สาวน้อยจันดา (จบตอน) Drak Erotic

3633 คำ
เสียงเหยียบกิ่งไม้แห้งหักดังกรอบแกรบ มันดังไม่ห่างจากบริเวณกระท่อมหลังเก่าทรุดโทรม กระท่อมหลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่ทั้งหลัง ดูจะเป็นไม้หาง่ายที่สุดในป่าดงดิบแถบนี้ก็ว่าได้ พื้นกระท่อมทำจากแผ่นไม้สัก ทั้งหมดถูกยกขึ้นสูงเหนือพื้นดินด้านล่างประมาณหนึ่งช่วงตัว ส่วนตรงบริเวณด้านหน้านั้นยื่นตัวออกมาเป็นระเบียงแคบตีฝาเป็นตารางหมากรุกล้อมกรอบ มุมหนึ่งใกล้บันไดมีตุ่มน้ำขนาดเล็กวางไว้สำหรับใช้ล้างเท้าก่อนขึ้นตัวเรือน... กระท่อมทั้งหลังถูกอำพรางสายตาจากคนภายนอก แอบอยู่ภายใต้โคนไม้ใหญ่ ต้นไม้ดังกล่าวมีอายุนานนับร้อยปี ถ้าไม่สังเกตดีๆก็แทบมองไม่เห็นกระท่อมหลังนี้ด้วยซ้ำ เมฆหมอกสีดำทะมึนแผ่กำจายไปทั่วทิศ คล้ายดั่งต้องมนต์สะกดไว้ด้วยกลีบใบอันเขียวขจี... ภายในกระท่อมมีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ เขามีบ่าไหล่กว้างและทรงพลังเหนือมนุษย์ธรรมดา กล้ามเนื้อกำยำอุดมสมบูรณ์ด้วยมัดกล้าม ตลอดทั้งช่วงลำตัวตึงแน่น ก่อนจะเรียวเป็นรูปตัววีวกเข้าหาเอวสอบ มันรับกับช่วงสะโพกแข็งแรงและช่วงขาได้รูปแข็งแกร่งจนสาวใดเห็นเป็นต้องน้ำลายหก... ชายหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า อามันต์... เขาอาศัยอยู่เพียงลำพัง ในป่าอาถรรพ์แสนห่างไกล ถึงกระนั้นกระท่อมหลังนี้กลับไม่เคยเงียบเหงาหรือห่างหายจากสตรีผู้งดงามเลยสักค่ำคืน ... อามันต์เป็นชายหนุ่มใบหน้าคมคาย หล่อเหลาราวกับเทวดาสักองค์บนสรวงสวรรค์ชั้นสูง ถึงกระนั้นชายหนุ่มผู้นี้กลับมีชาติกำเนิดสุดแสนอาภัพ เขากำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เกิด ตอนเด็กเขาถูกชายชราผู้หนึ่งนำมาเลี้ยง อามันต์เรียกท่านว่าตาชุ่ม... ชายหนุ่มถูกตาชุ่มเลี้ยงดูมาจนกระทั่งเติบใหญ่อยู่ภายในป่าอาถรรพ์ จนกระทั่งท่านหมดอายุขัยด้วยโรคชรา หลังจากนั้นอามันต์จึงใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังเรื่อยมา... เหตุต้องใช้ชีวิตตามลำพังนั้น เป็นเพราะตาชุ่มของเขามิใช่คนเฒ่าธรรมดาทั่วไป... หากกลับเป็นคนมีพลังพิเศษเหนือธรรมชาติ สามารถสื่อสารกับเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ในป่าแห่งนี้ได้ทุกตัว บางตัวถึงขั้นยกย่องท่านให้เป็นเจ้าเหนือหัวพวกมันเลยก็มี พลังพิเศษเหนือธรรมชาติถูกถ่ายทอดมายังอามันต์อีกทอดหนึ่ง ในฐานะทายาทเพียงคนเดียว... นอกเหนือจากพลังพิเศษ อามันต์ยังถูกสอนให้รู้จักการค้าขายแบบคนธรรมดาทั่วไป ด้วยการเก็บของป่ากินได้นำออกไปขายตามหมู่บ้านต่างๆ หมู่บ้านแต่ละแห่งนั้นอามันต์เลือกชนิดให้ห่างไกลจากในป่าดงดิบ เป็นการหลีกเลี่ยงความวุ่นวายบางประการ... เสียงดังกรอบแกรบ ยังคงดังไม่หยุด ทำให้อามันต์ต้องขยับตัวเตรียมพร้อม เขาไม่แน่ใจ เจ้าต้นกำเนิดของเสียงดังกล่าว มาจากคนหรือว่าสัตว์จำพวกกินเนื้อเป็นอาหารกันแน่ อาจจะเป็นเสียงฝีเท้าของเสือลาย หรือไม่ก็อาจเป็นเสียงของช้างป่า สัตว์จำพวกนี้มักเดินออกมาหาแหล่งน้ำดื่มตรงชายป่าอีกด้านในยามค่ำคืน... จนกระทั่งเสียงนั้นดังเข้ามาเรื่อยๆ อามันต์จึงเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการก้มคลาน หมอบร่างกำยำลงมาอยู่ตรงมุมมืดด้านหนึ่งของห้อง ความหนาทึบของใบไม้ช่วยกั้นแสงจากดวงจันทร์ได้ดี หนุ่มชาวป่าค่อยๆยืดลำคอยาว เพ่งสายตาผ่านซี่ของไม้ไผ่ ผ่านความมืดมิดอันน่าสะพรึง... ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่เอาการ อีกทั้งยังมีฝีมือเจนจัดด้านการต่อสู้ อามันต์เลยไม่เคยนึกหวั่นกลัวถ้าหากผู้บุกรุกจะเป็นคน ทว่าอามันต์ไม่ชอบต่อกรกับสัตว์ดุร้าย ไม่ใช่เขากลัวพวกมันจะทำร้ายเขา ทว่าอามันต์กลัวจะพลั้งมือทำพวกมันบาดเจ็บต่างหาก... อามันต์รักป่า รักสัตว์ทุกตัวในป่าแห่งนี้ ไม่เคยคิดอยากทำร้ายพวกมันสักครั้ง พวกมันเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งครู คอยสั่งสอนให้อามันต์ป้องกันตัวเองจากภัยอันตราย... ณ เวลานี้ อามันต์ไม่มีตาชุ่ม แต่อามันต์ยังมีสัตว์ป่า ถึงจะทดแทนความรู้สึกกันไม่ได้ แต่ในชีวิตอามันต์ไม่เคยเงียบเหงา... เจ้าแห่งป่าหนุ่มสวมเพียงผ้าผืนน้อยปกปิดความอุจาดตา ด้านบนเขาปล่อยให้เปลือยเปล่า โชว์ให้เห็นผิวกายมันวาวราวกับลงน้ำมันไว้ตลอดเวลา ยามเดินทางไปไหนมาไหนจะได้คล่องตัว เขาจึงไม่นิยมสวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกับชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อามันต์เคยเข้าไปค้าขายแลกเงินแลกอาหาร อามันต์จึงมีเสื้อผ้าพวกนั้นอยู่สองสามชุด มีไว้ใช้เฉพาะต้องเดินทางเข้าหมู่บ้าน จะได้ไม่เป็นจุดสนใจของคนสอดรู้สอดเห็น... เสียงสวบสาบดังกล่าวดังใกล้เข้ามาอีกเรื่อยๆ จนตอนนี้อามันต์ได้ยินเสียงฝ่าเท้าหนักๆ เหยียบลงกับพื้นไม้ตรงระเบียงหน้ากระท่อม... สวบ สวบ สวบ... อามันต์รีบคว้ามีดสั้นกำไว้ในมือ เป็นอาวุธประตัวของเขานั่นเอง... เขาหมอบกายล่ำสันราบลงบนพื้น ตะแคงใบหน้าแนบใบหูกับพื้นไม้ คอยฟังเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอกกระท่อม มันเป็นเสียงของอะไรกันแน่... “นาย...” เสียงหวานตะโกนส่งเข้ามาให้คนด้านในรับรู้ หล่อนมิใช่ผีสางหรือสัตว์ดุร้ายจากไหนทั้งนั้น แต่เป็นเสียงของแม่สาวชาวบ้านคนหนึ่ง ตัวอามันต์เองก็คุ้นเคยกับบิดาเจ้าหล่อนอยู่พอสมควร ไม่ใช่เฉพาะแต่บิดาเจ้าหล่อนที่อามันต์คุ้นเคย กับตัวสาวน้อยแรกแย้มนางนี้อามันต์ก็ทำความคุ้นเคยมาเป็นอย่างดี จะบอกว่าทุกซอกทุกมุมก็คงไม่ผิดอะไร... “นั่นจันดาหรือ?” อามันต์ตะโกนถามกลับออกไปด้านนอกประตู หากเพียงไม่นานบานประตูสานจากใบหญ้าคาก็ถูกดันเข้ามาแทนคำตอบ ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่านายผ่อนลมหายใจออก พลางยันกายหนั่นแน่นขึ้นนั่งขัดสมาธิ เพ่งสายตามองผ่านความมืดมิดยามราตรีกาล สำรวจแม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม นมเป็นนม เอวเป็นเอว มีส่วนเว้าส่วนโครงสมบูรณ์แบบอย่างหาตัวจับยาก แถมตรงนั้นยังสดและหอมหวานเหลือจะกล่าว อาจด้วยวัยกำลังเป็นสาวสะพรั่ง จันดา เลยทำให้อามันต์ถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกเห็น ส่วนตัวสาวเจ้าก็เช่นกัน...เพียงครั้งแรกที่ได้สบตากับอามันต์ จันดาก็แทบหัวใจหยุดเต้นลงเสียดื้อๆ หล่อนไม่เคยเจอผู้ชายคนใด มีเสน่ห์เร้าใจเหมือนกับหนุ่มชาวป่าคนนี้สักคน... ดังนั้นพอมีช่องโอกาสงามๆให้อามันต์กับจันดาอยู่กันตามลำพัง อามันต์จึงไม่คิดปล่อยโอกาสงดงามนั้นให้หลุดพ้นมือ เขาจัดการตะล่อมพาแม่สาวน้อยแสนหวานท่องเที่ยวไปยังแดนสวรรค์มาตั้งหลายยก และนี่จันดาคงจะติดใจรสชาติเซ็กส์จากเขาสินะ เจ้าหล่อนถึงกล้าเสี่ยงอันตราย หลบมาหาเขาถึงในป่าแบบนี้... ถึงจะรู้จุดหมายปลายเหตุดี หากทว่าอามันต์กลับแกล้งถามออกไปอย่างหน้าตาเฉย... “เอ็งมาทำอะไรที่นี่ดึกดื่นป่านนี้วะ...จันดา แล้วไม่กลัวพ่อเอ็งจับได้หรือไง” อามันต์ถามพร้อมหันไปเก็บมีดสั้นไว้ตามเดิม เขาลุกเดินมาจุดตะเกียงจนไฟสว่างไสว แสงไฟสีส้มขับส่งให้ร่างอวบอัดตรงปากประตูดูเย้ายวนอารมณ์ จนหนุ่มเจ้าแห่งป่าดงดิบรู้สึกตึงแน่นแถวผ้าผืนน้อยขึ้นมาในบัดดล... หญิงสาวนามว่าจันดาพอถูกถามเลยเอาแต่ยืนตัวบิด มือไม้พันกันยุ่งเหยิงโดยไม่รู้จะเก็บไว้ตรงส่วนไหนของร่างกายดี จะให้เธอบอกกับเขาออกไปโต้งๆได้ยังไงกันเล่า เธอต้องการให้เขาร่วมรักกับเธออีกครั้ง หลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เธอกับเขาเพิ่งแอบสานสัมพันธ์ลับชนิดถึงพริกถึงขิง อามันต์พาเธอโบยบินราวผีเสื้อตัวน้อยทั่วท้องทุ่งงาม และเธอโหยหาความรู้สึกเช่นนั้นอีกครั้ง... “คือว่าจันดา...คิดถึงนายน่ะจ้ะ...” จันดาเรียกอามันต์ว่านาย เพราะเขาเคยช่วยชีวิตพ่อเธอไว้จากพวกนักเลงโต... คนถูกบอกคิดถึงขมวดคิ้วมุ่น หากในส่วนลึกอามันต์รู้สึกลิงโลด... เขาเดินมาหย่อนกายนั่งลงยังกลางเรือน ก่อนกวักมือเรียกสาวน้อยผู้มีใบหน้าหวานหยด รูปร่างอวบอัดให้มานั่งใกล้เขา... “เอ็งมานั่งใกล้ๆข้านี่มาจันดา...เมื่อกี้เอ็งบอกว่าอะไรนะ...หูข้าไม่ค่อยได้ยิน” สาวน้อยว่าง่ายรีบสาวเท้ามาหย่อนนั่งใกล้กับเจ้าของกระท่อม แล้วพยักหน้าตอบรับ... “ฉันบอกว่า...ฉันคิดถึงนายจ้ะ” “เจ้าคิดถึงข้าจริงเหรอ...” อามันต์แกล้งทำเสียงยานคาง หูตานั้นดูพราวระยับ จันดาเห็นแล้วได้แต่อายม้วน หากด้วยความใจกล้า สาวน้อยเลยยื่นหน้ากดริมฝีปากอิ่มจูบปากชายหนุ่มเสียเอง “ก็ฉันคิดถึงนายมากๆนี่นา อาทิตย์กว่าแล้วนะ ที่ไม่เห็นนายเข้าหมู่บ้านเลย” จันดาดันใบหน้าออกห่าง พร้อมพูดจาตัดพ้อ จริงๆก็แกล้งทำเป็นแง่งอนไปอย่างนั้นเอง เธอคิดว่ามันดูน่ารักน่าเอ็นดู... อามันต์หัวเราะหึ ก่อนคว้าร่างน้อยเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น... พาดมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าอกอวบอิ่ม มันดันตัวจนแลเห็นเป็นทรวดทรงงดงาม ขยับเคลื่อนไหวปลายนิ้วยามเมื่อเจ้าของมันแอ่นหยัดทรงงามเข้าหาอย่างรู้งาน อามันต์เลียริมฝีปากแห้งผาก เคล้นขยำความนุ่มหยุ่นอย่างไม่ออมแรงเลยสักนิดเดียว... จันดาห่อปาก ทั้งเจ็บ ทั้งเสียววูบวาบ ความรู้สึกเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้ ณ เวลานั้น... “เสียวเหลือเกินจ้ะนายจ๋า...” “ข้าว่าเอ็งคิดถึงไอ้นี่ของข้ามากกว่าล่ะมังจันดา...” อามันต์ปล่อยมือออกจากเต้าอวบ พร้อมชันเข่าตั้งยกสูง จงใจเปิดเผยสัดส่วนในร่างกายให้สาวน้อยได้เห็นชัดเต็มสองลูกตา สองไข่ย้อยห้อยโทงเทงในเงามืด แท่งยาวระหว่างกลางกำลังแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการขยายลำพองตัวเองขึ้นเรื่อยๆ “เป็นไงจันดา...เอ็งพอจะหายคิดถึงข้าบ้างหรือยัง” ก่อนเขาจะถลกผ้าผืนน้อยโยนทิ้งอย่างไร้ความหมาย อวดความยิ่งใหญ่ขึงขัง กระดกกระเด้งต่อหน้าต่อตาแม่สาวน้อยหน้าหวานจนขนทั้งกายลุกชัน กลีบสาวขมิบปวดหนึบ น้ำกะทิขาวขุ่นไหลกะปริดกะปรอย... “โอ้ว...นายจ๋า ช่างใหญ่โตอะไรอย่างนี้นะ...” จันดาเบิกตาโพลง หลุดคำรำพึงรำพันคล้ายคนต้องมนต์สะกด... ความเสียวกระสันกระแทกเข้าหาจนต้องขยับหนีบขาเข้าหากัน เจ้าหล่อนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความเป็นเธอคันคะเยอยุบยับ กลีบแคมบวมเป่ง มันเปียกแฉะจนทำให้ผ้าถุงผืนน้อยนั้นเปียกชื้นเป็นวงกว้าง... จันดาเองก็ไม่ได้สวมใส่ชั้นในมาตั้งแต่บ้าน เธอนั้นมีจุดมุ่งหมายชัดเจน... “เอ็งอยากกินมันหรือยังจันดา...” คนถามแอ่นลำเข้าหา ถอกมือหยาบลงบนหนังสีคล้ำ สะกิดปลายหัวจนมันแดงก่ำ ไม่ต่างจากการล่อลวงให้เหยื่อนั้นติดกลับ ไปไหนไม่รอด... จันดาพยักหน้ายอมรับ หัวใจลิงโลกยามมองแก่นกายในอุ้งมือชายตาไม่กะพริบ “จันดาหิวเหลือเกินจ้ะนายจ๋า...ขอจันดากินดุ้นเอ็นแสนอร่อยของนายหน่อยนะจ๊ะ” เธอพูดพร้อมยื่นมือสั่นระริกคว้าดุ้นร้อนไว้เต็มกำ กอบกุมมันไว้ด้วยความรู้สึกหวงแหน ใครบ้างจะไม่ห่วง ทั้งอร่อย ทั้งถึงใจขนาดนี้ จันดายอมตายดีกว่าจะยอมยกให้ใคร... โดยไม่รอคำอนุญาตใดจากเจ้าของมันด้วยซ้ำ ความใหญ่โตมโหฬารในมือมันกำลังเต้นดุกดิก พ่นพิษด้วยน้ำเมือกขาวขุ่น กระตุ้นให้จันดารู้สึกเหมือนกำลังจับไข้ สั่นสะท้านทั้งสรรพางค์กาย หากทว่าส่วนลึกของหัวใจ เธอกลับสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง มันคือความใคร่ที่เธอกำลังโหยหามันอยู่ทุกขณะจิต... จันดาโน้มกายเข้าหา จงใจปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเล็กออกจากรังดุม แนบเข่าลงกับพื้น ก้มตัวจนแลเห็นสองเต้าเบียดชิด ยั่วน้ำลายคนมองด้วยสายตาพราวระยับ ก่อนส่งปลายลิ้นชมพู แตะชิมตรงส่วนหัวหยักบานราวดอกเห็นด้วยความเสน่หารัญจวน... แค่นั้นมันก็เพียงพอจะทำให้อามันต์สะดุ้งสุดตัว ความซ่านสยิวตีแผ่กระจายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า... “อา...ข้าเสียวหัวหรือเกินจันดา...เอ็งนี่มันหัวไวไม่ใช่เล่นเลยนะ ข้าสอนเอ็งเพียงหนสองหนเท่านั้น เอ็งทำข้าเกือบน้ำแตก...แบบนี้ข้าคงต้องขยันหาของป่า เอาเข้าไปขายในหมู่บ้านเอ็งบ่อยๆเสียแล้วสิ” คนถูกชมหัวใจลำพอง ใบหน้าหวานระรื่นชื่นบานสดใส รู้สึกถูกอกถูกใจกับคำชมจากปากผัวรัก... จันดายังเด็กและยังด้อยประสบการณ์นัก สาวน้อยจึงทึกทักคิดเองเออเองว่า...เธอตกเป็นเมียของเขาแล้ว ดังนั้นอามันต์ก็ต้องกลายเป็นผัวของเธอนั่นเอง... สาวน้อยแตะปลายลิ้นลงกับดุ้นเอ็น พร้อมจัดการรูดดุ้นเนื้ออันใหญ่โตตั้งแต่โคนจรดปลายหัว ด้านนอกถูกห่อหุ้มไว้ด้วยหนังสีคล้ำขรุขระ ตรงส่วนปลายบานออกคล้ายดอกเห็ดมีน้ำกะทิข้นคลักไหลซึม พอเอาลิ้นไปแตะโดนรสชาติมันอร่อยล้ำจนยากเกินอธิบาย... จันดาหมอบร่างเหน่งน้อยลงต่ำอีกนิด คล้ายสัตว์ตัวน้อยยอมจำนนต่อเจ้าป่า ก่อนเจ้าหล่อนอ้าครอบริมฝีปากอิ่มดูดดึงดุ้นอวบอัด เสียงดัง จ๊วบ จ๊วบ ไล้เลียตั้งแต่โคนจรดปลายอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาอามันต์ถึงกับส่งเสียงคำรามลั่น ครวญครางเสียงกระเส่าจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างหันมามองยังกระท่อมด้วยความตื่นกลัว... “อา..อา...อืม...จันดา...ดีเหลือเกิน...ดูดแบบนั้นแหละ...อา...ข้าเสียว” เขาจับศีรษะทุย ขย้ำผมนุ่มไว้ทั้งสองมือ ส่งแรงช่วยด้วยการกระดกบั้นท้ายขะยุกขยัก ส่งความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากแสนงามด้วยจังหวะที่แรงและถี่กระชั้น... “อะ...อะ...อา...” คนถูกชื่นชมหัวใจมาอีกเป็นกองเลยทีนี้ จันดายิ่งตั้งอกตั้งใจปรนเปรอบำรุงบำเรอเจ้าแห่งป่าอย่างขมีขมัน ทั้งดูดทั้งอม อีกทั้งยังครูดซี่ฟันซี่เล็กน่ามองลงยังเนื้อนุ่ม ขยับมือบีบรัด จัดการถลอกหนังสีคล้ำตามจังหวะโยกคลึงทั้งแรงและเร็ว... “ซี้ด...ซี้ด...อา...อา...อา” อามันต์เสียวสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย เขาเกร็งล่องก้นตอนขยับสวนเข้าโพรงปากนุ่ม จนเขาชักเริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป “โอ้ว...อา...อา...” เจ้าป่าหนุ่มส่งเสียงคำรามลั่นอีกระลอก ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นไหลเข้าปากอิ่มจนล้นเอ่อ... จันดาปราดน้ำรักล้นกลืนกินด้วยความเสียดาย... “อา...ซี้ด...ข้าเสร็จแล้ว...” อามันต์หลับตาพริ้ม ผ่อนลมหายใจออกยืดยาว ปลดปล่อยน้ำกะทิขาวข้นจนหยดสุดท้าย สะบัดลำอวบลงกับริมฝีปากอิ่ม ก่อนกระชากร่างงามประกบปิดปากจูบด้วยอารมณ์ต่อเนื่อง กลิ่นคาวในโพรงปากนุ่มช่วยกระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวชายหนุ่มให้กระพืออีกระลอก... โดยอามันต์ไม่ยอมปล่อยให้เสียเวลา เขาดึงรั้งเสื้อผ้าของสาวน้อยออกจนหมดเกลี้ยงภายในพริบตา ปรากฏร่างขาวนวลต้องแสงจันทร์ อามันต์ตาเป็นประกายมันวาว เขาดันร่างน้อยเอนลงพื้นโดยริมฝีปากทั้งคู่ยังคงแนบแน่น จนเมื่อร่างน้อยอ่อนระทวย เบียดแน่นจนแทบกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ... “คราวนี้ข้าจะกินเอ็งบ้างแล้วนะ จันดาน้อย...” “จ้ะ...ฉันยอมให้นายกิน...ทั้งตัวและหัวใจ” จันดาพูดน้ำเสียงออดอ้อน ก่อนหลุดเสียงร้องโหยหวนตอนถูกเสียบโดยไม่ทันตั้งตัว อามันต์สมองหมุนติ้ว ความเป็นเขาถูกบีบรัดจากห้องหับอันแสนคับแคบ จนขยับเขยื้อนตัวลำบาก จัดว่าเป็นทีเด็ดของจันดา ก่อนจะรีบสกัดเสียงตัวเองด้วยการก้มดูดทรวงอิ่ม ขับเคลื่อนเอวสอบเข้าๆออกๆภายในโพรงสาวอย่างคล่องตัวมากกว่าเดิม จัดการเร่งสะโพกระรัวใส่สาวน้อยแสนหวาน จนจันดาดิ้นเร่าๆ เด้งสะโพกสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้... “อา...อา...อา...ซี้ด...ดูดเอ็นดีเหลือเกินจันดาจ๋า” เขาดึงออก แล้วกระแทกกลับเข้าไปรุนแรงดิบเถื่อนกว่าเดิม จันดากรี๊ดลั่น ตวัดปลายเท้าเกาะเอวสอบไว้ในทันที... “ของนายก็ใหญ่ เสียวร่องจันดาเหลือเกิน...” “เสียวแค่ไหนจันดา...” “เสียวมากจ้ะนายจ๋า...” “เสียวจนหอยสั่นหรือเปล่า” อามันต์ถามหยาบ กระทุ้งดุ้นเสียงดังบึก บึก บังคับให้สาวน้อยตอบคำถามด้วยการละเลงปลายนิ้วลงกับตุ่มรัญจวน ใบหน้าซุกไซร้ลำคอแดงเป็นปื้นยาว ไม่กลัวสาวน้อยจะเจ็บปวดกับบทรักรุนแรง... “เสียวจนหอยจันดาสั่นเลยละจ้ะนายจ๋า...ทั้งเสียว ทั้งแสบหอยไปหมดแล้วเนี่ย...” คนตอบปากคอสั่นระริก เอาแต่ส่งเสียงร้องครวญคราง เธอสำเร็จความใคร่ไปหลายรอบจนนับครั้งไม่ถ้วน ทุกครั้งนั้นมีความสุข อิ่มเอมหัวใจอย่างบอกไม่ถูก จันดาไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเลย เพราะคงต้องรีบกลับบ้านก่อนพ่อเธอจะตื่นนอน เธอไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องนี้ กลัวจะถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้พี่อามันต์สุดหล่อ เพราะแท้จริงแล้วจันดานั้นมีคู่หมั้นคู่หมาย เป็นถึงลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านเดียวกัน... จันดาไม่ได้รักคู่หมั้นคนนี้ เธอรักพี่อามันต์ ไอ้ที่จำยอมหมั้นหมายด้วยนั้นเป็นเพราะจันดาขัดผู้เป็นพ่อไม่ได้ต่างหาก... อามันต์รวบเอวคอดกิ่วไว้มั่น โน้มลำกายแข็งแรงเสียดสีร่างนุ่ม พร้อมออกแรงกระเด้าสะโพกเข้าใส่ระรัว จนโพรงนุ่มชุ่มชื้นด้วยหยาดน้ำรัก เขาหวังตักตวงความสุขเกินบรรยายนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ แม้นเท่าที่ผ่านมาอามันต์จะไม่ถึงขั้นตายอดตายอย่าง ขาดแคลนร่างนุ่มนิ่มไว้ระบายอารมณ์ ทว่าไม่บ่อยครั้งนักหรอก หนุ่มชาวป่าอย่างเขาจะได้กินของสดและอร่อยเหาะเช่นนี้... “อา...อา...อา...จันดาเสร็จอีกแล้วจ้ะนาย” จันดาครางเสียงกระเส่าตอนชายหนุ่มเพิ่มน้ำหนักกระเด้า มันหน่วงเจ็บจนถึงมดลูก แต่ก็เสียวปราดไปทั่วทั้งร่างจนเธอปลดปล่อย... ชายหนุ่มดึงแก่นกายออกจากหลุมรัก กระชากกายสาวขึ้นมาจูบดุเดือด ก่อนตวัดร่างน้อยให้หันหลังลงในท่าคลานเข่า ดันแผ่นหลังขาวให้แอ่นระแน้ จับสะโพกกลมกลึงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง กอบกุมเต้าสาวไว้ด้วยมือว่างอีกข้าง พร้อมสอดแทรกลำเอ็นร้อนฉ่าผ่านเข้ามาในความอ่อนนุ่มทางด้านหลัง รอจนทุกอย่างเข้าที่เขาจึงเริ่มสาวบั้นท้ายแข็งแกร่งเนิบนาบ ขยับเข้าออกโพรงนุ่มจากเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไป กลายเป็นถี่ระรัวขึ้นตามแรงอารมณ์ลุกโชน... ตับ ตับ ตับ... จนกระทั่งมาจนถึงสุดปลายทาง อามันต์ระรัวสะโพกเข้ากระแทกไม่ยั้ง กลีบสาวปลิ้นทะลักสีแดงแจ๋ ร่างสาวแทบทรุดราบลงกับพื้นไม้ ดีที่มีมือหยาบคอยเหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้ ก่อนทุกอย่างจะดำเนินมาถึงปลายทางของสวรรค์ อามันต์เกร็งลำคอขึ้น แหงนเงยใบหน้าคมคาย พร้อมส่งเสียงคำรามลั่นป่า “โอ...อา...อา...โอ้ว...” เสียงคำรามลั่นพาทำให้สัตว์น้อยใหญ่ทั่วบริเวณใกล้กระท่อมต่างพากันสะดุ้งตกใจ พากันวิ่งเข้าหาแหล่งหลบซ่อนตัวตามหลืบหินและโพรงไม้ต่างๆ... อามันต์ปล่อยธารน้ำหวานไหลทะลักเปรอะเปื้อนเป็นทางยาว ร้อนไปทั่วท้องน้อย... จันดาต้องกัดริมฝีปากอิ่มระงับความเสี่ยวสะท้านทรวง เนื้อตัวเธอสั่นระริกตอนรับแรงฉีดภายในที่รุนแรงและมากมาย จนเธอสำเร็จตามเขาไปอีกรอบ... เหงื่อไหลโซมกายทั้งสองคน ทว่าหาใครได้รังเกียจกับสิ่งนี้ไม่ ทั้งคู่ยังไม่คำนึงถึงคำว่าเพียงพอ ยกสองสามสี่ก็ตามมาครั้งแล้วครั้งเล่า อามันต์อิ่มแปล้ เมื่อท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ชายหนุ่มเลยพล่อยหลับสนิทในเวลาใกล้รุ่งสาง จำได้ว่า ครั้งสุดท้ายเขากอดร่างนุ่มไว้แนบอก ขอบคุณเจ้าหล่อนด้วยการจูบขมับ แต่ไม่มีคำรักใดหลุดรอดจากปากเขาแน่นอน จนกระทั่งร่างเปลือยสะดุ้งตื่น แลเห็นแสงพระอาทิตย์กระทบชายคากระท่อม มันส่องผ่านช่องไม้กระดานเข้ามาแยงตา อามันต์รู้สึกตัว ก็รู้ได้ทันทีว่าสาวน้อยจันดาของเขาได้กลับออกไปแล้ว ด้วยความที่ยังเพลียกับบทรักหฤหรรษ์ต่างๆ นานา อามันต์จึงหลับตาแล้วนอนต่อ คิดไว้ว่า ถ้าหาของป่าออกไปขายยังหมู่บ้านคราวนี้ เขาคงต้องหาอะไรติดไม้ติดมือพิเศษหน่อย อยากนำไปฝากแม่สาวน้อยหน้าหวานของเขา เป็นการขอบคุณ และอาจถึงขั้นบอกลา เขาคงไม่ย้อนกลับไปขายของป่ายังหมู่บ้านนั้นอีก เมื่อมีหมู่บ้านอื่นให้เขาได้ย่างกายเข้าไปลิ้มลอง.... ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม