บทที่ 3 โอกาสที่สอง

1579 คำ
กู้เยว่ฉีผงะ ในฝันนั้นน่ากลัวเสียเหลือเกิน แม้บางช่วงจะขาดหายไป แต่ตอนที่นางต้องเผชิญกับความเจ็บปวดกลับแจ่มชัดและรู้สึกหน่วงอยู่ในใจ โดยเฉพาะตอนที่นางตกเลือดอยู่ในเรือนเล็กหลังจวนอ๋อง และตอนที่ต้องลากสังขารหนีตายไปหลบไปพงหญ้าหลังวัด “ท่านพูดเหมือน ท่านก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับข้า” นักบวชหญิงไม่ตอบคำถามของกู้เยว่ฉี “คุณหนูกู้ ชีวิตวันข้างหน้าของเจ้าจะเหมือนในฝันหรือไม่? เจ้าเลือกทางเดินเองก็แล้วกัน” กล่าวจบนักบวชหญิงก็กลับเข้าไปในเรือนแล้วปิดประตู คุณหนูสกุลกู้ถูกประคองขึ้นรถม้าคันใหญ่ อาการเจ็บปวดตามร่างกายหายไปแล้ว แต่เรื่องราวที่วนเวียนในหัวกลับชัดเจน ใบหน้าของนางดูเคร่งเครียดจนสาวใช้ทั้งสองแทบไม่กล้าหายใจ โทสะของคุณหนูใหญ่ธรรมดาเสียที่ไหน? หากทำให้นางโมโห นางก็มักจะสั่งโบยสาวใช้ กระทั่งรถม้าจอดที่หน้าประตูใหญ่ กู้เยว่ฉีเดินลงจากรถอย่างทึ่มทื่อ “คุณหนู ไม่เจ็บแล้วหรือเจ้าคะ?” “ข้าไม่เป็นอันใดแล้ว” นางชะงักเล็กน้อย หันมาตอบห้วนๆ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในจวน หน้าเรือนใหญ่ประจำจวนมีผู้คนยืนชะเง้อคอรอดูนางอยู่ ใต้เท้ากู้บิดาของนางถลาเข้ามาอ้าแขนกอดบุตรสาวคนโต “เยว่เอ๋อร์ ที่เจ้าหายไป พ่อร้อนใจมากรู้หรือไม่? เจ้าหายไปที่ใดมาตั้งสองวัน? ไหนดูสิ ร่างกายของเจ้ามีส่วนใดบุบสลายหรือไม่?” กู้เจินจับตัวบุตรสาวพลิกไปพลิกมา “ท่านพี่ ให้ข้ากอดลูกบ้างเถิดเจ้าค่ะ” กู้ฮูหยินรีบดึงเอาตัวบุตรสาวคนโตไปกอด “เยว่เอ๋อร์ เจ้าหายไปทั้งคืน แม่ไม่เป็นอันกินอันนอนเลยนะ” “ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เป็นอันใด? มือปราบไม่บอกพวกท่านหรือว่าข้าได้รับความช่วยเหลือจากนักบวชหญิงท่านหนึ่ง” “บอกแล้วๆ แต่แม่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี เจ้าไปอยู่กับนางได้อย่างไร?” กู้เฉินผู้เป็นน้องชายเห็นบิดามารดาท่าทางเป็นกังวลไม่เลิกก็รีบส่งเสียง “พวกเราเข้าไปข้างในห้องโถงก่อนเถิดขอรับ ข้าว่าข้างนอกเริ่มจะร้อนแล้ว พี่หญิงใหญ่คงมีเรื่องเล่ายาวเลยทีเดียว” “ดีๆ เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ” ใต้เท้ากู้รีบบอกคนทั้งหมด อนุภรรยาทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำตาปริบๆ พวกนางรู้สึกผิดหวังที่กู้เยว่ฉีไม่ได้มีอันเป็นไปอย่างที่หวังเอาไว้ คุณหนูใหญ่สกุลกู้ผู้ร้ายกาจกลับรอดมาจากเหตุการณ์วุ่นวายในตลาดที่มีคนตายถึงสองคนและบาดเจ็บอีกนับสิบได้ พวกนางได้แต่สะกิดให้ลูกๆ ของตนเดินตามเข้าไปในห้องโถง กู้เยว่ฉีเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้กับบิดามารดาฟัง