ปิงปอง…)” คืนนี้นอนก่อนเถอะนะดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยเล่าต่อก็ได้”
โจ๋…)”เออเอางั้นก็ได้ “
“ ปิ๊ด…..ๆๆๆๆ กิจกรรมรอบกองไฟเปลี่ยนมาทำกลางวันนะครับทุกคนเพราะถ้าเราเล่นกลางคืนกลัวจะดึกเกินไป เดี๋ยวจะตื่นไม่ทันเดินทางกลับบ้านนะครับเด็กๆ “ เสียงเป่านกหวีดเรียก ของอาจารย์ทำให้ทุกคน ตื่นพร้อมเตรียมตัวการแสดงเด็กๆได้ซ้อมกันมาอย่างหนักตั้งแต่ตอนอยู่โรงเรียนแล้วเมื่อเด็กๆทุกคนพร้อม ก็รีบเตรียมตัวตาม นัดหมาย การแสดงรอบกองไฟกว่าจะจบการแสดงรอบกองไฟก็ถึงเวลาเย็นพอดีเมื่อทุกคน รับอาหารเย็นกันแล้วก็มายังจุดนัด พบเดิม
โจ๋… )”อ่ะปิงปอง จะเล่าอะไรเธอติดไว้เมื่อคืนนี้ คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่และพวกเราก็จะจดจำประสบการณ์ทุกอย่างที่นี่รวมถึงเรื่องแต่ละเรื่อง ที่พวกเรานำมาเล่าสู่กันฟัง
พีเจ…)”กูรูและโจ๋โตไปมึงจะมีอาชีพอะไร?”
โจ๋ …)”อะไรวะ?”
พีเจ…)” ก็ทำรายการเล่าเรื่องผีไงชอบนักนี่ให้คนทางบ้านโทรมาเล่าเรื่อง ผีอย่างรายการของพี่ป๋องนะ”
โจ๋…)” เออความคิดดี แต่กูต้องมานั่งฟังคนเดียวน่ากลัวจะตาย อ่ะเสียเวลาปิงปองเธอเล่าเตรียมเรื่องอะไรมาเล่าละ”
ปิงปอง… )”มีอยู่แล้วล่ะเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม ที่ผู้ใหญ่มักจะห้ามเด็กๆว่าอย่าเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืนเดี๋ยวผีจะจับไปซ่อนโดยเฉพาะตอนพลบค่ำแบบนี้เวลาที่เรากำลัง เล่นกันอยู่ข้างนอก เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนที่เราอายุได้ 7 ขวบช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่พาเราไปเที่ยวบ้านย่า ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีป่าเขา ค่อนข้างจะบ้านนอกนิดนึงอยู่แถวราชบุรี ข้างๆบ้าน ยา จะมีเด็กๆรุ่นเดียวกันกับเราเยอะแยะเลยเราก็เล่นกัน อย่างสนุกสนานจนกระทั่งวัน หนึ่ง มีพี่สาวคน หนึ่ง อายุมากกว่าเรา สอง ปีได้มาชวน เราและเด็กๆละแวกนั้นเล่นซ่อนแอบ ละแวกบ้านแถวนั้นอยู่ติดกับสวนผลไม้และติดกับชายป่าตอนที่เล่นแรกๆมันก็ยังไม่มืดผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเราเล่นกัน 6 คนสนุกสนานจนลืมเวลาย่าเอ็ดและเตือนว่า เลิกเล่นเพราะเดี๋ยวพี่จะจับไปซ่อนแต่เด็กๆก็ไม่เชื่อฟังคงเล่นกันต่อย่าจึง ดึงเรากลับบ้านตอนนั้นรู้สึกเสียดายอย่าไม่น่ามาขัดจังหวะเลยกำลังสนุกอยู่เชียวแต่สักพักนึงซึ่งตอนนั้นประมาณทุ่มกว่าๆกว่า ชาวบ้านแถวนั้นเอะอะโวยวายและมาหาย่า
“หลานป้ายังอยู่ไหม?”
