ผมตอบปัดเรื่องนี้และโฟกัสเรื่องงานตรงหน้าให้เสร็จก่อนที่ลูกค้าจะมารับรถก่อนอู่ปิด ผมแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกดังนั้นพอเลิกคิดเรื่องนี้ไปก็ทำงานของตัวเองเสร็จเรียบร้อยก่อนที่ลูกค้าจะมารับประมาณครึ่งชั่วโมง ผม ไอ้แต้งท์และไอ้เอ็มนั่งดื่มน้ำกันพลางเอาน้ำเย็นๆ รดศีรษะตัวเอง
“คิง”
“ครับ” เงยหน้าสบตากับเฮียเข้มที่เดินลงมาเช็กรถที่ผมทำอีกรอบ “รถเรียบร้อยดีครับ”
“โอเค” เฮียเข้มสบตากับผมพลางระบายยิ้ม “หน้าเราเวลาไม่มีรอยแผล ดูหล่อดีนะ”
“ขอบคุณครับ”
“เลิกได้เลิกซะนะ เพื่ออนาคตของตัวเอง”
ทุกครั้งเฮียเข้มมักจะเตือนผมด้วยความหวังดี เพื่อที่จะให้ตระหนักว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิดมากแค่ไหน หากแต่ว่าเฮียเข้มเคยผ่านมามันไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเลิกก็เลิกได้ง่ายๆ แต่มันอยู่ที่ศักดิ์ศรีเสียมากกว่า เกิดกลับตัวกลับใจตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วล่ะ ผมเดินมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับ
“เอาล่ะ วันนี้เหนื่อยมามากพอแล้ว กลับไปพักผ่อนได้” เฮียเข้มบอกเราสามคนที่ยกมือไหว้จากนั้นก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อช้อปสีเทามาสวมล้างมือและล้างหน้าเตรียมตัวที่จะกลับห้อง ซึ่งไอ้หม่องกับไอ้ชุนไปรอผมที่หน้าห้องแล้วเนื่องจากนัดกันกินเหล้าและเล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย ผมสตาร์ทรถโดยมีไอ้เอ็มนั่งซ้อนท้ายเนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์มันต้องซ่อมด่วนก็เลยอาศัยไปกับผมบ้าง ไอ้แต้งท์บ้าง
รถ Harley-Davidson ของผมจะเป็นสีดำส่วนของไอ้แต้งท์จะเป็นสีแดง เป็นรุ่นเดียวกันเลย ซึ่งรถคันนี้ราคาเจ็ดแสนกว่าบาทได้เป็นของขวัญจากป้าวิไลที่รักผมมาก แบบอยากได้อะไรก็ซื้อให้หมดพร้อมส่งเงินมาให้ผมกับเคลียร์ใช้กันเสมอๆ บวกกับสมบัติของพ่อและแม่ที่ทิ้งเอาไว้ด้วย แต่ป้าวิไลไม่มีเวลาอยู่กับพวกเราดังนั้นท่านก็เลยมักจะโทรมาถามไถ่เรื่องของผมกับเคลียร์ เนื่องจากผมไม่ค่อยรับสายใครแม้แต่เคลียร์หรือป้าวิไลก็ตามที รถของผมกับไอ้แต้งท์จอดติดไฟแดงซึ่งพื้นถนนเต็มไปด้วยน้ำฝนที่เทกระหน่ำลงมาก่อนหน้านั้น
“หยุดนะเว้ยมึง!” ผมหันไปมองเห็นเด็กช่างต่างสถาบันกำลังวิ่งไล่ตีคู่อริที่วิ่งหนีตายผ่านหน้าผมกับไอ้แต้งท์และไอ้เอ็มไป หากแต่ว่าพอมองเสื้อช้อปและตาสัญลักษณ์ของวิทยาลัยก็เบิกตากว้าง
“เหี้ย นั่นมันเด็กวิทลัยเรานี่หวา”
“แม่ง! รุ่นน้องเราปะวะ ไอ้สัตว์”
“ขับตามไปดิ” ผมไม่รอให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวหักเลี้ยวรถขับตามกลุ่มเด็กช่างที่วิ่งไล่ตีเด็กวิทยาลัยเดียวกับผม จากนั้นพวกมันก็พร้อมจะใช้อาวุธในมือฟาดรุ่นน้องวิทยาลัยเดียวกับผมจริงๆ ด้วย
“หยุดนะเว้ยไอ้พวกหมาหมู่!” ไอ้แต้งท์เปิดเบาะและคว้าไม้หน้าสามที่พกติดตัวมาพร้อมสนับมือ พลางเอาไม้ชี้หน้ากลุ่มเด็กช่างต่างสถาบันที่สวมช้อปสีน้ำตาลเข้ม “กล้าไล่ตีรุ่นน้องกูหรือไง?”