นางบอกทุกคนว่านางวิ่งหนีเหตุการณ์รถม้าเตลิดเข้ามาในตลาดเข้าไปในตรอก จากนั้นก็เป็นลมไป นักบวชหญิงเห็นเข้าจึงได้ช่วยเหลือนางเอาไว้ เฝ้านางอยู่หนึ่งวันหนึ่งคืนก็เห็นว่านางไม่ฟื้นสักทีจึงไหว้วานให้ขอทานน้อยไปแจ้งกับทางการ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงสิ้นสติไปนานขนาดนั้น? ดีที่แม่ชีผู้นั้นเฝ้าข้าอยู่ตลอดเวลาเจ้าค่ะ” ใต้เท้ากู้ถอนหายใจ “พวกมือปราบก็ยืนยันเช่นนั้น ดีเหลือเกินที่ชื่อเสียงของเจ้ามิได้เสียหาย หลายคนคาดเดาไปต่างๆ นานา พ่อกับท่านแม่ของเจ้ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เกรงว่าเจ้าจะถูกคนไม่ดีพาตัวไป” กู้เฉินหัวเราะหึๆ “อย่าพี่หญิงใหญ่น่ะหรือขอรับ? ไม่มีทางจะมีคนจับตัวนางไปได้ง่ายๆ ไม่แน่ว่าคนพวกนั้นอาจจะบาดเจ็บล้มตายไปเสียก่อน” “เสี่ยวเฉิน เจ้าไม่ควรพูดให้พี่สาวเจ้าเช่นนี้”​ คนเป็นแม่รีบดุบุตรชาย “ขอรับๆ ข้ารู้ พี่หญิงใหญ่คือแก้วตาดวงใจของพวกท่าน” “เวลาไหนแล้ว เจ้ายังจะมาอิจฉาพี่สาวเจ้าอีก ข้ากับท่านพ่อเจ้า กังวลแทบเป็นแทบตาย หากเป็นเจ้าหายไป พวกเราสองคนก็คงจะทุกข์ใจเช่นกัน” “ขอรับท่านแม่ ข้าจะไม่พูดจาพล่อยๆ อีกแล้ว” อนุภรรยาทั้งสองได้โอกาสก็รีบกล่าวแสดงความยินดีที่กู้เยว่ฉีกลับมาได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวหันไปพยักหน้าเนือยๆ “ขอบใจอนุเสิ่น อนุเหยา” คนทั้งหมดในห้องโถงทำหน้าประหลาดใจ โดยปกติหากเกิดเรื่องเช่นนี้กับกู้เยว่ฉีแล้วอนุภรรยาทั้งสองพยายามเข้ามามีส่วนร่วมจะต้องถูกคุณหนูใหญ่ใช้สายตาจิกกัดและอาจจะใช้วาจาย้อนกลับจนหน้าหงาย อนุเสิ่นเห็นท่าทางของกู้เยว่ฉีดูผิดปกติจึงรีบส่งสัญญาณให้อนุเหยาได้รู้ พวกนางรีบพาลูกทั้งสองของตนออกจากห้องโถงโดยไว “ข้าได้ยินนางพูดขอบใจพวกเราแล้ว ถึงกับขนลุกซู่เลยทีเดียว” อนุเสิ่นทำหน้าขนพองสยองเกล้า “ข้าก็เหมือนกัน คุณหนูใหญ่นางคงไม่เก็บความแค้นคราวนี้ไว้ลงกับพวกเราทีหลังหรอกนะ นางเจ้าแผนการ ซ้ำยังเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้น ที่นางหายไปถึงสองวันหนึ่งคืน หากว่ามีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวออกไป เกรงว่าชื่อเสียงคราวนี้คงป่นปี้” “แต่ข้าว่ากลับมาคราวนี้ นางดูสีหน้าไม่สู้ดีเหมือนคนได้รับความตกใจอย่างมาก ท่าทางเหตุการณ์วันก่อนจะน่ากลัวจริงๆ ข้าได้ยินมาว่าที่ม้ามันตื่นกลัวจนวิ่งเหยียบคนในครั้งนี้ ข้างหลังรถม้ามีพวกนักฆ่าไล่ตามเอาชีวิตหลิงอ๋อง ด้วยนะ” อนุเสิ่นเป็นบุตรสาวของรองหัวหน้าหน่วยมือปราบจึงรู้ข่าวอย่างว่องไว “อย่างนั้นหรือ? มิน่าถึงได้มีคนตายตั้งสอง แถมยังบาดเจ็บอีกนับสิบ ดีที่ข้าไม่ออกไปตลาดในช่วงเวลาเดียวกับนาง ไม่งั้นข้าอาจจะไม่รอดก็ได้” “อนุเหยา สตรีอย่างเจ้าเฝ้าอยู่ในจวนก็ดีแล้ว คอยดูบุตรชายอ่านหนังสือไปเถิด” อนุเหยาได้ยินอีกฝ่ายพูดคล้ายดูถูกตนก็สะบัดหน้า “แน่นอนสิ ข้ามีบุตรชายที่จะได้พึ่งพาในวันหน้า ไหนเลยจะเหมือนเจ้าที่คอยตะลอนไปสืบหาจวนดีๆ ให้บุตรสาวได้ออกเรือน” ฝ่ายถูกย้อนยิ้มเชิดๆ “ในเมื่อคุณหนูใหญ่ใกล้จะได้เวลาหมั้นหมายแล้ว เจี่ยลี่ของข้าก็สมควรจะเตรียมตัวไว้เสียแต่เนิ่นๆ” “เอาเถิดอนุเสิ่น ขอให้เจ้าสมหวัง หาครอบครัวดีๆ ให้กับเจี่ยลี่ได้ก็แล้วกัน นางจะได้ออกไปจากจวนของกู้เยว่ฉีเสียที” “เจ้าเองล่ะ ไม่ได้หวังอย่างนั้นหรอกหรือ?” อนุเหยาถอนหายใจ “หวังสิ สักวันหากซิ่วเอ๋อร์ของข้าได้เป็นขุนนาง ข้าอยากให้เขาแยกตัวออกไปอยู่ข้างนอกจะได้ไม่ต้องถูกกดขี่ไปตลอดชีวิต บางทีข้าอาจจะขอนายท่านไปอยู่กับซิ่วเอ๋อร์ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข” สองอนุภรรยาปรึกษาหารือ ประชดประชันและปรับทุกข์กันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับเรือนของตน บุตรสาวของอนุเสิ่นวัยสิบเจ็ดนามกู้เจียลี่ เดินตามหลังมารดา นางอยู่ในสกุลกู้อย่างสงบเสงี่ยมดังนามมาโดยตลอด ทั้งอนุภรรยาและบุตรที่เกิดจากอนุภรรยาในจวนแห่งนี้ ต้องอยู่อย่างไม่มีปากมีเสียง ล้วนเป็นเพราะกู้ฮูหยินกับกู้เยว่ฉี “ท่านแม่ ตกลงว่าท่านพ่อจะคุณหนูใหญ่หมั้นหมายกับผู้ใดเจ้าคะ?” อนุเสิ่นถอนหายใจ “อาจจะเป็นบุตรชายของใต้เท้าตง หรือบุตรชายของใต้เท้าเซียว ชีวิตนางช่างน่าอิจฉาอยู่ในจวนอย่างแสนสุข จะแต่งออกข้างนอกก็ยังได้ครอบครัวที่ดีอีก” กู้เจียลี่ถอนหายใจ ความจริงนางมีใจเอนเอียงให้กับคุณชายตง เพราะเคยเห็นเขาครั้งหนึ่งระหว่างผ่านตลาดและชื่อเสียงของเขาก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นบัณฑิตรูปงามอีกด้วย แต่ฮูหยินใหญ่เคยพูดคราหนึ่งว่าคุณชายใหญ่ตงเหมาะกับคุณหนูใหญ่ กู้เจียลี่จึงได้บีบมือก้มหน้า “แต่ข้าได้ยินนางบอกว่านางอยากจะเป็นสะใภ้ของหลิงอ๋องนะเจ้าคะ” อนุเสิ่นชะงัก “จริงหรือ? เจียลี่” “จริงเจ้าค่ะท่านแม่” “หากว่าคุณหนูใหญ่พูดเช่นนี้ เห็นทีนางคงจะเตรียมแผนเอาไว้แล้ว สตรีมากเล่ห์ร้อยแผนการเช่นนี้ คงหาวิธีกระโจนเข้าไปในสกุลหลิงจนได้” อนุเสิ่นมองหน้าบุตรสาว “บางที เจ้าอาจจะมีโอกาสเป็นตัวเลือกของสกุลตง” “พวกเขาจะยอมรับบุตรอนุอย่างข้าหรือเจ้าคะ?” อนุเสิ่นยิ้มกริ่ม “ถ้าหากคุณหนูใหญ่แต่งงานกับหลิงอ๋องซื่อจื่อก็จะทำให้สกุลกู้มีความสำคัญมากขึ้น การแต่งงานกับเจ้าก็เท่ากับพวกเขาได้เป็นญาติกับสกุลหลิงด้วย” ********************** *ซื่อจื่อ ตำแหน่งของบุตรชายที่จะได้รับตำแหน่งอ๋องต่อจากบิดา *หลิงอ๋องซื่อจื่อ คือ ผู้สืบบรรดาศักดิ์หรือตำแหน่งของหลิงอ๋อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม