อยากได้ใจต้องถึง…5/1

1117 คำ
ณ ภัตตาคารอาคารไทย “รษา ช่วยเสิร์ฟอาหารแขกวีไอพีในห้องหนึ่งให้เราหน่อยสิ พอดีเราเกิดปวดท้องกะทันหัน นะ ๆ ช่วยหน่อยนะ ไม่ไหวจริง ๆ ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำแล้ว” เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนพนักงานสาวในร้านคนหนึ่งวิ่งมาหาด้วยท่าทางรีบร้อน ใบหน้านิ่วมุ่น กุมมืออยู่บริเวณหน้าท้องประกอบอาการที่บอกว่าปวด “ได้ ๆ เดี๋ยวฉันทำแทนเอง เธอรีบไปเถอะ” หญิงสาวรับคำด้วยความเต็มใจ โคลงศีรษะยิ้ม ๆ กับท่าทางของเพื่อนสาวในร้านเมื่อหล่อนวิ่งปรู๊ดผ่านหน้าไป ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้งหน้าห้องอาหารวีไอพี เจ้าตัวยืนรออยู่หน้าประตูสักครู่ก่อนได้ยินเสียง “เชิญ!” สิ้นเสียงของบุคคลในห้องหญิงสาวจึงเปิดประตูเข้ามา... ความผิดปกติเกิดขึ้นในความรู้สึกเมื่อภายในห้องว่างเปล่า ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่นี้เธอก็ได้ยินเสียงคนอนุญาตให้เข้ามาเต็มสองหู ความคิดเร็วเท่าปฏิกิริยาในหัวสมอง รษาหันตัวกลับไปมองด้านหลังในทันใด... “คุณ!” ​ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นในอาการตกใจสุดขีดกับบุคคลที่ปรากฏตัวตรงหน้าเธอในตอนนี้ ทำไมถึงเป็นเขา เขาจริง ๆ ด้วย เขาตัวเป็น ๆ เขาที่เมื่อสองคืนก่อนได้เคยล่วงเกินเธออย่างไม่น่าให้อภัยไปตลอดชีวิต หญิงสาวไม่อยากที่จะอยู่ร่วมห้องหรือร่วมโลกกับเขาอีกสักวินาทีเดียว ดวงหน้าเรียวขึงจัดจ้องมองบุคคลตรงหน้า เรียวปากบางเม้มเข้าหากันสนิทด้วยความโกรธ ทรวงอกไหวขึ้นลงแรงเพราะอาการหอบหายใจที่แรงกว่าปกติ พลันเท้าเล็กที่คิดจะพาตัวเองเดินไปที่ประตูหมายจะออกไปให้พ้นจากคนที่พรากความสาวของเธอไปในคืนนั้น แต่หญิงสาวยังช้ากว่าเขามากนัก เมื่อชายหนุ่มก้าวพรวดเดียวก็มายืนตระหง่านอยู่หน้าประตู ขวางทางออกเธอไว้โดยสิ้นเชิง “หลีกไปนะ!” ​เสียงออกคำสั่งแข็งกร้าว แววในตาสะท้อนความเจ็บปวดรวดร้าวจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเทาขุ่นนั้นอย่างเกรี้ยวกราด อยากจะตบ ต่อย เตะ เขายิ่งนัก ให้สาสมกับสิ่งที่เขาได้ทำกับเธอ “จะรีบไปไหนล่ะ เรามีเรื่องต้องตกลงกัน” ​คนตัวสูงพลางกระตุกยิ้มตอบในสีหน้าใจเย็น ผิดกับคนฟังซึ่งตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรกับเขาทั้งนั้นแต่อยากจะฆ่าให้ตายเลยด้วยซ้ำ สองมือบางกำแน่นจนเล็บยาวจิกเข้าเนื้อตัวเองก่อเป็นความรู้สึกเจ็บ แต่ก็ไม่เท่าความเจ็บปวดที่ใจตอนนี้ “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณทั้งนั้น หลีกไป!” ​เธอแว้ดกลับเสียงสูงตั้งหน้าเดินไปที่ประตู หากบุรุษร่างสูงตรงหน้าหาได้ขยับเขยื้อนตัวออกตามคำสั่งเกรี้ยวโกรธนั้นไม่ ซ้ำยังพูดต่ออีกว่า “ทำไมล่ะ เมื่อสองคืนก่อนเธอยังคุยกับฉันดี ๆ อยู่เลย ยังขอร้องอ้อนวอนให้ฉันทำ...” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นมาแทนคำพูด นัยน์ตาสีเทาหม่นทว่าทรงเสน่ห์คู่นั้นจ้องกลับอย่างมีเลศนัย “หุบปากเน่า ๆ ของคุณเดี๋ยวนี้นะ” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบเธอก็สวนขึ้นมาอย่างหยิ่งทะนง เรียวปากบางเม้มเข้าหากันด้วยความเจ็บแค้น สูดลมหายใจเข้าลึกสุด ความรู้สึกอัดอั้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ขอบตาก่อเกิดเป็นม่านน้ำคลออยู่ในหน่วย กลั้นใจอย่างสุดชีวิตแล้วถามออกไป “คุณต้องการอะไรอีก” “ก็ไม่มีอะไรมากแค่จะเอาค่าตัวเธอมาให้ และจะมาต่อรองอะไรด้วยบางอย่าง...” ​เขาใช้คำพูดที่บาดลึกลงไปในจิตใจคนฟัง พลางดวงตาก็ไพล่มองร่างกายเธออย่างสำรวจราวกับกำลังประเมินราคาของ หากยังประเมินตรวจตราได้ไม่ทั่วตัว หูของเขาก็สะดุดกับคำพูดหนึ่งที่ดังขึ้น “ไปตายซะ!” ลึกในน้ำเสียงมีแต่ความเจ็บปวด น้ำตาหยดหนึ่งไหลเผาะลงมาบนพวงแก้มนวล มือบางรีบยกขึ้นปาดออก เม้มริมฝีปากที่กำลังสั่นระริกไม่ให้เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาให้คนตรงหน้าได้ยิน รษายืนนิ่งมองดูเชิงเมื่อตัวเขาเองก็ยังยืนนิ่ง หากใบหน้าขึงจัดประเมินเหตุการณ์แล้วคิดว่าถ้ายังอยู่ในนี้นานกว่านี้ตัวเธอคงไม่ปลอดภัยแน่ ไวเท่าความคิดเท้าเล็กถลันตัวมุ่งหมายจะเปิดประตูแล้วออกไปให้พ้น แต่...มันไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อเธอวิ่งเข้าไปหวังจะชนร่างสูงทะมึนให้เขาหลีกแต่กลับเป็นโอกาสให้เขารวบเอวบางโอบกอดร่างแน่งน้อยไว้ได้อย่างง่ายดาย คนถูกกอดดิ้นพล่าน... “ปล่อยฉันนะไอ้คนชั่ว ปล่อย!” ตามมาด้วยคำเยินยอที่ไม่ได้ระคายหู คนไม่เต็มใจให้กอดดิ้นขัดขืนอย่างสุดกำลังที่มี มือบางตบเข้าที่แผงอกกว้างใต้เสื้อสูทตัวหนา แรงตบของเธอหาได้ระคายถึงผิวเนื้อเขาไม่ ใบหน้าคมผุดรอยยิ้มเมื่อเป็นต่อ รษาดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง ดวงตาสบมองกับเขาอย่างเกรี้ยวโกรธ เธออยากจะฉีกเนื้อผู้ชายคนนี้ออกมาเป็นชิ้น ๆ ให้สมกับที่เขาทำไว้กับเธอนัก “นี่เธอเป็นคนวิ่งมาหาฉันเองนะ คิดไว้นานไหมล่ะแผนนี้” ​เพียงไม่นานคนตัวเล็กในอ้อมกอดก็นิ่งได้ เมื่อเขากระชับกอดจนแน่นโน้มใบหน้าลงมาใกล้ย้อนถามเหมือนคนรู้ทัน สายตากระหยิ่มยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ เห็นแบบนี้ยิ่งทำให้เธออยากจะฟาดฝ่ามือหนัก ๆ ลงมาอีกสักครั้ง ...ร่างหอมละมุนนี้ไม่ผิดกับที่เขาได้ลิ้มรสในคืนก่อนนั้น มันช่างยั่วยวนเขาได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ สิน่า... “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะร้องให้คนช่วย ช่วยดะ...” ​ไม่ทันที่เธอจะได้ทำอย่างที่พูด ริมฝีปากหยักก็ก้มลงมาบดขยี้ปิดคำพูดนั้นอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนพยายามควานหาความหวานในช่องปากของเธอเหมือนครั้งเก่าก่อนที่เขากระหาย แต่ครานี้อาจจะไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น รษาตั้งสติไม่ให้ตนเองหลงใหลไปกับไฟสวาทที่เขากำลังปลุกปั่น เมื่อปลายลิ้นร้อนสอดเข้ามาฟันคมจึงงับลงที่ริมฝีปากล่างเขาเข้าอย่างจัง จนราฟาเอลต้องผละตัวออก ปล่อยคนในอ้อมแขนให้หลุดโดยอัตโนมัติเมื่อได้รับความเจ็บปวดที่มาอย่างไม่ทันตั้งรับ ‘บอกแล้วไงว่าไม่ยอม’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม