ตอนที่ 2
ทำเอาบรรยากาศตึงเครียดไปหมด พวกเขาล่ะหวั่นกับอารมณ์ของภีมภวัตนัก ภีมภวัตมักมีวิธีจัดการกับคนที่ขัดใจด้วยวิธีที่คนคนนั้นจะต้องจดจำตราบนานเท่านาน ไม่บ่อยนักหรอกที่จะมีใครกล้าขัดใจเขา แม้กระทั่งยุทธนาหรืออรปรียา เมื่อเจอสายตาคมกล้าของภีมภวัตแบบนี้เข้ายังต้องเงียบ
ทันที่เห็นรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอด ยุทธนาที่รอรับอยู่แล้วก็เข้ามาทักทายเจ้าของคฤหาสน์ตัวจริง
“มาถึงแล้วเหรอภีม/รุต” ทั้งสองก้าวลงจากรถทักทายยุทธนาแล้วก็ตรงเข้าไปในคฤหาสน์หรูที่ถูกตกแต่งอย่างประณีตสไตล์ร่วมสมัย ยุทธนาให้ผู้ที่เพิ่งเดินทางมาถึงได้ไปพักผ่อนก่อน โดยมีป้าจินดาแม่บ้านอำนวยความสะดวก
ภายในห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะอาหารสีขาวยาวเหยียด ถูกประดับด้วยดอกทิวลิปสีขาว และเชิงเทียนสีแดงเรียบหรูสไตล์หลุยส์ ทุกคนมาพร้อมหน้าขาดก็แต่ที่นั่งว่างข้าง ๆ ภีมภวัตที่เว้นไว้หรับโรสสิริน
“อาครับ โรสจะลงมาตอนไปครับ คืนนี้ผมต้องพาไอ้รุตไปข้างนอกอีกนะครับ” ภีมภวัตเอ่ยเสียงด้วยอารมณ์ที่เริ่มขุ่นมัวเล็กน้อย เพราะนอกจากแม่น้องสาวตัวดีจะพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วยังกล้าทำให้เขารออีก บรรยากาศเริ่มเงียบลงจนแต่ละคนแทบได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นดังตุบๆ ไม่มีใครเดาออกเลยว่าคุณชายวิริยะพงษ์ไพศาลกำลังคิดจะทำอะไร
“นี่แค่ช้าไปสามนาทีเองนะภีม รอน้องหน่อยสิ” ยุทธนารีบกล่าวขึ้นทำลายความอารมณ์ขุ่นมัวของหลานชาย ภีมภวัตหยัดกายขึ้นเต็มความสูงจะลุกจากโต๊ะ และทันใดนั้น...
“มาแล้วค่ะ ขอโทษทุกคนนะคะที่ทำให้รอ” เสียงใสดุจระฆังแก้วนั้นดึงดูดสายตาให้คนต้องหันไปหาต้นเสียงนั้นทันที ภีมภวัตถึงกับตะลึงงันกับภาพที่เห็น หญิงสาวใบหน้ารูปไข่คิ้วโค้งเรียว ดวงตาสีดำกลมโตใสแป๋ว จมูกโด่งรั้นเชิดรับกับใบหน้าสวยริมฝีปากบางชมพูระเรื่อ
เธอมาในชุดเดรสเกาะอกสีขาวเผยให้เห็นเอวคอดกิ่วสะโพกกลมกลึงดันให้เห็นอกอวบซึ่งดูจะเกินอายุไปนิด เธอช่างสดใสน่ารักดั่งนางฟ้าทีเดียวในสายตาของภีมภวัต เรียวขาสวยเดินตรงไปยังที่นั่ง ที่ถูกจัดไว้ให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ภีมภวัต
ทันใดนั้นแก้มเนียนขาวเริ่มปรากฏเลือดฝาดสูบฉีดจนแดงระเรื่อเนื่องจากเขินอายกับสายตาคมของชายหนุ่มที่จ้องมองราวกับจะทะลุถึงเนื้อในเลยทีเดียว สองหนุ่มมองภาพสาวน้อยจนเคลิ้ม เธอทั้งน่ารักน่าทะนุถนอม
“เฮ้ยภีม!! แกจะยืนน้ำลายหกอีกนานมั้ย ฉันหิวแล้วนะโว๊ย” วิศรุตขัดขึ้นที่เห็นเพื่อนรักจ้องน้องสาวตาไม่กะพริบ
สายตาภีมภวัตมองน้องสาวตัวเองราวกับจะกลืนกินเลยทีเดียว ใช่ว่าเขาจะไม่ตะลึงกับความงามของโรสสิรินหรอกนะ หากแต่เขาเคยควงผู้หญิงมาเยอะ ที่สำคัญสายตาของโรสสิรินบอกว่าคิดไม่ซื่อกับพี่ชายเสียแล้ว
