ตอนที่ 3...

1705 คำ
พลอยภัทรใจเต้นแรงที่สุดในชีวิต ทุกครั้งที่เห็นฉากเลิฟซีนในซีรีส์ก็ได้แต่สงสัยว่าความรู้สึกจริงเป็นยังไง วันนี้ได้คำตอบแล้วว่ามันยากเกินห้ามใจ ยามที่เขาเปลี่ยนมายืนอยู่ตรงหน้าและวางมือลงบนแก้มที่รอยแดงจากการถูกตบเริ่มเจือจางแต่ความเจ็บช้ำยังแจ่มชัด ความทรงจำเลวร้ายคล้ายได้รับการเยียวยา มือหยาบมากประสบการณ์ของผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงอ่อนโยนแบบที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน “อยู่ด้วยกันก่อนนะครับ” อีกครั้งที่เขาหว่านล้อมทั้งคำพูดและร่างกาย สองมือประคองหน้าขึ้นมารับจูบ ค่อย ๆ ออกแรงกดและแทรกลิ้นเข้าไปข้างใน โดยที่สองตาจ้องมองเพื่ออ้อนวอนให้มาสนุกไปด้วยกัน แต่เมื่อพลอยภัทรยังอยู่เฉย ๆ เขาก็จับสองมือเธอวางไว้ที่ท้ายทอย ก่อนจะลูบคลำสองเต้าอย่างเบามือ โดยที่ปากยังคงจูบต่อไปอย่างใจเย็น ระวังไม่ให้กระต่ายน้อยตื่นตูม เธอตัวร้อนผ่าวทั้ง ๆ ที่แอร์เย็นเฉียบ พยายามมองไปที่อื่นแต่สายตาภวิศก็สะกดไม่ให้หันไปไหน และเมื่อไฟในห้องมืดมิดเขาก็โอบกายไว้แน่น “ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่อยู่เฉย ๆ ไม่ดื้อกับผมก็พอ” ภวิศพูดจบก็รูดซิปด้านหลังลงจนสุด เขารับรู้ได้ถึงความตระหนกของพลอยภัทร แต่ก็ทำให้เธอลืมสิ่งนั้นด้วยรสจูบที่ทวีคูณความเสน่หา “สวยจัง” เขาอมยิ้ม เมื่อชุดที่เธอใส่ไม่ปิดบังอกสวยอีกต่อไป และเขาไม่มองนานให้เธอเขินอาย ก้มหน้าลงไปลิ้มเลียยอดอกอย่างแผ่วเบา “อาห์...” เมื่อเขาขยับปลายลิ้นขึ้นลงไม่ว่างเว้น พลอยภัทรก็เก็บเสียงไว้ไม่ไหว เธอรีบยกมือปิดปาก แค่เขาก็จับมันให้วางลงบนแผ่นหลังอันแข็งแรง “ครางอีกสิครับ ผมชอบ” เธอแปลกใจที่ท่าทางน่ากลัวของเขาสลายหายไปหมด คาดไม่ถึงว่าคำพูดแสนอ่อนหวาน จะขัดกับสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ แต่มันเป็นความขัดแย้งที่ทำให้ใจและปั่นป่วนเกินบรรยาย นี่สินะ... นี่คงคงเป็นเหตุผลที่ใครเคยได้ร่วมเตียงกับเขา ต่างก็อยากกลับมาซ้ำรอยเดิม แต่เคยได้ยินบ่อย ๆ ว่าภวิศไม่กินน้ำพริกถ้วยเก่า และเพื่อนสนิทเคยบอกไว้ว่าการมีเซกซ์ครั้งแรก ควรเป็นครั้งที่น่าจดจำและทำให้เรามีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นหากได้ชายมากประสบการณ์เป็นคู่นอน เพศสัมพันธ์จะการเป็นความสนุกขึ้นมาทันที และนี่คงเป็นการเจอกันครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย พลอยภัทรเลยเลือกปล่อยใจไปกับร่างกายของเขาก็แล้วกัน “หนู... จูบไม่เก่งนะคะ” เธอผลักอกภวิศเบา ๆ อยากบอกให้เขารู้ว่าไม่ประสีประสาจริง ๆ “ไม่เป็นไรครับ แค่เราจูบกันก็พอ” เขายิ้มให้อย่างใจดี ไม่รู้จะใช้คำไหนนอกจากเอ็นดูคนตรงหน้า เธอเพิ่งจะเหมือนกระต่ายจริง ๆ ก็ตอนนี้ น่ารัก น่าทะนุถนอม แต่อย่างหลังคงจะทำยากหน่อย เพราะเรือนร่างที่ได้จับต้องนี้มันดีเหลือเกิน ว่าแล้วก็ระดมจูบไปตามต้นคอ ขยับมาหอมแก้มเบา ๆ ก่อนจะแลกลิ้นกันและกัน มือไม้พัลวันบีบเค้นหน้าอกนุ่มอย่างมันมือ เมื่อแน่ใจว่าเธอพร้อมร่วมรักก็อุ้มไปที่โซฟา ปลดเปลื้องอาภรณ์ให้พ้นสายตา เหลือไว้เพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าแสนสวยงาม “ถอดเสื้อให้หน่อยสิครับ” พลอยภัทรทำตามคำขอ แม้จะเก้ ๆ กัง ๆ ไปบ้าง แต่ไม่นานมัดกล้ามก็เด่นชัดอยู่ตรงหน้า แต่เธอกลับไม่กล้ามอง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้อยากเห็นให้เต็มตา ทว่าเมื่อเบือนหน้าหนี กลับเป็นการเปิดทางให้ภวิศได้ซุกไซ้ต้นคอ และทุก ๆ การสัมผัสของเขาเหมือนน้ำมันช่วยเพิ่มความร้อน แต่บางคราวก็หนาวสั่นเพราะความเสียวซ่านเข้ามาแทรกแซง “ไม่ต้องกลัวนะครับ” เมื่อปลายนิ้วลูบไล้อยู่ตรงหว่างขา เขาก็บอกให้เธอผ่อนคลาย ทำให้อุ่นใจว่านี่ไม่ใช่การรุกรานด้วยการหอมหน้าผาก ก่อนจะค่อย ๆ ออกแรงดันขาเรียวให้แยกออกจากกัน “อาห์...” อีกครั้งที่พลอยภัทรปล่อยเสียงเสน่หา นิ้วเขาเข้ามาแทรกกลางพื้นที่ชุ่มฉ่ำสลับกับเลื่อนขึ้นลง บ้างก็กดลงตรงจุดอ่อนไหว และเธอหลับตาเมื่อรู้ว่าเขาถอดกางเกงออกแล้ว “ลืมตาหน่อยสิครับ มองหน้าผมก็ได้” ภวิศบอกเสียงอ้อน แต่ไม่ยอมให้มือของพลอยภัทรหนีไปไหน เขาสอนให้เธอลูบคลำแก่นกายช้า ๆ อมยิ้มเมื่อเธอมองหน้ากันไม่นานก็เผลอมองต่ำไปอยู่เรื่อยเลย “ถ้าไม่เกร็งก็จะไม่เจ็บนะครับ” พลอยภัทรเม้มปาก ถึงเวลาแล้วสินะที่เขาจะทำเรื่องอย่างว่า หลังจากเสียเวลากับมือใหม่อย่างเธออยู่นาน เมื่อปลายหัวสัมผัสตรงนั้นแทนนิ้วเมื่อครู่ ความหวั่นไหวก็โถถามเข้ามาทวีคูณ ภวิศค่อย ๆ ดันเข้าไปช้า ๆ มือสองข้างลูบหัวคนเบื้องล่างเอาไว้ พลอยภัทรเลยรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ และเมื่อมันเข้าไป... จนสุด... เขาก็ปิดปากที่มีเสียงโอดคราญด้วยจูบแสนหวาน “อย่าเกร็ง เชื่อพี่แล้วจะดีเอง” เขาปาดน้ำตาที่ไหลลงมา ขยับเอวสร้างจังหวะช้า ๆ เมื่อรู้ว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก็เริ่มเพิ่มความแรง “เจ็บมั้ยครับ” พลอยภัทรส่ายหน้า ความรู้สึกนั้นหายไปแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความแปลกใหม่ที่ชีวิตไม่เคยพบเจอ ไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงหลงใหลเรื่องนี้กัน “อาห์...” คราวนี้เป็นภวิศที่เริ่มทนไม่ไหว ที่ผ่านมาเขามีความสุขกับเซกซ์ที่เร่าร้อน แต่พลอยภัทรทำให้รู้สึกกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง ไม่ต้องรีบร้อนหรือรุนแรง แต่ค่อยเป็นค่อยไปและนุ่มนวลชวนฝัน ดื่มด่ำกับความสวยงามระหว่างทางไปสรวงสรรค์ เขามองคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง ไม่ละสายตาให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยว สองมือประสานกันไว้ ควบคุมจังหวะให้หนักเบา ก่อนจะเอ่ยปากชวนให้เธอมาอยู่ข้างบน “ลองดูมั้ย ทำแบบผม” พลอยภัทรปฏิเสธ แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะเขาสลับที่กันอย่างรวดเร็วแต่เธอไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวนั้นเลย “หนูไม่กล้า” เธออยู่เฉย