เช้าวันจันทร์
"อรุณสวัสดิ์ครับคุณเลขา"
การันต์ทักทายเลขานุการหน้าห้องที่เป็นภรรยาตัวเองด้วยน้ำเสียงหวานใสอารมณ์ดีสุดๆ เขาเข้าออฟฟิศมาตอนสิบโมงเช้าหลังเธอประมานหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากวันนี้การันต์มีนัดกับลูกค้าตอนเช้าเลยมาออกมาหลังเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเดินอมยิ้มมาแต่ไกลๆ
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
กอบัวยิ้มทักทายเขากลับยังไม่กล้าสบตาเขามากนักเนื่องจากยังเขินที่เมื่อคืนนั้นแทบจะไม่ได้พักเพราะเขากวนเธอทั้งคืน
"เมื่อคืนนอนหลับสบายดีมั้ยครับ?"
การันต์ในชุดสูทอย่างหล่อส่งสายตาวาววับประกายระยิบระยับนั้นมาลวนลามเธออยู่ แต่กอบัวยังแกล้งทำเป็นหน้านิ่งเพราะเกรงว่าจะมีคนมาเห็น
"ไม่ค่อยสบายเท่าไหรค่ะ"
อดที่จะตอบอย่างประชดเขาอย่างน่ารักไม่ได้เพราะว่า เขาก็รู้คำตอบอยู่แล้วยังจะมาถามเธอแปลกๆอีก
"ทำไมล่ะครับ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?"
ยัง ยังจะเล่นไม่หยุดถามเธออย่างหน้าตาย แต่สายตาคู่นั้นเล่นเอากอบัวหน้าแดงผ่าวเพราะหันไปมองรอบๆเหมือนกับมีสายตาคู่อื่นๆกำลังแอบมองจับจ้องอยู่จากทุกมุมของออฟฟิศ แล้วเขายังมายืนทะลึ่งอยู่ตรงนี้ เธอเอาคลิปบอร์ดบังหน้า
"ไปทำงานได้แล้วค่ะท่านประธาน"
หญิงสาวกระซิบบอกเขาเสียงแผ่วเบาอย่างเขินๆ หน้ายังคงแดงปลั่งราวกับสีเลือด การันต์มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่อบอุ่นรู้สึกมีความสุขที่ได้แซวแกล้งเธอเล่น
"ครับเมีย"เข้าก้มลงมาแอบหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด
ฟอด!
"ชื่นใจจัง"
กอบัวตาเบิกโพลงกวาดสายตามองรอบๆว่ามีคนเห็นมั้ย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจแต่ความจริงแล้ว มีนั่นแหละแต่แต่พอเธอหันไปก็หลบทันกันหมด เห้อ!นี่แหละอรรถรสของพนักงานในออฟฟิศ
"ยังอีก ไปได้แล้วค่ะ"
กอบัวมองค้อนเขาแล้วรีบไล่เข้าห้องไปการันต์ยิ้มกว้างอย่างพอใจแล้วเปิดประตูเดินอัมเพลงเข้าไปพร้อมเต้นไปตามจังหวะอย่างคนคนอารมณ์ดี
เขายกแขนสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจไปมา แต่ใบหน้าหล่อคมลูกครึ่งนั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอย่างคนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ซึ่งนานทีปีหนกว่าเขาจะอารมณ์ดีแบบนี้
"ท่านประธานครับ"
คนที่นั่งรออยู่บนโซฟาหัวเราะร่า
"ห้ะ!...มาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่?"การันต์ผงะอย่างตกใจ
ภานุผู้ช่วยที่รออยู่ก่อนแล้วถึงกับหัวเราะซ้ำออกมาอีกที เขาเห็นท่านประธานอารมณ์ดีเต้นส่ายไปส่ายมาเมื่อสักครู่
หมดภาพลักษณ์ผู้ชายเคร่งขรึมสุขุมเย็นชาหมด ภานุเห็นแบบนั้นก็อดที่จะขำขันออกมาเสียงดังไม่ได้
"ก็ท่านประธานบอกให้นุมารอในห้องนี่ครับ เอ่อ...แต่ว่าวันนี้ท่านประธานไม่ได้เจ็บป่วยอะไรตรงไหนใช่มั้ยครับ?"
ภานุมองสำรวจคนตรงหน้าที่ตอนนี้หันมาคีฟลุคปกติแล้ว หน้านิ่งเคร่งขรึมดูน่าเกรงขามเหมือนเดิมแต่สายตาคมเข้มเย็นเยียบชวนให้หนาวสะท้านกำลังแผ่รังสีอำมหิตใส่ภานุอยู่
"อุ้ย!"
ภานุถึงกับตกใจเมื่อสบกับสายตาพิฆาต
"อุ้ย!เป็นพี่หนุ่มกรรชัยเลยนะนุ เอ๋..นุครับนุ เดือนนี้เงินเดือนนุเหลือเท่าไหร่แล้วนะ?"
การันต์เอามือจับคางตัวเองแสร้งทำเป็นคิดใคร่ครวญจริงจัง
"เอ่อ ก็น่าจะสักห้าหมื่นครับ?"
ภานุก้มหน้าลงนิดหน่อยอย่างนอบน้อม แต่ทว่าก็ยังแปลกใจว่าท่านประธานถามถึงเงินเดือนทำไม แถมยังเรียกชื่อเล่นเขาเสียงอ่อนเสียงหวานอีก เหมือนแฝงแววอะไรแปลกๆ
"จากเก้าหมื่นเหลือห้าหมื่นงั้นเอาไปหมื่นเดียวพอมั้ย?"
นั่นไง!ว่าแล้วเชียว
"นุขอโทษครับท่านประธานอย่าหักเลยครับ เมียสามลูกสองของนุจะทำอย่างไรล่ะครับ?"
ภานุเมื่อถึงบางอ้อก็ก้มกำนับลงสองสามครั้ง ราวกับหนุ่มญี่ปุ่นอย่างคนที่กำลังสำนึกผิดจริงๆ เพราะหวงแหนเงินเดือนที่กลัวว่าจะโดนหักจนหมด
"อ้อ มีเมียแล้วงั้นเหรอ แล้ววันก่อนสุนัขตัวไหนมันบอกชั้นว่าไม่มีเมียนะ?"
"งื้อออ ท่านประธานครับนุผิดอีกแล้วครับ อย่าทำร้ายพนักงานตัวน้อยๆเลยนะครับ"
"ไปทำงานได้แล้วโน้นแฟ้มงานรายละเอียดอยู่ในนั้นแล้ว"
ท่านประธานยังคงกอดอกจ้องหน้าภานุนิ่งราวกับสั่งว่าถ้าเอาเรื่องที่เห็นเขาเต้นไปพูดเท่ากับตาย
"ครับๆ"
เมื่อภานุออกไปการันต์ถึงกับหัวเราะหึหึออกมาอย่างไม่คีฟลุคอีกแล้ว เขาเพียงแค่แกล้งแหย่ภานุเล่นเท่านั้น
เงินเดือนของภานุนอกจากไม่เคยหักแล้วยังเพิ่มพิเศษให้ทุกเดือน ยิ่งนับวันภานุกับเขากลายเป็นเจ้านายกับลูกน้องที่สนิทสนมกันมากขึ้น
ภานุนั้นได้รับรู้การันย์อีกมุมว่าเป็นคนใจดีมากๆคนหนึ่ง ถึงแม้ตอนเขามารับตำแหน่งแรกๆนั้นจะดูน่ากลัวน่าเกรงขามแค่ไหน
แต่ตอนนี้สำหรับภานุแล้วไม่ใช่เลย การันต์เป็นคนอบอุ่นเข้าใจคนอื่น ฉลาด ให้คำปรึกษาที่ดีแม้จะกวนๆแกล้งๆเขาบ้างในบางครั้งก็เถอะ
บ้านของศจี
ศจีที่ตอนนี้อยู่ในอารมณ์เศร้าสร้อยวันๆดื่มแต่เหล้าเพราะลูกตัวน้อยกับสามีนั้นกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่สามีแล้ว สรุปเขาบังคับให้เธอหย่าแล้วก็เอาลูกไป หญิงสาวไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้นข้างกายเธอตอนนี้แทบไม่มีใครเลย
"พี่ศจี"
ดาว น้องสาวของศจีมาเยี่ยมพี่สาวเนื่องจากติดต่อไม่ได้ แต่มาถึงก็เห็นสภาพพี่สาวที่ดูไม่ได้เช่นกัน ผมเผ้ารุงรังบนใบหน้ามีแต่คราบน้ำตาอย่างคนที่สูญสิ้นแล้วทุกอย่าง ดูแล้วน่าเวทนาสะเทือนใจน้องสาวอย่างเธอมาก
ดาวนักศึกษาปีสุดท้ายของมหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอนั้นรักพี่สาวของเธอมากเพราะมองว่าศจีเป็นไอดอลเป็นคนเก่งของเธอในทุกๆเรื่อง วันนี้ทราบมาว่าหย่ากับสามีเธอเป็นห่วงก็เลยรีบมาเยี่ยมเยือน
"ดาวๆ ช่วยพี่ด้วย พี่ไม่เหลือใครแล้ว"
เมื่อเห็นน้องสาวเข้ามาน้ำตาที่เหมือนว่าจะแห้งเหือดไปแล้วก็กลับมาไหลรินอีกครั้ง
"เล่าให้ดาวฟังค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้หมด"
เธอเข้าไปโอบกอดปลอบพี่สาวพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ ตอนนี้บนดวงตาของเธอก็กำลังจะมีน้ำตาเอ่อล้นออกมาเหมือนกัน
"พี่ พี่ไม่เหลือใครแล้ว กรก็เอาลูกไปจากพี่แล้วเหมือนกัน ดาวช่วยพี่ด้วย"
ดาวสาวมหาลัยวัยยี่สิบสองปี เธอมีใบหน้าที่สวยงามแบบเกาหลีพิมพ์นิยมเพราะผ่านการทำศัลยกรรมมามากมาย เนื่องจากความฝันของเธอคือการเข้าวงการบันเทิง ชีวิตของเธอเหลือพี่สาวกันแค่สองคน ปกติเธอนั้นอาศัยอยู่คอนโดและพี่สาวกับพี่เขยก็อยู่บ้านหลังนี้ หลังที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ชีวิตแต่งงานของพี่สาวและพี่เขยเธอจะล่มไม่เป็นท่าเพราะสาเหตุอะไรนั้นก็ต้องรอให้ศจีมีสติแล้วพูดออกมาให้หมด เธอถึงจะจัดการช่วยเหลือได้