ตอนที่ 9
“สบายดีครับ แล้วคุณป่านล่ะครับ” เจ้าของเสียงเผยยิ้มมุมปาก อารมณ์หงุดหงิดก็เริ่มเบาบางลง
“สบายดีมากเลยค่ะ คุณทามดูแลป่านอย่างดีเลยละคะ ดีจนป่านจะกลายเป็นคนขี้เกียจอยู่แล้ว” ตอบคำถามอีกคนแต่หันไปเหน็บแนมอีกคนที่ยิ้มกริ่มหน้าตาย ฝ่ามืออบอุ่นก็ลูบหน้าท้องนูนของภรรยาสาว
“โธ่ป่านจ๋า ผมก็ต้องดูแลคุณให้ดีสิจ๊ะ เพราะป่านคือดวงใจของผม” ว่าที่คุณพ่อลูกสามโต้กลับเสียงอ้อนๆ ฝ่ายภรรยาสาวก็พยักหน้าเอ่อออไปด้วย โดยมีลูกทั้งสองนั่งรับประทานอาหารเช้ากันเงียบๆ
“ทาม แกอย่ามาอ้อนเมียต่อหน้าฉันให้มันมากนักได้ไหม เห็นใจคนโสดอย่างฉันบ้างเถอะ ฉันก็อิจฉาเป็นนะ” ไรอันพูดแทรกขึ้นก่อนที่จะได้ยินคำหวานเลี่ยนของเพื่อนรักไปมากกว่านี้
เอเรสจึงหันไปถลึงตาดุใส่เพื่อน แล้ววกกลับมาหอมแก้มนุ่มของเมียรักเสียหลายฟอด พอได้แสดงความรักเหมือนเช่นทุกวันจนอิ่มเอมใจแล้ว มาเฟียหนุ่มก็ชวนเพื่อนรักออกไปนั่งคุยกันที่ระเบียงห้องพัก ก่อนไปก็ก้มลงกระซิบบอกเมียรักให้รับประทานอาหารเช้ากับลูกๆ ไปก่อน และหลังจากสองหนุ่มเดินออกมาหาที่นั่งคุยได้แล้ว ต่างฝ่ายต่างก็หันมองหน้ากันแล้วก็พากันหัวเราะครึกครื้น ไรอันหัวเราะเพราะขำที่เพื่อนรักจะก้มลงจูบเมียรัก แต่ถูกลูกสาวห้ามบอกว่าหม่ามี๊กำลังรับประทานอาหารอยู่ ส่วน เอเรสก็หัวเราะ เพราะขำลูกสาวของตนที่ชอบขัดเหลือเกินเวลาที่เขาจะสวีตหวานกับภรรยาสุดที่รัก
“หายหงุดหงิดบ้างหรือยังเพื่อนรัก ฉันจะได้คุยเรื่องด่วนกับแกซะที” เอเรสเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“หายแล้ว แต่แกนี่ก็เหลือเกินนะ ต่อหน้าลูกยังจะทำหวานใส่กันอยู่ได้ แล้วถ้าแกไม่อายลูก ก็หัดอายฉันบ้างก็ได้ ฉันมันคนโสด ลูกเมียไม่มีให้อ้อน บอกตรงๆ เห็นบ่อยๆ ฉันก็ชักจะอิจฉาแกแล้วสิ” ไรอันว่าพลางเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้มันวาวด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“เผอิญว่าฉันหน้าด้าน ส่วนแกก็ทำใจเถอะ เพราะฉันจะหวานกับป่านไปจนแก่เฒ่า เอาให้แกอิจฉาเล่นจนแกแก่นั้นแหละ ว่าแต่แกเถอะ เคลียร์งานที่บ้านเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ถามจบก็เอี้ยวหน้ามองเมียรักที่นำของว่างมาบริการ สามีหนุ่มเลยมอบจูบหวานแทนคำขอบคุณและถ้าไม่มีเสียงกระแอมจากไรอันดังขัดจังหวะ เอเรสก็คงไม่ยอมถอนจูบแน่ ส่วนภรรยาสาวก็เดินเลี่ยงออกไปด้วยสองแก้มแดงปลั่ง
“พูดไม่ทันขาดคำเลยนะแก เอ้า! คราวนี้แกก็พูดเรื่องด่วนของแกมาได้แล้ว ส่วนงานที่บ้านฉันไม่มีปัญหาอะไร อยู่ฮ่องกงอีกสามสี่เดือนก็ไม่มีปัญหา” ไรอันแขวะ พลางส่ายหน้าเอือมระอาให้กับความหน้าด้านของเพื่อนรัก
“ก็ดีที่อยู่ได้นาน เพราะงานด่วนที่ว่าก็คือ ฉันจะวานให้แกไปเป็นบอดี้การ์ดให้ลูกสาวคุณมารศรี นักธุรกิจคนดังของฮ่องกงสักปีหนึ่ง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น” เอเรสเริ่มพูดเป็นจริงเป็นจัง แล้วมองหน้าเพื่อนรัก ที่หลังได้ยินเพื่อนร้องห๊ะคำเดียวเขาจึงพูดต่อ