ๆ สองแขนไขว้กันเพื่อปิดหน้าอกไว้ “ไม่ยากเลย” ภวิศให้กำลังใจ จับมือเธอวางไว้ที่กล้ามท้อง ก่อนจะนำทางด้วยการขยับสะโพกขึ้นลง “อาห์...” อีกครั้งที่เธอเสียว และมันเหมือนเสียงเชียร์ให้เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้นอีก “หนูทำได้ คนเก่งของพี่” เขาค่อย ๆ ผ่อนแรง แต่เมื่อทุกอย่างใกล้หยุดลง เพลงรักก็บรรเลงขึ้นอีกครั้งด้วยการควบคุมของพลอยภัทร “ถ้าเขินก็หลับตานะครับ” “...ค่ะ” เธอตอบรับด้วยใบหน้าแดงกล่ำ แต่หารู้ไม่ว่าถูกหลอกเข้าอย่างจัง เพราะภวิศอยากมองอกสวยที่เลื่อนขึ้นลงให้เต็มตา มันงดงามจนต้องห้ามใจไม่เอื้อมมือไปจับ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องลุกมาดูดปลายยอดถัน โดยที่มือสองข้างจับก้นกลมกลึงของพลอยภัทรไว้แน่น “เร็วหน่อยได้มั้ยครับ พี่ไม่ไหวแล้ว” เสียงกระเส่ากระซิบบอกข้างหู หน้าซุกลงกลางอก สองแขนโอบกอดพลอยภัทรเอาไว้ และเขาไม่ได้เห็นแก่ตัวไม่สนใจว่าเธอพร้อมหรือไม่ แต่แน่ใจว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน และทั้งคู่ก็ถึงปลายทางพร้อมกัน ต่างคนต่างเหงื่อออกแม้แอร์ในห้องจะทำให้หนาวเหน็บ ภวิศซับเหงื่อบนหน้าพลอยภัทรด้วยปาก ปลอบประโลมคนใจที่เต้นแรงด้วยการดึงมากอด ลูบผมคนที่หน้าแนบอยู่บนอกแกร่งอย่างแผ่วเบา ทว่าเมื่อจะต่อเกมรักอีกครั้งให้คุ้มเงินแสนที่ต้องจ่าย โทรศัพท์กลับสั่นไม่หวาดไหวเลยต้องบอกให้เธอรีบแต่งตัว “ยังไม่ต้องไปไหน อยู่นี่ก่อน” ภวิศบอกพลอยภัทรเมื่อเธอจะเดินออกไป เธอเลยได้แต่พยักหน้าและยืนอยู่ข้าง ๆ ประตู เขาตะโกนบอกคนข้างนอกให้เข้ามา เพราะคิดว่าเป็นลูกน้องคนสนิทที่โทรเข้ามาอีกครั้ง ทว่าคนที่จะเข้ามาไม่ใช่คณกร แต่เป็นชายแปลกหน้าที่ในมือมีกระบอกปืน ปัง! พลอยภัทรเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอไม่รู้ว่าเสียงที่ได้ยินใช่เสียงปืนหรือเปล่า มันเบาแต่ก็ก้องอยู่ในหู ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ รู้แค่ว่าอยู่ ๆ ก็ยืนไม่ไหวและตัวกำลังจะล้มลง... ภวิศหยิบปืนจริงที่ซ่อนไว้มายิงสวนกลับ แล้วพุ่งตัวไปรับพลอยภัทร เมื่อเห็นว่ากระสุนฝังอยู่บนไหล่ขาวที่เพิ่งสัมผัสก็วิ่งไปหยิบเสื้อสูทมาคลุมตัว เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินผ่านมือปืนที่ถูกยิงกลางหน้าผากจนเลือดนองเต็มพื้น แต่ก่อนจะเดินลงบันไดก็ถอยหลังกลับมายิงประตูห้องที่อยู่ติดทางขึ้นลง เพราะเหลือบไปเห็นว่ามีกุญแจล็อคจากด้านนอก และที่ประตูถูกกระแทกต้องเป็นฝีมือของคณกรแน่นอน “จัดการต่อด้วย” “ครับ” ภวิศบอกคณกรที่รอดพ้นจากการกักขัง ก่อนจะรีบพาพลอยภัทรไปหาหมอ ระหว่างเดินผ่านผู้คนออกทางหลังร้านไม่มีใครสนใจว่าเธอเป็นอะไร เพราะปืนที่ใช้ปลิดชีพกันและกันเป็นแบบเก็บเสียง แต่หลังจากที่เขาขับรถออกไป เสียงสัญญาเตือนภัยก็ดังขึ้น เสียงเพลงที่เคยดังสนั่นเงียบลง ผู้คนโกลาหลหนีออกไปข้างนอก ยกเว้นคนบางกลุ่มที่ออกตามหาจิรภาสกับเมษา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม