รถยังแล่นไปเรื่อย ๆ บนท้องถนนที่การจราจรคับคั่งจอแจ ระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ เคลลี่ก็เหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นระยะ ดุจตะวันยังคงนิ่งเงียบ เหม่อมองออกไปนอกตัวรถ ยากที่จะคาดเดาความคิดภายในใจเธอ
“ซันอยากจะไปไหนเหรอ ไปกินชาบูกันก่อนไหม ยังไม่ได้กินอะไรเลย ซันหิวหรือเปล่า” คำถามของเขาทำให้ใบหน้าเล็กนั้นหันกลับมามอง
“ไม่หิว ไม่อยากกินชาบูแล้ว อยากกินเหล้า คุณพาหนูไปหน่อยได้ไหม” เคลลี่แทบจะเหยียบเบรกตัวโก่งเมื่อได้ยินคำตอบจากดุจตะวัน
“แล้วทำไมต้องกินเหล้าล่ะ”
“ก็อกหักไง อกหักก็ต้องกินเหล้า หนูเห็นในละครบ่อย ๆ”
เมื่อได้ยินคำตอบทำเอาเคลลี่แทบจะกุมขมับ บทที่จะดื้อ ก็ดื้อตาใสแบบที่ไม่เอาอะไรทั้งนั้น
“ฉันพาไปก็ได้ แต่ต้องสัญญาก่อนว่าจะกินนิดเดียว เป็นเด็กเป็นเล็ก กินเยอะไม่ดี ตกลงไหม” อารมณ์แบบนี้ถ้าไม่ตามใจ เดี๋ยวก็คงออกไปดื่มเหล้าคนเดียวอยู่ดี สู้พาไปเองให้อยู่ในสายตาก็คงจะดีกว่า
“ก็ได้ค่ะ หนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี”
“ถ้างั้นแวะซื้อชุดเปลี่ยนก่อนค่อยไป”
“ทำไมต้องเปลี่ยนชุดด้วยล่ะคะ”
“ใส่ชุดนักศึกษาไปนั่งกินเหล้าคงไม่ดีมั้ง หรือซันว่ายังไงล่ะ” ดุจตะวันก้มมองสำรวจชุดตัวเอง แล้วก็ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้กับคนตัวโตที่ทำหน้าที่ขับรถ
ขับมาอีกไม่นานเคลลี่ก็แวะที่ห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดเพื่อพาเธอไปเลือกซื้อชุดใหม่ ดุจตะวันเดินดูชุดนั้นชุดนี้ แล้วก็มาหยุดอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน
“เอาชุดนี้ค่ะ” นิ้วเรียวเล็กชี้ไปที่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำ แสนสั้น เว้าบนเว้าล่าง
“ไม่ได้ มันโป๊เกินไป” เคลลี่บอกกับเธอแล้วก็จูงมือมาอีกฝั่งของร้านแทน
“แต่หนูอยากใส่ชุดนั้นนี่คะ”
“แต่มันโป๊ ทำไมถึงจะต้องอยากใส่ชุดที่โชว์เนื้อหนังขนาดนั้น” คิ้วหนาขมวดเข้าเป็นปมหันไปหาคนตัวเล็กที่ยังดื้อดึงจะเอาชุดที่ว่าให้ได้
“ก็แค่อยากใส่ ไม่ได้เหรอคะ นะคุณ นะนะ” เสียงออดอ้อนออเซาะ พร้อมกับกระพริบตาปริบ ๆ หวังให้คนที่อยู่ตรงหน้าใจอ่อน
“ก็ได้ ก็ได้ แต่ฉันยอมซันแค่ครั้งเดียวนะ คราวหลังฉันจะไม่ยอมให้ใส่โป๊แบบนี้อีกเด็ดขาด” และมันก็ได้ผล เมื่อสุดท้ายเคลลี่ก็ยอมตามใจเธอจนได้
“ครั้งเดียวค่ะ ครั้งเดียวเท่านั้น ขอบคุณนะคะ”
พูดขอบคุณเสร็จ ดุจตะวันก็เดินไปหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำไปส่งให้พนักงานคิดเงิน เสร็จแล้วก็เอามาเปลี่ยนในห้องลองชุด
“คุณ คุณว่าสวยไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อประตูห้องลองชุดเปิดออก เคลลี่ได้แต่จ้องมองเธอแน่นิ่ง ไม่ใช่แค่สวย แต่เธอยังเซ็กซี่มากอีกด้วย
“คุณ ได้ยินหนูหรือเปล่าคะ” ดุจตะวันเรียกเขาอีกครั้ง เมื่อครั้งแรกไม่มีการตอบสนอง
“อ่อ สวยสิ สวยมาก งั้นก็ไปกันเถอะ”
“อื้ม”
ดุจตะวันพยักหน้ารับแล้วก็เดินไปหยุดข้างหน้าเขา ส่วนเคลลี่ก็เอาแต่มองเธอไม่ละสายตาระหว่างที่เดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ ปกติเขาเป็นคนขี้หวงแต่ไหนแต่ไร ยิ่งในตอนนี้เธอทั้งสาว ทั้งสวย และเด็กกว่าเขาหลายปี ยิ่งทำให้เคลลี่หวงคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มากขึ้นไปอีก ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน..
“โห..ทำไมมันใหญ่แบบนี้คะเนี่ย” ดุจตะวันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ไนท์คลับชื่อดังที่เคลลี่พาเธอเดินเข้ามาข้างในด้วยความตื่นเต้น
“ตื่นเต้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ หนูไม่เคยเที่ยวที่แบบนี้เลย” ระหว่างที่ตอบคำถาม สายตาก็ยังมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวไม่หยุด
“ทีหลังถ้าอยากจะมาอีกก็บอกฉัน แต่อย่ามาคนเดียว มันอันตราย เข้าใจไหม”
“เข้าใจแล้วค่า” ปากพูดว่าเข้าใจ แต่ก็ไม่รู้จะเข้าใจจริง ๆ หรือเปล่า
“สวัสดีครับคุณเคล ไม่ทราบว่าวันนี้มากี่ท่านครับ ให้ผมจัดโต๊ะโซนไหนให้ดีครับ” พนักในร้านรีบเข้ามาทักทายเขาอย่างคุ้นเคย ส่วนดุจตะวันก็ได้แต่มองหน้าเขาสลับกับพนักงานไปมา
“สองคน เอาเป็นโซนวีไอพีตรงนั้นก็แล้วกัน”
เคลลี่เลือกเปิดโต๊ะตรงโซนวีไอพีเพราะไม่วุ่นวาย ง่ายต่อการดูแลหญิงสาวที่เขาพามาด้วย
“ไม่ทราบว่าคุณเคลกับคุณผู้หญิงจะรับอะไรดีครับ” พนักงานเอ่ยถามขึ้นเมื่อทั้งคู่นั่งลงที่เก้าอี้แล้ว
“ของฉันเอาเหมือนเดิม ส่วนของเธอเอาเป็นค็อกเทลเบา ๆ ก็พอ” เคลลี่หันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงาน แต่ดุจตะวันก็ขัดขึ้นมา
“เอาเข้ม ๆ ค่ะ หนูอยากได้เข้ม ๆ”
“ไม่ได้ ไม่เคยลองไม่ใช่เหรอ เอาเบา ๆ ก็พอแล้ว” พูดกับคนตัวเล็กที่ทำสายตาดื้อดึงเสร็จ เคลลี่ก็หันไปพยักหน้าให้กับพนักงาน
“ทำไมหนูถึงสั่งเข้ม ๆ ไม่ได้คะ” เมื่อพนักงานไปแล้ว ดุจตะวันก็หันมาทำหน้าบึ้งใส่เขาต่อ
“เป็นเด็กเป็นเล็ก จะเอาเข้ม ๆ ไปทำไม เดี๋ยวก็เมาจนจำอะไรไม่ได้พอดี”
“หนูไม่เด็กแล้วนะ หนูอายุยี่สิบแล้ว ตัวหนูก็โตขนาดนี้” เคลลี่หันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนหมุนตัวไปมาเพื่อโชว์ว่าตัวเองโตแล้ว
เธอโตแล้วจริง ๆ นั่นแหละแต่มันดันโตอยู่แค่ส่วนเดียวที่แทบจะทะลักล้นออกมานอกชุด เคลลี่รีบดึงแขนดุจตะวันให้นั่งลง เพราะตอนนี้สายตาหนุ่ม ๆ หลายโต๊ะกำลังจับจ้องมาที่เธอตาเป็นมัน
“เครื่องดื่มได้แล้วครับ” พนักงานชายของร้านวางแก้วเครื่องดื่มให้ทั้งคู่ก่อนที่จะโค้งหัวแล้วถอยออกไป
“อื้อ อร่อยจัง” เมื่อชิมค็อกเทลแสนหวานไปแค่อึกแรก ดุจตะวันก็อุทานออกมา
“อร่อยก็กินเยอะไม่ได้ หวาน ๆ แบบนี้เมาเร็วมาก ฉันสั่งใส่เหล้าให้ซันแค่ช็อตเดียว จะได้ไม่เมาเกินไป” คนตัวโตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อธิบายให้เธอฟัง ใบหน้าน้อย ๆ นั้นพยักขึ้นลงหงึกหงัก แต่ยังยกเครื่องดื่มสีสวยเข้าปากไม่หยุด
“ซัน นั่งรอฉันอยู่ที่นี่แป๊บหนึ่งนะ ฉันออกไปรับโทรศัพท์ก่อน มีธุระด่วน จะเอาอะไรเพิ่มก็สั่งได้เลย”
“ได้ค่ะ รับรองหนูจะไม่เดินไปไหนเด็ดขาด”
หลังจากสั่งคนตัวเล็กเสร็จ เคลลี่ก็เดินออกไปข้างนอกเพื่อคุยธุระ เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ต่อสายตรงมา จะไม่รับก็ไม่ได้เสียด้วย
คล้อยหลังคนตัวโต ดุจตะวันก็ยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วก็หันไปเรียกพนักงานชายที่ยืนอยู่แถวนั้น
“คุณผู้หญิงอยากจะได้อะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ” พนักงานโค้งตัวถามเธอด้วยความนอบน้อม
“เอาแบบเดิมค่ะ แต่ขอเพิ่มเหล้าหน่อยจะได้ไหมคะ” เธอก็แค่เห็นว่าไอ้เหล้าช็อตเดียวที่เคลลี่บอกดื่มไปก็ไม่เห็นจะเมา เพิ่มอีกสักนิดก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
“ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงอยากจะเพิ่มอีกกี่ช็อตครับ”
“เพิ่มอีกสองช็อตค่ะ” เธอครุ่นคิดอยู่เพียงครู่เดียวก็ตอบออกไป พนักงานชายรับคำสั่งแล้วก็หายไปเพียงครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับค็อกเทลสีสวยเช่นเดิม
“ขอบคุณค่ะ” ดุจตะวันหันไปขอบคุณ แล้วก็ลองจิบค็อกเทลตรงหน้า อื้อ..ก็ไม่เห็นจะขมนี่นา เธอคิดในใจแล้วก็กระดกเข้าปากรวดเดียวจนหมด
“เอาแบบนี้อีกแก้ว แต่ขอเพิ่มเหล้าอีกช็อตหนึ่งค่ะ”
“ได้ครับคุณผู้หญิงรอสักครู่นะครับ”
แก้วที่สองหมดไป เธอก็หันไปสั่งแก้วที่สามต่อ แต่ว่าทำไมตอนนี้รู้สึกเหมือนจะร้อนวูบวาบไปทั่วหน้าเลยนะ เมาเหรอ แต่พึ่งดื่มไปสองแก้วเองจะเมาได้ยังไงกัน
หมดแก้วสาม ก็สั่งแก้วที่สี่ ที่ห้า และที่หก เคลลี่หายไปคุยโทรศัพท์เกือบครึ่งชั่วโมงก็กลับมา แต่อาการของคนตัวเล็กทำไมมันต่างจากตอนเขาออกไปอย่างสิ้นเชิง แขนเล็กข้างหนึ่งยกเท้าศีรษะของตัวเองไว้ แต่ก็ยังเอนไปเอนมา
“ทำไมเมาขนาดนี้ล่ะ กินไปกี่แก้วแล้วเนี่ย” เคลลี่หันไปถามพนักงานชายที่คอยดูแลเธออยู่ข้าง ๆ
“แก้วที่หกแล้วครับคุณเคล แถมคุณผู้หญิงสั่งเพิ่มเหล้าอีกสามช็อตครับ”
“สามช็อต!” เมื่อได้ยินคำตอบเคลลี่ก็ยกมือขึ้นกุมขมับ ที่สั่งไว้ก่อนจะออกไปเธอไม่ได้ฟังเลยหรือยังไง เขาหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กัน เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนมานั่งดุจตะวันก็เงยหน้าที่ขึ้นมาดู
“เอ้าคุณ มาแล้วเหรอ มาเร็ว ชนแก้วกัน” น้ำเสียงที่เริ่มจะพูดไม่เป็นคำพลางยกแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าขึ้นมา
“พอแล้วซัน ฉันบอกแล้วไงว่ากินเยอะไม่ได้เดี๋ยวเมา แล้วนี่ดูสิ เมาขนาดนี้แล้วก็ยังจะกินอีก” เขาบ่นเธอไปอย่างนั้นแต่มือหนาดันยกขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู
“ก็มันเจ็บนี่คุณ มันเจ็บอยู่ในหัวใจ คุณเข้าใจหรือเปล่า ทำไมนะหนูถึงไม่เคยสมหวังในเรื่องความรักเลย”
พูดพลางก็ทำท่าจะร้องไห้ไปพลาง แต่เอ๊ะ..เธอเคยมีแฟนมาก่อนหน้านี้เหรอ
“ไหนว่าเป็นแฟนคนแรก พูดอย่างกับเคยมีแฟนมาหลายคนอย่างนั้นแหละ” เคลลี่ถามออกไปด้วยใจที่อยากรู้ เขาอยากรู้เรื่องเธอทุกอย่าง
“ในชีวิตจริงก็มีคนเดียวนี่แหละ แต่มีในฝันอีกคนหนึ่ง” พูดเสร็จเธอก็ยกค็อกเทลขึ้นดื่ม เคลลี่จะห้ามก็ไม่ทัน
“ในฝัน?” อะไรกันเนี่ย ชีวิตจริงก็ต้องสู้เพื่อให้ได้เธอมา นี่เขาจะต้องมาสู้กับคนในฝันของเธออีกอย่างนั้นเหรอ
“ใช่ในฝัน ฝันถึงทีไรหนูก็ร้องไห้ทุกที เหมือนกับว่าหนูรักเขามาก แต่เขาก็เดินหนีแล้วก็หายไปทุกครั้งเลย คุณรู้ไหม พอตื่นขึ้นมาหนูรู้สึกเจ็บที่หัวใจ เจ็บมาก เจ็บยิ่งกว่าตอนที่ไอ้พี่เมฆมันบอกเลิกหนูอีก”
เคลลี่ได้แต่นั่งฟังเธอบ่นนั่นนี่จนเหมือนว่าดุจตะวันจะไม่ไหวแล้ว เลยเลือกที่จะพากลับจะดีกว่า
“คุณอะ หนูยังอยากอยู่ต่อ ยังไม่ได้เต้นเลยนะ” คนเมาที่เริ่มโวยวายเมื่อโดนหิ้วออกมาจากไนท์คลับ ทั้งยังทำท่าทางเต้นไปเต้นมาอีกต่างหาก
“จะมาเต้นอะไร แค่ยืนก็ยังจะไม่ไหวอยู่แล้ว ทำไมดื้ออย่างนี้นะเราน่ะ” ปากก็บ่นไปอย่างนั้น แต่ถามว่าโกรธหรือไม่พอใจหรือเปล่าก็ไม่
“ก็ได้ กลับก็ได้ แต่ว่า วันหลังคุณพาหนูมาอีกนะ”
“ได้สิ ไว้คราวหลังฉันพามาอีก แต่ตอนนี้กลับห้องก่อน” ดุจตะวันพยักหน้าหงึกหงักตอบรับทันที
ระหว่างทางเธอก็เอาแต่ร้องเพลงสลับกับร้องไห้ไปมา ถามว่าอาการแบบนี้ทำให้เขาปวดหัวไหม บอกเลยว่ามาก แต่จะทำยังไงได้ อย่างน้อยก็ยังดีที่เธอเลือกที่จะมากับเขามากกว่าไปกับคนอื่น..
//////