่างสันทัดลุกนั่ง ปากอิ่มหมายเผยออ้าจักถาม แต่เมื่อหางตาแลเห็นคนผู้อื่นยืนอยู่ในห้องด้วย ก็ให้ยั้งปาก พลันสมิงดีดตัวลุกยืน ดวงตาเบิกโต ชี้มือชี้ไม้ไปที่ร่างบางนั้น โกรธขึงจนตัวสั่นเทา
"มึง!!!!"
"หมิง!!!"ดังเกือบเท่าเสียงกัน ฤาชาปรามสมิงก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้ทำกระไรอีกคนผู้นั้น สมิงหันขวับมองถามผัวด้วยสายตาเกรี้ยวโกรธ
"กระไรกันขอรับ พามันมาทำกระไรที่เรือนหมิง!!!!"
"พี่จะให้มะยงอาศัยบนเรือนนี้ด้วย"
"คุณฤา!!!!!!"แผดเสียงดังกึกก้อง "ทำเช่นนี้กับหมิงได้เช่นไร!!!!!!"หัวใจสมิงป่นแหลกละเอียด ไม่เหลือสักชิ้นดี มือไม้ที่รวดเร็วดังใจ รัวสุดแรงทำร้ายทุบตีผัว "ไอ้ชาติชั่ว!!! มึงทำเยี่ยงนี้กับกูได้เยี่ยงไร!! เอาชู้มาหยามหน้ากูถึงบนเรือน มึงคิดได้อย่างไร!!!"
"โถ่เว๊ย!!!"ฤาชาตวาดลั่น เหลือทนกับคำพูดดูหมิ่นศักดิ์ศรีผัว และมือไม้ทุบตีเอาตามใจ ดังเขาเป็นตัวกระไรอย่างนั้น ทั้งฤทธิ์น้ำเมาก็อีก สติยั้งคิดจึ่งไม่เหลือ มือหน้าง้างขึ้นจนสุด ฟาดลงอย่างจังที่ข้างหนึ่งของใบหน้างาม
สมิงล้มกลิ้งเลือดกลบปาก ความกลัววาบเข้าเต็มหัวใจ
"กูเป็นนาย มึงหรือแค่บ่าวในเรือน กูจักเอาอ้ายอีคนไหนทำเมียก็เรื่องของกู สำเหนียกฐานะมึงเสียให้มาก เพียงกูโปรดปรานเข้าหน่อยริอ่านย่ามใจเยี่ยงมีสิทธิ์"
"คุณฤๅ!!!!" อ้ายหมิงอยากฆ่าชายตรงหน้าเสียให้ตาย หากแต่รูปร่างสูงกำยำคงได้ต่อยสวนมาอีก บ่าวหนุ่มกัดปากจนเลือดไหล เจ็บแค้นไฟโทสะท่วมท้นปานจักเผาวิญญาณให้สิ้นได้
มึง!!! มึง!!!! ดูแคลนความรักภักดีกู!!!
สายตาอาฆาตมาดร้าย กวัดจ้องมองที่ผัว สิ้นเยื่อขาดใยกันแล้วเสียเดี่ยวนี้ แต่หัวใจคนนี่ก็แปลก แทนที่จะเหลือเพียงแค้น เขาทำกับตนเลวทรามมากมายถึงเพียงนี้ ยังหลงเหลือจิตผูกรักมาปลอมปน
ทั้งรักแลแค้นผสานเป็นเนื้อเดียวจนแยกไม่ขาด
ทำไม!!! ใยจึ่งทำได้ลงคอ
ธารน้ำตาไหลอาบ หน้าข้างที่ถูกตีชาจนไม่รู้สึก สมิงปวดใจเจ็บแค้น แสบแสนสาหัส อยากดับดิ้นหนีหายตายจากคนไร้รักไปเสียเดี๋ยวนี้เลย
เมื่อเจ้าของเรือนยืนยันจักเอาผู้อื่นมาอยู่ร่วมเรือนด้วย สมิงจึงระเห็จตนเองออกมา ยึดศาลาท่าน้ำเป็นที่พักพิง นั่งตากน้ำค้างตลอดคืน อุณหภูมิที่เย็นเยือกจนปรากฎสายหมองลอยต่ำเหนือผิวน้ำ แต่ไม่อาจหนาวไปกว่าใจสมิงดอก
คืนนี้ช่างเหงาเงียบไม่มีแม้เสียงหริ่งหรีดเรไรสักตัว แม้นทองฟ้าก็ถูกย้อมทาสีดำสนิท ไม่มีสักแสงหรี่เล็กของดาวให้เห็นแม้ดวง บรรยากาศน่าพรั่นพรึง ไม่ผิดกับใจคนที่ระทมอยู่ในตอนนี้เลย
หัวมนอิงแอบกับเสาเรือน สายตาเรื่อรื่นชื้นแฉะ ธารน้ำใสไหลออกไม่ขาดสาย จนรอบดวงตาแดงกร่ำบวมโปนแทบปิด ทั้งอีกข้างที่ถูกผัวตีมายังตึงอึ้งแลเปลี่ยนสีคล้ำช้ำเลือดลงไปทุกครา
เจ็บเสียจนอยากตายไปให้พ้น แต่ความกลัวถูกเขาหยันหัวร่อร่าใส่นั้นมากกว่า
ในหัวชายหนุ่มเต็มไปด้วยคำถาม
เกิดขึ้นเมื่อใดหนา ที่ผ่านมาล้วนลวงกันดอกหรือ ลอบทำลับหลังคงสนุกสนานขำขันมากซี อยู่กับเขา…พูดถึงข้าว่ากระไรกัน
สมิงทอดมองไกลไปในคุ้งน้ำผ่านหมอกขาว กลิ่นพิกุลต้นใกล้ศาลากำจายทั่ว ผีเผลอที่เคยกลัวกลับไม่อยู่ในความคิด แม้นมาให้เห็นตรงหน้าในเพลานี้ ก็มิอาจทำขวัญกระเจิงได้ดอก ในเมื่อคนถูกหลอกไม่มีดวงใจ