“อยู่มีอะไร?”
“เอออยู่ดีๆก็ ดีแล้วเด็กที่เล่นซ่อนแอบหายไป สอง คนตามหายังไม่เจอเลย”
อย่าตกใจหันมามองหน้าเราอย่างโล่งใจคน ทั่วหมู่บ้าน ต่างพร้อมเพรียงกันออกมาช่วยตามหาเด็กๆ เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเกือบเช้าแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะเจอเด็กๆ เด็กที่หายไปคือพี่ที่มาชวนเล่นซ่อนแอบกับเด็กที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มอายุเพียง 5 ขวบจนถึงเวลานี้เด็กๆหายไปคบ 24 ชั่วโมงจึงได้แจ้งความตำรวจ ทั้งตำรวจและชาวบ้านต่างตามหา ในละแวกชายป่าแห่งนั้นแต่ก็ไม่เจอ ไม่มีร่องรอยอะไรใดๆทั้งสิ้น ตำรวจ นักสืบได้ลงมาช่วยสืบหาและก็เจอรอยเท้าเล็กๆและรอยเท้าของเด็ก 9 ขวบ ผ่านไป 3 วันสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเด็ก 9 ขวบได้เดินโซซัดโซเซออกมาจากป่าอย่างหิวโหยทุกคนต่างรุมถามสิ่งที่เกิดขึ้น
“ ปุ๋ย…!.. น้องหล่ะน้องอยู่ไหนบอกป้าสิ?”
แม่ของเด็ก 5 ขวบร้องไห้เหมือนจะขาดใจเค้นถามเด็ก 9 ขวบ
“น้องอยู่แถวแถวนี้แหละแต่พวกนั้นบางตา ไว้ไม่ให้เห็น”
“พวกไหนใครกัน”
“ ผีไม่ใช่คน ผี พี่แน่ๆหนูเห็นทุกคนเดินตามหาผ่านมาผ่านไปแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยินเลย และไม่มีใครเห็นหนูเลยคนที่จับหนูไว้บอกว่าเขาจะปล่อยหนู แต่เขาไม่ปล่อยน้องเพราะผู้หญิงที่เอาน้องไปเขาเคยเป็นแม่ของน้อง น้องไม่มีทางได้กลับมา”
“ ไม่จริงแกใช่ไหมที่พาน้องไปให้คนอื่นจับตัวแล้วก็หนีเอาตัวรอดคนเดียว แล้วก็มาสร้างเรื่องกูไม่เชื่อเอาลูกกูคืนมามึงไม่ใช่หรอที่เป็นตัวต้นเรื่องชวนกันเล่นบ้าๆเนี่ยเอาลูกกูคืนมา…!..เอาคืนมา”
เสียงแผดร้องโวยวายด้วยความรู้สึกเสียใจ ผิดหวังของคนเป็นแม่ที่สูญเสียลูกไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ภาพนั้น เราจำได้ดีไม่มีวันลืมด้วย ความสงสัยก็เลยถามย่าว่าผีมีจริงหรือผีลักพาตัวเด็กไปซ่อนจริงหรือ?
“ อย่าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อ้าว…แล้ววันที่อย่าพาหนูกลับบ้านอย่าบอก ว่าผีจะจับไปซ่อนนี่นา”
“ย่าก็แค่หลอกนะมันเป็นกุศโลบายของคนโบราณเพื่อไม่ให้เด็กๆออกมาเล่นในเวลาพลบค่ำเพราะสัตว์ร้ายจะออกมาหากินช่วงเวลานั้นเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆก็เท่านั้นแหละ”
“ แล้วที่พี่ปุ้ยพูดนั่นหล่ะเรื่องจริงไหมจ่ะย่า?”
