จำใจยอมรับข้อเสนอ...7/1

1350 คำ
หลังเลิกงานรษากลับมาที่ห้องเช่าห้องเล็กอยู่ถัดจากร้านอาหารไม่กี่ช่วงตึก หญิงสาวเดินมานั่งไหล่ห่อคอตกที่ปลายเตียงปลดกระเป๋าสะพายใบเล็กออกจากบ่า ระบายลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ครุ่นคิดถึงเรื่องเดิม... นี่เธอต้องไปอยู่กับเขาจริง ๆ น่ะหรือ ไปเป็นผู้หญิงอย่างว่าที่ถูกเขาซื้อตัวมาด้วยค่าตัวหนึ่งล้านดอลลาร์ ชีวิตการทำงานในต่างแดนจะไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่มาขาย... พลันความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ในใจหญิงสาวเต้นโครมครามแล้วถ้าเธอหนี ถ้าเธอไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีอีกล่ะ เขาจะทำอะไรกับเธอ ถ้าเธอจะหนีกลับเมืองไทยตอนนี้ หรือหนีไปหลบที่ไหนสักที่... โอย! ใบหน้าสวยสะบัดไปมาขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ถอนหายใจแรงอีกหลายครั้งต่อมาด้วยหลายความคิดทำให้หญิงสาวสับสนไปหมด ...เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ แลกกับอิสรภาพสี่เดือน เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ ถ้าเทียบกับเงินไทยตอนนี้ ก็ประมาณสามสิบกว่าล้านบาท เธอคงมีกินไปทั้งชาติ ใช่…เธอต้องการเงิน ต้องการให้คนที่บ้านสบาย แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการมันมาด้วยวิธีนี้ ไม่ต้องการเอาร่างกายเข้าไปแลก นี่ถ้าแม่เธอรู้เข้าคงช็อกที่ลูกสาวบอกว่าจะมาทำงานแต่กลับมาขายตัวให้ฝรั่งซะได้ เอาไงดี ๆ รษาเอาไงดี...เฮ้อออ!!! ...แม้จะถอนหายใจออกมากี่ครั้ง ก็ไม่ได้ช่วยให้ความคิดฟุ้งซ่านในหัวหายไปแม้แต่ครึ่งหนึ่งเลย เช้าวันต่อมา “ว่าไงจ๊ะ เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอรษา” หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องผู้จัดการในเวลาพัก มองดูสีหน้าคล้ายว่ากำลังมีเรื่องทุกข์ใจหนัก ร่างบางหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะจ้องมองคุณเจมส์อยู่เพียงครู่ก่อนเจ้าตัวจะก้มหน้าหลบ มือบีบกันอยู่บนหน้าตัก ...คุณเจมส์รู้สึกถึงความผิดปกติได้ในทันที “มีอะไรก็พูดมาสิ เราคนกันเองไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ฉันพร้อมจะฟัง” คนถูกบอกเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีนิลคลอไปด้วยน้ำที่พร้อมจะไหลลงมาเป็นน้ำตา กลั้นสะอื้น “คือหนู หนู หนูจะขอลาออกสิ้นเดือนนี้ค่ะ” คุณเจมส์พยักหน้า ไม่กระโตกกระตาก “หนูขอโทษค่ะผู้จัดการ หนูขอโทษ” สองมือเรียวกระพุ่มไหว้ ไม่มีคำพูดอื่นใดนอกจากคำว่าขอโทษ และขอโทษจากน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่กล้าที่จะบอกเหตุผล เพราะมันช่างเป็นเรื่องน่าอับอาย กล่องกระดาษทิชชูถูกจับมาวางไว้ตรงหน้า ให้รษาได้หยิบเช็ดน้ำตาที่กำลังพรั่งพรูออกมาจนถึงปลายคางพร้อมเสียงสะอื้นไห้ “ถ้าเธอคิดดีแล้วฉันก็ไม่ห้าม ถ้าไปแล้วอยากกลับมาก็กลับมาได้ทุกเมื่อ ร้านนี้ยินดีต้อนรับเธอ” คำพูดปลอบประโลมยิ่งทำให้รษาสะท้านใจเป็นอย่างมาก น้ำตาที่กำลังจะหยุดพากันไหลเอ่อลงมาเต็มสองแก้มนวลจนเช็ดออกไม่ทัน หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าร้องไห้สะอื้นหนักกว่าเดิม เป็นคุณเจมส์ต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้มาโอบกอด ลูบมือเบา ๆ ที่ไหล่เล็ก รถเมอร์เซเดสเบนซ์คันสีดำเงาแล่นผ่านประตูริโมตอัตโนมัติเข้ามาในเขตบ้านหลังใหญ่ริมชายทะเล จอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบันไดหินอ่อนสามขั้น เดนนิสเปิดประตูลงมาเดินอ้อมมาเปิดประตูเบาะหลังให้ผู้มาใหม่... “เชิญครับคุณรษา” เขากล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล บนใบหน้าขาวเกลี้ยงมีรอยยิ้มไมตรี หญิงสาวก้าวลงมาจากรถสองแขนเรียวกอดกระชับกระเป๋าสะพายเข้าตัวแน่นเมื่อวางตัวไม่ถูก เธอยืนลังเลอยู่ด้านนอกคนเดียวเมื่อเดนนิสบอกให้รอก่อน รษาสูดลมหายใจเข้าลึก สายตาหันมองไปสำรวจนอกตัวบ้านพลาง ๆ ...บ้านหลังนี้ใหญ่โต บริเวณโดยรอบกว้างขวาง สวนหน้าบ้านประดับด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่หลายชนิด มองเข้าไปในตัวบ้านเป็นสีขาวสะอาดตา มีเฟอร์นิเจอร์หลุยส์สีทองชุดใหญ่ตั้งอยู่มุมหนึ่งคาดว่าคงเป็นที่รับแขก ครู่หนึ่ง เจ้าของบ้านจึงเดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เดนนิสเดินไปท้ายรถยกกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ลงมาให้ รษาก้มหน้าหลบโดยอัตโนมัติ หัวใจข้างในเต้นแรงผิดปกติ พยายามอย่างยิ่งบังคับมือบางไม่ให้สั่น “หมดธุระของนายแล้วเดนนิส” “ครับนาย...” รถของเดนนิสขับเคลื่อนออกไป รษายังยืนตัวแข็งอยู่ในอาการก้มหน้า พาลให้อีกคนรู้สึกหงุดหงิดในท่าทางที่เงียบของเธอ ใบหน้าสวยแอบเงยขึ้นมองเมื่อเห็นว่าเขาจ้องเธอจึงก้มลงตามเดิม ท้ายที่สุดชายหนุ่มทนความเงียบไม่ไหว จึงบอกว่า “หน้าที่ของเธอมีอยู่สองอย่างคือ ในห้องนอน และห้องครัว” คนฟังยืนนิ่ง หน้าชา “ฉันบอกเธอเข้าใจไหม” ... ‘เข้าใจสิ ทำไมจะไม่เข้าใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าต้องมาเจอกับหน้าที่อะไร’ “ฉันเข้าใจ” หญิงสาวพยักหน้าเนือยประกอบเสียงตอบผะแผ่ว เพราะความรู้สึกขมปร่าในลำคอ หากยังไม่เงยหน้ามอง “ห้องของเธออยู่ติดกับห้องครัวด้านนู้น” “....” คนถูกบอกยังคงเงียบอยู่ สายตายังคงมองที่พื้นเช่นเดิม “อย่าคิดว่าฉันจะให้เธอมาเป็นคุณนายที่นี่นะ งานของเธอก็คือเป็นแม่บ้านคอยทำอาหารให้ฉันกิน และให้ความสุขกับฉันเมื่อฉันต้องการ” ...ความสุขเหรอ ให้ความสุขกับเขา เขาเคยถามเธอบ้างไหมว่าเต็มใจที่จะให้รึเปล่า “ค่ะ” เธอพยักหน้า หากอาการตอบสนองเพียงน้อยนิดทำให้เขาชักหงุดหงิดทนไม่ไหว จนต้องถาม “นี่เธอจะทำแบบนี้อีกนานไหม มองมันอยู่ได้ที่พื้นนั่น เอ๊ะ!หรือว่าต้องการให้ฉันทำที่พื้นล่ะ” จบประโยคหลังที่คนพูดตั้งใจจะยั่วยุ รษารีบเงยหน้าขึ้นมองฉับพลัน ในแววตาเจือไปด้วยความคับแค้นใจ “บ้า!” โต้กลับเพียงเท่านี้แล้วเบือนหน้าหนี หากมันกลับทำให้เขายิ้ม “ตามมา ฉันจะพาไปที่ห้อง” รษาช้อนตามองขุ่น เรียวปากบางเม้มเข้าหากันสนิท ถอนหายใจก่อนลากกระเป๋าเดินตามร่างสูงนั้นไป ...หน้าที่ของเธอมีสองอย่าง คือในห้องนอนและห้องครัว...หน้าที่ เธอเลือกที่จะทำหน้าที่นี้แลกกับเงินในจำนวนที่มาก และอาจแลกกับอะไรอีกหลายอย่างที่เธอยังไม่รู้ และความเจ็บปวดเป็นอย่างหนึ่งที่เธอจะได้รับกลับมาอย่างแน่นอน... “นี่ห้องของเธอ เข้าไปสิ” เขาเพียงยืนกอดอกบอกอยู่หน้าห้อง มือบางเปิดประตูเดินลากกระเป๋าเข้าไปในห้องนั้นเอง ห้องที่เขาให้เธออยู่เป็นห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมาก ภายในมีแค่เตียงนอนกับเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นเท่านั้น “เก็บของเธอให้เสร็จ แล้วออกไปเจอฉันข้างนอก ให้เวลาห้านาที” เขาออกคำสั่งก่อนเดินจากไป หญิงสาวรีบปิดประตูเดินมาที่เตียงขนาดสามฟุตแล้วทิ้งร่างตัวเองลงไปนั่ง ดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนหยดน้ำตาหยดหนึ่งไหลกลิ้งลงมาตามพวงแก้มเพราะความอดสู กระแสความรู้สึกหลายอย่างก่อตัวเป็นมวลจุกอั้นอยู่ในอก นี่เธอต้องมาอยู่ในสถานะนางบำเรอของผู้ชายคนนี้จริง ๆ หรือ เฮ้อออ!!!...ลมถอนหายใจยาวถูกระบายออกมาตามความทดท้อ กะพริบตาถี่เพื่อขับไล่น้ำในตาที่เตรียมพรั่งพรูกันออกมาให้กลับเข้าไปในลึกสุดของหัวใจ นั่งเตรียมใจอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเดินออกไปพบเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม