"ว่ายังไงเชิด คนของแกเฝ้าบุษอยู่ใช่ไหม" อภิวัตรถามเลขาคนสนิท
"ครับ คุณบุษไปเรียนครับวันนี้" เชิดชัยรายงานนายของตัวเอง
"คนรถที่บ้านไปส่งเขาหรือเปล่า" อภิวัตรถาม
"เปล่าครับคุณบุษไป BTS ครับนาย" เชิดชัยตอบ
"อ้าวแล้วทำไมไม่มีใครไปส่งเขาละ ไม่ได้เรื่องกันเลยปล่อยให้ไปBTS เองได้อย่างไรเบียดเสียด แล้วออกไป BTS ยังไงกันละ" อภิวัตรถามต่อ
"นั่งวินไปครับ คุณบุษบาเธอบอกคนรถว่าเปลืองน้ำมัน รถมันติดเมื่อก่อนเธอก็ไปโรงเรียนด้วยวิธีนี้มันสะดวกรวดเร็วดีครับนาย คนรถที่บ้านก็จะไปส่งนั่นแหละครับ" เชิดชัยรายงานต่อ
"เออดีนะชอบความลำบาก แล้ววันนี้เขาเรียนเสร็จกี่โมง" อภิวัตรถาม
"ไม่แน่ใจครับแต่คุณบุษมีกิจกรรมรับน้องที่มหาวิทยาลัยนะครับ ได้ข่าวมาว่าเป็นตัวเด่นที่จะประกวดดาวคณะด้วยนะครับนาย ยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะครับ" เชิดชัยพูดไปเรื่อยตามสิ่งที่คิด
"อือแกไม่ต้องชมเยอะ ใครจะให้ประกวดดาวกันฉันไม่อนุญาต วันนี้ไม่มีงานอะไรด่วนใช่ไหมฉันจะออกไปรับบุษไปกินข้าว" อภิวัตรพูดอย่างไม่ค่อยพอใจที่เชิดชัยชมว่าบุษบาวรรณสวยขึ้น
"นายจะออกไปเลยหรือครับจะไปรอคุณบุษหรือครับ ยังไม่รู้ว่าเรียนเสร็จแล้วมีกิจกรรมอะไรต่ออีกหรือเปล่านะครับนาย" เชิดชัยทักท้วงนายของตัวเองไว้
"แกก็ให้คนของแกรายงานมาสิวะ ต้องให้บอกทุกเรื่องเลย" อภิวัตรตำหนิเชิดชัย
"วันนี้น่าจะเลิกค่ำเลยนะนาย แต่วันนี้ตามตารางนายมีนัดกับคุณโมน่าไว้นะครับ สักหน่อยไหมครับนายเผื่ออารมณ์จะดีขึ้น เผื่อได้จับเส้นนวดผ่อนคลายจะได้สบายเนื้อสบายตัวเสียหน่อย" เชิดชัยเสนอเจ้านาย
"ไม่เอาละฉันเบื่อแล้วคนนี้ แสดงละครแอ๊บแบ๊วใสๆ ทั้งที่กร้านโลกเสียเหลือเกินไม่ไหววะกระเดือกไม่ลง" อภิวัตรพูด
"นาย พักหลังไม่ค่อยไปปลดปล่อยอย่างว่าเลยนะครับหรือเป็นเพราะคุณบุษบาวรรณครับ" เชิดชัยถามเจ้านายตรงๆเพราะพักหลังเจ้านายไม่ค่อยเรียกใช้บริการพวกดารานางแบบเลย
"เปล่า แค่เบื่อคนนี้แล้วจริตเยอะไป มีคนใหม่มานำเสนอไหมล่ะ" อภิวัตรแกล้งพูดเกรงว่าเชิดชัยจะคิดว่าบุษบาวรรณมีผลกับความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง ซึ่งอภิวัตรเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบุษบาวรรณมีผลต่อความรู้สึกของเขาจริงๆ พักหลังเวลามีอะไรกับสาวๆที่มาเสนอตัวและซื้อกิน กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มดันมีหน้าสวยของบุษบาวรรณซ้อนทับเข้ามาให้มโนสำนึกตลอด
