Chapter​ 6 ยั่วรักคุณอา​ (1)

1321 คำ
Chapter​ 6 ยั่วรักคุณอา​ (1) ภูริตา​ เรียลเอสเตท ภริตาลงแท็กซี่ที่หน้าสำนักงานภูริตา​ หล่อนแวะมาหาภูดิศหลังเลิกเรียน​ ไม่ได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าจะมา​ แค่ต้องการมาเซอร์ไพรส​์และตั้งใจชวนเขาไปทานมื้อเย็นนอกบ้าน...หัวใจดวงน้อยแอบหวังเล็ก​ ๆ​ เขาคงจำได้​ วันนี้คือวันพิเศษของใคร "หนู! หนูชื่อภริตามั้ย" ".....!" ภริตาตกใจหันไปมอง​ สองขาหยุดเดินอัตโนมัติ...ชายตรงหน้า...เขาแต่งตัวซอมซ่อมอซอ​ หนวดเครายาวรุงรังจนหล่อนกลัว​ เขาปรี่เข้ามา...สิ่งแรกที่หล่อนเห็น​ แววตาเขาฉายความดีใจอย่างเห็นได้ชัด "หนูคือหนูอุ่น​ ลูกสาวบุญธรรมของคุณภูดิศใช่มั้ย" หล่อนพยักหน้าหงึกหงักพลางยิ้มปร่าแปร่ง​ ในขณะที่สองขาก็ถอยหลังกรูด...กลัวเขาพกมีดพกไม้​ กลัวเป็นชายสติไม่สมประกอบคลุ้มคลั่งทำร้าย​ แววตาตื่นกลัวเหลียวมองไปรอบ​ ๆ​ เพื่อมองหาตัวช่วย "ลูกพ่อ..." ".....!" "เฮ้ย! ทำอะไร" เสียงดังมาก่อนตัว​ ภริตาหันไปมอง​ ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็น​ รปภ.​ของภูริตาวิ่งเข้ามาทางตน "ขอพบคุณภูดิศ​ได้มั้ย" ชายที่มีสภาพเหมือนโจรชะงักไป​ เขาหันไปเอ่ยความประสงค์​ หลังจากมาที่นี่ทุกวันแล้วไม่มีใครอนุญาตให้เขาได้เข้าไปพบกับบอสใหญ่​ เหตุเพราะทุกคนคิดว่าเขาบ้า​ กลัวจะไปคลุ้มคลั่งทำร้ายเจ้านายตน "ไม่ได้​ ไปเลย​ มาทางไหนไปทางนั้น!" รปภ.เอาตัวไปขวางกลางไว้​ เพราะภริตาคือคนสำคัญของเจ้านาย​ หากหล่อนเป็นอะไรขึ้นมาเขาคงตกงานแน่ "ได้โปรด​ ให้ฉันได้คุยกับคุณภูดิศ" "กลับไปเถอะลุง​ คุณภูมิไม่ว่างมาคุยด้วย​ ไปได้แล้ว​ อย่ามายุ่งกับคุณอุ่น​" รปภ.หันมาพยักพเยิดกับภริตา​ ไม่สนใจชายแปลกหน้าที่ยืนรออย่างน่าสงสาร "เข้าไปเถอะครับคุณอุ่น​ เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง" "ขอบคุณค่ะ" ภริตาคลี่ยิ้มไปให้ รปภ.​ หล่อนปลีกตัวเดินจากมา และขณะที่กำลังเดินผ่านบานประตูอัตโนมัติ​ จู่​ ๆ​ ใจก็ประหวัดไปถึงคำพูดแปลก​ ๆ​ ของชายคนนั้น "เขาเรียกเราลูก..." หล่อนหันหลังกลับไปทางเก่า​ เพ่งมองผ่านม่านกระจกดำมืด​ มองตามหลังชายคนนั้น...เขาไปแล้ว...เดินคอตกไปตามทางที่หล่อนก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนต่อ​ ท่าทีที่ทำให้ความสงสารซึมซาบไปทั้งใจ​ แววตาร้อนผ่าวปวดหนึบขึ้นมาทันที 'เขาคงจะสติไม่ดีจริง​ ๆ​ มั้ง'​ หล่อนสลัดความคิดรบกวนออกไป...วันนี้เป็นวันดี​ ควรจะคิดแต่เรื่องตัวเองเอาไว้ก่อน​ เมื่อคิดดังนั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน​ จุดหมายคือห้องทำงานของคุณอา เมื่อหล่อนเดินมาถึงหน้าห้องของซีอีโอ​ เลขาสาวก็ปราดมารับหน้าทันที​ "มาหาบอสเหรอคะ" ภริตามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ​ เพราะเธอคนนี้ไม่ใข่เลขาของภูดิศ...แต่ทำเหมือนไม่อยากให้เข้า และสถานะของหล่อนเหตุใดจึงต้องห้ามเข้า​ ยิ่งห้ามก็ยิ่งเกิดแรงขับ​ หล่อนเบียดร่างไม่สนใจเลขาที่ยืนขวาง​ ผลักบานประตูเข้าไปทันที ".....!" ภาพตรงหน้าทำให้หล่อนยืนตกตะลึง​ คนในห้องก็ตกตะลึง...คีติกาตวัดมองเลขาที่ยืนอยู่หน้าห้องตาเขียว​ เพราะสั่งนักหนาว่าห้ามใครหน้าไหนเข้ามา คีติกาขยับออกห่างร่างที่เข้าไปนัวเนีย​ เห็นเขาตวัดมองด้วยสายตาดุ ๆ​ เพราะเข้าห้ามแล้วหล่อนไม่ฟัง​ และเป็นคราวซวยของเขา​ ที่ภริตามาเห็นช็อตเด็ดเข้าพอดี ภูดิศสบตากับคนที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง​ เห็นแววตาของหล่อนสั่นระริก​ กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากัน​ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้​ นาทีนี้เขาต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง​ และเขาเลือกถนอมความรู้สึกภริตา "หนิง​ ออกไปก่อน" "แต่...ภูมิคะ..." "ออกไปได้แล้ว​ ไปสิ!" เขาขับไล่ซ้ำด้วยสายตา​ และคีติกาก็ไม่อาจขัดได้​ จำต้องเป็นฝ่ายไป​ และหล่อนรู้สึกไม่พอใจภริตาเป็นอย่างมาก​ ก่อนเดินออกไป...แววตาคมเข้มจากอายไลน์เนอร์ตวัดมองใบหน้าหวาน​ ๆ​ สื่อให้รู้ว่าไม่ชอบขี้หน้ากันขั้นรุนแรง ภริตามองตามร่างที่เดินออกไป...นึกถึงคำที่เขาเคยบอก​ คีติกากับเขาคือเพื่อนที่ดีต่อกัน​ เรื่องเซ็กส์คือความพอใจของคีติกาที่ไม่ชอบการผูกมัด​ และหล่อนก็เพิ่งรู้​ คนเราสามารถมีเซ็กส์กันโดยไม่มีความรักมาเกี่ยวก็ได้​ ที่ผ่านมาหล่อนช่างโลกแคบเหลือเกิน ในเมื่อเขาบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อน​ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดเพราะความหึงหวง​ คิดดังนั้นจึงปั้นยิ้มหวานไปให้เขา​ เดินตรงเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน หล่อนควรเอาเวลาที่จะนั่งหึงหวง​ มาหาวิธีทำให้เขายอมมีเซ็กส์ด้วยให้ได้​ ต้องทลายกำแพงของเขา​ ทำให้สำเร็จก่อนเขาจะทิ้งหล่อนไปแต่งงานกับใครสักคนที่ได้เลือกแล้ว เพราะรักเขามาก​ ทำใจไม่ได้จริง​ ๆ​ หากคนที่เดินเคียงข้างไม่ใช่เธอ ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นนั่งตักเขาได้​ หล่อนก็ทำได้​ และพฤติกรรมเลียนแบบก็เริ่มขึ้น​ ร่างอิ่มที่ถลาเข้ามานัวเนีย​ ทำให้แววตาเข้มเหลือบมองไปที่บานประตู "อุ่น! เดี๋ยว" "คุณอาขา...วันนี้ไปทานข้าวนอกบ้านกันนะคะ" "จะไปก็ไป​ แต่เธอควรลุกออกไปก่อน​ เดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น" แววตาคู่สวยจับจ้องใบหน้าคมคร้าม​ คล้ายกับคาดคั้นอะไรบางอย่าง "สรุปอาภูมิกับอาหนิงเป็นอะไรกันแน่คะ" "....." ความเงียบประกอบกับสีหน้าปั้นยากของเขา​ ทำให้หล่อนเริ่มใจคอไม่ดี...ใจมันเต้นแรงอีกแล้ว​ กลัวกับคำตอบที่ได้รับเหลือเกิน "เงียบแบบนี้...แสดงว่าไม่ใช่แค่เพื่อนแล้วแน่​ ๆ​ บอกอุ่นมาเถอะค่ะ​ อาภูมิรักอาหนิงใช่มั้ยคะ" "เป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิมนั่นแหละ​ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาจุ้นจ้านเรื่องนี้จะได้มั้ยฮึ!" เสียงดุ ๆ​ มาพร้อมกับร่างสูงที่ลุกพรวดขึ้น​ จนคนที่นั่งอยู่บนตักหล่นลงมา​ ดีที่สองแขนแข็งแรงช่วยประคองโอบกอด​ ร่างของหล่อนจึงไม่ลงไปกองอยู่บนพื้น แววตาสองคู่สบประสาน​ น้ำใส​ ๆ​ ที่คลออยู่ในดวงตา​ กลีบปากอิ่มแดงระเรื่อชวนให้จินตนาการคิดลึก...ในหัวของภูดิศ...ภาพในวันนั้นลอยมาก่อกวน​ มันปั่นป่วนหัวใจของเขาจนไม่เป็นอันทำงานเลยทีเดียว หล่อนไม่รู้หรอกว่า​ ตลอดทั้งวัน​ ในทุก​ ๆ​ วัน​ เขาคิดถึงหล่อนจนฟุ้งซ่าน​ หากแต่ก็ต้องกดเอาไว้​ เพียงเพราะแคร์สายตาสังคมที่จับจ้องมอง สังคมคงจะเล่นข่าวกันสนุกสนาน​ หากเขาจับคนที่เลี้ยงดูมาในฐานะลูกสาวบุญธรรมทำเมีย เขาคลายอ้อมกอดออก​ ทำทีเป็นเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับ​ แท้จริงกำลังใช้มันกลบเกลื่อนอาการต่างหาก "จะไปกินร้านไหนดีล่ะครับ" "อุ่นอยากไปร้านที่ค่อนข้างส่วนตัว​ และบรรยากาศดี​ ๆ​ ค่ะ" เขายังคงไม่พูดถึง​ ดูเหมือนจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำ​ ว่าวันนี้วันเกิดของเธอ หล่อนเก็บความน้อยใจเอาไว้​ เดินตามหลังเขาออกไปจากห้อง​ ตลอดทางเดินที่พาไปสู่นอกตัวอาคาร​ แววตากรุ่นไอรักมองแผ่นหลังกว้างภายใต้เชิ๊ตดำ​ไม่ละสายตา​ แอบรัก​ ลุ่มหลง​ ปรารถนา​ ความรู้สึกที่ทำให้เกิดแรงขับภายในใจ​ อยากทำทุกอย่างเพื่อคว้าหัวใจเขามาให้ได้ และคืนนี้...คืนนี้เป็นโอกาสอีกครั้ง​ หล่อนจะไม่ยอมให้หลุดลอยไปอีกแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม