ตีสองฉันกลับมาถึงบ้าน วันนี้ลูกค้าเยอะมาก มีการเซอร์ไพรส์ขอเป็นแฟนกันที่ร้านด้วย โดยรวมแล้วคือน่ารักดีสำหรับคนที่ไม่เคยมีแฟนแบบฉัน
“วันนี้กลับดึกจังเลย” เสียงของพี่ทรายดังขึ้นเมื่อฉันปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว
“ลูกค้าเยอะค่ะ” ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำน้ำเสียงไม่พอใจแบบนี้ด้วย พี่ทรายเขาก็แค่ถามปกติไหมอ้อมรัก
“หิวข้าวไหมครับ”
“ไม่ค่ะ อ้อมง่วง ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ฉันเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวและรีบเดินเข้าห้องน้ำ
บ้าหรือไงอ้อมรัก ไปแสดงท่าทีแบบนั้นใส่พี่เขาทำไมกัน
ฉันว่าฉันต้องบ้าแล้วแน่ ๆ ที่มีอาการแบบนี้
ฉันขลุกตัวอยู่ในห้องน้ำประมาณ 20 นาที พยายามสงบสติอารมณ์ แต่พอในหัวจินตนาการว่าภายในห้องสักของพี่โยพี่ทรายเขาอาจจะทำอะไรที่มันมากกว่าการสัก หรือ บางทีอาจจะไม่ได้ทำแบบที่ฉันคิด แต่มีการเห็นเนื้อหนังมังสาของฝ่ายหญิง แค่มโนเพ้อเจ้อฉันก็หงุดหงิดคนที่นอนอยู่ด้านนอกเอามาก ๆ
ที่อยากทำงานคือต้องการจะพบเจอคนอื่นนอกจากฉันใช่ไหม
“แต่เดี๋ยวอ้อมรัก พี่เขาจะอยากทำอะไรก็ชีวิตของเขาไหม เธอเกี่ยวอะไรอ้อมรัก” เป็นการพึมพำหน้ากระจกอย่างน่าอาย ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกแบบนี้กับพี่เขา
นี่มันเป็นความรู้สึกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครเลย
“น้องโกรธอะไรพี่หรือเปล่าอ้อมรัก” เดินออกมาจากห้องน้ำคำถามนี้ก็ออกมาจากปากของพี่ทราย ซึ่งตอนนี้พี่เขานอนอยู่ที่ฟูกนอนข้างเตียง คือฉันกลับไปนอนบนเตียงประมาณหนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่าพี่เขาเกรงใจ
“ไม่นะคะ ทำไมอ้อมต้องโกรธพี่ด้วย” แล้วทำไมต้องปากแข็งอะอ้อม ทำไมไม่เคลียร์ความรู้สึกของตัวเองล่ะ อยากอึดอัดแบบนี้หรือไง
“ไม่รู้สิ พี่แค่คิดว่าวันนี้อ้อมแปลกไป แล้วตั้งแต่เช้าเราก็เพิ่งจะได้เจอกัน แต่อ้อมไม่ยิ้มให้พี่เลย พี่ทำให้อ้อมอึดอัดใช่ไหม”
“...” ฉันยืนมองหน้าพี่ทรายด้วยความหงุดหงิดที่มันก่อกวนภายในจิตใจหนักขึ้นเรื่อย ๆ และอยากจะรู้ว่าพี่เขาจะพูดอะไร
“คือพี่ลองคุยกับพี่โยแล้ว”
“เรื่องอะไรคะ”
“พี่ขอพี่โยย้ายไปนอนที่ร้าน พี่ไม่อยากให้อ้อมลำบากใจ พี่เกรงใจอ้อม ที่ผ่านมาพี่รบกวนอ้อมมามากแล้ว”
ทำไมรอบดวงตาของฉันมันร้อนผะผ่าว
ทำไมรู้สึกเสียใจล่ะ
ทำไมถึงอยากร้องไห้แบบนี้
อาการแบบนี้ฉันว่ามันใช่แน่ ๆ แล้ว
ฉันกำลัง ‘ตกหลุมรัก’ ชายแปลกหน้าที่ฉันเคยช่วยเหลือเขา
ความรักไม่เกี่ยวกับเวลาอันนี้คือเรื่องจริงสินะ
“เอาตามที่พี่สบายใจเลยค่ะ อ้อมยังไงก็ได้ งั้นอ้อมขอตัวนอนนะคะ วันนี้ลูกค้าเยอะ เพลียมาก” ฉันรีบเดินเอาผ้าขนหนูไปเก็บแล้วเดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียง ขยับตะแคงมาอีกฝั่งที่ห่างจากพี่ทรายนอน
เขากำลังจะไป กำลังจะเดินหายไปจากชีวิตของฉันทีละนิด แล้วต่อจากนั้นไม่นานชีวิตของฉันก็จะไม่มีเขาอีกต่อไป เหมือนก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยมีเขามาก่อน
แล้วสุดท้ายฉันก็เป็นคนที่ไม่เหลือใครอีกเหมือนเดิม
ไฟในห้องดับลงโดยที่พี่ทรายเป็นคนปิด ภายในห้องเงียบสงัด มีเพียงเสียงคลื่นที่กระทบหาดทรายจากด้านนอก
ฉันนอนมองผนังห้องที่มืดสลัวเนื่องจากว่านอนเท่าไหร่ก็หลับไม่ลง ซ้ำน้ำตายังไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เพียงแค่คิดว่าต่อจากนี้เราจะไม่ได้หายใจในพื้นที่เดียวกันฉันก็ไม่สามารถสั่งห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้
พรึบ!
แสงจากโคมไฟสว่างจ้า พร้อมที่นอนยุบยวบยาบ
“ร้องไห้ทำไมครับ” ฉันสะอื้นแรงไปงั้นเหรอ พี่ทรายถึงได้รู้ว่าฉันร้องไห้
“...”
“อ้อมรักลุกขึ้นมาคุยกัน น้องร้องไห้ทำไม ใครว่าอะไรน้องครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้อีกไม่นานก็จะไม่ได้ยินอีกแล้วสินะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้เลยฉัน
“...”
“อ้อมรัก”
“อ้อมจะนอนค่ะ พรุ่งนี้จะตื่นไปเรียนไม่ทัน” ฉันพูดด้วยเสียงที่แหบขึ้นจมูก
“พรุ่งนี้มีเรียนบ่ายพี่จำได้” มือหนายื่นมาจับที่ต้นแขนของฉัน “ลุกมาคุยกันเร็ว พี่อยากช่วยน้องบ้าง น้องช่วยพี่มาเยอะแล้ว”
ฉันดีดตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อพี่ทรายพูดจบ จากนั้นฉันก็เป็นฝ่ายพูดบ้าง
“เลิกพูดเรื่องบุญคุณ เรื่องความเกรงใจสักทีได้ไหมคะ อ้อมไม่อยากฟัง แล้วที่อ้อมช่วยก็เพราะว่าอยากจะช่วย อ้อมไม่ได้อึดอัดหรือลำบากใจอะไรทั้งนั้น พี่มีแต่อ้างว่าเกรงใจอ้อม กลัวอ้อมลำบากใจ จริง ๆ แล้วเป็นพี่เองหรือเปล่าที่อยากจะไป”
กลายเป็นพูดทั้งน้ำตา ซ้ำยังเบะปากร้องไห้เหมือนเด็ก พี่ทรายมองหน้าฉันด้วยสีหน้าที่ตกใจก่อนที่เขาจะโน้มตัวฉันเข้าสู่อ้อมกอดของเขา มือข้างหนึ่งโอบกอด อีกข้างลูบที่ศีรษะอย่างอ่อนโยน ผ่านไปสักพักพี่ทรายจับตัวฉันขยับออกเล็กน้อย มือสองข้างประคองที่แก้มฉัน
“ขี้แงแบบนี้พี่จะอยากทิ้งไปได้ไง ไหนลองบอกพี่ซิว่าที่ร้องไห้เนี่ยใช่เรื่องที่พี่บอกว่าจะย้ายไปนอนที่ร้านพี่โยใช่ไหมครับ” ดวงตาหวานเยิ้มกำลังมองมาที่ฉัน หัวใจของฉันมันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่รอมร่อ
ฉันรีบก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา จึงมองเห็นแค่เพียงกลีบปากกระจับคล้ายริมฝีปากของผู้หญิง
“ตอบพี่สิครับอ้อมรัก มันใช่อย่างที่พี่คิดไหม หรือว่าเป็นพี่ที่คิดไปเอง” นิ้วชี้ของพี่ทรายเชยปลายคางของฉันขึ้น ทำให้เราสบตากัน
“พี่คิดอะไรคะ”
“ก็คิดว่าเราสองคนกำลังคิดเหมือนกันไหม อ้อมรู้สึกแบบที่พี่รู้สึกไหม พี่รู้ว่าเราอาจจะรู้จักกันไม่นาน แต่พี่คิดว่าพี่ชอบอ้อม”
“เอ่อ...” อะไรกัน สถานการณ์ตอนนี้มันอะไรกัน ฉันรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเลย รู้สึกเหมือนท้องไส้เริ่มปั่นป่วน
“คือพี่รู้ว่าพี่ไม่สมควรพูดเรื่องแบบนี้ทั้งที่ตัวของพี่ยังจำอะไรที่เกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พอพี่เห็นว่าอ้อมร้องไห้หลังจากที่พี่บอกเรื่องจะย้ายไปนอนร้านพี่โย พี่ก็อดที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้”
“...”
“อ้อมรักครับ คือพี่ไม่รู้ว่าพี่เป็นใคร และพี่ก็ไม่สนใจอดีตแล้วด้วย ตอนนี้พี่มีแค่อ้อม อ้อมเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับพี่ อ้อมสำคัญที่สุดสำหรับพี่ ช่วยบอกพี่สักนิดได้ไหมว่าน้องรู้สึกแบบพี่หรือเปล่า”
“ค่ะ” อะไรดลใจให้ตอบออกไปแบบนั้น ตอบแบบนี้จะไม่ดูใจง่ายเกินไปหรือไงอ้อมรัก
“ขอบคุณ ขอบคุณครับ” พี่ทรายคว้าตัวของฉันเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง ฉันได้ยินเสียงหัวใจของพี่เขาที่เต้นแรงมาก หรือว่าจะเป็นเสียงหัวใจของเราทั้งสองคนกันนะ
พี่ทรายผละกอดออกพร้อมใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม จากนั้นพี่ทรายขยับตัวลงไปด้านล่างตรงที่นอนของตัวเอง เขาจับล้วงเข้าไปใต้หมอนและกลับมานั่งที่เตียงเหมือนเดิม
“หลับตาให้พี่หน่อย พี่มีอะไรจะให้” ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของพี่เขาทำให้ฉันตัดสินใจหลับตาตามที่พี่เขาบอก
เสียงดังกอกแกกเสี้ยวนาทีพี่ทรายก็บอกว่า “ลืมตาครับ”
ฉันลืมตาขึ้นตามที่พี่ทรายบอก และได้เห็นเชือกสีดำที่ถักเป็นสร้อยพร้อมตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เขียนว่า ‘aomruk’ ห้อยอยู่ตรงกลาง ส่วนอีกเส้นเป็นอักษรภาษาอังกฤษห้อยอยู่เช่นกัน คำว่า ‘sine’
“คืออะไรคะ”
“เมื่อตอนสาย ๆ ที่ร้านพี่โยมีลุงมาขายสร้อยแล้วก็ให้เราเลือกอักษรใส่เข้าไป พี่เห็นปฏิทินที่ร้านพี่โยเขียนไว้ว่าวันวาเลนไทน์ พี่ก็เลยเบิกเงินพี่โยล่วงหน้ามาซื้อสร้อยเก็บไว้เป็นชื่อของพี่กับชื่อของอ้อม แล้วคราวนี้พี่ก็ไม่รู้ว่าจะให้อ้อมยังไงดี พี่ก็เลยเก็บเอาไว้ก่อน”
“...”
“อ้อมรักฟังพี่นะครับ” มือของพี่ทรายสั่นเล็กน้อย
พี่เขากำลังตื่นเต้นสินะ
“...” ฉันเองก็ตื่นเต้นจนไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน
“สร้อยเส้นนี้ไม่ได้มีราคาอะไรเลย อ้อมจะยินดีใส่มันไว้ตลอดไหม”
“...”
“ถ้าอ้อมยินดีจะใส่ไว้ พี่จะถือว่าอ้อมตกลงเป็นแฟนกับพี่”
“พี่กำลังขออ้อมเป็นแฟนอยู่เหรอ ช่วยพูดให้ชัดเจนได้ไหม อ้อมไม่เข้าใจ” ฉันแค่คิดว่าตัวฉันเองเงียบนานเกินไป ก็เลยต้องพูดอะไรออกมาบ้าง
“มันอาจจะเร็วเกินไป แต่พี่อยากถามว่าเรามาเป็นแฟนกันไหมครับ วันนี้พี่อาจจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่พี่สัญญาว่าพี่จะสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของพี่ จะไม่ทำให้อ้อมน้อยหน้าใคร ช่วยมาเป็นเจ้าของหัวใจของพี่ ให้พี่ได้มีกำลังใจในการสร้างทุก ๆ อย่างได้ไหมครับอ้อมรัก”