ตอนที่ 6
ดูซิแค่แตะต้องเพียงนิดหน่อย กายก็ร้อนผ่าวอยากที่จะเร่งรุดให้ไปถึงจุดหมายปลายทางปรารถนาที่มาพร้อมความเสียดาย ถ้าให้อินซอฟเปิดห้องให้ก็ดีนะซิ จะได้มีความสุขกับมัดหมี่เสียในคืนนี้เลย กายแกร่งขยายใหญ่เสียจนปวดร้าว ด้วยต้องการเข้าไปพำนักในความอบอุ่นและฉ่ำร้อน แต่ฟารฮานก็ต้องจำต้องอดทนไว้ก่อน ถือคติอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
“บะ...บัญชีค่ะ” ปิยาพัชรตอบกลับเสียงสั่น อย่างไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ทำไมถึงยอมให้ชายหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักมากก่อนแสดงความสนิทชิดเชื้อถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ ถ้าพี่มัดหวายรู้เข้ามีหวังโกรธเป็นไฟแน่ เพียงแค่นึกถึงพี่สาว เรือนกายที่กำลังอ่อนระทวยและพร้อมจะเดินทางไปในทุ่งกว้างก็พลันมีสติขึ้นอย่างรวดเร็ว สองมือเล็กที่จิกทึ้งดึงเสื้อตัวใหญ่ รีบผลักกายหนาใหญ่ให้ออกห่าง มือเล็กเรียวเงื้อขึ้นสูงหมายจะตอบแทนคนที่อุกอาจ
“โอ๊ะโอ่!! มัดหมี่กล้าทำร้ายฉันหรือ” ฟารฮานถามสีหน้าและน้ำเสียงยิ้มๆ ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ไปตามใบหน้าขาวเนียน ที่ถึงแม้จะอยู่ในความมืดเพราะแสงไฟส่องมาไม่ถึง แต่กระนั้นก็ยังได้รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าขาวสวยแปรเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ ริมฝีปากอิ่มเต็มเริ่มบวมและแดงช้ำจากแรงกดทับ
ปิยาพัชรยังไม่ทันได้ทำอะไรตามความต้องการ มือเล็กก็ตกอยู่ในมือใหญ่ อีกทั้งโดนจับไพล่หลังไว้เสียอีก สองมือแกร่งดันเอาร่างบอบบางที่มีเสื้อผ้าติดกายอย่างหมิ่นเหม่ จมหายไปบดเบียดกับกายแกร่งที่ไม่รู้ว่ากระดุมเสื้อสูทตัวใหญ่และเสื้อเชิ้ตอีกตัวที่อยู่ภายในหลุดออกจากร่างตั้งแต่เมื่อไหร่ สองกายบดเบียดเสียดสีสร้างความปวดร้าวและก่อเกิดไฟปรารถนาอย่างรวดเร็ว
“คุณ...ปล่อยมัดหมี่นะ ไม่งั้นมัดหมี่จะร้องให้คนช่วย”
“อืม...มัดหมี่กล้าร้องจริงหรือ ถ้ากล้าก็เอาซิ แต่ฉันไม่รับประกันนะว่าตอนที่คนอื่นมาเห็นเธอจะอยู่ในสภาพแบบไหน จะมีเสื้อผ้าติดกายหรือว่าไม่มี เลือกเอาเองนะสาวน้อย” อย่างที่บอกให้รู้ว่าเอาจริง มือใหญ่ลากไล้วนเวียนรอบๆ แผ่นหลังเนียนนุ่มบริเวณที่ซิปแยกอยู่แล้ว ปลายนิ้วยังซุกไซ้เข้าไปใต้เนื้อผ้า ลูบไล้ผิวกายและสะกิดเอาที่ตะขอชั้นใน
ปิยาพัชรหน้าซีดเผือด ดวงตากลมโตเบิกกว้างไหวระริกด้วยความตกใจและหวาดกลัว หัวใจเต้นอ่อนแรงและเกือบจะหยุดเต้นอยู่แล้ว ริมฝีปากสั่นระริกจนต้องรีบขบกัดเอาไว้ มือเล็กเรียวเย็นเฉียบเหมือนกับน้ำแข็งรีบจับรั้งมือใหญ่ให้หยุดกับที่ อีกมือก็รีบจับเสื้อผ้าไม่ให้ร่วงลงจากกาย ได้แต่พยายามข่มความกลัวเอาไว้ภายใน ดึงเอาความกล้าที่มีน้อยนิด และพยายามถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“คะ...คุณเป็นใคร แล้วต้องการอะไรจากมัดหมี่กันแน่?”
“อยากรู้จริงๆ เหรอมัดหมี่ ฉันไม่ต้องการอะไรมากมายหรอก ก็แค่...” และถึงแม้จะมีมือเล็กจับมือใหญ่เอาไว้ แต่ก็ขัดขวางไม่ให้ปลายนิ้วยาวใหญ่ขยับไล้ผิวเนื้อขาวนวลเนียนได้ อีกทั้งใบหน้าคมโน้มลงไป ริมฝีปากอุ่นร้อนขบเม้มปลายติ่งหูนุ่ม
“ฉันต้องการตัวเธอไง สาวน้อย”
เท้าเรียวยาวก้าวถอยไปด้านหลัง แต่แขนใหญ่กลับดึงรั้งเอาไว้ และรัดด้วยแขนแข็งแกร่งเหมือนกับคีมเหล็ก ร่างหนาดันร่างบางแนบชิดผนังห้อง ขาแข็งแกร่งข้างหนึ่งแทรกระหว่างลำขาเรียวยาวที่พยายามจะยกเท้าขึ้นประทุษร้าย พร้อมเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ
“คิดทำร้ายกัน...ไม่กลัวโดนเอาคืนหรือไงมัดหมี่” ใบหน้าคมซบซุกกับลำคอระหง ขบเม้มผิวเนื้อขาวเนียนเบาๆ พอให้เป็นรอยเหมือนกับโดนใครจูบมาเพื่อตีตราจอง “จำไว้นะมัดหมี่ ต่อไปนี้ห้ามให้ใครมาทำแบบนี้กับเธออีก ถ้าไม่เชื่อรับรองได้ว่าฉันจะขังเธอไว้บนเตียงทั้งคืนแน่สาวน้อย”
ปากหนาอุ่นประกบลงบนเรียวปากนุ่ม บดคลึงเต็มๆ แรง ก่อนปลายลิ้นจะซอกซอนเข้าไปควานหาความหวานปานน้ำผึ้งภายในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่ลากไล้วนเวียนจิกทึ้งดึงเอาชุดสวยหล่นไปกองที่เอวคอดกิ่ว ส่วนชั้นในตัวเล็กก็ตกลงไปกองอยู่ปลายเท้า มือใหญ่ฟอนเฟ้นปทุมถันอวบอิ่มตั้งแต่ฐานรากจนถึงปลายยอดเม็ดบัวสีเข้ม กดคลึงจิกทึ้งตามแรงอารมณ์ที่ปะทุออกมา
ปิยาพัชรถึงกับเขาอ่อน ร่างน้อยไร้เรี่ยวแรงและสั่นไหวเหมือนกับสนต้องลมพายุร้าย สองมือจิกทึ้งเสื้อตัวใหญ่ ลมหายใจหอบแรงเหมือนกับคนที่กำลังจะจมน้ำ ปากอวบอิ่มอ้าออกเพื่อสูดเอาลมหายใจเข้าปอด แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ฟารฮานใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม
ริมฝีปากหนาร้อนประทับจุมพิตเคลื่อนไปตามจมูกโด่ง ดวงตากลมโต ขบเม้มติ่งหู ปลายลิ้นสากร้อนซอกซอนเข้าไปในช่องหนูนุ่ม ซุกไซ้ขบเม้มไปตามผิวกายเนียนหอมและอย่างไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะมีใครมองมัดหมี่ของเขา
ริมฝีปากหนาประทับไปบนบัวตูมเต่งตึง ปลายลิ้นตวัดไล้ปลายยอดถันสีเข้มเต็มแรงอารมณ์ปรารถนาที่ลุกโชติ ขบเคลื่อนไปประทับบนเรียวปากนุ่มบดคลึงแรงๆ อยู่สองสามครั้ง จึงได้ยอมปล่อยร่างน้อยให้เป็นอิสระ แต่ก็ยังไม่คลายอ้อมแขนใหญ่ เพียงแค่คลายออกเล็กน้อยให้ปิยาพัชรได้หายใจหายคอสะดวกขึ้นเท่านั้นเอง
“คุณ...ปล่อยมัดหมี่นะ!” ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ปิยาพัชรจึงได้แต่ขอร้องเสียงแผ่ว ด้วยเกรงกลัวภัยจากหนุ่มร่างใหญ่ที่ยังคงอิงแอบแนบชิด อีกทั้งปลายนิ้วยาวใหญ่ยังลากไล้วนเวียนบริเวณเนินทรวงสล้าง ใบหน้าสวยรีบเบือนหนีเมื่อจมูกโด่งคมกดลงบนแก้มนุ่ม
“อยากให้ฉันปล่อยเธอจริงๆ หรือมัดมี่ ฉันว่าไม่ใช่มั้ง เพราะตัวเธอ...” มือใหญ่ลากไล้แผ่วเบาไปตามเรือนกายสั่นไหวระริก
“ปะ...ปล่อยมัดหมี่นะคะ...”
“ก็ได้”
สิ้นเสียงทุ้มแหบห้าวปิยาพัชรแทบจะถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่แล้วริมฝีปากอวบอิ่มก็ต้องอ้าออก ดวงตาเบิกกว้าง
“แต่คืนนี้เธอต้องไปต่อกับฉันนะสาวน้อย...”
“มะ...ไม่นะคะ มัดหมี่ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณคิดนะคะ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้น แค่คืนนี้ฉันอยากอยู่กับเธอนี่นา” ถึงแม้ปากจะพูดไป แต่มือใหญ่ก็ยังคงทำงานอย่างไม่ยอมให้สองปทุมถันอวบอิ่มได้อยู่อย่างสบาย ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้กดคลึงปลายยอดถันสลับซ้ายและขวา ในขณะที่อีกมือก็ลากไล้ลงไปบีบนวดลำขาเรียวยาว
ปิยาพัชรพยายามครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ แล้วคำพูดพี่สาวก็แว่วเข้าหูมา แล้วถึงจะไม่แน่ใจว่าคำพูดหวานๆ และท่าทางเอียงอายมีจริตที่พี่สาวแนะนำนั้นจะใช้ได้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหรือเปล่า แต่ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้ลองดู
ใบหน้าสวยค่อยๆ แปรเปลี่ยนจากตื่นตระหนกและซีดเผือดเป็นยิ้มหวานและเอียงอาย มือเล็กค่อยๆ ลากไล้ไปตามแขนใหญ่อย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว หัวใจเต้นแรงและเร็วเหมือนกับจะทะลุออกจากอก ริมฝีปากขบเม้มจนแทบจะห้อเลือด ในดวงตาเปล่งประกายเหมือนเป็นมีดแหลมคมบาดลงไปบนกายใหญ่
“อยากอยู่กับมัดหมี่ ทำไมคุณถึงไม่ยอมแนะนำตัวและก็คุยกันดีๆ ล่ะค่ะ ทำแบบนี้มัดหมี่ตกใจ...อาจถึงขั้นเกลียดและกลัวคุณไปเลยก็ได้นะคะ”
คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นสูง เมื่อเห็นสาวน้อยที่เคยหวาดกลัวเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน แต่ด้วยความจัดเจนก็ให้รู้ว่าหญิงสาวข่มความอายและกลัวไว้ภายใน ดึงเอาความกล้ามาต่อสู้กับเขา ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ไปตามใบหน้าเนียนนุ่ม และหยุดบนเรียวปากอิ่มเต็ม