ตอนที่ 8 : หักหลัง
"พ่อครับวันนี้ผมพาลูกสาวของไอ้คาไลน์มาหาพ่อแล้วนะครับ พ่อคงดีใจเหมือนที่ผมกำลังดีใจใช่ไหมครับ อีกไม่นานชีวิตของพวกมันจะไม่ต่างจากชีวิตของครอบครัวเรา" น้ำเสียงเข้มพูดกับเจดีย์อัฐิของพ่อด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มของซาตานร้าย
"แม่ครับ แม่คงภูมิใจในตัวผมที่ผมกำลังจะแก้แค้นแทนพ่อ"
"นี่มันเรื่องบ้าอะไร คุณเป็นใครกันแน่ แล้วพ่อฉันไปเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ครอบครัวฉันไปทำอะไรให้ครอบครัวคุณ"
เอวาแผดเสียงดังลั่นอย่างเหลืออด และดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น ต่อให้เสื้อผ้าจะเลอะไรฝุ่นแต่ไม่สนใจเพราะมีเรื่องที่น่าสนใจกว่า อาทิตย์เรียกชื่อพ่อฉันแบบไม่ให้เกียรติ การแก้แค้นของเขาคืออะไร ครอบครัวฉันอยู่กันแบบปกติสุขมาตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีปัญหากับใคร
ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่พอใจและต้องการคำตอบ
"เพราะพ่อเธอทำให้พ่อของฉันต้องตาย!”
อาทิตย์ตะคอกเสียงดังลั่นและเปลี่ยนสรรพนามของคนตัวเล็ก ไม่จำเป็นที่เขาต้องสุภาพอ่อนโยนกับเธออีกต่อไป การที่ต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับครอบครัวที่ทำให้พ่อตัวเองต้องตายมันอึดอัดจนอยากจะระเบิดออกมาอยู่ตลอดเวลา และในตอนนี้เขากำลังเป็นตัวเองรู้สึกได้ปลดปล่อยเมื่อทำทุกอย่างตามแผนที่วางไว้สำเร็จ
"ไม่จริง อย่ามากล่าวหาครอบครัวฉันมั่วซั่ว พ่อของฉันไม่มีวันฆ่าใครตาย และครอบครัวฉันก็ไม่ทำอะไรแปดเปื้อนแบบนั้น" มือเรียวเล็กกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
หมับ
ฝ่ามือหนาคว้าข้อมือคนตัวเล็กด้วยความเร็วพร้อมกับกระชากร่างบางเข้ามาใกล้จนชนแผงอกแกร่ง และออกแรงบีบรัดแน่นจนสุดแรง สายตาคมกริบมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างคาดโทษ ไร้ซึ่งความรู้สึกต่อให้เธอเผลอแสดงสีหน้าเจ็บปวด มือหนายังคงบีบข้อมือเรียวเล็กจนมือของเธอซีดเผือดก่อนจะกระชากตัวเธอให้หันไปมองเจดีย์อัฐิของพ่อตัวเองอีกครั้ง
"มองหน้าพ่อฉัน มองผู้ชายที่รักเพื่อนแบบพ่อฉัน มีแต่พ่อเธอนั่นแหละที่ทรยศหักหลังทำให้พ่อฉันต้องฆ่าตัวตาย"
คำพูดของอาทิตย์ทำให้ฉันหน้าชา ตัวชา เหมือนมีลมหนาวปะทะร่างกายอย่างจัง
'พ่อคาไลน์ทำให้พ่อของอาทิตย์ต้องฆ่าตัวตายอย่างนั้นเหรอ…ไม่จริง!'
"พ่อฉันรักเพื่อนมากจนเชื่อใจเพื่อนทุกอย่าง แม้แต่เซ็นสัญญาพ่อฉันก็ไม่เคยอ่านเอกสารในสัญญา กู้เงินมาลงทุนธุรกิจร่วมกับเพื่อนรักแสนชั่วเพื่อหวังว่าจะได้คืนทุนในระยะเวลาหนึ่งปี และมันเป็นจริงอย่างที่พ่อฉันคาดเดาแค่หนึ่งปีบริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นกอบเป็นกำมีเงินพอที่จะไปปิดหนี้กู้ยืมมาได้ แต่รู้อะไรไหมไอ้เพื่อนรักแสนชั่วมันบอกว่าพ่อของฉันเซ็นสัญญายกผลประโยชน์ให้มันแต่เพียงผู้เดียว และยินยอมให้มันขึ้นเป็นประธานบริษัทแต่เพียงผู้เดียว แล้วที่แย่ไปกว่านั้นมันไล่พ่อฉันออกจากบริษัทด้วยการสร้างเอกสารปลอมหาว่าพ่อฉันยักยอกเงินบริษัท แก้ไขตัวเลขหวังเอาประโยชน์เข้าตัวเอง ทำให้มติคณะกรรมการเห็นชอบและถูกขึ้นบัญชีดำในแวดวงธุรกิจ ถูกใครต่อใครตราหน้าว่า ไอ้ขี้โกง แม้แต่หนี้สินที่กู้มาลงทุนยังไม่มีปัญญาไปจ่าย มีเพียงทางออกเดียวที่จะทำให้ครอบครัวไม่ต้องมารับภาระนั่นคือการตาย!"
