บทที่ 9
เวลาผ่านไป
เมื่อทุกคนทยอยเข้าเต็นท์ใครเต็นท์มันแล้ว กิตติที่มีแผนการก็ย่องเข้ามาในเต็นท์ของแพรพรรณ
เขาเห็นหญิงสาวนอนไม่ขยับตัว จึงเข้าไปนอนข้างๆพร้อมยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้เธอร้อง
“อื้ออ” หญิงสาวแกล้งขัดขืนร้องอู้อี้ใส่มือหนาที่ปิดปากเธอแน่น
‘หึ! ทำไมมันง่ายเกินกว่าที่คิดไว้วะ’
กิตติคิดในใจ พลางถอดเสื้อผ้าของตัวเองและหญิงสาวออก แล้วก้มเม้มริมฝีปากบางสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เก็บเกี่ยวตวัดลิ้นกับหญิงสาวไปมา
เมื่อชายหนุ่มยกขาของเธอให้สะโพกงอนลอยขึ้น ซึ่งใบหน้าของเขาก็ซุกลงบนเนินสวาท ลิ้นหนาที่ตวัดเม็ดทับทิมสีคล้ำ ทำให้เธอเสียวซ่านจนต้องครางเสียงยาว
“ซี้ดดดดดด!!”
ก่อนที่จะสอดใส่ตัวตน กิตติก็สวมเครื่องป้องกัน แล้วแทงเข้าไปในดอกไม้ที่เขารู้สึกว่ามีผึ้งตัวผู้ดอมดมหลายคนแล้ว เขาพูดเสียงเยาะเบาๆชิดข้างหูเธอด้วยเสียงกระเส่า
“หึ! ร่านเหมือนกันนะเธอ ฉันก็คิดว่าเธอเป็นคุณหนูไม่เคยเรื่องอย่างว่าซะอีก แต่ดูแล้วน่าจะใช้งานมาหนักเหมือนกันนะเนี่ย ”
เพราะเธอเสียวซ่านจนขนลุก จึงไม่ได้สนใจเสียงกระซิบข้างหู นิสา ยกแขนเกาะบ่าหนา ครางเสียงกระเส่า เมื่อความใหญ่โตเข้ามาในตัวเธอ
“ซี๊ดดดดดด เสียวจัง”
“คิดว่าจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ที่แท้ก็ร่านผู้ชายนี่หว่า”
เสียงกระเส่าของหล่อน ทำให้กิตติมีแรงกระแทกความแข็งแรงใส่ร่องเนื้อ เสียงดังตับๆ
ตับ ตับ ตับ
“ฉันจะเสร็จแล้ว ทำแรงๆหน่อยสิ”
นิสาส่งเสียงร้องครวญครางออกมาเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย
“ได้ งั้นฉันกระแทกไม่ยั้งนะ”
กิตติเปลี่ยนสรรพนามจากผมเป็นฉัน เพราะคิดว่าแพรพรรณไม่ควรได้รับเกียรติจากเขา เขาจับตัวเธอพลิกให้หันหลังให้ ก่อนจะแทงท่อนเอ็นเข้าไปอย่างแรง ก่อนจะกระแทกเข้าออกอย่างไม่คิดชีวิต
เมื่อชายหนุ่มใกล้ถึงที่หมาย เขากระแทกเข้าออกรัวเร็วหลักหน่วงจนคนใต้ร่างหัวสั่นหัวคลอน ก่อนจะดึงท่อนเอ็นออกมาแล้วเขารีบดึงถึงยางออก ก่อนจะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งใส่ร่างเธอ
เขาฟุบหน้าลงบนแผ่นหลังของเธอ มือก็เอื้อมไปขยำนมที่อวบอั๋นอย่างมันมือ ก่อนจะสวมถุงยางอนามัยอันใหม่และกระแทกเข้าไปอีกครั้ง
เธอก็ขมิบจุดซ่อนเร้นกระตุ้นสู้ชายหนุ่มจนเขาเสียวซ่าน จนหลงลืมว่าเสียงของเธอเปลี่ยนไป เสียงกระเส่าเอ่ยบอกเขาอย่างไม่อาย
“ทำต่อไปนะ อย่าหยุดสิ ฉันรับนายได้ถึงเช้า ขอหนักๆเลยบนะ ฉันชอบหนักๆ เร็วๆ ”
“โอเค ฉันจะจัดให้หนักๆไปเลย แล้วอย่ามาร้องขอชีวิตก็แล้วกัน”
กิตติครุ่นคิด แม้จะแปลกใจที่เธอเปลี่ยนจากหญิงสาวที่ดูเรียบร้อยเป็นสาวร้อนแรงร่านสวาท แต่เมื่อหล่อนให้ท่าขนาดนี้แล้ว มีหรือเขาจะไม่จัดให้
ว่าแล้วกิตติก็ดึงถุงยางออก ครั้งนี้เขาสอดใส่เธอโดยที่ไม่มีเครื่องป้องกัน และหลั่งน้ำกามใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้จักเหนื่อย…ทั้งคืน
เวลาแปดโมงเช้า..
ทุกคนตื่นและต่างเก็บเต็นท์ของตัวเอง แต่มีเต็นท์ของแพรพรรณที่ยังไม่เก็บ ทุกคนจึงรู้สึกแปลกใจ ซึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งถามแพรพรรณขึ้นมา
“พรรณ ทำไมเธอยังไม่เก็บเต็นท์ล่ะ”
ด้านแพรพรรณที่นั่งจิบกาแฟอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเธอกำลังจะตอบว่า ‘ก็เหนือบอกว่าจะจัดการเก็บเต็นท์ให้เอง’ แต่เธอก็ไม่ทันได้พูดอะไร เมื่อเพื่อนสาวประเภท 2 ตะโกนเรียกทุกคนว่า
“นี่ทุกคน มาดูอะไรนี่ เร็วๆ”
แพรพรรณและทุกคนได้ยินต่างพากันวิ่งไป รวมถึงอาจารย์ผู้หญิงก็เดินไปยืนดูตรงหน้าเต็นท์ของแพรพรรณ
“ว้าย! อุบาทว์ที่สุด”
อาจารย์ผู้หญิงอุทานเสียงดัง เธอบอกให้นักศึกษาไปเอาน้ำมา และสาดใส่คนสองคนที่เปลือยกายนอนกอดกันโดยมีผ้าห่มผืนบางคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่
ซ่าส์!
“นี่พวกเธอตื่นได้แล้ว บ้าที่สุด นี่พวกเธอทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้ได้ยังไง”
อาจารย์ตะโกนด่าพร้อมสาดน้ำใส่ทั้งสองคน ทำให้กิตติสะดุ้งตื่นและมองหน้าคนที่ตัวเองนอนกอดอยู่
“เอ๊ย! นิสา ทำไมเธอมานอนในนี้กับฉันได้ไง”
กิตติสะดุ้งตื่น ลุกนั่งหน้าตาเลิ่กลั่กมองเพื่อนที่ยืนมองอยู่ แล้วเขาก็หันไปสะกิดให้นิสาตื่นเพราะคิดว่าเธอยังหลับอยู่
ด้านนิสารีบเอาผ้าห่มมาห่อตัวทันทีที่โดนสาดน้ำ แล้วสวนกลับเสียงเบาว่า
“ฉันน่าจะถามนายต่างหาก ทำไมถึงเป็นนาย ไม่ใช่....”
นิสาจะเอ่ยชื่อแสงเหนือ แต่พอนึกได้เธอก็หยุดพูด และก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาใคร แต่หางตาของเธอเห็นแสงเหนือยืนยิ้มอย่างสะใจ ทำให้เธอโกรธเขามาก ‘ แสบนักนะ คอยดูนะ ฉันจะเอาคืนให้ได้’
อาจารย์ผู้หญิงไล่นักศึกษาไปกันหมดแล้ว ก็หันมาตำหนิเขาทั้งสอง
“ทุเรศมากพวกเธอ รีบใส่เสื้อผ้าแล้วเก็บเต็นท์ให้เรีบยร้อย แล้วไปพบอาจารย์ที่เต็นท์อาจารย์เดี๋ยวนี้”
“ครับ / ค่ะ” กิตติและนิสาขานรับเสียงเบา..
