แองเจลล่าถอดสร้อยคอที่ตัวเองใส่มาตั้งแต่เกิดส่งให้กับสาวชาวเบดูอินตรงหน้า
“รับไปสิ แล้วถอดเสื้อผ้าที่เธอใส่มาให้ฉัน...”
สาวเบดูอินส่ายหน้าน้อยๆ เพราะพอจะเดาออกว่าหญิงต่างชาติคนนี้กำลังต้องการอะไร
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณแองจี้ ฝ่า... เอ่อ ท่านฟาเดลจะต้องฆ่าฉันแน่หากรู้เข้า”
“ไม่หรอกน่า เธอก็อย่าปากโป้งสิ ฉันก็แค่อยากใส่ชุดของเธอดูเท่านั้นเอง”
แม้ว่าแองเจลล่าจะคะยั้นคะยอสาวตรงหน้ามากแค่ไหน แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่ยอมคล้อยตามอยู่ดี
“คุณแองจี้ทานมื้อเช้าเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเย็นหมด”
แองเจลล่าถอนใจออกมาอย่างขัดใจ ถ้าหล่อนไม่สามารถหาชุดของสาวๆ ที่นี่มาสวมใส่ได้ หล่อนก็ไม่มีทางเดินออกไปจากที่นี่ได้เลยน่ะสิ ไม่ได้หรอก... หล่อนจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองหนีไปจากทะเลทรายแห่งนี้ให้ได้ ทะเลทรายที่มีคนใจร้ายอย่างฟาเดลเฝ้าอยู่
“ฉันไม่หิว...”
“แต่ท่านฟาเดลสั่งให้คุณแองจี้ทานให้หมดนะคะ” คู่สนทนาของหล่อนย้ำคำสั่งของฟาเดลอีกครั้ง
แองเจลล่าพยายามครุ่นคิดหาทางออก และสุดท้ายก็ค้นพบมันจนได้
“ก็ได้... ฉันจะกินของพวกนี้ให้หมด แต่เธอช่วยไปหยิบต่างหูบนเตียงให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันคิดว่ามันน่าจะตกอยู่บนนั้น” สาวสวยเริ่มเดินตามแผนของตัวเอง และคู่สนทนาก็ตามหล่อนไม่ทันเสียด้วย
“ได้ค่ะ ฉันจะไปหาให้เดี๋ยวนี้ คุณแองจี้ทานมื้อเช้าเถอะนะคะ”
แองเจลล่าไม่ตอบนอกจากยิ้มออกมา หล่อนรอจนคู่สนทนาก้มๆ เงยๆ หาต่างหูบนเตียงของหล่อนแล้วนั่นแหละจึงรีบลุกขึ้นและเดินไปหยุดข้างหลังจากนั้นก็ใช้แจกันใบเล็กที่ถือติดมือมาฟาดลงไปบนท้ายทอยของหญิงตรงหน้าเบาๆ แต่แค่นั้นก็สามารถทำให้คนถูกตีสลบได้เช่นกัน
“ขอโทษนะ ฉันจำเป็นจริงๆ”
หญิงสาวพึมพำออกมาอย่างละอายใจ จากนั้นรีบสับเปลี่ยนชุดของหล่อนกับของสาวชาวเบดูอินที่นอนสลบอยู่อย่างว่องไว ในใจก็ภาวนาขออย่าให้ใครเข้ามาพบเจอตอนที่หล่อนกำลังก่อเรื่องอยู่เลย โดยเฉพาะนายคนนั้น นายฟาเดลจอมเถื่อน
“เฮ้ย... แค่นี้ก็เรียบร้อย”
แองเจลล่ายิ้มให้กับผลงานของตัวเอง หล่อนลากร่างของสาวเบดูอินที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดิมของหล่อนขึ้นไปไว้บนเตียง จากนั้นก็จับให้นอนตะแคงหันหลังให้กับปากกระโจม ก่อนจะดึงผ้าขึ้นมาคลุมทับเอาไว้จนถึงหน้าอก
“ฉันไม่มีวันยอมงอมืองอเท้ารอให้องค์ชายบ้าเลือดนั่นเชือดหรอก ไม่มีทาง”
แล้วแองเจลล่าก็ก้าวออกจากกระโจม เดินก้มหน้าก้มตาออกไปยังทางออกที่คิดว่าตัวเองน่าจะจำได้ แต่ระหว่างทางก็ชนเข้ากับร่างของใครคนหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าภูผาเสียอีก หล่อนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเพราะจำกลิ่นกายของเขาได้ ก็จะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจากนายฟาเดลจอมเถื่อนคนนั้น
“ขอ... ขอโทษ” แองเจลล่าดัดเสียง และก้มหน้ามากยิ่งขึ้น
“จะรีบไปไหน...”
เสียงของคนตัวโตไม่ได้มีร่องรอยความสงสัยเลยแม้แต่น้อย และนั่นก็ยิ่งทำให้แองเจลล่ากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในอกไม่น้อยเลยทีเดียว
“ฉัน... จะไปทางนู้น”
ชี้ไปมั่วซั่ว แต่ก็น่าแปลกเพราะคนตัวโตปล่อยให้หล่อนเดินจากมาแต่โดยดี ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่ตามหล่อนทันทุกเรื่องอย่างฟาเดลจะมาพลาดเอาเรื่องง่ายๆ แบบนี้ แองเจลล่าคิดอย่างผ่อนคลายขณะก้าวเท้าเดินไปตามพื้นทรายอย่างมุ่งมั่น แม้จะไม่รู้ว่าถนนใหญ่อยู่ไกลแค่ไหน แต่หล่อนจะไม่มีวันถูกขังอยู่ที่นี่กับคนไร้หัวใจอย่างฟาเดลแน่นอน ไม่มีทาง
“ท่านฟาเดลจะไม่ตามคุณแองจี้ไปจริงๆ หรือครับ”
ข้ารองบาทคนหนึ่งใจกล้าเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นเจ้าเหนือหัวของตัวเองยอมปล่อยให้แองเจลล่าเดินจากไปอย่างง่ายดายแบบนั้น
“นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอคิดหนี... ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีครั้งที่สามอีก เธอจะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม”
“แต่ในทะเลทรายไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนมันน่ากลัวมากนะครับท่านฟาเดล”
“แล้วไง...” บาร์ซาร์หันไปตวัดตาจ้องหน้าคนพูดด้วยสายตาน่าสะพรึงกลัว
“คือ... กระหม่อมแค่... แค่เป็นห่วง”
“หุบปากแล้วก็ไปให้พ้นหน้าซะ ก่อนที่ฉันจะสั่งโบยนาย...”
ไม่ต้องรอให้บาร์ซาร์ออกคำสั่งไล่อีกครั้งหนึ่งเลย เพราะข้ารองบาทรีบเผ่นแน๊บออกไปจากเบื้องหน้าของบาร์ซาร์อย่างรวดเร็วทันที
“ผมไม่มีทางเป็นห่วงคุณหรอก แองจี้”
แม้จะบอกกับตัวเองเช่นนั้น แต่... แต่พอจะนั่งจะนอนเข้าจริงๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะหัวใจมันร้อนรุ่มราวกับถูกสุมด้วยกองไฟ ความห่วงใยที่ไม่เคยมีให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อนผุดพรายขึ้นมาเต็มอก หล่อนไม่คู่ควรที่จะได้รับความรู้สึกพิเศษแบบนี้จากเขาสักนิด แต่เขาก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ เขาหลงใหลแองเจลล่าจนหัวปักหัวปำ ลุ่มหลงหล่อนทั้งๆ ที่รู้ว่าหล่อนนั้นแสนจะสำส่อนแค่ไหน
“ผมไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้เลย... ให้ตายสิ”
ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างเดือดดาล แล้วก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้อีกแล้ว เขาเผ่นแน๊บออกจากกระโจมและมุ่งหน้าสู่ทะเลทรายแสนเวิ้งว้างนั้นด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มไม่ผิดจากถูกไฟแผดเผา ไฟรัก... ไม่ใช่หรอก เขาไม่ได้รักแองเจลล่า มันก็แค่ไฟสวาทที่อีกไม่นานมันก็จะมอดดับไปเองเท่านั้น
แองเจลล่ายกมือขึ้นป้ายเหงื่อเม็ดโตๆ บนหน้าผากของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะมองไปรอบๆ ตัวด้วยความสับสน ทุกอย่างรอบตัวมันมีแต่ทะเลทราย และยิ่งเดินหน้ามาเท่าไหร่ก็ยิ่งค้นพบว่าผืนทรายแห่งนี้น่ากลัวแค่ไหน นี่หล่อนคิดผิดหรือเปล่านะที่หนีออกมาแบบนี้ ทั้งๆ ที่ฟาเดลก็เตือนเอาไว้แล้ว
“แล้วจะไปทางไหนล่ะเนี่ย”
หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงอาทิตย์เบื้องบนก็ช่างเป็นใจให้กับทะเลทรายเหลือเกิน ดูสิ... สาดแสงร้อนผ่าวราวกับต้องการจะลวกผิวของหล่อนให้ไหม้เกรียมลงมาไม่หยุด หล่อนคงจะต้องตายที่นี่ล่ะมั้ง น้ำตาแห่งความหวาดกลัวค่อยๆ ไหลออกมาอาบแก้ม ตอนนี้สิ่งที่หล่อนคิดถึงที่สุดก็คือฟาเดล ผู้ชายที่หล่อนรู้ซึ้งแล้วล่ะว่ารักเข้าไปจนหมดใจ หากตอนนี้เขามาอยู่ตรงหน้าหล่อน... หล่อนจะไม่ลังเลเลยที่จะบอกว่ารักเขา แองเจลล่าคร่ำครวญอยู่ภายในอก กายสาวที่ขาดทั้งน้ำและอ่อนเพลียเพราะแสงแดดค่อยๆ เอนลงกับพื้นทราย ความร้อนที่นาบกับผิวสาวนั้นไม่มีอำนาจพอที่จะทำให้คนที่กำลังจะขาดใจตายอย่างหล่อนมีสติขึ้นมาได้เลย และสุดท้ายทุกอย่างรอบตัวก็ดับมืดลงพร้อมๆ กับความตายที่ค่อยๆ ย่างกายเข้ามาใกล้ทุกขณะ