“ย่าก็ไม่รู้ ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานหากเด็กแน่นโกหกก็จะต้องเผยพิรุธออกมา”
แต่ไม่ว่าจะสอบเค้นสักกี่รอบ พี่ปุ้ยก็พูดแบบเดิมทุกครั้งและมีท่าทีหวาดกลัวทุกครั้งที่เล่า ซึ่งเด็ก 9 ขวบไม่น่าจะแสดงได้ขนาดนั้นจนตำรวจก็ปวดหัวต้องใช้เครื่องจับเท็จขณะสอบสวนแต่ก็ไม่มีพิรุธแต่อย่างใดเมื่อตำรวจสเก็ตช์ภาพคนร้ายลักพาตัวตามที่พี่ปุ๋ยบอกภาพที่ออกมาคือผู้หญิงใส่ สวมชุดสีดำ ดูน่ากลัวผมยาวรุงรังยุ่งเหยิง ภาพที่ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์เพื่อหาตัวคนร้ายแต่แล้วก็มีพลเมืองดีคน หนึ่ง เขาให้การกับตำรวจว่าผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนอยู่จริงแต่ตอนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว เธอเป็นบ้าก่อนที่จะเสียชีวิตลง ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเพราะถูกรถชนผู้หญิงบ้าคนนี้เที่ยวจับลูก ของคนอื่นไปหาว่าเป็นลูกของตัวเองที่ตายไปแล้วจนชาวบ้านต่างหวาดกลัวไปพักนึง เมื่อหญิงบ้าคนนี้เสียชีวิตลงชาวบ้านต่างโล่งใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่พลเมืองดีเล่าให้ฟังและนำหลักฐานมาด้วยคือใบมรณะของคนบ้าคนนั้นซึ่งพลเมืองคนนี้ก็คือญาติของ หญิงบ้าคนนั้นนั่นเองตำรวจไม่สามารถสืบค้นได้ว่าเด็กอยู่ไหนจึงเป็นคดีที่ปิดไม่ลง กลายเป็นคดีคนสูญหายจนทุกวันนี้ก็ยังคงตามหาเด็กคนนั้นไม่เจอ”
มินนี่.. …)”แล้วพี่ปุ้ยละยังอยู่ไหม?”
ปิงปอง.. )”อยู่แต่ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว พ่อและแม่พี่ปุ้ยพาออกจากหมู่บ้านไปแล้วเพราะทุกคนเชื่อว่า พี่ปุ้ยเป็นสาเหตุให้น้องถูกลักพาตัวไป”
โจ๋…)” แล้วแม่เด็กล่ะ?”
ปิงปอง…)” ก็ทำใจไม่ได้พักใหญ่เกือบจะเป็นบ้าแต่ว่า พอท้องและมีลูกคนใหม่ก็เริ่มทำใจได้แต่คราวนี้ เลี้ยงลูกอย่างกับไข่ในหินดูแลไม่ห่างสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียวและที่แปลกคือเด็กคนที่เกิดใหม่หน้าตาเหมือนเด็กที่หายไปอย่างกับคนคนเดียวกัน”
อ้อย… )”เราว่าเด็กที่หายไปคงตายและก็มาเกิดใหม่กับแม่ของตัวเองเพราะทนเห็นแม่ของตัวเองทุกข์ไม่ได้”
ผิงผิง… )”…ฮึกๆๆๆๆๆๆ”
ออย… )”อี ผิงผิง…มึงร้องทำไมวะ?”
ผิงผิง..)” กูสงสารแม่ของน้องที่หายไปและกูก็สงสารน้องที่หายไปมึงลองคิดดูว่ากว่าน้องจะตาย มันจะทรมานขนาดไหน คงร้องไห้หาแม่แต่ไม่มีใครได้ยินคงเห็นพ่อแม่เดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่มีใครเห็น กูสงสาร…อีผีบ้าตายแล้วยังบ้าอีก”
“ปัง..!… กรี๊ดดด (เสียงกรีดร้องพร้อมกัน)
ปิงปอง…)” อี…ผิงผิง..อีห่าปากไม่ดีกูตกใจหมด”
จบตอนผีซ่อนแอบ