อาทิตย์ตะคอกเสียงดังลั่นในคำพูดสุดท้ายจนเสียงกึกก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ
บรรยากาศภายในวัดเริ่มมืดมีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟนีออนด้านหน้าของวัดเท่านั้น ถึงแม้วัดนี้จะอยู่ในเมืองกรุงแต่ความเจริญยังเทียบไม่ได้กับวัดใหญ่ๆ และยิ่งบริเวณที่ทั้งคู่อยู่ไม่มีใครกล้าเดินผ่านในช่วงพลบค่ำ ทำให้บรรยากาศโดยรอบที่เก็บอัฐิน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
เอวาตัวสั่นเทาทั้งบรรยากาศและคนข้างกายที่ยังคงบีบรัดข้อมือจนปวดร้าวไปถึงกระดูก การกระทำของอาทิตย์ทำให้เอวานึกถึงเอลิกซ์น้องชายตัวแสบ ในสมัยเรียนมีช่วงที่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน ถ้าเอวาถูกแกล้งเอลิกซ์จะเข้ามาจัดการเสมอถึงแม้น้องชายฉันจะเด็กกว่าก็ตามแต่ใจเอลิกซ์กล้าที่จะต่อสู้เพื่อพี่สาว และเรื่องพวกนี้จะรู้กันแค่สองคนพี่น้องเพราะรู้ดีว่าถ้าถึงหูพ่อมักจะเป็นเรื่องใหญ่ ต่อให้เอวาเป็นลูกมาเฟียใหญ่ ถูกพ่อสอนมาให้เข้มแข็ง จับปืนเป็น จับมีดได้ แต่พอถูกคนที่เหนือกว่าตลบหลังอย่างจวนตัวก็ทำให้เอวาทำตัวไม่ถูก
ฉันเก่งเรื่องเรียน มีคนยกย่องในเรื่องงาน แต่เรื่องแบบนี้ฉันกลับกลัว ถ้าวันนี้มีเอลิกซ์อยู่ใกล้ๆฉันเชื่อว่าน้องชายของฉันต้องเข้ามากระชากตัวเขาออกไป ต่อให้ผู้ชายคนนี้มีมีดมีปืนน้องชายของฉันก็ไม่เคยกลัว
"หยุดแต่งละครหลอกฉันสักที คุณกำลังเข้าใจครอบครัวฉันผิด ครอบครัวฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ บริษัทครอบครัวฉันมาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อคนเดียวไม่ได้หักหลังใครเพื่อเอามาเป็นของตัวเองคนเดียว"
"ฉันว่าเธอรู้จักพ่อเธอน้อยไปนะเอวา พ่อเธอฆ่าคนตายด้วยมือตัวเองมานักต่อนัก เป็นถึงมาเฟียใหญ่เธอคิดว่าคำนี้ได้เพราะโชคช่วยเหรอไง เจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลเคยค้าอาวุธเถื่อน แต่ใช้มาดนักธุรกิจมาบังหน้า พ่อเธอสามารถฆ่าได้ทุกคนแม้แต่เพื่อนรักตัวเอง ต่อให้ครั้งนี้พ่อเธอไม่ได้ลงมือด้วยตัวเองแต่การกระทำที่พ่อฉันได้รับก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็นจนทำให้พ่อฉันคิดสั้น"
"หยุดสักที!" เอวาตวาดลั่นเพื่อให้เขาหยุดพูดกรอกหู
"ทนฟังความเลวของพ่อตัวเองไม่ได้เหรอไง"
ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเคยเป็นมาเฟีย การที่เติบโตมาในบ้านที่มีลูกน้องนับสิบนับร้อยคน ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าพ่อตัวเองไม่ใช่แค่นักธุรกิจทั่วไป ฉันรู้ดีว่าสมัยก่อนพ่อของฉันเป็นมาเฟียใหญ่ แต่แม่ของฉันเคยบอกว่าพ่อยอมละทุกอย่าง ยอมทิ้งทุกอย่างตั้งแต่ฉันอยู่ในท้องแม่ ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และฉันรู้ดีว่าตอนนี้การค้าอาวุธของครอบครัวตระกูลมาเฟียที่ร่วมทำกันมายังคงอยู่โดยมีรุ่นลูกกำลังบริหารงานต่อแต่ทุกคนพยายามทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการฆ่าแกงกันแบบเมื่อก่อน เป็นเหมือนการส่งสินค้าทั่วไป
และมั่นใจเลยว่ายิ่งเรื่องธุรกิจพ่อฉันไม่เคยโกงใคร ไม่เคยหักหลังใคร ไม่มีทางที่พ่อของตัวเองจะเอามือไปเปื้อนเลือดอีก ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงปลักใจเชื่อว่าพ่อของฉันเป็นคนทำให้พ่อเขาต้องตาย พ่อคาไลน์รักเพื่อนมาก เทียบเท่ากับชีวิตตัวเองเลยก็ว่าได้
