“พราว พราวมุก ใช่พราวจริงๆด้วย” เมฆหมอกเอ่ยเรียกคนที่คุ้นเคยพร้อมกับสองขาที่เดินเข้าไปก่อนที่มือหนาจะจับคว้าแขนของอีกคนเอาไว้
“พะ…พี่เมฆ” พราวมุกตกใจไม่น้อยเมื่อหันกลับมาเพราะคนตรงหน้าของเธอคือเมฆหมอก
เมฆหมอกคนที่เธอไม่เคยพบหน้าตลอดหกปีที่ผ่านมา คนที่เธอเดินออกมาจากชีวิตเขาเมื่อหกปีที่แล้ว ตอนนี้กำลังเขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวราวกับกลองชุด ความประหม่าเริ่มเกิดขึ้นกับตัวเองเพราะตอนนี้พราวมุกกำลังทำตัวไม่ถูกเธอไม่คิดว่าเธอกับผู้ชายคนนี้จะกลับมาเจอกันอีก
“พราวหายไปไหนมาพราวทิ้งพี่ไปทำไม” เมฆหมอกถามขึ้นทันที
ใบหน้าหล่อฉายแววความคาดหวังและความอยากรู้จนพราวมุกต้องกลืนน้ำลายลงคอเพราะเธอไม่รู้จะพูดอะไรออกไป
เธอไม่อยากเจอผู้ชายคนนี้ ไม่อยากคุยหรือเสวนาอะไรด้วย ทุกอย่างในอดีตที่เหมือนจะเลือนรางแต่ตอนนี้กลับฉายขึ้นซ้ำๆให้เธอเห็นอย่างชัดเจน
“ปล่อย” พราวมุกได้แต่พูดขึ้นเพราะในตอนนี้มันไม่ดีนักหรอกกับการมายืนจับมือถือแขนกันแบบนี้และเธอไม่ได้เต็มใจให้เขาโดนเนื้อโดนตัวเลยด้วยซ้ำ
“พราวหายไปไหนมา”
“พี่เมฆปล่อยพราวเดี๋ยวนี้” พราวมุกยังคงบอกความต้องการของตัวเองออกไปแต่ไม่มีทีท่าว่าเมฆหมอกจะปล่อยแขนของเธอ
“พราวหายไปไหนมา สบายดีไหม เป็นยังไงบ้าง” เมฆหมอกยังคงถามขึ้นต่อโดยไม่สนใจคำพูดของเธอด้วยซ้ำ
“พี่เมฆปล่อยพราวเดี๋ยวนี้ !” จนในที่สุดพราวมุกก็ทนไม่ไหวได้แต่สะบัดแขนออกจนตอนนี้เธอหลุดจากพันธนาการของผู้ชายตรงหน้า
“พี่ขอโทษพอดีพี่ดีใจไปหน่อยที่เจอพราว”
“พราวหายไปไหนมา”
“ขอตัวก่อนนะคะ พอดีพราวมีธุระต้องไปต่อ”
แน่นอนว่าตอนนี้พราวมุกไม่อยากคุยกับผู้ชายคนนี้ เป็นไปได้เธอไม่อยากเจอกับเมฆหมอกอีกแล้ว เขาคือตราบาปในชีวิตของเธอ คือบุคคลที่เธอไม่อยากให้มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตอีกแล้ว
“คุยกันก่อนไม่ได้หรอพราว” เมฆหมอกยังไม่ลดละความพยายามเพราะในตอนนี้เขามีเรื่องมากมายอยากคุยกับพราวมุก
เด็กสาวชุดนักเรียนที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยกันในอดีตแต่ทว่าตอนนี้เธอกลับโตขึ้น สวยขึ้นและดูเป็นผู้ใหญ่จนตัวเมฆหมอกเองก็แทบจะไม่เชื่อสายตา
“พราวไม่มีอะไรจะคุยกับพี่”
“แต่พี่มีหลายอย่างอยากจะถามพราว”
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันค่ะพี่เมฆ” พราวมุกตอบกลับไปตามตรงเพราะในตอนนี้เธอไม่มีอะไรจะคุยกับเมฆหมอก
ภาพในอดีตที่ย้อนกลับมามันทำหัวใจของเธอเจ็บ เคยคิดว่าความเจ็บปวดคงหายไปตามกาลเวลาที่ผ่านพ้นมาถึงหกปีแต่ทว่าในวันนี้พราวมุกรู้แล้วว่าความเจ็บปวดของเธอมันไม่เคยลดลงไปเลย
“ทำไมพราวถึงไร้เยื่อใยกับพี่แบบนี้”
เป็นจริงตามที่เมฆหมอกพูดออกมา พราวมุกในตอนนี้ดูนิ่งขึ้นและไร้เยื่อใยราวกับคนละคนกับในอดีต ไม่ว่าจะท่าทางหรือสายตาดูเย็นชากับตัวของเมฆหมอกไปหมด
“แล้วทำไมพราวถึงต้องมีเยื่อใยกับพี่” พราวมุกสวนกลับไปเพราะสำหรับคนแบบนี้ เธอไม่จำเป็นต้องมีเยื่อใย
ฝากบาดแผลเรื่องความรักกับเธอไว้ขนาดนี้แล้วทำไมเธอถึงต้องพูดจาดีๆกับผู้ชายคนนี้อีก ถึงจะเป็นเธอที่เดินออกมาเองแต่เพราะมันเจ็บจนทนไม่ไหว เธอจึงเลือกที่จะเดินออกมา ดีกว่าฝืนเจ็บต่อไป
“พี่แค่อยากรู้ว่าพราวหายไปไหนมา ทำพี่ติดต่อพราวไม่ได้เลย”
“พราวไม่จำเป็นต้องบอกพี่นะคะ”
“ทำไมล่ะพราวในเมื่อตอนนั้นเรายัง…”
“เรายังอะไรคะพี่เมฆ มันไม่มีเรื่องของเราเลยสักนิด”
เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดออกไป ไม่ว่าจะตอนนี้หรืออดีตที่ผ่านมา เรื่องของเธอกับเมฆหมอกไม่มีคำว่าเรา ความสัมพันธ์ที่ไม่มีแม้แต่สถานะ ไม่มีแม้แต่ชื่อเรียกพวกนั้นมันไม่มีคำว่าเรา
มีเพียงเธอคนเดียวที่หลงรักผู้ชายคนนี้แต่ทว่าเขากลับไม่ได้คิดเหมือนกับเธอ เขาเป็นผู้ชายรักสนุก มีนิสัยราวกับเพลย์บอยทั้งๆที่มีความสัมพันธ์กับเธอแต่ยังมีคนอื่นอีกมากมาย
“พราวลืมไปหมดแล้วหรอ”
“พราวไม่เคยจำค่ะ”
หัวใจของเมฆหมอกกระตุกแทบจะร่วงหล่นลงไปที่พื้น คำพูดของพราวมุกสร้างความเจ็บปวดให้เขาไม่น้อยเพราะคำพูดของพราวมุกมันเน้นย้ำว่าเรื่องที่ผ่านมามีเขาจำแค่คนเดียว
“แล้วพราวมาที่นี่ทำไม เป็นคุณครูอยู่ที่นี่หรอ” เมฆหมอกยังคงถามขึ้นเพราะในตอนนี้เขาอยากรู้เรื่องชีวิตของคนตรงหน้า
หายจากกันไปถึงหกปี เขาก็อยากรู้ว่าคนรักของตัวเองเป็นยังไงบ้าง ชีวิตความเป็นอยู่ที่ผ่านมาจะดีมากหรือเปล่า จะคิดถึงกันเหมือนที่เมฆหมอกรู้สึกไหมแต่ก็คงไม่เพราะคำพูดของพราวมุกเมื่อกี้มันก็คงเป็นสิ่งยืนยันได้แล้ว
“พราวมาส่งลูกค่ะ”
“ลูกหรอ” เมฆหมอกได้แต่ถามกลับไป
คำว่าลูกที่พราวมุกพูดออกมามันเหมือนเข็มนับร้อยนับพันเล่มทิ่มแทงหัวใจให้เจ็บปวด
พราวมุกของเขามีลูกแล้วจริงๆหรอ
หากมีลูกก็คงต้องมีคนรัก มีครอบครัวใช่ไหม ?
“หกปีแล้วพี่เมฆ พราวคงไม่อยู่ที่เดิมหรอก”
“พราวแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วหรอ”
อดไม่ได้ที่จะถามกลับไป ในตอนนี้เมฆหมอกอยากรู้และอยากได้ยินคำตอบที่ชัดเจนว่าหกปีที่ผ่านมา พราวมุกมาไกลได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ
“ก็ค่ะแต่พราวว่าพี่เมฆเองก็เช่นกันใช่ไหม มาโรงเรียนแบบนี้คงไม่พ้นมาส่งลูกหรอกจริงไหม”
เพราะพราวมุกเองก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ถึงจะไม่อยากคิดแบบนี้แต่ทว่ามันจะมีเหตุผลอะไรอีก เห็นหน้าว่าเจ็บปวดแล้วแต่เมื่อคิดว่าเขามาโรงเรียนก็คงไม่พ้นมาส่งลูกก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเก่า
“มันไม่…”
ไม่ทันที่เมฆหมอกจะได้เอ่ยปากปฏิเสธ เสียงของลูกสาวคนสวยของพราวมุกก็ดังขึ้นพร้อมกับของขวัญตัวน้อยที่กำลังเดินตรงมา
“คุณแม่ขา”
“หนูคิดว่าคุณแม่กลับไปแล้วซะอีก” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยอย่างของขวัญดังขึ้นเรียกความสนใจจากเมฆหมอกได้เป็นอย่างดี
“คุณแม่กำลังจะกลับค่ะว่าแต่หนูออกมาได้ยังไงคะของขวัญ” แน่นอนว่าพราวมุกแปลกใจไม่น้อย เธอส่งลูกสาวถึงห้องแล้วแต่ทำไมตอนนี้ลูกสาวของเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
“หนูกำลังไป ไปไหนนะคะคุณครู”
“คุณครูกำลังพาน้องไปอีกตึกค่ะแต่น้องเห็นคุณแม่เลยอยากมาหา” เมื่อเห็นคุณครูเดินตามมาก็ทำคุณแม่อย่างพราวมุกเบาใจได้ไม่น้อย คิดว่าโรงเรียนหละหลวมปล่อยเด็กออกมาแบบนี้ซะแล้ว
“ของขวัญไปกับคุณครูได้แล้วนะ ไม่งั้นหนูอาจจะทำให้คุณครูเสียเวลา”
“คุณแม่ขาแล้วคนนี้ใครหรอคะ” เด็กน้อยอย่างของขวัญไม่รอช้าที่จะถามขึ้น ใบหน้าที่แสนจิ้มลิ้มหันมองหน้าเมฆหมอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ไม่ใช่คนสำคัญหรอกค่ะ ของขวัญไปกับคุณครูได้แล้วนะเดี๋ยวตอนเย็นคุณแม่จะมารับ”
“บ๊ายบ่ายนะคะคุณแม่”
ในตอนนี้เมฆหมอกได้แต่ยิ้มตามกับความน่ารักของเด็กผู้หญิงตัวน้อย ใบหน้าถอดแบบคนเป็นแม่ราวกับแกะ ให้ตายเถอะ ! ลูกสาวของพราวมุกน่ารักจริงๆ
มันจะผิดไหมหากในตอนนี้เมฆหมอกกลับคิดอีกอย่าง คิดไปว่าหากเขาได้เป็นพ่อ มีลูกที่น่ารักแบบนี้มันคงจะดีกว่านี้มาก
“ลูกสาวหรอพราว”
“ลูกสาวพราวเองค่ะ รู้แบบนี้พี่เมฆควรเลิกยุ่งกับพราวนะคะ”
เป็นจริงตามที่พราวมุกพูดออกไป ในเมื่อรู้แบบนี้ก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกันหรือไม่แม้แต่จะคุยกันแบบนี้ ในตอนนี้พราวมุกแค่พยายามดูแลรักษาหัวใจของตัวเองเพราะเธอไม่อยากกลับไปเจ็บหรือรู้สึกแย่กับอะไรแบบนี้อีกแล้ว
“แต่พี่อยากคุยกับพราว”
“เราไม่มีความจำเป็นต้องคุยกัน”
“พี่แค่อยากรู้ว่าพราวหายไปไหน”
“เห็นแบบนี้พี่เมฆยังคิดไม่ได้อีกหรอคะ”
หากเป็นคนอื่นคงจะคิดได้ว่าเธอหายไปไหนมาเพราะภาพตรงหน้ามันก็บอกทุกอย่างแล้ว เธอมีลูกสาวโตถึงขนาดนี้จะคิดเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้
โชคดีที่ของขวัญลูกสาวของพราวมุก หน้าตาถอดแบบเธอมาราวกับแกะ มันก็ไม่แปลกหรอกที่เมฆหมอกจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วของขวัญคือลูกสาวของตัวเอง
จะว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ได้ที่ไม่บอกความจริงแต่สำหรับผู้ชายมักมากและเห็นแก่ตัวแบบนี้คงไม่เหมาะที่เป็นพ่อของเด็กคนไหน ในตอนนี้เธอกับลูกสาวมีความสุขดี มีเธอเป็นทุกๆอย่างเป็นทั้งพ่อและแม่
“เราต่างมีครอบครัวแล้ว เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีก”
“พี่ยังไม่มีครอบครัว”
จะว่าตกใจก็ได้แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนี้แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสนใจ เขาอาจจะโกหกก็ได้เพราะเมื่อก่อนก็โกหกอยู่บ่อยครั้ง
“นั่นไม่ใช่เรื่องของพราวค่ะ พราวขอตัวก่อนนะคะ”
“พี่สามารถเจอพราวอีกได้ไหม”
“พราวบอกแล้วไงคะว่าเราไม่ควรเจอกันอีก”
“รู้ไหมว่าพี่ดีใจมากที่พี่เจอพราว”
เมฆหมอกดีใจมากเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาตามหาพราวมุกมาตลอดแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้สมหวังเพราะไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ทุกๆช่องทางการติดต่อก็ถูกปิดไปจนไร้หนทาง
“พี่อยากคุยอยากถามไถ่ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพราวหายไปไหน พราวทิ้งพี่ไปทำไม”
สิ่งที่พูดคือสิ่งที่อยู่ในใจของเมฆหมอกมาตลอดหกปี พราวมุกหายไปเฉยๆไม่บอกกล่าวอะไร มันจึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร
“พี่เมฆทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ”
“พี่ทำอะไร” เมฆหมอกสงสัยไม่น้อย เขาอยากรู้ว่าเขาทำอะไรทำไมพราวมุกถึงพูดแบบนี้ มันมากมายใหญ่โตจนต้องทิ้งหายไปจากกันแบบนี้เลยหรอ
“ขอตัวก่อนนะคะ”
แน่นอนว่าพราวมุกไม่ตอบอะไรกลับไป เธอไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เพียงแค่ภาพจำในหัวมันก็ทำเธอเจ็บปวดมากพอแล้ว
“พราวบอกพี่สิว่าพี่ทำอะไร !”
“พี่เมฆอย่ามาเสียงดังใส่พราวนะ ไม่เกรงใจพราวก็เกรงใจสถานที่บ้าง”
“พราว พราว พราวมุก”
“แม่งเอ๊ย !”
❤️
แค่น้ำเดือดแต่ปิดแก๊สทันบอกเลย !!