ในขณะที่รถเคลื่อนตัว ในหัวของชายหนุ่ม ก็คิดไปต่างๆนานา หลายครั้งที่ดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ เหลือบมองหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของ
นายหญิง มีหลายส่วนบนใบหน้าที่คล้ายกัน แต่นายหญิง
สวยกว่า ในขณะที่คนน้องดูจืดไปนิด แต่ก็พอไปวัดไปวาได้ เธอคนนี้นะหรือที่กล้าปฏิเสธคุณเผ่าของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ขนาดรวยล้นฟ้าอย่างพ่อเลี้ยงเผ่าเพชรเธอยังปฏิเสธ ถ้าเป็นเด็กกำพร้าอย่างเขา คงถูกมองไม่ต่างจากไส้เดือนกิ้งกือแน่นอน
"อีกนานไหมคะ กว่าจะถึงไร่แสงตะวัน"ถามด้วยความอยากรู้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอไปไร่แสงตะวัน ครั้งหนึ่งเธอเคยมาเชียงราย แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว และก็ไม่ได้ไปที่ไร่แสงตะวัน เพราะเผ่าเพชรรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใบหน้าพ่อแม่และพี่สาวลอยเข้ามาในหัว จะเป็นไงนะถ้าพวกท่านเห็นเธอวันนี้
"อีกพักใหญ่ๆ ฝนตกหนักถนนลื่น ขับเร็วไม่ได้"ลันลดาพยักหน้าเข้าใจ เมื่อคนขับรถตอบมาแบบนี้
"ทำไมไม่ให้รถที่ไร่มารับ"อาคมถามกลับ อันที่จริงเรื่องที่เธอนั่งรถทัวร์มาเชียงราย เขาก็ไม่รู้มาก่อน แต่บังเอิญว่า ลูกน้องเขาดันตาดีเห็นเธอเข้า จึงรายงานให้เขาทราบ ลูกน้องเขาคงจำหน้าเธอได้ คงเคยเห็นรูปเธอ ตอนที่เขาติดต่อกับคุณประกร
เมื่อหลายเดือนก่อนนั่นเอง
"หนูจะทำเซอร์ไพรส์คนที่นั่นน่ะพี่ เอาให้ช็อกกันไปเลย"ลันลดาหันมาตอบ พร้อมกับยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง
"มีญาติอยู่นั่นเหรอ ดูแล้วเราไม่ใช่คนที่นี่นะ"อาคมยังคงถามต่อ
"พี่ฟังแล้วจะอึ้ง พี่เชื่อไหมว่าหนูน่ะคือเจ้าของไร่แสงตะวันตัวจริง"
เอี๊ยดดด!!!
สิ้นเสียงอวดอ้าง เท้าหนาก็กระทืบลงไปบนเบรคเต็มแรง ถึงแม้รถจะขับมาไม่เร็วนัก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งข้างๆหัวคะมำ ดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงเจ็บมากกว่านี้
ลันลดาตกใจ ที่อยู่ๆรถก็เบรคกะทันหัน ผิดกับอาคมที่อยู่ๆก็รู้สึกโมโหขึ้นมา พูดแบบนี้หมายความว่าไง อย่าบอกนะว่ายายนี่จะมาเรียกร้องสิทธิ์ ที่เคยเป็นของตัวเอง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงยอมไม่ได้ นายหญิงจะเสียใจแค่ไหน กำลังท้องอยู่ด้วย พ่อแม่ก็ยิ่งรักลูกลำเอียงอยู่ ถ้าเกิดนายหญิงเสียใจ แล้วหนีไปอีก คุณเผ่าจะเป็นยังไง ยิ่งคิดยิ่งโมโห มือแกร่งเผลอกำพวงมาลัย จนเส้นเลือดปูดโปน
"พี่คะๆ เป็นอะไรหรือเปล่า"คำถามที่ลอยมาเข้าหู ทำให้อาคมได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาพยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะตอบคำถามของเธอ
"โทษทีตัวแรด! มันวิ่งตัดหน้าน่ะ เลยเบรคแรงไปหน่อย เป็นไรไหม"
"ออ...ไม่เป็นไรค่ะ เราชนมันหรือเปล่า"ถึงแม้จะตะคิดตะขวงใจ แต่ลันลดาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน บางที่ตัวที่เขาว่าอาจจะวิ่งตัดหน้าจริงๆ เธออาจจะมองไม่เห็นก็ได้
"ไม่ชน โชคดีที่เบรคทัน ว่าแต่เมื่อกี้เราจะพูดอะไรนะ"อาคมถามต่อ เมื่อปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
"ออ...คือหนูจะบอกว่า"
ครืดๆๆๆ
คำพูดของลันลดาค้างไว้แค่นั้น เมื่อมือถือของคนที่นั่งข้างๆสั่นขึ้นขัดจังหวะ อาคมหยิบมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะวางลงที่เก่า เมื่อเห็นเบอร์ปลายสาย เผ่าเพชรคงจะถามเรื่องที่ประชุมวันนี้ อันที่จริงเขาส่งเมลล์สรุปการประชุมไปให้แล้ว สงสัยเจ้านายยังไม่ได้เปิดดู การสนทนาต้องจบลง เมื่อฝนเทกระหน่ำลงมาอีกและครั้งนี้ก็หนาเม็ด จนมองไม่เห็นทาง
"ต้องหาที่จอดก่อนไปต่อไม่ได้ ถนนลื่นถ้าไปต่อกลัวจะเกิดอันตราย"อาคมหันมาบอกผู้โดยสารที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างๆ เขาเป็นคนพื้นที่และชินทางก็จริง แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง
ลันลดาไม่พูดอะไร ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้ว กลับซีดลงไปอีก เมื่อได้ยินคำว่าไปต่อไม่ได้ ต้องรอให้ฝนหยุดก่อน แขนเรียวพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู รู้สึกโล่งใจ เพราะตอนนี้ เพิ่งจะสี่โมงเย็น ยังไม่มืดก็ยังมีเวลา
"ที่นี่ก็แบบนี้ ฝนตกเกือบทุกวัน"เสียงแหบห้าวบอก เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองไปที่หน้ารถ
"ฝนตกทุกวันแบบนี้ คนที่นี่คงทำมาหากินลำบากนะคะ"ลันลดาตอบกลับ เมื่อชายหนุ่มชวนคุย
"ไม่หรอกเขาชินแล้ว มันเป็นช่วงๆน่ะ เขาก็ต้องปรับตัว ว่าแต่เราจะไปที่แสงตะวันทำไมนะ"อาคมวกกลับมาที่เรื่องเดิม เพราะยังไม่ได้คำตอบจากเธอ
"ไปหาพ่อแม่แล้วก็พี่สาวค่ะ พี่สาวหนูได้สามีอยู่ที่นั่น"
"อายุเท่าไรแล้ว เราน่ะ"อาคมถาม เพราะเริ่มสะดุดหูกับคำว่าหนูของเธอ
"ปีนี้ก็ย่างยี่สิบสองแล้วค่ะ"
"เรียนหรือทำงาน"
"เรียนค่ะแต่จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงพักผ่อน หนูรอไปเรียนต่อปริญญาโท"หญิงสาวตอบอย่างภาคภูมิใจ เมื่อนึกถึงความสำเร็จของตัวเอง
"อืม..."อาคมรับคำสั้นๆ ยายนี่อายุยี่สิบสอง เท่ากับว่าเด็กกว่าเขาเจ็ดปี เพราะปีนี้เขาย่างยี่สิบเก้าแล้ว
"ที่คุยค้างไว้ เราบอกว่าเป็นเจ้าของไร่แสงตะวัน ยังไงเหรอ"
"ออ...คือจริงๆแล้ว หนูเป็นคู่หมั้นของคุณเผ่าเพชร เจ้าของไร่น่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่เห็นว่าหนูยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแต่งงานแทน ฟังดูเหมือนนิยายไหมคะ แต่ก็เรื่องจริงแหละ ถ้าหนูรู้สักนิด ว่าพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร รวยขนาดนี้ หนูมาแต่งเองแล้ว"
ลันลดาพูดไปเรื่อย แต่ท้ายประโยค เธอตั้งใจพูดเล่นซะมากกว่า
หญิงสาวไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่นั่งข้างๆ คิดตามคำพูดเธอทุกคำ กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ตาเห็น เพราะในใจของเธอ ก็ยังหวังที่จะได้เป็นเจ้าของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ไม่อย่างนั้นคงไม่มาคุยหรอก
ว่าตัวเองเป็นเจ้าของแสงตะวันตัวจริง
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ขับรถฝ่าสายฝนออกไป เขาจะปล่อยให้เธอไปถึงไร่แสงตะวันไม่ได้ อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะพ่อเลี้ยงกับนายหญิง กำลังมีความสุข ไหนจะนายน้อยที่อยู่ในท้องอีก คงไม่ดีแน่ถ้ายายนี่จะโผล่ไป ถึงเธอจะทำเหมือน ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว แต่ครอบครัวนี้ไม่ปกติ พ่อแม่รักลูกลำเอียงจนน่าเกลียด เกิดยายบ้านี่ร้องอยากได้คุณเผ่าขึ้นมา แล้วพ่อแม่บ้าจี้ตาม นายหญิงคงต้องเสียใจอีกแน่นอน
รถทั้งคันเงียบสนิท เมื่อคนขับต้องใช้สมาธิในการขับใบหน้าสวยหันไปมองซีกหน้าคมคาย ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา เมื่อคิดว่าเขากำลังทำเพื่อเธอ รีบขับฝ่าสายฝน เพื่อที่เธอจะได้ไปถึงไร่แสงตะวันเร็วๆ
'พี่ปอขา ป่านคิดถึงพี่ปอ ป่านมีเรื่องจะคุยกับพี่ปอตั้งหลายเรื่อง ป่านอยากจะบอกพี่ปอว่า ป่านรักพี่ปอที่สุดเลย' คำพูดเหล่านี้ถูกคิดวนไปมาในหัว เมื่อลันลดา กำลังหาคำพูดที่ดีที่สุดไปบอกกับพี่สาว เธออยากขอบคุณลลนา ที่เสียสละมาแต่งงานแทนเธอ