“คืองี้เพื่อน คุณมารศรีไม่ชอบใจที่ลูกสาวไปเป็นนักแสดง แล้วยังคบหากับนายพระเอกหนังจอมปลิ้นปล้อนนั่นด้วย เรื่องมันก็คือว่าคนเป็นแม่กับพี่ชายรู้ไส้รู้พุงไอ้หมอนี่หมด แต่ดูท่าคนเป็นลูกสาวจะหน้ามืดตาบอด เลยไม่ฟังใคร แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าพระเอกคนนั้นมันจะปลิ้นปล้อนจริงหรือเปล่า แกก็หาทางไปสืบดูเอาเองแล้วกัน แต่เห็นคุณมารศรีบอกว่าเจ้าหมอนี่มันหล่อมาก คารมมันก็ดีใช่ย่อย ลูกสาวคุณมารศรีถึงได้หลงมัน ส่วนแก ว่าไง จะไปสืบประวัติเจ้าหมอนั้นหรือเปล่า” พูดจบก็ลอบมองท่าทีของเพื่อนรัก
“ฉันจะไปสืบทำไม ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับฉัน” ไรอันโต้กลับเสียงห้วน พร้อมเสียงถอนใจให้กับเรื่องที่ได้ฟังจากเพื่อน
“เออ! ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว งั้นมาเข้าเรื่องต่อเลยดีกว่า ฟังนะเพื่อน หลังจากคนเป็นลูกสาวยืนยันจะคบกับหมอนั้นต่อ คุณมารศรีก็เลยต้องการคนที่ไว้ใจได้ ไปเป็นบอดี้การ์ดลูกสาว แบบตามประกบลูกสาวตลอดเวลา หรืออีกนัยก็คือคนคอยดูพฤติกรรมนั่นแหละ แล้วที่สำคัญคุณมารศรียังเน้นย้ำว่าต้องการคนที่มีฝีมือ แบบว่าสามารถจัดการกับนายพระเอกได้ ฉันได้ข่าวว่าเจ้าหมอนี่มันคบพวกนักเลงไว้เยอะ ฉันก็เลยนึกถึงแกคนแรก งานนี้ค่าเหนื่อยคุ้มมากนะเพื่อน ทำงานปีเดียวหรืออาจไม่ถึงปี คุณมารศรีจ่ายเลยหนึ่งล้านบาท แล้วถ้าแยกไอ้พระเอกออกจากลูกสาวได้แบบถาวร คุณมารศรีจะจ่ายเพิ่มให้อีกสองล้าน รวมเป็นสามล้านบาท ฉันรู้ว่าแกอยากได้เงินไปซื้อที่ดินไม่ใช่เหรอเพื่อน ฉันก็เลยรับปากกับคุณมารศรีไปแล้วว่าจะพาแกไปทำงานวันนี้ตอนบ่าย โอเค!”
มาเฟียหนุ่มรีบบอกแบบรวบรัดตัดตอน เพราะรับรู้มาตลอดว่าเพื่อนอยากได้ที่ดินใกล้ไร่ของตนมาก แต่เจ้าหมอนี่ไม่ยอมให้เขาจัดการซื้อให้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกรงอกเกรงใจกันไปทำไม ส่วนคนฟังที่ถูกมัดมือชกก็กระแทกลมหายใจใส่ แต่จะให้ปฏิเสธก็คงไม่ได้แล้ว เพราะเจ้าเพื่อนตัวดีดันรับปากฝ่ายนั้นเรียบร้อย
“ตกลงให้ฉันไปเป็นบอดี้การ์ด หรือไปเป็นไม้กันหมากันแน่ไอ้ทาม” ไรอันย้อนถามเสียงห้วน หน้าตาคล้ายคนจะลาตายเข้าไปทุกที แต่เขาก็ยอมรับว่าอยากได้เงินค่าจ้างนั้น ‘หนึ่งล้านบาท’ พอซื้อที่ดินติดไร่ของเขาได้สบายมาก ส่วนไอ้เรื่องทำให้เลิกกับพระเอกหนุ่ม เขาจะทำตามความสามารถแล้วกัน เพราะแยกได้ไม่ได้นั่นมันอีกเรื่อง
ทว่านึกๆ ไปเขาก็อยากจะเห็นหน้าแม่สาวหน้ามืดตาบอดคนนั้นเหลือเกิน เขาละอยากจะดูน้ำหน้านักว่าหน้าตาหล่อนจะเป็นอย่างไร สวยเหมือนฟ้า หรือว่าขี้เหร่จนหาแฟนไม่ได้ ถึงได้หลงไอ้พระเอกคนนั้นจนไม่เชื่อฟังคำเตือนของคนในครอบครัว