“คุณมาร์คอสคะ ริก้า...” หญิงสาวตามมาทันมาร์คอสที่หน้าลิฟต์แก้ว
“อย่าพูดอะไรเลยนาริกา เธอควรจะอยู่เฉยๆ บอกแล้วไงว่างานนี้เธอได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งเจ้าชาย ทั้งปราสาท เธอได้มันทุกอย่าง รวมทั้งทะเบียนสมรสด้วย...”
มาร์คอสหยุดเดินและหันกลับมาเผชิญหน้า ความจริงเขาก็สงสารนาริกาไม่น้อย แต่เป็นเพราะเจ้าเดนนิสมันไม่ยอมรามือจากการจ้องจะเขมือบน้องสาวของเขา ทำให้เขาต้องใช้วิธีนี้จัดการกับมัน ซึ่งมันก็ได้ผลชะงักนัก
“แต่ริก้าไม่ได้ต้องการของพวกนี้นี่คะ ริก้าต้องการ...”
หญิงสาวพูดขึ้นด้วยเสียงเจ็บปวด หากย้อนเวลากลับไปได้หล่อนจะยอมตายอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีวันยอมให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในชายคาของตระกูลโรเจอริโอเด็ดขาด
มาร์คอสหรี่ตามองคู่สนทนาที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “เธอต้องการอะไรหรือริก้า... วาเลนบอกฉันว่าเธออาจจะหลงรักเจ้าเดนนิสขึ้นมาจริงๆ แต่ฉันไม่อยากเชื่อ...”
“ไม่ใช่ค่ะ ริก้าไม่ได้...”
อยากจะปฏิเสธแต่ก็ทำได้ไม่ดีเลย หล่อนรักเดนนิสจริงๆ นั่นแหละ รักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียด้วย มันน่าอาย มันน่าขายหน้า แต่หล่อนบังคับตัวเองไม่ได้ หล่อนรักเขาจริงๆ ผู้ชายตาสีฟ้า
มาร์คอสถอนใจออกมาเบาๆ “ริก้า... ความรักน่ะหาจากผู้ชายเลือดเย็นอย่างเจ้าเดนนิสมันไม่ได้หรอกน่ะ มันร้ายกว่าฉันหลายเท่านัก และหากเธอต้องการหัวใจของหมอนั่นล่ะก็ เธออาจจะต้องรอไปทั้งชีวิต เพราะฉันเองก็ยังไม่เคยแน่ใจเลยว่าเจ้าหมอนี่มันมีหัวใจเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้างหรือเปล่า” เสียงถอนอกถอนใจของมาร์คอสดังออกมายาวเฟื้อย ขณะที่เขาจ้องหน้าหล่อนด้วยความเวทนา
“ตัดใจซะเถอะนะ และฉันคาดว่าน่าจะไม่ถึงหนึ่งเดือนหมอนี่ก็จะขอหย่าขาดจากเธอ แล้วจากนั้นเธอก็จะเป็นอิสระพร้อมๆ กับสินสมรสอีกอื้อซ่า...”
“แต่ริก้าไม่อยากได้...”
คร่ำครวญทั้งน้ำตา ตอนนี้หล่อนเจ็บปวด เจ็บช้ำ รวดร้าวจนแทบจะไม่อยากหายใจอีกแล้ว มาร์คอสไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าหล่อนกำลังชอกช้ำแค่ไหนกับสิ่งที่เขาสั่งให้หล่อนทำ
นรกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...
“เธอสมควรได้รับมัน...”
“แต่...”
“ทุกอย่างมันถูกกำหนดเอาไว้หมดแล้ว เธอแค่เดินตามทางที่ฉันบอกก็พอ และเมื่อไหร่ที่เธอเป็นอิสระ ฉันอนุญาตให้เธอไปไหนก็ได้ตามใจของเธอ โดยไม่ต้องสำนึกถึงบุญคุณของโรเจอริโออีก”
ปลดปล่อย...
นี่มาร์คอสกำลังปลดปล่อยหล่อนอย่างนั้นใช่ไหม?
แค่แต่งงานอยู่จนเดนนิสจะขอหย่า แล้วบุญคุณที่ค้ำคออยู่ก็จะจบสิ้น หล่อนจะเป็นอิสระ จะทำอะไรได้ดั่งที่ใจคิด มันเป็นสิ่งที่ดี หล่อนปรารถนาอิสรภาพมานานแล้วไม่ใช่หรือ
แล้วทำไมไม่ดีใจล่ะ? ทำไมไม่หัวเราะออกมาดังๆ ให้สมกับรางวัลที่ได้ล่ะ ทำไมต้องร้องไห้ออกมาด้วย ทำไมต้องรู้สึกเจ็บจนหัวใจแหลกสลายแบบนี้ด้วย ทำไมล่ะ?
“ขอให้เธอโชคดีนะริก้า ฉันต้องกลับก่อน เมียฉันรออยู่...” ร่างสูงใหญ่ของมาร์คอสเดินหายเข้าไปในลิฟต์แก้ว ทิ้งให้หล่อนยืนจมอยู่กับน้ำตาแห่งความเจ็บปวด มาร์คอสจากไปแล้วแต่ไม่ได้เอาหายนะลูกใหญ่ตามติดไปด้วย เขายังทิ้งมันไว้ในมือของหล่อน
นาริกาตัวสั่นระริกเมื่อนึกถึงเวลาที่ต้องเข้าไปในห้องสวีทห้องเดิมที่เดนนิสยังคงอยู่ในนั้น เขาจะต้องฉีกหล่อนเป็นชิ้นๆ แน่ หรือไม่ก็... บางทีเขาอาจจะจับหล่อนโยนลงมาจากหน้าต่างในห้องก็ได้ เพื่อให้หล่อนตาย จะได้สาสมกับสิ่งที่หล่อนได้กระทำลงไป
เมีย...
