การแอบรักมันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและทำให้หัวใจพองโตได้เสมอ แต่การแอบรักคนใกล้ตัว มันก็ทำให้อึดอัดและอยากสารภาพออกไปหลายต่อครั้ง แต่หญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ไม่เคยมีความกล้าขนาดนั้น จึงได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกมานานถึงสามปีจนไม่เคยเปิดสายตามองใคร
แต่วันนี้ วันที่เธอโตขึ้นอีกขั้น วันที่ผลการสอบเข้ามหาฯลัยออก และเธอกับเพื่อนสนิทก็สอบผ่านด้วยกันจึงจัดเลี้ยงที่บ้านพี่ชายเพื่อนสนิท รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบมาถึงสามปี
เพื่อนที่เคยบอกให้เธอตัดใจ แต่ก็สงสารกับความหนักแน่นในความรักของเธอ จนเป็นผู้สนับสนุนหลักครั้งนี้ เปิดโอกาสและสร้างสถานการณ์ให้เธอเต็มที่ ไล่พี่ชายตัวเองเข้าครัว ผลักเพื่อนสนิทอย่างเธอตามไป ปิดประตูห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว
“มีอะไรหรือเปล่า?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นข้างหนึ่งเป็นคำถาม เมื่อเพื่อนสนิทของน้องสาวมาหยุดตรงหน้า แต่ดันเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จายืนบิดไปบิดมาแทบเป็นเกลียว
“คือ...” ทั้งที่ตัดสินใจแล้ว ทั้งที่เรียกความกล้าให้ตัวเองแล้ว แต่พอเผชิญหน้ากลับปากแข็งค้างเอ่ยไม่ออก “คือว่า”
“คือ?” เมื่อเธอเอาแต่คือไม่จบเบียร์ บุรินจึงถามย้ำ
“คือข้าว” ข้าว ใบข้าว ชื่อของเธอที่มันกล่าวออกไปได้ง่าย แต่คำว่ารักนี่สิ
“ถ้าไม่พูดพี่ไปแล้วนะ” เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่อ้ำอึ้งก็ชักหงุดหงิด หันมองไปรอบ ๆ เผื่อเห็นน้องสาวจะได้เรียกมาลากเพื่อนตัวเองกลับไป
แต่ไม่เห็น เขาไปเองก็ได้
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ!” รั้งเขาไว้ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีไปก่อนแล้วทำให้โอกาสดี ๆ แบบนี้หมดไป
“.....” ยังยอมหยุดให้พร้อมเลิกคิ้วถามอีกครั้ง หากครั้งนี้ยังไม่พูดเขาจะไปจริง ๆ แล้ว
“ข้าว” พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกความกล้าทั้งหมดในชีวิตของตัวเองออกมา
อาจเพราะเป็นครั้งแรก อาจเพราะเป็นรักแรก และอาจเพราะคาดหวังไว้สูง มันเลยทำให้เธอกลัวจนพูดออกมายากลำบาก
“โอเค ไว้น้องคิดได้เมื่อไหร่ค่อยบอกพี่นะ” ตัดรำคาญเด็กเฉิ่มตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวหมายจะเดินออกจากห้องครัวขึ้นห้องนอน
แต่เท้ายาวก็ต้องชะงักอยู่กับที่เมื่อเสียงของรุ่นน้องสาวด้านหลังดังขึ้น
“ข้าวชอบพี่เบียร์ค่ะ!” เป็นการสารภาพรักครั้งแรกในชีวิต และเป็นการบอกรักด้วยการหลับตาตะโกนอย่างคนบ้า
หัวใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ปากที่พูดออกไปแล้วแทบไม่กล้าลืมตามองเขา แต่เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาและคำตอบของรุ่นพี่ เลยทำใจกล้าลืมตามองอีกฝ่าย
ได้สบตากันสองต่อสองเป็นครั้งแรก แต่ใบหน้าของเขากลับทำให้ใจเธอฝ่อขึ้นมาอย่างคนขี้ขลาด
มันดูนิ่งเรียบแต่มีแววขบขันไปในตัว
จนสิ่งที่เธอรอคอยได้รับการตอบกลับมาจากปากของรุ่นพี่ตรงหน้า เป็นผลของการสารภาพรักครั้งแรกที่ทำให้เธอรู้สึกว่า...
“พี่ไม่ได้ชอบน้อง น้องไม่ใช่สเปกพี่” ปฏิเสธออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม
รุ่นน้องที่รวบผมมวยกลางหัวแทบตลอดเวลา เคยเห็นเปียผมเฉพาะตอนไปโรงเรียน ใบหน้ารูปไข่เล็กเรียวถูกแว่นตากรอบหนาสีดำปกปิดไปเกือบครึ่ง ใบหน้าไร้เครื่องสำอางจะเห็นก็มีแต่ปากสีเชอรี่สดจากธรรมชาติ
เธอไม่ได้ผิดอะไรที่เป็นแบบนี้ แต่ก็อย่างที่บอกว่าไม่ใช่สเปกเขา ก็แค่นั้น
“.....” การะแอบรักมันดีกว่าการสารภาพตรงนี้เองสินะ แค่นี้มันก็ทำให้เธอผิดหวังไม่น้อยแล้ว
แต่คนปากไวปากร้ายหรืออาจเพราะฤทธิ์เหล้าที่น้องสาวเขาหยิบยื่นให้ก่อนหน้า เลยลืมยั้งปากยังอุตส่าห์ใจดีทิ้งท้ายประโยคบาดลึกให้เธออย่างใจดี
“ไปสวยให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาบอกชอบพี่”