“ม๊าย... ม่ายจริง... คุณยังไม่ตาย ไอรีน... คุณยังไม่ตาย...!“
ร่างหนาสูงใหญ่สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก ท่ามกลางความมืดมิดแต่อดีตอันเลวร้ายกลับยังคงติดตรึงอยู่ในสมอง ราวกับว่ามันพึ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี่เอง มือหนาสีแทนยกขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดผายขึ้นมาเต็มหน้าผากกว้าง
เหตุการณ์ในวันนั้นมันยังตามหลอกหลอนเขาตลอดเวลา มันเหมือนผีร้ายที่คอยวนเวียนและเข่นฆ่าให้เหมือนตายทั้งเป็น เขาไม่เคยลืม... ไม่เคยลืมคืนวันอันแสนโหดร้าย ไม่เคยลืมมันไปจากสมองเลยแม้สักเสี้ยววินาทีเดียว
‘21st April 1995 Chicago, Illinois, USA เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันวินาศสันตะโร 19 คันรวด ผลอันเกิดจากสภาพอากาศเลวร้ายที่กำลังเล่นงานทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นเป็นภรรยาของมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชื่อก้องโลกอย่าง คิลเลียน คาร์ตัน ซึ่งเธอเสียชีวิตพร้อมกับทารกในท้องที่มีอายุครรภ์ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ทางเราขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ด้วยค่ะ’
“ไอรีน... ผมคิดถึงคุณ...”
สองมือหนายกขึ้นลูบใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะผุดลุกขึ้นจากโซฟาที่ตัวเองผล็อยหลับไป มุ่งหน้าออกไปจากห้องนอน เหล้า... เขาต้องการเหล้า ถ้าไม่มีมัน ถ้าไม่ได้ดื่มมัน เขาอาจจะขาดใจตายเพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็เป็นได้
สองปี... สองปีแล้วแต่หัวใจของเขาก็ยังไม่ยอมรับความจริงเสียที ไม่ยอมรับความจริงว่าได้สูญเสียภรรยาและลูกชายไปแล้ว
“คุณคิลล์... จะไปไหนเหรอคะ”
ร่างสูงชะงัก หันไปมองต้นเสียง
“ฉันจะดื่มเหล้าต่อ เธอยังไม่นอนก็ดีแล้วไปหยิบเหล้ามาให้ฉันหน่อย”
“แต่คุณคิลล์ดื่มไปมากแล้วนะคะ คุณคิลล์น่าจะพักผ่อน...”
“แล้วเธอมาวุ่นวายอะไรกับชีวิตของฉันนาเดีย! ไปเอาเหล้ามาให้ฉัน...”
นาเดียสาวใช้วัยเดียวกับคิลเลียนยังคงยืนนิ่ง
คิลเลียนแค่นยิ้มหยัน
“ก็ได้... ถ้าเธอไม่ไป ฉันไปเองก็ได้”
ร่างสูงกำยำ ที่ตอนนี้ทรุดโทรมลงไปมากมายก้าวไปข้างหน้า นาเดียรีบคว้าท่อนแขนกำยำเอาไว้ และรีบเอ่ยอย่างยอมแพ้
“ก็ได้ค่ะ รออยู่ตรงนี้นะคะคุณคิลล์ เดี๋ยวดิฉันจะไปหยิบเหล้ามาให้ค่ะ”
คิลเลียนจ้องหน้านาเดีย ก่อนจะลดสายตาลงมองท่อนแขนของตัวเองที่ถูกมือนุ่มของนาเดียคว้าเอาไว้
นาเดียเห็นสายตาไม่พอใจจึงรีบปล่อยมือ และถอยออกห่าง
“ดิฉันจะรีบไปเอาเหล้ามาให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ เชิญคุณคิลล์ไปรอในห้องรับแขกก่อนนะคะ”
“ฉันจะดื่มที่ระเบียง... ที่ๆ ฉันกับไอรีนเคยยืนกอดกันทุกคืน”
“คุณคิลล์คะ ดิฉันก็ไม่อยากจะลามปามหรอกนะคะ แต่คุณไอรีนเธอเสียไปตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่คุณคิลล์จะยอมรับความจริงได้สักทีคะ เมื่อไหร่จะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมเสียที”
คนตัวโตหันขวับมามองคนพูดด้วยสายตาอำมหิต หัวเสียสุดขีด
“หุบปาก! ไม่มีทางที่ฉันจะลืมไอรีนได้ ไม่มีวัน!”
“แต่ถ้าคุณคิลล์ไม่ยอมลืมอดีต คุณคิลล์ก็จะกลายเป็นครึ่งคนครึ่งผีแบบนี้ไปตลอดชีวิตนะคะ”
“เธอว่าอะไรนะนาเดีย”
คิลเลียนปาดเข้ามาจับไหล่ของนาเดียเขย่า มองด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ
“ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนเล่นฉันมาก่อน ฉันฆ่าเธอไปแล้ว ไปให้พ้นหน้า!”
หญิงสาวเม้มปากเป็นเส้นตรง น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าตา
“ขอบคุณค่ะที่ยังเห็นดิฉันเป็นเพื่อน”
คนพูดถอยหลังออกห่าง
“ดิฉันจะไปเอาเหล้าให้เดี๋ยวนี้ รอสักครู่นะคะ”
แล้วนาเดียก็หมุนตัวเดินจากไป ในขณะที่คิลเลียนก็หมุนตัวเดินออกไปยังระเบียงกว้างเช่นกัน สายลมโชยโบกพลิ้วแผ่วมาแต้มเรือนกาย ราวระเบียงไม้เป็นที่ที่เขากับไอรีนเคยมายืนมองดวงดาวบนท้องฟ้า และพลอดรักกัน
เขารักไอรีนมาก รักหล่อนตั้งแต่แรกสบตา แต่ไม่เคยคิดเลยว่าความสุขที่ได้รับจะบินหนีหายไปรวดเร็วปานนี้ ตอนนี้เขาไม่มีไอรีนอยู่เคียงข้างอีกแล้ว ผู้หญิงที่เขารักหมดใจได้จากเขาไปพร้อมกับลูกชายในท้องชั่วนิรันดร์
หยาดน้ำตาของบุรุษไหลหล่นลงมาตามร่องแก้ม หัวใจปวดร้าวทรมานปานถูกกระทืบด้วยฝ่าเท้าของพญามัจจุราช สองปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เขาไม่คิดถึงไอรีน ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะสามารถลืมเรื่องที่เลวร้ายในวันนั้นลงได้ ภาพใบหน้าที่ซีดขาวไร้วิญญาณของไอรีนตามหลอกหลอนเขาในทุกค่ำคืน ซึ่งมันก็ทำให้เขาทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
“ไอรีน... กลับมาหาผมได้ไหม... ได้โปรดกลับมา...”
ใบหน้าที่ยามนี้เต็มไปด้วยหนวดเคราราวกับฤาษีเงยขึ้นมองแผ่นฟ้ายามราตรี และวิงวอนด้วยน้ำเสียงปวดร้าวแสนทรมาน
“กลับมาหาผมเถอะ... ผมอยู่ไม่ได้... ถ้าไม่มีคุณ... ได้โปรด... ไอรีน...”
นาเดียวางขวดเหล้า น้ำแข็ง และแก้วลงกับโต๊ะไม้ด้านหลังของคนที่กำลังพร่ำเพ้อถึงเมียรักที่ถูกพรากจากไปแผ่วเบา หล่อนยืนมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจถอยหลังเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้คิลเลียนดำดิ่งลงสู่อดีตอันแสนเจ็บปวดตามลำพัง