“ปล่อยให้พี่เขารอได้ยังไงกัน ใช้ไม่ได้เลยนะเรา” ยุทธนา ตำหนิแต่น้ำเสียงคล้ายเอ็นดูมากกว่า
“โรสต้องขอโทษด้วยนะคะ” หญิงสาวกล่าวเสียงใสพร้อม ส่งยิ้มสดใสให้ภีมภวัต เธอทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจเพราะไม่ได้เจอภีมภวัตมานานแล้วตั้งแต่เขาไปเรียนเมืองนอก
เขาช่างดูดีมีเสน่ห์แถมยังดูหล่อขึ้นมากใบหน้าคม คิ้วเข้ม ตาสีดำเปล่งประกายดูน่าเกรงขามจมูกโด่งรับกับริมฝีปากหนาอมสีชมพูอมแดง ในความคิดของโรสสิรินแล้วภีมภวัตเหมือนเทพบุตรในร่างของคนธรรมดา
“ไม่เป็นไร นั่งก่อนสิ..โรส” ภีมภวัตเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวทุกคนแปลกใจกับพฤติกรรมของภีมภวัต เขาไม่เคยเลื่อนเก้าอี้ให้ใครมาก่อนซึ่งสร้างความอิจฉาให้กับอรปรียา สายตาที่ชายหนุ่มใช้มองโรสสิริน แม้แต่เธอก็ไม่เคยได้รับจากเขาทั้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมาย
“ขอบคุณค่ะพี่ภีม” กลิ่นกายสาวแรกรุ่นอ่อนๆ ถูกพัดโชยเข้าจมูก ช่างหอมเย้ายวนยิ่งนัก เสียงใสดุจระฆังแก้วและแววตา สดใสคู่นั้นของเธอสร้างความปั่นป่วนกบชายหนุ่มขึ้นมาทันที
ถ้าไม่ติดเรื่องฐานะระหว่างเธอกับเขาล่ะก็ เขาคงไม่ปล่อยเธอหลุดมือไปแน่ ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเพื่อระบายอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น แต่กลับสร้างความเข้าใจผิดให้แก่โรสสิริน เพราะเมื่อหญิงสาวเห็นอาการนั้นจึงถามออกไปด้วยความไร้เดียงสาพลางจับแขนชายหนุ่ม เบาๆ อย่างเป็นห่วง
“พี่ภีมเดินทางเหนื่อยมั้ยคะ” ชายหนุ่มเหลือบมองมือเรียวนุ่มที่กำลังจับแขนเขา นี่หล่อนไม่รู้ตัวเลยใช่ไหมเนี่ย ว่าเขาหิวจนอยากจะกินเธอเข้าไปทั้งตัวแล้ว จะถามอะไรอีกล่ะจ๊ะ
“ผมวิศรุต เป็นเพื่อนไอ้ภีมครับ” วิศรุตพูดพลางยื่นมือออกไปเพื่อทักทายตามธรรมเนียมชาวตะวันตก โรสสิรินมองหน้าภีมภวัตเป็นเชิงขออนุญาต ทันทีที่ภีมภวัตพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการอนุญาตเธอจึงยื่นมือรับทักทายเพื่อนของเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณวิศรุต ดิฉันโรสสิรินค่ะ” หญิงสาวตอบ พร้อมยิ้มให้วิศรุตอย่างเป็นมิตรโดยมีสายตาของภีมภวัตจับจ้องอยู่ เหมือนเขากำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง และเมื่อเห็นว่าวิศรุตทำท่าจะไม่ปล่อยมือหญิงสาวง่ายๆ ก็เหมือนเป็นการกระตุ้นอารมณ์ภีมภวัตให้ขุ่นมัวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“แกจะทำความรู้จักน้องอีกนานไหม ฉันหิวแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ จนวิศรุตต้องรีบปล่อยมือจากหญิงสาวทันที เขาเผลอจับมือหล่อนนานไปนิด ก็แหม! หล่อนออกจะสวย น่ารักบาดใจขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เพื่อนรักจะมีน้องสาวสวยขนาดนี้ เคยเห็นแต่รูปในเฟชบุสไม่คิดว่าตัวจริงจะสวยขนาดนี้