เมีย... ที่สามีไม่ได้ต้องการเลย
เขาถูกแบล็คเมล์ให้รับหล่อนเป็นภรรยา ด้วยแผนเลวร้าย และเดนนิสโกรธมาก โกรธจนเนื้อตัวสีแทนของเขาแทบปริแตกออกมา หล่อนยังจดจำสายตาสีฟ้าที่จ้องมองมาได้เป็นอย่างดี ทั้งชิงชัง ทั้งขยะแขยง หล่อนคงเป็นสัตว์โลกที่เขาเกลียดที่สุดอย่างแน่นอน
น้ำตาไหลออกมา ร่วงหล่นผ่านแก้มนวล มันนำพาความเจ็บช้ำให้แล่นไปทั่วทั้งรูขุมขน ร่างสาวบอบบางกำลังจะล้มครืนลงกับพื้น เดชะบุญที่มีมือใหญ่ของใครคนหนึ่งมาคว้าเอาไว้ได้ทันเวลา
“ขะ ขอบคุณ... ค่ะ”
“แล้วเธอจะไม่พูดคำนี้กับฉัน... นาริกา...!”
พึ่งมารู้ว่าเจ้าของมือร้อนๆ นั้นเป็นใครก็ตอนที่ร่างของหล่อนถูกแบกเข้ามาทุ่มลงบนเตียงกว้างภายในห้องสวีทห้องเดิมนั่นแหละ
“เดนนิส!”
“ว่าที่ผัวของเธอไง ผัวที่เธอได้มาอย่างสุจริตที่สุด!”
ชายหนุ่มประชดด้วยท่าทางคุกคาม ใบหน้าหล่อลากไส้บูดเบี้ยวด้วยโทสะแรงกล้า มือใหญ่ของเขาคว้าร่างของหล่อนเอาไว้รวดเร็ว เมื่อหญิงสาวพยายามจะพุ่งตัวลงจากเตียง เขากดร่างของหล่อนลงกับที่นอนด้วยต้นขาแข็งแรง จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือบีบเคล้นลำคอของเจ้าหล่อน เขาไม่ได้ออกแรงสักเท่าไหร่เลย แต่แค่นั้นแม่สาวน้อยไอแครกๆ ออกมาราวกับขาดอากาศหายใจ
“อย่าค่ะ...”
“กลัวตายด้วยหรือ...” เขาถามขณะปล่อยมือออกจากลำคอขาวเนียน
“เดนนิสคะ ฉัน... ขอโทษ ฉัน...”
มองคนตัวโตอย่างขอลุแก่โทษ แต่ดูเหมือนว่าแค่สายตา และคำพูดของหล่อนจะไม่มีทางทำให้คนอารมณ์ร้ายอย่างเดนนิสลบความรุนแรงของไฟแค้นลงได้เลย มันกระพือมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างหาก
“เธอมันแพศยา...! สารเลว! ไอ้มาร์คอสมันคงใช้เธอเบื่อแล้วสินะ ถึงได้โยนมาให้ฉันน่ะ!”
กระชากร่างอรชรให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของตัวเองจากนั้นก็สอดมือเข้าไปใต้กระโปรง กระชากกางเกงชั้นในลูกไม้แรงๆ จนมันขาดวิ่นจากนั้นก็ใช้นิ้วแกร่งยาวๆ ของตัวเองพุ่งเข้าใส่ช่องรักที่แห้งผากของสาวน้อยอย่างอำมหิต นาริกากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เดนนิสหัวเราะร่วน ไฟแค้นทำให้เขามองข้ามทุกอย่างไป แม้แต่ความเมตตาที่ควรจะมีกับผู้หญิง
“อย่าค่ะ ฉันเจ็บ... อย่า...”
สาวน้อยดิ้นรน พยายามจะถดถอยให้พ้นจากฝ่ามือและนิ้วมือของเดนนิส แต่ก็ไม่พ้น เขาใช้มือข้างหนึ่งดันสะโพกของหล่อนเอาไว้ ขณะที่อีกข้างหนึ่งก็ทำหน้าที่เพชฌฆาตทำลายล้างเนินสาวของหล่อนจนยับเยิน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาดันนิ้วเข้าไปและดึงออกมา
มันมีแต่ความเจ็บปวด น้ำตาแห่งความอดสูไหลทะลักออกมาอาบแก้ม...
“ไม่มั้ง... เธอควรจะชอบมันสิ... เธออยากจะตายไปนี่”
เขาดูถูกหล่อนอย่างร้ายกาจ นาริการ้องไห้กระซิกๆ ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้คนใจร้ายใช้นิ้วกับส่วนนั้นของหล่อนจนกว่าเขาจะพออกพอใจ เขาคงจะหยุดหากสมใจแล้ว แต่ผิดคาดเพราะไม่ใช่แค่ไม่หยุด แต่เดนนิสเพิ่มจำนวนนิ้วมากขึ้นอีก จากหนึ่งเป็นสอง...
ความแห้งผากในช่องเร้นลับทำให้นาริกาเจ็บจนแทบขาดใจ หล่อนไม่เคย... แล้วนิ้วของเดนนิสก็ไม่ใช่เล็กๆ ทั้งใหญ่และยาว
“ไม่นะ! เจ็บ... เดนนิสอย่าทำริก้า... อย่า...”