"คนใหม่น่ะมีครับ นายจะให้ผมเรียกวันนี้เลยไหมครับ" เชิดชัยถามเจ้านาย
"เออ ขอดูรูปก่อน" อภิวัตรดูรูปและให้เชิดชัยจัดการ ให้พริตตี้คนสวยไปรอเขาที่โรงแรม
"อุ๊ย!....คุณธรรพ์ขาแรงๆอีกค่ะ เค้กไม่ไหวแล้วคุณธรรพ์ขา" น้องเค้กร้องครวญครางแต่พลันสวรรค์ก็ล่มลงตรงหน้าเมื่อธรรพ์ผลักตัวออกและลุกขึ้นจากเตียงไปหยิบกระเป๋าเงินมาควักเงินส่งให้แทน
"วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกันค่าตัวคุณเลขาผมคงจัดการให้แล้ว แล้วก็นี่เงินผมให้ทิปค่าเสียเวลาของคุณ" ธรรพ์พูดเสร็จส่งเงินให้พริตตี้คนสวยแล้วก็หยิบผ้าขนหนูมาพันเอวสอบไว้
"คุณธรรพ์ เค้กทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่าคะ คุณถึงเอ่อ...."เค้กพูดยังไม่ทันจบธรรพ์ก็พูดแทรกขึ้น
"คุณไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ผมหมดอารมณ์เอง คุณแต่งตัวก่อนเถอะเดี๋ยวผมให้คนของผมไปส่งคุณ" ธรรพ์พูดกับเค้กพริตตี้สาวอย่างไม่ได้คิดอะไรและโทรศัพท์เรียกเชิดให้มารับตนเอง
เชิดชัยขับรถมารับเจ้านายของตนเองที่โรงแรมหรูแล้วก็ถามนายว่า
"นายเป็นอะไรไปครับหน้ายุ่งเชียว น้องเค้กทำให้ไม่พอใจเหรอครับ" เชิดชัยถาม
"เปล่า" ธรรพ์ตอบ
"แล้วเป็นไงนายสบายตัวเลยไหมครับ คนนี้เด็ดไหมนาย" เชิดชัยถามเจ้านายอีกอย่างต้องการชวนคุย
"เงียบๆ ขับรถไปเลยวันนี้ฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน" อภิวัตรดุเลขาหนุ่มและนั่งคิดอะไรไปเพลินๆ คิดถึงหน้าสวยนัยน์ตาเศร้าของบุษบาวรรณ วันนี้ไม่ได้ไปรับพาไปกินข้าวแต่ขอแวะกลับบ้านไปให้เห็นหน้าสาวเจ้าก็ยังดี
อภิวัตรกลับถึงบ้านเป็นเวลาดึกแล้ว บุษบาและคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว อภิวัตรเองจึงจำต้องเข้านอนและรีบตื่นมาตอนเช้าเพื่อไปดักรอบุษบาวรรณเพื่อให้ได้มีโอกาสไปส่งบุษบาวรรณที่มหาวิทยาลัย
"สำลี คุณบุษละลงมาแล้วหรือยัง" ธรรพ์ถามเด็กในบ้าน
"คุณบุษเธอขออนุญาตคุณผู้หญิงไปนอนเรือนเล็กค่ะคุณธรรพ์ อีกเดี๋ยวก็คงมารับข้าวเช้าพร้อมคุณท่านก่อนจะออกไปมหาวิทยาลัยค่ะ" สำลีรายงานเจ้านาย
"แล้วทำไมถึงไปนอนเรือนเล็กละ อยู่บนตึกใหญ่ก็ดีอยู่แล้ว" ธรรพ์ถาม