"หยุดพาดพิงครอบครัวฉัน หยุดกล่าวหาพ่อฉันสักที แต่ก็ดีในเมื่อคุณกล้าที่จะเผยธาตุแท้ให้ฉันได้เห็น คุณกล้าที่จะเปิดเผยความจริง สัญญาระหว่างเราจะได้จบกันตั้งแต่วันนี้ ฉันคงทำงานกับคนอย่างคุณไม่ได้อีกต่อไป อะไรที่ดำเนินงานไปแล้วรวมถึงเครื่องจักรราคารวมกันเกือบสิบล้านฉันจะถือว่าบริจาคให้บริษัทคุณ"
"หึ...ถ้าจบ เธอก็เหลือแต่ตัวนะ"
อาทิตย์กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะละมือออกจากข้อมือเรียวเล็กปล่อยให้ตัวเธอเป็นอิสระ และยื่นซองเอกสารที่หยิบติดมือมาส่งให้เธอ
"ฉันว่าเธอควรอ่านมันอย่างละเอียดอีกครั้ง ไม่ใช่แค่มองคร่าวๆ"
สีหน้าและแววตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกหวาดหวั่น มือเรียวเล็กหยิบซองเอกสารที่เขายื่นมาให้พร้อมกับเปิดออกอย่างรวดเร็ว มันคือเอกสารที่ฉันเซ็นตอนอยู่ที่ร้านอาหารแต่แค่ฉบับนี้เป็นฉบับคัดลอกจากเครื่องถ่ายเอกสาร แสดงว่าเขากับเลขารู้เห็นเป็นใจทั้งหมดเพราะฉันเซ็นเสร็จเลขาของเขาก็เอาเอกสารไปทันที
เมื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร รายละเอียดทุกอย่างเหมือนกับเซ็นสัญญาการทำงานร่วมกันแบบทั่วไป ไม่มีแม้แต่ข้อให้สงสัย ยกเว้นแต่...
"เห็นชอบและยินยอมตามเอกสารแนบดังต่อไปนี้"
มือเรียวเล็กรีบพลิกแผ่นเอกสารที่แนบอยู่ด้านหลัง เพียงแค่อ่านบรรทัดแรกนัยส์ตาร้อนผ่าว มือที่จับเอกสารสั่นเทาและกำแน่นจนเกิดรอยยับ
'ยินยอมให้นายอาทิตย์มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัท xxx และเริ่มดำรงตำแหน่งประธานทันที ถือหุ้นในบริษัท xxx สามสิบเปอร์เซ็นต์ มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด โดยในระหว่างนี้ให้นางสาวเอวาได้ทำหน้าที่แทน...'
ด้านล่างมีลายเซ็นของฉันกำกับชัดเจน
ยังไม่ทันที่เอวาจะอ่านรายละเอียดจบน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นคลอเบ้า เอกสารที่อยู่ในมือถูกฉีกออกจากกันจนไม่เหลือชิ้นดีก่อนจะปาใส่หน้าชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนยิ้มด้วยความชอบใจ
"อย่ามาใช้วิธีสกปรกกับฉัน”
อาทิตย์มองเศษกระดาษที่กระจายเต็มพื้นด้วยแววตาไร้ความรู้สึก เพราะมันเป็นเพียงเอกสารคัดลอกไม่ใช่ตัวจริง
"ฉันไม่ได้ใช้วิธีสกปรก แต่เธอเองต่างหากที่สะเพร่าเอง ช่วยไม่ได้"
เอวากัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แขนเรียวเล็กยกขึ้นและตั้งท่าจะตบเข้าที่แก้มสากด้วยความโมโห แต่กลับถูกฝ่ามือหนานั้นคว้าไว้ได้ทัน
"....." เป็นเพราะความไม่รอบคอบของฉันเอง ฉันเป็นคนเซ็นด้วยมือของฉันเอง แต่ตอนนั้นที่เปิดแผ่นที่สอง เปิดเพียงมุมล่างที่พอจะเซ็นได้ ไม่ได้อ่านรายละเอียดของแผ่นที่สอง ภาพเหตุการณ์ที่ฉันจรดปลายปากกาเซ็นลงเอกสารฉบับนี้ลอยเข้ามาในหัว
อาทิตย์ใช้แรงบีบรัดข้อมืออย่างแรง นิ้วมือทั้งห้ารัดข้อมือเธอจนแทบจะแหลกคามือ ไม่จำเป็นต้องสงสารหรือเห็นใจ ยิ่งนึกถึงเรื่องราวของพ่อยิ่งโมโหจนอยากจะทำให้เธอตายตาม แต่ถ้าเธอตายการแก้แค้นของเขาก็จะไม่สนุก คนอย่างเขาต้องให้พวกมันเสียใจและทรมานจนตายเหมือนที่ครอบครัวเขาได้รับ แม่ต้องตรอมใจตายตามพ่อไป ครอบครัวของคาไลน์ก็จะไม่ต่างกัน สิ่งไหนที่พวกมันรักเขาจะยิ่งทรมานให้เจ็บปวด เขาจะใช้เอวาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นให้พวกมันเจ็บช้ำ