ช่วงเวลาที่ใส่เสื้อผ้าและช่วยกันเก็บเต็นท์นั้น กิตติก็ถามนิสาว่า
“ทำไมเธอถึงมานอนที่เต็นท์ของพรรณได้ล่ะนิสา”
“ฉันต้องถามนายมากกว่า นี่นายทิ้งให้ยัยพรรณนอนที่เต็นท์ของนายคนเดียวเหรอ” นิสาใส่อารมณ์เมื่อชายหนุ่มเธอขึ้นมา
“หมายความว่าไง พรรณนอนที่เต็นท์ฉัน? ตั้งแต่เมื่อไร” กิตติถามกลับอย่างสงสัย
“ก็เมื่อคืนเหนือบอกว่าพรรณไปนอนกับนายไม่ใช่เหรอ” นิสาบอก
“ถ้าพรรณเขาอยู่กับฉัน ฉันจะมานอนที่นี่เหรอ ว่าแต่เธอเถอะ ทำไมมานอนที่นี่” กิตติตอบนิสาด้วยท่าทีหงุดหงิดและถามนิสากลับ
“เหนือพาฉันมานอนที่เต็นท์ของพรรณ” นิสาทำหน้างอ เมื่อพูดถึงแสงเหนือ เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าทุกอย่างเป็นแผนของแสงเหนือ
“เชี่ยเอ๊ย! นี่คงเป็นแผนของไอ้เหนือแน่”
กิตติชกมือใส่ฝ่ามือของตัวเอง เมื่อนึกทบทวนคำพูดของนิสา
“เลวที่สุด” นิสาด่าแสงเหนือรวมถึงแพรพรรณ
“เธอโอเคไหม ถ้าเรามาร่วมมือกันทำลายพวกมัน” กิตติถามนิสาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นชิงชังแสงเหนือ
“นายจะทำอะไร” นิสาสวนกลับอย่างไม่แน่ใจ เธอไม่อยากทำอะไรที่เสี่ยงเกินไป
“ก็แก้แค้นเอาคืนพวกมันน่ะสิ เธอไม่เห็นเหรอว่ามันทำเราสองคนได้เจ็บแสบและขายหน้าที่สุด”
กิตติจุดไฟในใจให้นิสา ซึ่งเธอก็พยักหน้าบอกเขาว่า
“ก็ได้ ตกลงฉันอยู่ข้างนาย อยากเอาคืนไอ้สารเลวนั้นเหมือนกัน”…
สามสิบนาทีต่อมา..
กิตติและนิสาถูกอาจารย์หักคะแนนทุกวิชา และยังถูกทำโทษโดยการทำความสะอาดห้องน้ำในมหาลัยเป็นเวลาสองอาทิตย์ ซึ่งเขาทั้งสองเมื่อรับทราบแล้ว ก็พากันกลับเต็นท์ของตัวเอง
ช่วงเวลาที่เดินกลับเต็นท์นั้น กิตติเห็นแสงเหนือ เขาก็ตรงไปหา เรียกชายหนุ่ม พร้อมเหวี่ยงหมัดใส่หน้าของแสงเหนือทันที
ผั๊วะ!
“ไอ้เหนือ ไอ้เหี้ย”
ด้านแสงเหนือไม่ทันได้หันหน้ามอง เขาก็ร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยแรงชกเต็มเหนี่ยวของกิตติ
“เอ๊ย! นี่นายเป็นบ้าอะไรถึงมาชกหน้าฉัน” แสงเหนือเช็ดเลือดตรงมุมปาก พลางลุกขึ้นยืนจ้องหน้ากิตติ
“มึงรู้อยู่แก่ใจ นี่เป็นแผนของมึงใช่ไหม” กิตติตะคอกเสียงเหี้ยมใส่หน้าแสงเหนือให้ได้ยินกันแค่สองคน
“แผนอะไรของมึง กูไม่รู้เรื่อง” แสงเหนือยิ้มมุมปาก พร้อมสวนกลับเสียงดัง จนเพื่อนที่เดินผ่านไปมาได้ยิน
ความแค้นทำให้กิตติกระโจนจับคอเสื้อ ลากแสงเหนือให้ไปคุยในที่ลับตาคน
“มึงให้นิสาไปมานอนเต็นท์ของพรรณ เพราะมึงรู้ว่ากูจะเข้าไปนอนกับพรรณใช่ไหม”
“มึงว่าอะไรนะ เมื่อกี้กูได้ยินไม่ถนัด มึงจะเข้าไปขืนใจแพรพรรณเหรอ”
แสงเหนือผลักอย่างแรงให้กิตติออกห่าง พร้อมตะโกนเสียงดัง จนทุกคนมอง ด้านนิสาเหลืออด เข้าไปทุบตีแสงเหนือ
“ไอ้สารเลว นี่นายหลอกฉันเหรอ”
เสียงทะเลาะกันทำให้ทุกคนเข้าไปดู ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแพรพรรณด้วย เธอจึงเข้าไปห้ามและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“อยากรู้ก็ถามไอ้เหี้ยนี่เอาสิ”
แสงเหนือทำหน้ากวนโอ๊ยกิตติ พลางพยักหน้าบอกให้แพรพรรณถามกิตติ
ด้านกิตติทำหน้าเลิ่กลั่ก ไม่อยากให้แพรพรรณรู้ความจริงเรื่องเมื่อคืน เขาจึงรีบพูดตัดบทว่า “ไปกันเถอะนิสา”
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง รวมทั้งเธอด้วยแพรพรรณ” นิสาด่าแสงเหนือและหันไปพูดตัดท้อแพรพรรณ
“สักวันมันจะเป็นวันของเรา” กิตติจูงมือของนิสา พากันเดินออกไป
“กูจะรอให้มึงมาเอาคืนนะไอ้กิตติ” แสงเหนือตะโกนใส่หลังของกิตติและนิสา
“นี่เหนือ นายจะบอกฉันได้ไหม มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนิสาถึงไปมีอะไรกับกิตติในเต็นท์ของฉัน” แพรพรรณถามแสงเหนือด้วยความไม่เข้าใจ
“เธอน่าจะดีใจนะที่ฉันช่วยเธอ”
แสงเหนือทำท่าทีกวนโอ๊ยใส่แพรพรรณ
“มันเรื่องอะไรล่ะ” แพรพรรณถามเสียงสะบัด
“ไอ้กิตติมันจะเข้าไปข่มขืนเธอน่ะสิ ฉันเลยให้ยัยนิสาเข้าไปนอนเต็นท์ของเธอไง” แสงเหนือบอกแผนการร้ายของกิตติให้แพรพรรณรู้
“อะไรนะ นี่นายทำไมเลวอย่างนี้ นั่นนิสาเพื่อนฉันนะ” แพรพรรณตกใจมากเมื่อรู้ความจริง เธอรู้สึกสงสารนิสาที่ต้องมารับเคราะห์แทนเธอ
“เพื่อนเหรอ เพื่อนที่จะหลอกเพื่อนไปให้คนอื่นข่มขืน เธอยังจะนับว่าเขาเป็นเพื่อนอยู่เหรอ ยัยโง่” แสงเหนือพูดตะคอกใส่หน้าแพรพรรณ
“นายหมายความว่าไง นิสาวางแผนช่วยนายกิตติให้ข่มขืนฉันเหรอ”
แพรพรรณถามออกไปด้วยความตกใจในสิ่งที่รู้มา
“ก็ใช่นะสิ ทำไม เสียดายเหรอที่ไม่ใช่เธอที่โดนข่มขืน อยากโดนก็ไม่บอก ฉันจะได้ไม่ต้องช่วยให้เหนื่อย” แสงเหนือพูดเสียงเยาะ
“ถามจริงๆเถอะเหนือ นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ นายทำร้ายฉันทุกอย่าง แต่นายก็ช่วยฉันไม่ให้ถูกไอ้กิตติข่มขืน”
แพรพรรณถามแสงเหนือออกไปเพราะอยากรู้จริงๆ เธอไม่เข้าใจชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย บางครั้งเขาก็ร้ายกับเธอ บางทีเขาก็ดูเหมือนเป็นห่วงเธอ มันทำให้เธอสับสนไปหมด
“เธอให้ฉันได้เหรอ ถ้าฉันต้องการ” แสงเหนือยืนกอดอก มือก็ลูบคางสายตาเจ้าเล่ห์ก็มองหล่อนอย่างดูแคลน
ก่อนที่จะบอกชายหนุ่ม แพรพรรณก็เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง คิดอยู่นาน แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ลองขอมาสิ ถ้าฉันให้ได้ ฉันก็จะให้ แล้วเรื่องของเราจะได้จบๆไป”
“น้องสาวเธอไง ฉันต้องการยัยพาย”
แสงเหนือพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพราะเขาต้องการ แพรพายจริงๆ
เมื่อได้ยินความต้องการของชายหนุ่ม แพรพรรณก็สั่นไปทั้งตัว เธอยิ่งเกลียดและขยะแขยงแสงเหนือมาก จึงตอกกลับไปว่า
“เลวสารพัดเลวจริงๆ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ยัยพายไม่มีวันกลับมาหานายหรอก และที่สำคัญ พ่อแม่ฉันไม่เอานายไว้แน่ ถ้ารู้ว่านายทำอะไรกับฉันและยัยพายอย่างนี้”
“ถ้าเธอทำให้ยัยพายกลับมาไม่ได้ ฉันจะลงภาพนี้ในโซเชียล ให้ ทุกคนเห็นทั่วโลก รวมทั้งพ่อแม่เธอด้วย”
แสงเหนือชูภาพของแพรพรรณที่นอนเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นให้เธอดู
“ไอ้เหนือ ไอ้ชั่ว” แพรพรรณตกใจมากเมื่อรู้ว่าเขาจะทำอะไร
“บอกให้ยัยพายกลับมา แล้วฉันจะลบภาพพวกนี้ทิ้ง และจะไม่ยุ่งกับเธอ และจะไปบอกไอ้แทนไทด้วยว่า เธอกับฉันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ไม่อย่างนั้น....”
แสงเหนือพูดเสียงเข้มใส่แพรพรรณ เขาทั้งขู่ทั้งปลอบให้แพรพรรณเรียกตัวแพรพายกลับมาจากต่างประเทศ
“นายพูดแล้วห้ามคืนคำนะ” แพรพรรณมองหน้าแสงเหนืออย่างไม่แน่ใจว่าเขาจะทำตามที่พูดไว้หรือไม่
“ฉันสัญญา” แสงเหนือยกมือในท่าลูกเสือขึ้นสัญญาประกอบคำพูด
“งั้นกลับไปบ้านแล้ว เดี๋ยวฉันจะจัดการให้”
แพรพรรณยอมในที่สุด แต่มันไม่ทันใจคนใจร้อนอย่างแสงเหนือ
“ไม่ต้อง เดี๋ยวนี้ ฉันต้องการคำตอบจากยัยพาย เดี๋ยวนี้”
“..” แพรพรรณไม่พูด เธอมองหน้าของแสงเหนือตาเขียวปัด แล้วรีบกดหมายเลขโทรหาน้องสาวทันที..
เมื่อแพรพรรณถูกแสงเหนือบังคับให้ติดต่อแพรพาย เธอก็ไปหามุมที่เงียบไม่มีคนเดินพลุ่นพล่าน โทรหาน้องสาว และเมื่อเสียงของคนทางโน้นรับสาย แพรพรรณก็รีบพูดขึ้นทันที โดยมีแสงเหนือยืนมองอยู่ใกล้ๆ
“พาย ได้ยินพี่ไหม” แพรพรรณถามน้องสาว
“พี่พรรณ พี่โทรหาพายมีเรื่องอะไรคะ แล้วนั่นพี่ร้องไห้ทำไม”
คนฝั่งโน้นได้ยินเสียงของพี่สาว ก็ถามขึ้นเพราะเป็นห่วง
“พี่..” แพรพรรณไม่กล้าบอกน้องจึงทำเสียงติดอ่าง ซึ่งทำให้ แสงเหนือหงุดหงิดจึงแย่งมือถือ แล้วพูดซะเอง
“พาย!”
“..” ไม่มีเสียงตอบจากฝั่งโน้น ทำให้จิตใจของแสงเหนือเดือดเป็น น้ำร้อน เขาเอ่ยเสียงบังคับว่า
“พี่รู้เธอฟังพี่อยู่ กลับมา ถ้าเธอไม่กลับมา พี่สาวของเธอได้เป็นดาราโป้ทั่วโลกดังไปทั่วโลกแน่” แสงเหนือพูดใส่สายขู่ไปยังคนทางไกล
“พี่เหนือจะทำอะไรพี่พรรณ” แพรพายอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ ทั้งทีตอนแรกว่าจะไม่คุยกับคนใจร้ายอย่างแสงเหนือ
“ถ้าเธอไม่กลับมาหาฉัน ภาพนี้จะถูกปล่อยลงเฟสบุ๊กของพรรณ”
แสงเหนือบอกให้แพรพายเปิดวิดีโอคอล พร้อมกับเปิดภาพในมือถือของตัวเองไปให้แพรพายดู
“อย่านะพี่เหนือ พี่จะทำแบบนี้กับพี่พรรณไม่ได้นะ”
แพรพายบอกเสียงเข้ม แต่แสงเหนือยกยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ยินเสียงแมวน้อยของเขา และตอนนี้เขาก็เห็นหน้าของแพรพายผ่านระบบวิดีโอคอล หลังจากไม่เห็นหน้าเธอตั้งนาน เขาแสร้งทำหน้าขึงขังใส่แพรพายและขู่เธอต่อทันที
“ถ้าเธอไม่ต้องการให้ฉันปล่อยภาพพวกนี้ ก็กลับมาหาฉัน”
แสงเหนือยอมรับว่าเขาคิดถึงแพรพาย ยิ่งเห็นหน้ายิ่งคิดถึง
“พี่เหนือ พายเพิ่งมาเรียนเองนะ พี่ให้เวลาพายได้ไหม ให้พายเรียนจบภาคนี้ก่อน แล้วพายจะกลับไปนะคะ พี่เหนือ”
แพรพายพยายามพูดกับแสงเหนืออย่างใจเย็น เธอรู้ว่าแสงเหนือเอาแต่ใจ ถ้าใครขัดใจเขาจะยิ่งอาละวาด ฉะนั้นเธอจะพูดกับเขาดีๆ
“ตกลงเธอไปเรียนกี่ปี” แสงเหนือถามเสียงกระด้าง ทั้งที่ใจเริ่มอ่อนกับเสียงออดอ้อนของแพรพาย
“กำหนดเรียนเจ็ดเดือนเองค่ะ นะคะพี่เหนือ พายขอเรียนให้จบภาคก่อนนะคะ” แพรพายอ้อนวอนเขาผ่านโทรศัพท์
“ฉันจะให้เธอเรียนก่อนก็ได้ แต่ถ้าเธอผิดคำสัญญาอย่าหาว่าฉันใจร้ายกับเธอและพี่สาวของเธอก็แล้วกัน แค่นี้นะ”
แสงเหนือกดตัดสาย ก่อนจะยัดโทรศัพท์ใส่มือแพรพายแล้วเดินจากไปอย่างเร็ว
แสงเหนือเดินไปยิ้มไปด้วยหัวใจลิงโลดเมื่อแพรพายให้คำสัญญาว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบภาค เพราะความเป็นจริงแล้วเขาไม่เคยทำอะไร แพรพรรณเลยนอกจากสร้างสถานการณ์เท่านั้นเอง…
‘อีกไม่นานเราจะได้เจอกันแล้วนะพาย แล้วพี่จะไม่มีทางให้เราหนีพี่ไปไหนอีกเด็ดขาด’