"สงสัยคุณบุษบาจะคิดถึงคุณโสภณค่ะ แล้วก็บอกคุณหญิงว่าอยากไปนั่งเขียนแบบด้วยเรือนเล็กมันต้นไม้เยอะร่มรื่นดีคุณบุษเธอชอบค่ะ" สำลีบอกเจ้านาย
"อ๋อ ถ้าอย่างนั้นวันนี้สำลีไปตั้งโต๊ะอาหารเช้าให้ฉันกับคุณบุษที่เรือนเล็กนะ บอกพ่อกับแม่ด้วยว่าฉันมีธุระจะคุยกับคุณบุษ" ธรรพ์สั่งสำลีสีหน้ามีแผนการในใจ
"ได้ค่ะ" สำลีรับคำ
สำลียกอาหารเช้าไปตั้งโต๊ะที่ริมระเบียงเรือนเล็ก เมื่อบุษบาออกมาจากบ้านก็สงสัยว่าทำไมสำลีถึงได้ยกอาหารเช้ามาที่นี่จึงสอบถามกับสำลี
"อ้าว!... พี่สำลียกอาหารมาที่นี่ทำไมคะ บุษไปกินที่ตึกใหญ่ได้ค่ะไม่เห็นต้องลำบากยกมาเลย" บุษบาถามสำลี
"เอ่อ!...คือว่า...." สำลียังไม่ทันได้ตอบธรรพ์ก็พูดขึ้น
"พี่เป็นคนสั่งเอง นั่งลงสิบุษจะได้รีบไปมหาวิทยาลัย สำลีไม่มีอะไรแล้วไปบอกพ่อกับแม่ว่าไม่ต้องรอฉันกับคุณบุษ"ธรรพ์พูดและจ้องมองบุษบาในชุดนักศึกษาอย่างหลงใหล
"ค่ะคุณธรรพ์" สำลีรับคำและเดินออกไปเมื่อพ้นร่างสำลีแล้วบุษบาก็พูดขึ้น
"คุณธรรพ์มีธุระอะไรจะสั่งบุษหรือเปล่าคะ" บุษบาถามอภิวัตรอย่างเป็นการเป็นงาน
"ไม่มี แค่อยากคุยด้วย อยากกินข้าวด้วย วันนี้น้องบุษเลิกเรียนกี่โมงพี่จะไปรับพาไปดูหนัง" ธรรพ์ถามบุษบา
"ไม่เป็นไรค่ะ บุษไม่รบกวนและไม่อยากไปดูหนังด้วย บุษมีกิจกรรมต่อที่มหาวิทยาลัย" บุษบอกธรรพ์ทำให้ธรรพ์เริ่มหงุดหงิดที่บุษบาไม่เปิดโอกาสและพยายามหนีตนเองตลอดเวลา
"กิจกรรมอะไร ไอ้รับน้องประกวดดาวอะไรนั่นเหรอ พี่ไม่ให้ประกวด" ธรรพ์พูดน้ำเสียงไม่พอใจ
"แต่บุษขออนุญาตคุณหญิงอยู่ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ บุษอิ่มแล้วขอตัวไปมหาวิทยาลัยก่อนนะคะ" บุษบอกธรรพ์และพูดตัดบทขอตัวไปเรียนเพื่อหาทางหลบไม่อยากคุยกับคนฉวยโอกาสและเจ้าชู้แบบธรรพ์
"หยุดนะน้องบุษนั่งลงเดี๋ยวนี้ พี่ยังกินข้าวไม่อิ่มเดี๋ยวพี่จะพาไปส่งที่มหาวิทยาลัยเอง" ธรรพ์สั่งบุษบาน้ำเสียงโกรธขึง
"แต่บุษอิ่มแล้วและจะไปเองไม่รบกวนคุณธรรพ์ค่ะ ลานะคะสวัสดีค่ะ" บุษบาวรรณจะลุกเดินออกไปแต่ธรรพ์ลุกขึ้นไปจับแขนเรียวไว้ได้ทันพร้อมกับพูดจาขู่บุษบาว่า
"ถ้าไม่ให้พี่ไปส่งที่มหาวิทยาลัย พี่จะทำแบบวันนั้นที่กลางทะเลดีเหมือนกันจะได้สอนให้จูบเก่งๆหน่อยเอาไหม" อภิวัตรขู่สีหน้ากรุ้มกริ่ม
"คุณ!..... คุณต้องการอะไรจากดิฉันมายุ่งวุ่นวายกับดิฉันทำไม ถ้าคุณมาฉวยโอกาสกับฉันอีกฉันจะฟ้องคุณท่านกับคุณหญิง" บุษบาวรรณว่าอภิวัตรและขู่จะฟ้องพ่อแม่ของอภิวัตรกลับด้วย
"กลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว เริ่มเลยนะอย่าลืมไปฟ้อง" ธรรมพ์พูดจบก็ดึงตัวบุษบาวรรณมาจูบบดริมฝีปากอิ่มสวยและขโมยหอมแก้มเนียนทั้งสองข้างด้วย บุษบายื่นนิ่งอย่างช็อกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ปากหวานเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือแก้มของน้องบุษหอมมาก" ธรรพ์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้จูบและหอมแก้มสาวไป
"ไอ้!....." บุษบาวรรณเหลือจะทนจะด่าธรรพ์แต่ธรรพ์พูดดักไว้ก่อน
"อ๊ะ!....ไอ้อะไร อะไรกันคนดีของแม่พี่เขาด่าเป็นแม่ค้าเป็นด้วยเหรอ ลองด่าพี่สิวันนี้อย่าหมายว่าจะได้ไปเรียน นั่งลงกินข้าวต้มให้หมดชามเดี๋ยวนี้ แล้วพี่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัยเอง" ธรรพ์สั่งบุษบาน้ำเสียงเด็ดขาด
"ฉัน!....." บุษบาวรรณจะพูดแต่อภิวัตรก็พูดดักอีก
"ฉันอะไร ฉันจะไปฟ้องคุณหญิงนะเหรอ ก็เอาสิอยากให้ฟ้องเหมือนกัน จะบอกให้หมดเลยว่าได้จูบมาสองครั้ง หอมไปสองที แต่หลังจากนี้รับรองเลยว่าไม่ใช่แค่นี้จะไปฟ้องแม่เลยไหม" อภิวัตรขู่อีกบุษบาวรรณจึงนิ่งและยอมนั่งลงกินข้าวจนหมดชามและไม่พูดไม่จาอะไรอีกจนธรรพ์พาไปขึ้นรถและขับไปส่งที่มหาวิทยาลัย
ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถ BMW ของอภิวัตร อภิวัตรก็บอกบุษบาวรรณว่าให้ส่งกระเป๋าและหนังสือมาให้ตน ตนจะช่วยถือเองแต่บุษบาก็ดื้อไม่ยอมส่งให้
"ส่งกระเป๋ามาสิ พี่จะถือให้" อภิวัตรยื่นมือไปจะช่วยถือกระเป๋า
"ไม่เป็นไรค่ะฉันถือเองได้" บุษบาบอกและกอดหนังสือไว้กับอก
"พี่บอกว่าจะถือให้ไงส่งมา" อภิวัตรยังคงยืนยันและยื่นมือไปดึงกระเป๋ามาถือเอาไว้เอง
"ไปขึ้นรถ แล้ววันนี้ตอนเย็นพี่จะไปรับที่มหาวิทยาลัย" อภิวัตรพูดบอกบุษบาวรรณและเดินนำไปที่รถที่คนรถเอามาจอดรอไว้ให้หน้าตึก
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณธรรพ์ไม่ต้องไปรับดิฉันหรอกเพราะตอนเย็นดิฉันมีนัดกับเพื่อนไว้แล้วค่ะ" บุษบาวรรณบอกขณะที่เดินตามธรรพ์ไปขึ้นรถเมื่อได้ฟังคำที่ขัดหูทำให้ธรรพ์หยุดเดินโดยอัตโนมัติบุษบาวรรณเลยชนหลังของธรรพ์จนเซเกือบจะล้มโชคดีที่ธรรพ์ฉุดแขนไว้ได้ทัน
"เป็นอะไรหรือเปล่า"ธรรพ์ถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยแขนดิฉันด้วย" บุษบาวรรณพูดและดึงแขนกลับด้วยท่าทางไว้เนื้อไว้ตัวจนทำให้ธรรพ์ยิ่งฉุนหนักมากขึ้น
"ทำไมไม่ให้พี่ไปรับบุษนัดใครไว้ แล้วไม่ต้องมาทำท่าทางไว้เนื้อไว้ตัวกับพี่แบบนี้ด้วย" ธรรพ์ถามด้วยความหงุดหงิด
"นัดกับเพื่อนกลุ่มไว้ค่ะจะไปกินข้าวกันที่สยาม ปล่อยแขนดิฉันเถอะค่ะจะได้ไปขึ้นรถเดี๋ยวรถจะติดคุณธรรพ์จะไปทำงานสายนะคะ" บุษบาวรรณพูดกับธรรพ์สีหน้าเหนื่อยใจอยากจะไปให้พ้นจากสถานการณ์ตรงหน้า
"พี่เป็นเจ้าของบริษัทจะไปหรือไม่ไปใครจะกล้าว่าพี่ แล้วช่วยแทนชื่อตัวเองว่าบุษด้วยฉันอย่างนั้นฉันอย่างนี้ฟังแล้วมันขัดหู เข้าใจหรือเปล่าที่พูด" ธรรพ์ถามน้ำเสียงและท่าทางไม่พอใจ
"ค่ะ ไปได้แล้วยังค่ะบุษมีเรียนตอนเช้าเดี๋ยวจะไปไม่ทัน" บุษบาพูดอย่างเข้าใจและไม่อยากเอาชนะธรรพ์ให้เป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น ธรรพ์จึงพาขึ้นรถและรีบขับออกไประหว่างอยู่บนรถธรรพ์ก็พูดเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของบุษบาวรรณที่ธรรพ์จะเป็นผู้รับผิดชอบแทนเจ้าสัวกับคุณหญิง
"ค่าเทอมบุษพี่ให้เลขาพี่จัดการให้แล้วนะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายรายเดือนบุษอยากได้เดือนละเท่าไหร่ก็บอกพี่มา เดือนละห้าหมื่นพอใช้หรือเปล่า" ธรรพ์บอกเรื่องค่าเทอมและถามถึงค่าใช้จ่ายรายเดือน
"เอ่อคือ บุษคงรับเงินคุณธรรพ์ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ คุณท่านทั้งสองบอกกับบุษว่าจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายจนบุษเรียนจบ หลังจากบุษเรียนจบแล้วบุษจะทำงานชดใช้คืนให้ บุษถึงได้เรียนสถาปัตย์จะได้จบไปช่วยงานคุณท่านได้ค่ะ อีกอย่างเดือนละห้าหมื่นค่าใช้จ่ายมันเยอะไปมากค่ะบุษไม่ได้ใช้อะไร"บุษบาวรรณบอกธรรพ์สีหน้าเป็นกังวลใจเพราะในใจก็คิดว่าการที่ธรรพ์มาเสนอให้เงินใช้ ส่งเสียให้เรียนธรรพ์คงมีเป้าหมายและแผนการอะไรอยู่เป็นแน่แท้ ไม่มีทางที่นักธุรกิจแบบธรรพ์จะลงทุนไปกับสิ่งใดแล้วไม่หวังผล
"พี่รู้แล้วว่าพ่อกับแม่จะส่งบุษเรียน เรียนจบให้มาช่วยงานที่บริษัทแต่บริษัทพ่อพี่ก็ต้องตกเป็นของพี่อยู่ดีพี่เลยคิดว่าพี่จะรับผิดชอบส่งบุษเรียนเอง" ธรรพ์พูดอธิบาย
"ค่ะ ถ้าอย่างนั้นบุษจะได้สบายใจว่าแค่เปลี่ยนนายทุนแต่สิ่งที่บุษจะใช้คืน และทดแทนยังเหมือนเดิมคือสมองและแรงงานไม่ใช่อย่างอื่น แล้วค่าใช้จ่ายอีก เหมือนกันค่ะบุษขอแค่เดือนละเจ็ดพันก็พอค่ะ ทันทีที่บุษเรียนจบบุษจะทำงานใช้ คืนให้ ให้บัญชีของบริษัทหักจากเงินเดือนบุษได้เลยค่ะ" บุษบาวรรณพูดสรุปพูดเพราะรู้ทันความคิดของผู้ชายตรงหน้าดี
"มักน้อยดีจังเลยนะ ทำไมหรือคิดว่าตัวเองเนื้อหอมมากจะเก็บไว้เผื่ออนาคตจะได้ราคาที่ดีกว่านี้หรือไง" ธรรพ์ฟังสิ่งที่บุษบาพูดอย่างไว้เนื้อไว้ตัวแล้วรู้สึกเสียหน้าและอยากเอาชนะจึงพูดจาหาเรื่องบุษบาวรรณทำให้บุษบาวรรณโกรธและได้หาเรื่องต่อปากต่อคำคืนบ้าง
"ค่ะ ก็คงจะอย่างนั้นด้วยค่ะ" บุษบาวรรณพูดตัดบทเขาอยากจะคิดจะว่าอะไรก็ให้เขาพูดไปเถอะ
"ปากเก่งไปเถอะเดี๋ยวไอ้ตัวที่หอมๆจะหมดความหอม" ธรรพ์ยิ่งทวีคูณความโกรธ
"ตัวของบุษบุษรู้ดีค่ะ คุณธรรพ์ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ" บุษบาพูดน้ำเสียงปกติ
"เออแล้วพี่จะคอยดู วันนี้ไปกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มหรือไปกับผู้ชายที่ไหนหรือเปล่า" ธรรพ์ถามทั้งๆที่ตนเองก็ส่งคนค่อยตามดูอยู่
"ไปกับทั้งผู้หญิง ผู้ชายและเพศที่สามนั่นแหละค่ะ" บุษบาวรรณตอบ
"งั้นกินข้าวกับเพื่อนเสร็จแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ ไลน์มาก็ได้พี่จะมารับ" ธรรพ์ ออกคำสั่งบุษบาวรรณ
"ไม่เป็นไรค่ะบุษจะกลับเอง" บุษบาวรรณตอบ
"บุษบาวรรณพี่จะหมดความอดทนแล้วนะ ทำไมดื้ออย่างนี้วะ" ธรรพ์พูดอย่างฉุดขาด
"ถึงแล้วค่ะคุณธรรพ์จอดหน้าคณะเลยค่ะ" บุษบาวรรณพูดไม่สนใจอาการโกรธเกรี้ยวของอภิวัตรแต่อย่างใด
เมื่อรถจอดสนิทบุษบาวรรณก็รีบลงจากรถ กำลังจะเดินเข้าตึกนัฐพงษ์รุ่นพี่ที่คณะก็เดินสวนมาพอดีและหยุดทักทายบุษบาวรรณ ยืนคุยกันอยู่ครู่หนึ่งทั้งสองคนก็เดินเข้าตึกเรียนไปพร้อมกัน เหตุการณ์ทั้งหมดยังคงอยู่ในสายตาของอภิวัตรที่ยังจอดรถมองบุษบาวรรณอยู่อภิวัตรหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปส่งให้เชิดชัยและโทรศัพท์ไปสั่งให้ช่วยสืบเรื่องของผู้ชายในรูปทันที
"บุษบาวรรณเนื้อหอมนักใช่ไหมแล้วเราจะได้เห็นดีกัน พี่ไม่มีวันยอมให้บุษไปเป็นของใครหรอก" ธรรพ์พูดออกมาเบาๆหน้าตาช่างดูน่ากลัว