“ผมขอเรียกโรสเหมือนไอ้ภีมนะครับ อ้อ..ถ้าจะให้ดีเรียกผมว่าพี่รุตด้วยดีกว่านะครับดูสนิทสนมกันดี” วิศรุตยังไม่หยุดพูดในขณะที่โรสสิรินเริ่มเห็นสายตาพิฆาตของภีมภวัตแล้ว แววตาและอารมณ์แบบนี้ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง เพราะเธอเคยชินกับมันตั้งแต่ตอนชายหนุ่มยังเรียนมัธยมแล้ว
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เค้กช็อกโกแล็ตสองชั้นขนาดกำลังพอดีถูกตกแต่งอย่างประณีตสวยงามน่ากิน ถูกหญิงรับใช้ยกมาวางไว้บนโต๊ะ
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู...” สิ้นเสียงร้องอวยพร โรสสิรินหลับตาพร้อมกุมมือตัวเองเพื่ออธิฐาน ภีมภวัตลอบมองรอยยิ้มน้อยปรากฎขึ้นบนใบหน้างามอย่างเผลอไผล
แก้มอมชมพู ขนตาแพงอนงามเป็นระเบียบ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันของหญิงสาว ช่างดึงดูดจนเขาอยากจะเข้าไปจุมพิตเธอ แทนคำอวยพร หากแต่มีฐานะพี่ชายค้ำคอเขาอยู่ ทำให้เขาแสดงอาการอะไรไม่ได้นอกจากนิ่งเงียบต่อไป
โรสสิรินเป่าเทียนพร้อมตัดแบ่งเค้กให้ทุกคนทาน และเธอก็ไม่ลืมที่จะแบ่งให้เหล่าบอดี้การ์ดและคนรับใช้ด้วยคนที่คฤหาสน์ต่างเอ็นดูรักใคร่เธอทั้งนั้น เธอไม่เคยทำตัวแตกต่างแต่กลับเป็นกันเองกับทุกคนเสมือนญาติมากกว่า เธอระลึกอยู่เสมอว่าตนนั้นมาจากไหน และไม่เคยคิดที่จะขึ้นไปเทียบชั้นหรือเคียงข้างกับภีมภวัตไม่ว่าจะในฐานะน้องสาวหรือฐานะใด ๆ ก็ตาม
โรสสิรินนั่งแกะของขวัญซึ่งทุกคนเตรียมมายกเว้นภีมภวัตกับวิศรุต
“พี่ ขอโทษนะครับน้องโรส พี่ไม่รู้ล่วงหน้าว่าวันนี้เป็นวันเกิดน้องโรส ก็ไอ้ภีมนะสิครับ จู่ ๆ ก็ชวนมาเลย พี่เลยไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้ แต่ไม่เป็นไรครับพี่จะพาไปเลี้ยงย้อนหลังให้เอง” วิศรุตกล่าวในขณะที่ภีมภวัตยังทำสีหน้าเฉยชาไม่ได้สนใจสายตาน้อยใจของน้องสาวแต่อย่างใด เธอไม่ได้น้อยใจที่เขาลืมของขวัญหรอก หากแต่เป็นเพราะสายตาเย็นชานั่นต่างหาก เธอพยายามข่มอารมณ์น้อยใจและกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มตอบวิศรุตออกไปในขณะที่สายตาเสมองไปทางภีมภวัต
“ไม่เป็นไรค่ะพี่รุต วันเกิดก็แค่วันธรรมดา ไม่มีความหมายอะไรหรอกค่ะ” วิศรุตอ่านสถานการณ์แล้วพอจะเข้าใจอะไร ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว มันต้องมีSomethingเกิดขึ้นแน่นอน ด้านยุทธนาเห็นว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี และเกรงว่าลูกสาวอาจทำอะไรที่ใครๆ คาดไม่ถึง เนื่องจากหึงหวงภีมภวัต ถึงจะปิดคนอื่นได้ แต่ปิดผู้เป็นพ่ออย่างเขาไม่ได้ ยุทธนาเริ่มมองเห็นสายใยเล็กๆ ระหว่างภีมภวัตกับโรสสิรินซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่อย่างที่คิดหรือไม่ เขาทำได้เพียงติดตามสถานการณ์อย่างเงียบๆ ต่อไป