เมื่อมาถึงห้องพัก มาณวิกาเกิดเจ็บหน่วงท้องน้อย คิดถึงคำเตือนของหมอให้ระวังให้มาก ช่วงนี้อยู่ในภาวะแท้งคุกคาม อาการเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อเริ่มซึมเปียกชุ่มทั้งตัว มาณวิการีบกดโทรศัพท์หาอิงอร
" อร มาหาพี่ที "
" พี่วิ พี่เป็นอะไร ทำไมเสียงสั่นๆแบบนั้น พี่ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
หลังจากส่งรสสิกากลับห้องพัก อัครพลก็มุ่งหน้าไปที่ห้องพักของมาณวิกา แววตารังเกียจ ตอนที่ปัดมือเขาออก มันกวนใจไม่หยุด ตอนที่อิงอรประคองเธอออกไป เขาเห็นเธอเดินกะโผลกกะเผลก เธอคงจะเจ็บขาอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ไปหาหมอแล้วหรือยัง
ถึงยังไงเราก็ยังไม่ได้หย่ากัน เธอยังมีสถานะเป็นภรรยาของเขา และเขาเองก็ยังเป็นสามีของเธออยู่ ควรจะไปดูเธอหน่อย เมื่อคิดได้แบบนั้น ก็รีบเดินตรงไปที่ห้องพักของเธอทันที เมื่อมาถึงหน้าห้อง ก็เคาะห้องเรียกอยู่นานไม่มีเสียงตอบรับ เขาคิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมาก คงจะกินยาและนอนหลับไปแล้ว จึงไม่รบกวนเธอดีกว่า คิดแบบนั้นก็หันหลังเดินจากไป
ที่ร.พ หมอฉีดยาไห้มาณวิกา สั่งไห้เธอนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงขยับตัวไห้น้อยที่สุด โชคดีที่มา ร.พ ทัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียลูกไปแล้ว ส่วนข้อเท้าทั้งบวมและกระดูกร้าวจนต้องเข้าเฝือก อิงอรคอยเฝ้าอยู่ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง คอยจับตาดูเธอตลอด จนต้องบอก ไห้เธอไปพักบ้าง ไม่ต้องคอยดูเธอ ตลอดเวลาขนาดนั้นก็ได้
อิงอรเป็นรุ่นน้อง ตั้งแต่เป็นนักศึกษาฝึกงาน ก็ได้มาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยของเธอ ตั้งแต่นั้นก็ถูกชะตากันเป็นพิเศษ เมื่อเรียนจบ ก็ให้อิงอรมาทำงาน เป็นเลขาของเธอทันที ตอนนี้อิงอรจึงเป็นทั้งเลขาและเพื่อนสนิทของเธอ
ในที่ทำงาน ทุกคนรับรู้ว่า มาณวิกาเป็นรองประธานบริษัท ซึ่งบริษัทของมาณวิกา รวมหุ้นกับบริษัทของอัครพล ที่สภาวะเสี่ยงล้มละลาย ช่วยกันบริหารจนสามารถทำกำไรปีละหลายหมื่นล้าน ด้วยฝีมือดีไซเนอร์ของมาณวิกา ทำไห้เครื่องประดับทุกเซ็ท ที่มาณวิกาออกแบบ ขายดิบขายดี จนยอดสั่งจองล่วงหน้าเป็นปีเลยทีเดียว ส่วนเครื่องประดับที่พนักงานคนอื่นออกแบบ ก็ขายดีเช่นเดียวกัน
แต่น้อยคนนักจะรู้ ว่าอัครพลกับมาณวิกาเป็นสามีภรรยา จดทะเบียนสมรสกันตามกฏหมาย และอิงอรก็เป็น1ในส่วนน้อยที่รู้เช่นกัน
เช้าวันต่อมา ทีมงานเริ่มถ่ายทำฉากสุดท้าย
อัครพลมองหามาณวิกา อยู่นานก็ไม่มีวี่แววจึงโทรหา มีแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติไห้ฝากข้อความ อัครพลเริ่มหงุดหงิด เดินไปถามทีมงาน ว่าเห็นมาณวิกาไหม
" เมื่อคืนผมเห็นอิงอร พาคุณวิขับรถออกไปข้างนอก ไม่ทราบไปไหนกันครับ"
"ตอนไหน"
" ประมาณ6โมงกว่าๆครับ ผมเรียกถามไม่ทัน "
6โมงกว่าๆเหรอ ตอนช่วงนั้นเขาไปเคาะห้องเรียกเธอ ที่เธอไม่ตอบรับคือเธอไม่อยู่นี่เอง
"โทรหาอิงอร ถามว่าวิอยู่ที่ไหน"
ระหว่างรอ1ในทีมงานโทรหาอิงอร ใจของอัครพลก็ร้อนรุ่มเป็นไฟ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมาณวิกา หรือว่าขาของเธอจะเจ็บหนัก หรือว่าตอนนี้จะอยู่ที่ร.พ
" ได้เรื่องแล้วครับ คุณวิรักษาตัวอยู่ร.พครับ กระดูกขาร้าว ต้องใส่เฝือก หมอไห้นอนแอดมิทครับ"
อัครพลฟังยังไม่ทันจบ ก็รีบจ้ำอ้าวเดินไปที่รถ ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด มุ่งหน้าไปร.พทันที