เมื่อตกลงกันได้แล้ว ธาวินก็เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อถ่วงเวลาเจ้านาย จิลาวัลย์เดินกลับไปหานีนนาราที่ห้องพัก พร้อมกับความจริงที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ในตอนนี้
“ฉันไม่ทำ !” นีนนาราปฏิเสธทันที หลังได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปากของจิลาวัลย์ เป็นเรื่องที่เธอทำใจยอมรับไม่ได้จริง ๆ
“เธอเลือกไม่ได้นะนีน เจ้านายเราไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นพวกอันตรายเสียด้วยสิ ขืนเดินไปบอกว่าทำงานพลาด ไม่มีคนมาบริการระหว่างล่องเรือเที่ยวสามวันนี่ ไม่เธอก็ฉันจะได้กลายเป็นศพอืด ลอยกลางทะเลเป็นแน่”
“โทรบอกให้คนไปรับชาลิสามาแทนสิไม่เห็นจะยาก”
“เธอก็พูดง่าย ๆ นี่เราออกจากฝั่งมากลางทะเลแล้วนะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ค่ำแล้วด้วย อีกอย่างตอนนี้เจ้านายเรียกตัวเราสองคนแล้วด้วย ต้องรีบขึ้นไปรู้ไหม”
“ไม่ฉันไม่ทำ” นีนนาราส่ายหน้าเร็ว ๆ
“ไม่ทำก็จับถ่วงน้ำไป !” เสียงของธาวินดังขึ้นตรงประตูห้อง นีนนาราถึงกับผวาไปอยู่ด้านหลังของจิลาวัลย์อย่างตกใจ
“คุณเป็นใคร” นีนนารารู้สึกกลัวผู้ชายที่หน้าตาดี แต่ว่าท่าทางไม่น่าไว้วางใจคนนี้
“ฉันเป็นใครเหรอ ฉันเป็นคนขับเรือและดูแลเรื่องงานบริการบนเรือลำนี้ยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่ทำฉันจะโยนเธอลงทะเล ให้เป็นอาหารปลาเดี๋ยวนี้เลย” ธาวินจ้องคนถามด้วยสายตาดุ ๆ
“คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ” นีนนารารับรู้ได้ถึงความไม่ดี ที่แผ่ออกมาจากคนตรงหน้า
“เธอกำลังจะทำให้ฉันกับจิลเดือดร้อน ฉันจะเอาไว้ทำไม”
“ใจเย็น ๆ ก่อนพี่วิน ให้จิลคุยเองดีกว่า พี่ไปดูแลเรื่องขับเรือต่อเถอะ” จิลาวัลย์พยายามทำใจเย็นกับเรื่องนี้ รู้ดีว่าคนอย่างธาวินนั้นร้ายกาจแค่ไหน
“เออ ให้รู้เรื่องนะ ถ้าไม่ทำพี่จับโยนลงเรือทันทีไม่มีข้อแม้ !”
จิลาวัลย์ยิ้มตรงมุมปากในทันที เพราะคำขู่ของธาวินดูเหมือนจะได้ผล นีนนาราหน้าซีดลงอย่างชัดเจน กลอกลูกตาไปมาเหมือนคนกำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอด จิลาวัลย์เอื้อมมือออกไปกุมมือของคนกลัวเอาไว้ แล้วค่อย ๆ อธิบายเรื่องราวให้ฟังใหม่อีกรอบ
“นีนฉันจะพูดกับเธอตรง ๆ นะ ถ้าเธอไม่ทำเธอไม่รอดแน่ ไม่ใช่แค่เจ้านายที่น่ากลัว พี่วินเองก็ไม่เคยปรานีใครเหมือนกัน ชาลิสาอยู่วงการนี้ได้ ก็เพราะทำงานไม่เคยพลาด แต่ถ้าครั้งนี้ทำให้พี่วินต้องถูกเจ้านายลงโทษ ฐานทำงานไม่สมเป็นมืออาชีพ เธอกับชาลิสาก็ไม่รอดทั้งคู่รู้ไว้ด้วย”
“คุณจะฆ่าฉันกับชาลิสาเหรอ”
“โน ๆ ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นพี่วินโน่น พี่วินเขาเป็นซาตานในคราบเทพบุตรรู้ไหม ประเภทหล่อแต่ร้าย และเลวเกินกว่าที่คนอย่างเธอจะคิดได้เลยล่ะ แล้วคนอย่างพี่วินจะมาทำงานขับเรือบริการคนอื่นทำไม ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่บรรดาผู้มีอิทธิพลของที่นี่ พวกเจ้านายด้านบนก็มาเฟียดี ๆ นี่เอง” จิลาวัลย์มองคนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ความหวาดกลัวของนีนนารา กำลังจะทำให้การเกลี้ยกล่อมครั้งนี้ได้ผล
“นีนแค่สามวันเองนะ ได้เงินเป็นแสนเลยล่ะมันคุ้มนะฉันว่า คุ้มกว่าการถูกจับโยนลงทะเลเป็นไหน ๆ เลือกมาฉันไม่มีเวลามากนักหรอก” ต้นประโยคก็หว่านล้อม แต่ท้ายประโยคดูเหมือนจะเร่งรัดเอาเรื่องให้ได้ นีนนาราหลับตาลงแน่นรู้แค่ว่าเธอยังไม่อยากตาย
“ถ้าฉันทำจะไม่ทำอะไรชาลิสาใช่ไหม” นานพอสมควรกว่าที่หญิงสาวจะถามออกมาแบบนี้
“เฮอะ เธอนี่มันบ้า ตัวเองจะตายอยู่แล้วยังจะห่วงชาลิสาอีก ถ้าเธอทำฉันจะบอกให้พี่วิน ไม่ลงโทษชาลิสาแบบรุนแรง แต่อาจมีหักเงินบ้าง เพื่อให้เป็นบทเรียนว่าอย่าทำอะไรสะเพร่าแบบนี้อีก”
“ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้ คือ เอ่อ ฉันทำไม่เป็น” เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาจากนีนนารา
“ฉันจะสอนเธอเองนีน ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ไปนั่งคอยชงเหล้าให้เจ้านายเท่านั้นเอง”
“คุณจิลได้หรือยังพี่วินเร่งมาแล้วนะครับ” อนุชิตมาเคาะประตูห้องเรียกอยู่ด้านนอก
“รู้แล้ว ๆ รอแป๊บสิ” จิลาวัลย์ตะโกนตอบออกไป
“ทำตามฉันก็พอนะนีน รับรองไม่ยากเลยจริง ๆ เธอเปลี่ยนไปใส่ชุดว่ายน้ำไป”
“ชุดว่ายน้ำ ! ไม่มีหรอก” นีนนาราส่ายหน้าทันที
“ไม่มี !” อีกคนก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อ ว่าผู้หญิงมาทะเลจะไม่พกชุดว่ายน้ำมาด้วย
“ก็จะมาทำครัวกับความสะอาดจะเอามาทำไมละ”
“บ้าที่สุดเลย อืม ว่าไปหุ่นเธอคงพอกับฉัน งั้นไปที่ห้องฉันเร็วฉันเอามาหลายชุดอยู่” จิลาวัลย์ฉุดข้อมือของนีนนารา พาไปที่ห้องพักของตัวเอง เปิดกระเป๋าแล้วหยิบบิกินีสีแดงสดออกมา
“ตัวนี้เหรอคุณ” นีนนาราทำหน้าขยาด กับเจ้าชุดที่ใช้ผ้าผลิตน้อยนิดเหลือเกิน
“ไม่ต้องเรียกคุณแล้วรำคาญ เรียกจิลเฉย ๆ ก็พอ แล้วก็ใส่ตัวนี้แหละ ฉันเอามาแค่สี่ตัวแบ่งกันใส่คนละสองวันแล้วกัน ไปเอาไปใส่ได้แล้ว รีบ ๆ ด้วยล่ะ” จิลาวัลย์ยัดบิกินีสีแดงสดใส่มือของคน ที่ยังยืนงง ๆ กับชีวิตอยู่
“ไปเร็วสินีน” หญิงสาวเร่งเมื่ออีกฝ่ายยังเงอะงะทำตัวไม่ถูก
“อืม” นีนนาราถือบิกินีตัวน้อย กลับมาใส่ที่ห้องของตัวเอง โดยมีจิลาวัลย์เดินตามหลังมาติด ๆ ด้วย แต่ดูเหมือนคนในห้องน้ำจะใช้เวลานานจนผิดสังเกต คนด้านนอกเลยต้องเคาะประตูเรียกแรง ๆ
“ออกมาได้แล้วนีน ต้องไปแล้วนะ...” ยังไม่ทันจะได้พูดต่อประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกมา จิลาวัลย์อ้าปากค้างนิด ๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ
“ไม่ต้องทำอะไรแล้วนีนแค่ปล่อยผมยาว ๆ ก็สวยสะกดทุกสายตาแล้ว อวบใช่เล่นเลยนะเธอนี่” สายตาของผู้หญิงด้วยกันยังมองว่าสวย มีหรือพวกผู้ชายจะมองไม่เห็น ความสวยหมดจดของคนตรงหน้าเธอ
“ต้องใส่ชุดนี้จริง ๆ เหรอจิล ฉันว่ามันโป๊ไปนะ” คนพูดยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดท่อนบน อีกข้างก็ปิดท่อนล่างไปด้วย
“จริงสิไม่โป๊หรอกมาทะเลเขาก็ใส่บิกินีกันทั้งนั้นแหละ แล้วไม่ต้องเดินหนีบขาแบบนั้นด้วยนะ เดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่าเป็นมือใหม่ อ้อ ที่สำคัญ ห้ามบอกเจ้านายเด็ดขาดว่าเธอขึ้นเรือผิดลำ จนต้องมาทำงานแทนคนอื่นเขานะ ไม่งั้นคอขาดกันหมดนี่แน่ หาว่าเอาคนไม่มีฝีมือมาทำงาน” จิลาวัลย์ยกนิ้วขึ้นชี้หน้านีนนารา กำชับเรื่องสำคัญไม่ให้ลืม
“ไม่มีฝีมือ” นีนนารากลืนน้ำลายลงคอแบบฝืด ๆ อย่างเธอนี่คงห่างไกล จากคำว่ามีฝีมืออยู่ไกลโข ก่อนจะฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“จิลฉันขอเสื้อคลุมของเธอได้ไหม ใส่แบบนี้แล้วมันไม่โอเคอย่างแรงเลยล่ะ ฉันก้าวขาเดินไม่ออกแน่ ๆ” พูดแล้วก็มองเสื้อคลุมตาข่ายของอีกฝ่ายไปด้วย
“เรื่องมากจริง เอ้า เอาไป” จิลาวัลย์ถอดเสื้อคลุมตาข่ายของตัวเองส่งให้คนขอ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไปสวมใส่ในทันที
“ค่อยยังชั่วหน่อย”
“ตรงไหนไม่ทราบ รู้ไหมว่าเขามีไว้ให้มันน่าค้นหา ดูเย้ายวนมากกว่าเดิมต่างหากล่ะ”
“เอ๋ ไม่หรอกมั้งฉันว่ามันก็พรางตาได้อยู่นะ” นีนนาราก้มลงมองเนื้อขาว ๆ ของตัวเอง ที่โผล่ออกมาให้เห็นตามช่องตาข่าย เริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว ว่ามันจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้จริง ๆ
“แล้วแต่จะคิด ไปกันได้แล้ว จำไว้นะนีนห้ามให้เจ้านายรู้ ว่าเธอไม่เป็นงานเด็ดขาด ไม่งั้นเธอเดือดร้อนแน่ ฉันทำอะไรก็ให้ทำตามห้ามยึกยักเข้าใจไหม รู้ไว้ว่าคนบนดาดฟ้านั่นอันตรายมาก” จิลาวัลย์กำชับหนักแน่นอีกครั้ง ก่อนดึงข้อมือของนีนนารา ให้ก้าวขึ้นไปบนบันไดเรือ ผ่านห้องเครื่องก็เจอธาวินยืนกอดอกมองทั้งคู่อยู่
“กว่าจะเสด็จออกมาได้ ยกถาดนี่ขึ้นไปด้วย” ธาวินมองไปที่ถาดกับแกล้มด้านข้าง จิลาวัลย์ถือไปถาดหนึ่ง ส่วนอีกถาดนีนนาราก็เดินไปหยิบมาถือไว้