“รุ่นพี่คิง” รุ่นน้องสองคนที่โดนตีจนเลือดออกหัวและแขนก็เขียวช้ำ ก่อนจะวิ่งมาขอความช่วยเหลือจนผมลงจากรถมอเตอร์ไซค์และรับไม้จากไอ้เอ็ม
“คิง เด็กช่างยนต์ที่เป็นอริกับพี่โยปะวะ!”
“ใช่”
“อ๋อ ที่มึงแย่งเมียพี่โยอะนะ หน้าตาแบบนี้เอง”
“จะแก้แค้นแทนไอ้โยหรือไง มาดิ คิดว่าคนเยอะกูจะไม่กล้าหรือไง พวกมึงน่ะรู้จักกูน้อยไปแล้ว” ผมเดินไปหยุดมองหน้าหัวโจกเด็กช่างที่เตี้ยกว่าผม จากนั้นก็กระชากคอเสื้อมัน “มึงทำรุ่นน้องกู รับผลกรรมไปซะ!”
ถึงจะคนน้อยกว่าแต่ผมก็สู้ไม่ถอย แม้แต่รุ่นน้องที่ไม่มีอาวุธที่หนีตายก่อนหน้านั้น กลับคว้าอะไรที่อยู่ข้างทางติดไม้ติดมือมาช่วยกันรุมตีกับเด็กช่างต่างสถาบัน พวกเรารุมตีกันจนยับ สภาพผม ไอ้แต้งท์และไอ้เอ็มคือเลือดไหลอาบหน้า ดวงตาปูดเขียวช้ำไม่ต่างจากผมที่มุมปากแตกและเจ็บโหนกแก้มของตัวเอง
หากแต่ว่าพอมองสภาพเด็กช่างต่างสถาบันเจ็บหนักยิ่งกว่าผม พวกนั้นรีบพากันวิ่งหนีไปทันทีก่อนที่พ่อแม่งจะมาจับน่ะสิ ดังนั้นพวกผมก็เลยขับมอเตอร์ไซค์พารุ่นน้องไปที่รถจอดทิ้งไว้ไกลพอควร รุ่นน้องวิทยาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละสาขาขอบคุณผมและเพื่อน จากนั้นผมก็บอกว่าเลิกเรียนให้ถอดเสื้อช้อปกับเข็มขัดออกทันที พวกนั้นก็ฟังผมนะบอกว่ามีผมเป็นไอดอลไปอีก แหงสิ ผมดังมากในวิทยาลัยไม่ใช่แค่เรื่องต่อยตี รวมไปถึงท็อปที่สุดในวิทยาลัยแก๊งผมโด่งดังมากดังนั้นรุ่นน้องจะไม่รู้จักก็คงจะไม่แปลก
“ดีนะที่ผ่านมาเห็น ไม่อยากจะคิดถ้าหนีไม่ทันแม่งกูว่ามันฟันเด็กพวกนั้นยับแล้ว”
“ทำไมไอ้โยยังมีชื่อโผล่มาอีก มันโดนจับเข้าซังเตไปแล้วไม่ใช่เหรอไอ้คิง ตั้งแต่ตอนทำร้ายพี่เคลียร์” ไอ้เอ็มเอ่ยถามผมขณะที่เราสามคนมาถึงคอนโดในเวลาต่อมา ไอ้ชุนกับไอ้หม่องเห็นสภาพพวกเราก็คันไม้คันมืออยากจะอยู่ในเหตุการณ์
“พ่อแม่มันมีเงิน”
“อ๋อ เข้าใจล่ะ แต่มันก็หายไปเลยไหม?”
“ไม่รู้ว่ะ” ตอบไอ้เอ็มพลางกระดกเหล้าที่ชงเข้มๆ ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว “ขืนมันมายุ่งกับเคลียร์อีก รอบนี้คือกูเอาตายแน่ ไม่ปล่อยไว้แม่งละ”
“มันคงจะแค้นมึงเรื่องโรสหรือเปล่า?” คำถามนี้เป็นของไอ้ชุน “ยัยนั่นก็ติดมึงจัง”
“ไอ้คิงมันแซ่บขนาดนั้น แถมยังหล่อลากไส้ มึงคิดว่ายัยโรสจะปล่อยมันไหมล่ะ”
“เออจริง”
“แต่นี่คือมึงคิดมากเรื่องช้อปเด็กช่างกลที่ขนมผิงสวมอยู่ใช่มะ ดูหนังหน้าก็รู้แล้ว คิ้วผูกเป็นโบว์เชียว” ไอ้หม่องเอานิ้วจิ้มมาที่หัวคิ้วจนผมนิ่วหน้า ไอ้เวรจิ้มมาตรงแผลที่โดนตีทำหอกอะไร “หึงหรือไง”
“ไอ้หม่อง”
“มึงก็อย่าไปพูดแบบนั้นปะ ไอ้คิงมันไม่ชอบ” ผมมองไอ้แต้งท์ที่พ่นควันบุหรี่ออกจากริมฝีปากพลางอมยิ้ม “ทั้งที่อาการออกขนาดนี้ ฮ่าๆ”
“พวกมึงอยากโดน?”
“หึงก็บอกว่าหึงดิ จะเก๊กหล่อทำเหี้ยอะไร” ไอ้เอ็มเอาตีนถีบไหล่ผมขณะที่มันนอนกดจอยเกมอยู่อย่างเมามัน
“เลิกเล่นกับใจของขนมผิงเหอะ สงสารว่ะ ชอบมึงมาตั้งนานได้แค่เอาแต่ไม่ได้ใจ” ปิดท้ายด้วยไอ้ชุนที่จัดการถ้วยบะหมี่ที่เคลียร์ซื้อมาไว้ให้ผมกินจนหมดไปสองถ้วย “คบกันไปเลยจบๆ”
“คบได้ที่ไหน กูไม่ได้ชอบผิง”
“เดี๋ยวก็ชอบ เพราะอาการมึงออกแล้ว”
“กูไม่คุยกับพวกมึงละ รำคาญ!”
“โทรหายัยโรสให้มาคลายอารมณ์เหงาดิ จะได้หายรำคาญพวกกู”
ผมผลักหัวไอ้แต้งท์และเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะเข้าห้องน้ำมามองตัวเองในกระจกที่ใบหน้าตอนนี้เต็มไปด้วยความรอยเขียวช้ำและมุมปากที่แตกจนเลือดแห้งกรัง ทั้งที่วันนี้เฮียเข้มเพิ่งจะชมไปว่าหน้าผมไม่มีแผลน่ะดีที่สุด ผมจ้องมองตัวเองในกระจกเกิดคำถามขึ้นมาในหัวว่า... ที่ผมทำแบบนี้มันได้อะไรนอกจากเจ็บตัว จำต้องสลัดความคิดนี้ออกไปแม้มันจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลังจากตอนที่เคลียร์เจ็บตัวเพราะสิ่งที่ผมทำ
ถึงยังไงผมก็ไม่มีหรอกความรักน่ะ เพราะตัวผมเองยังต้องหนีตายไปวันๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปปกป้องใคร ถึงจะทำให้ขนมผิงต้องรออย่างไร้จุดหมายผมก็ห้ามเธอไม่ได้ ความรู้สึกของเธอมันเกิดขึ้นจากตัวของเธอ จะให้ผมไปบอกว่าห้ามรู้สึกมันก็ยิ่งไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ความดีของขนมผิงและความห่วงใยที่เธอมีต่อผมมันดีมากเลยนะ
ยกเว้นก็แต่... เธอไม่มีวันได้หัวใจของผม ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่มีวันได้มันหรอก เพราะเราสองคนไม่สามารถคบหากันได้ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งพ่อเธอ ทั้งคู่อริของผม สิ่งที่เราเป็นอยู่มันดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากเอาความผูกพันไปผูกมัดกับใคร ไม่เช่นนั้นผมจะระแวงมากกว่าเดิม ให้ทุกคนเห็นนั่นแหละว่าผมอยู่ตัวคนเดียว จะได้ไม่มีใครเอาคนรอบข้างผมไปใช้ต่อรองหรือทำร้ายและเอาไปเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรองกับผม มันเป็นแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว
“ขนมผิง”
เข้าใจฉันด้วยนะ ฉันอยากให้เธอเข้าใจว่าฉันมีเหตุผลของตัวเองที่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจดี
*----------------------------------------------------------*