การเผชิญหน้ากันถูกจัดฉากเอาไว้อย่างดีทั้งจากทางคนของมาร์คอสเองและด้วยความตั้งใจของเดนนิสเอง สาวน้อยที่กำลังยืนชมเหล่าบุพผาลอยฟ้าตรงหน้าสร้างความพึงพอใจจากกลีบปากหยักลึกของหนุ่มหล่อที่มายืนตระหง่านอยู่เบื้องหลังยิ่งนัก
บนชั้นที่ยี่สิบสองของ อาควา ทาวเวอร์ ถูกออกแบบเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ ที่นี่มีการนำดอกไม้จากทั่วทุกมุมโลกมาจัดโชว์เอาไว้ และด้วยการดูแลรักษาอย่างดีทำให้มันยังคงเบ่งบานสะพรั่งแข่งกับความงามของแม่แองจี้ตัวน้อยที่กำลังยิ้มหวานฉ่ำตรงหน้าได้อย่างไม่น้อยหน้า
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง...”
เสียงนุ่มทุ้มฟังแล้วน่าหลงใหลจากด้านหลังทำให้รอยยิ้มจากกลีบปากอิ่มสีแดงสดจางทันควัน นาริกาตัวสั่น ใจสั่น มือเย็นเฉียบเมื่อสมองร้องบอกว่านี่แหละคือเสียงของเดนนิส โอซิล ผู้ชายที่หล่อนมีหน้าที่ล่อลวงให้เขาตกลงไปในหลุมที่มาร์คอสขุดรอไว้
“หากไม่รังเกียจ... ขอผมชมดอกไม้ด้วยคนสิครับ”
เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินมาหยุดเบื้องหลัง หญิงสาวพยายามข่มความหวาดกลัวเอาไว้สุดกำลัง พร้อมๆ กับบังคับให้กลีบปากของตัวเองคลี่ยิ้ม จากนั้นจึงค่อยๆ หันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง
และลมหายใจก็เหมือนกับถูกสูบออกไปจนหมดร่าง... เมื่อได้เห็นเดนนิส โอซิล ตัวจริงเสียงจริงในระยะห่างกันแค่ไม่ถึงหนึ่งเมตรเต็มๆ ตา
เขาหล่อมาก... หล่อจัดเลยทีเดียว หล่อกว่าในรูปถ่ายที่มาร์คอสมอบให้หล่อนเป็นร้อยเป็นพันเท่า เดนนิสสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเทพบุตรเสียอีก แม้ว่าใบหน้าสี่เหลี่ยมสีแทนละเอียดนั้นจะดูดุกระด้างไปบ้าง แต่รอยยิ้มจากริมฝีปากเร้าใจสุดเซ็กซี่ของเขาที่มอบมาให้นั้นช่วยทำให้ความดุดันนั้นลดน้อยลงไปเกือบครึ่ง
ให้ตายเถอะ... ทำไมหัวใจของหล่อนเต้นแรงแบบนี้นะ เต้นแรงจนมันแทบจะปลิดปลิวออกจากขั้ว
หล่อนอาจจะเป็นลม... ใช่กำลังจะเป็นลมในขณะนี้... เท้าไร้ความรู้สึกขึ้นมากะทันหัน จนต้องรีบขยับร่างกายที่อ่อนแรงจนแทบล้มไปนั่งลงบนม้านั่งตัวที่ใกล้ที่สุด ก้มหน้าหลบสายตาสีฟ้าดุจสีน้ำของเดนนิสด้วยความหวาดกลัวที่ปิดยังไงก็ไม่มิดเมื่อพ่อคนตัวโตขยับเข้ามาใกล้
“ไม่สบายหรือครับ”
น้ำเสียงของเขาแสดงความห่วงใย ขณะทรุดกายใหญ่โตลงนั่งบนส้นเท้า จ้องหน้าหล่อนนิ่ง นาริกาอยากจะวิ่งหนี จากจะไปให้พ้นจากผู้ชายที่อันตรายทั้งตัวอย่างเดนนิส แต่ก็ทำไม่ได้ คำสั่งจากเจ้านายยังคงค้ำคออยู่ หล่อนจะต้องทำให้เดนนิสหลงใหล จากนั้นก็ล่อลวงให้เขาตกบ่วงวิวาห์กับหล่อน เพื่อที่แองเจลล่าตัวจริงจะได้ปลอดภัยจากอุ้งมือของซาตานที่หล่อนสรุปแล้วว่าหล่อที่สุดในโลกคนนี้
“มะ... ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”
“แต่หน้าของคุณซีดมาก”
“ไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ... ว่าแต่คุณ...”
ในที่สุดก็ต้องทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้ชายที่หล่อสุดในสามโลกอย่างเดนนิส โอซิล แล้วก็ต้องผงะไปทั้งตัว เมื่อกลิ่นแห่งอันตรายจากเนื้อตัวใหญ่โตของเขาพุ่งเข้าใส่หน้าอย่างรุนแรง หล่อนอ้าปากค้างขณะจ้องมองริมฝีปากบางเฉียบของคู่สนทนานิ่งราวกับต้องมนต์สะกด
เดนนิสระบายยิ้มบางๆ มองสำรวจสาวน้อยตรงหน้าอย่างละเอียดลออ เพียงเพื่อจะได้ค้นพบว่าแม่แองจี้คนสวยงดงามกว่าที่คิดเอาไว้มากนัก
บอบบาง...
น่าทะนุถนอม...
และน่ากินชะมัด...
แก้มสาวแดงระเรื่อเมื่อสบตากับเขา หล่อนถูกใจเขา เดนนิสผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องผู้หญิงบอกกับตัวเองทันที และนี่มันก็เป็นสัญญาณที่ดีไม่ใช่หรือที่เขาจะลากแม่นางฟ้าของศัตรูขึ้นเตียง และจากนั้นก็เขี่ยทิ้งลงถังขยะ เจ้ามาร์คอสมันคงกระอักออกมาเป็นเลือดแน่ๆ หากรู้ว่าน้องสาวของมันถูกเขาเชยชมแล้วเขี่ยทิ้ง
เดนนิสซ่อนความคิดร้ายกาจเอาไว้ภายใต้ใบหน้าหล่อลากไส้ของตัวเองอย่างแนบเนียน ขณะจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยความชื่นชมที่โกหกไม่ได้ แต่วูบหนึ่งชายหนุ่มก็อดรู้สึกถึงความแตกต่างของข้อมูลที่ได้รับมาไม่ได้
“ผู้หญิงคนนี้ภายนอกดูอ่อนหวาน แต่ภายในเร่าร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีก บอดี้การ์ดหน้าตาดีหลายต่อหลายคนคือสามีของเธอทั้งนั้น”
นี่คือคำบอกเล่าเกี่ยวกับความเละเทะของผู้หญิงตรงหน้า แต่ทำไม...? เขาถึงได้มองเห็นแต่ความไร้เดียงสาบนใบหน้างดงามดวงนี้นะ มองไม่เห็นความกร้านโลก มองไม่เห็นการเชิญชวนอย่างที่สาวร่านราคะส่วนมากจะแสดงออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
ในดวงตาสีน้ำตาลไหม้หวานฉ่ำตรงหน้ามีแต่ความหวาดระแวงและไม่ไว้ใจ... และหากเขามองไม่ผิด เจ้าหล่อนกำลังกลัวเขาเข้าขั้นรุนแรงเอามากๆ อีกต่างหาก
หนุ่มหล่อยิ้มให้กับตัวเอง เขาไม่สนหรอกว่าผู้หญิงตรงหน้าจะเสแสร้ง แสดงท่าทางอ่อนเดียงสาได้แนบเนียนเพียงใด แต่ที่เขาสนใจก็คือ... การขยี้แม่คุณให้เละคามือต่างหาก เขาจะทำให้หล่อนรักจนโง่หัวไม่ขึ้น จากนั้นก็เขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี...
“ผมเดนนิส โอซิล...”
“เอ่อ... ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการพูดแบบนี้ออกไป หญิงสาวพยายามจะขยับตัวลุกขึ้น เพื่อถอยหนีตามสัญชาตญาณ เมื่อพ่อตัวโตก้มหน้าลงมาใกล้กว่าที่ควรจะเป็น แต่พ่อคุณกลับไม่ยอมเปิดโอกาสนั้นให้ เพราะอึดใจต่อมาท่อนแขนสีแทนขนาดใหญ่ทั้งสองข้างก็ท้าวลงกับพื้นของม้านั่งตัวยาวคร่อมกายบอบบางของหล่อนเอาไว้
หมดทางหนี...
แล้วหล่อนอยากจะหนีหรือเปล่านะ... ร้องถามตัวเอง และก็ต้องตกใจกับคำตอบที่ผุดขึ้นมาจากสมอง
ไม่... หล่อนอยากอยู่ใกล้ๆ ผู้ชายคนนี้ รู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดยามอยู่กับเขา ลมหายใจของเขาที่เป่ารดลงมาบนแก้มของหล่อนนั้นแม้จะร้อนระอุ แต่มันก็หอมหวานและน่าหลงใหลจนไม่อาจจะทำใจแข็งผละออกห่างไม่ได้เลย รู้สึกติดตาตรึงใจกับผู้ชายหล่อจัดตรงหน้าอย่างประหลาด
แม้จะแปลกใจตัวเองนักที่รู้สึกอ่อนไหวกับผู้ชายคนนี้ได้ง่ายดายนัก ตั้งแต่พบหน้าครั้งแรก หล่อนก็ทำท่าจะหลงใหลเสน่ห์ทางเพศของเขาจนโง่หัวไม่ขึ้นซะแล้ว
งานเหรอ... ไม่มีอีกแล้วล่ะ ในนาทีนี้สมองของหล่อนไม่มีคำว่าหน้าที่ใดๆ อีกแล้ว นอกจากเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระทึกครึกโครมอยู่ในอก มันร้องบอกว่า...
ตกหลุมรักซะแล้ว
ความรู้สึกนี้มันแปลกใหม่ยิ่งนัก มันแตกต่างจากความรู้สึกที่หล่อนเคยมีให้กับเดวิดดุจฟ้ากับดิน ยามสบตากับเดวิดหล่อนไม่เคยรู้สึกร้อนวูบวาบ ซาบซ่านในช่องท้องแบบนี้มาก่อนเลย แต่ทำไม? กับผู้ชายตาสีฟ้าหล่อระเบิดคนนี้ ทำไมหล่อนถึงรู้สึกอึดอัดไปหมดทั้งเชิงกรานนะ ทำไมต้องรู้สึกราวกับว่าเนื้อตัวสาวเบ่งบานรอคอยอะไรสักอย่าง ที่มีแต่ผู้ชายคนนี้แหละที่จะสามารถให้มันกับหล่อนได้
ตายแล้ว... นี่หล่อนเป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงอยากให้เขา...
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ แองเจลล่า โรเจอริโอ...”
คำทักทายปนรอยยิ้มของเดนนิส ทำเอาภวังค์หวานของนาริกาแตกผลั๊วะลงอย่างรุนแรง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ไหววูบรุนแรง ก่อนจะกัดฟันยิ้มหวาน
“ไม่ยักกะรู้ว่าคุณเดนนิสจะรู้จักชื่อของแองจี้ด้วย...”
“ผมไม่เคยมองข้ามคนสวยๆ หรอกครับ... คุณสวยมากรู้ไหมแองจี้ สวยสมชื่อจริงๆ”