ผีซ่อนแอบ

1447 คำ
ปิงปอง…)” คืนนี้นอนก่อนเถอะนะดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยเล่าต่อก็ได้” โจ๋…)”เออเอางั้นก็ได้ “ “ ปิ๊ด…..ๆๆๆๆ กิจกรรมรอบกองไฟเปลี่ยนมาทำกลางวันนะครับทุกคนเพราะถ้าเราเล่นกลางคืนกลัวจะดึกเกินไป เดี๋ยวจะตื่นไม่ทันเดินทางกลับบ้านนะครับเด็กๆ “ เสียงเป่านกหวีดเรียก ของอาจารย์ทำให้ทุกคน ตื่นพร้อมเตรียมตัวการแสดงเด็กๆได้ซ้อมกันมาอย่างหนักตั้งแต่ตอนอยู่โรงเรียนแล้วเมื่อเด็กๆทุกคนพร้อม ก็รีบเตรียมตัวตาม นัดหมาย การแสดงรอบกองไฟกว่าจะจบการแสดงรอบกองไฟก็ถึงเวลาเย็นพอดีเมื่อทุกคน รับอาหารเย็นกันแล้วก็มายังจุดนัด พบเดิม โจ๋… )”อ่ะปิงปอง จะเล่าอะไรเธอติดไว้เมื่อคืนนี้ คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่และพวกเราก็จะจดจำประสบการณ์ทุกอย่างที่นี่รวมถึงเรื่องแต่ละเรื่อง ที่พวกเรานำมาเล่าสู่กันฟัง พีเจ…)”กูรูและโจ๋โตไปมึงจะมีอาชีพอะไร?” โจ๋ …)”อะไรวะ?” พีเจ…)” ก็ทำรายการเล่าเรื่องผีไงชอบนักนี่ให้คนทางบ้านโทรมาเล่าเรื่อง ผีอย่างรายการของพี่ป๋องนะ” โจ๋…)” เออความคิดดี แต่กูต้องมานั่งฟังคนเดียวน่ากลัวจะตาย อ่ะเสียเวลาปิงปองเธอเล่าเตรียมเรื่องอะไรมาเล่าละ” ปิงปอง… )”มีอยู่แล้วล่ะเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม ที่ผู้ใหญ่มักจะห้ามเด็กๆว่าอย่าเล่นซ่อนแอบตอนกลางคืนเดี๋ยวผีจะจับไปซ่อนโดยเฉพาะตอนพลบค่ำแบบนี้เวลาที่เรากำลัง เล่นกันอยู่ข้างนอก เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนที่เราอายุได้ 7 ขวบช่วงปิดเทอมพ่อกับแม่พาเราไปเที่ยวบ้านย่า ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีป่าเขา ค่อนข้างจะบ้านนอกนิดนึงอยู่แถวราชบุรี ข้างๆบ้าน ยา จะมีเด็กๆรุ่นเดียวกันกับเราเยอะแยะเลยเราก็เล่นกัน อย่างสนุกสนานจนกระทั่งวัน หนึ่ง มีพี่สาวคน หนึ่ง อายุมากกว่าเรา สอง ปีได้มาชวน เราและเด็กๆละแวกนั้นเล่นซ่อนแอบ ละแวกบ้านแถวนั้นอยู่ติดกับสวนผลไม้และติดกับชายป่าตอนที่เล่นแรกๆมันก็ยังไม่มืดผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเราเล่นกัน 6 คนสนุกสนานจนลืมเวลาย่าเอ็ดและเตือนว่า เลิกเล่นเพราะเดี๋ยวพี่จะจับไปซ่อนแต่เด็กๆก็ไม่เชื่อฟังคงเล่นกันต่อย่าจึง ดึงเรากลับบ้านตอนนั้นรู้สึกเสียดายอย่าไม่น่ามาขัดจังหวะเลยกำลังสนุกอยู่เชียวแต่สักพักนึงซึ่งตอนนั้นประมาณทุ่มกว่าๆกว่า ชาวบ้านแถวนั้นเอะอะโวยวายและมาหาย่า “หลานป้ายังอยู่ไหม?” “อยู่มีอะไร?” “เอออยู่ดีๆก็ ดีแล้วเด็กที่เล่นซ่อนแอบหายไป สอง คนตามหายังไม่เจอเลย” อย่าตกใจหันมามองหน้าเราอย่างโล่งใจคน ทั่วหมู่บ้าน ต่างพร้อมเพรียงกันออกมาช่วยตามหาเด็กๆ เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเกือบเช้าแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะเจอเด็กๆ เด็กที่หายไปคือพี่ที่มาชวนเล่นซ่อนแอบกับเด็กที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มอายุเพียง 5 ขวบจนถึงเวลานี้เด็กๆหายไปคบ 24 ชั่วโมงจึงได้แจ้งความตำรวจ ทั้งตำรวจและชาวบ้านต่างตามหา ในละแวกชายป่าแห่งนั้นแต่ก็ไม่เจอ ไม่มีร่องรอยอะไรใดๆทั้งสิ้น ตำรวจ นักสืบได้ลงมาช่วยสืบหาและก็เจอรอยเท้าเล็กๆและรอยเท้าของเด็ก 9 ขวบ ผ่านไป 3 วันสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเด็ก 9 ขวบได้เดินโซซัดโซเซออกมาจากป่าอย่างหิวโหยทุกคนต่างรุมถามสิ่งที่เกิดขึ้น “ ปุ๋ย…!.. น้องหล่ะน้องอยู่ไหนบอกป้าสิ?” แม่ของเด็ก 5 ขวบร้องไห้เหมือนจะขาดใจเค้นถามเด็ก 9 ขวบ “น้องอยู่แถวแถวนี้แหละแต่พวกนั้นบางตา ไว้ไม่ให้เห็น” “พวกไหนใครกัน” “ ผีไม่ใช่คน ผี พี่แน่ๆหนูเห็นทุกคนเดินตามหาผ่านมาผ่านไปแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยินเลย และไม่มีใครเห็นหนูเลยคนที่จับหนูไว้บอกว่าเขาจะปล่อยหนู แต่เขาไม่ปล่อยน้องเพราะผู้หญิงที่เอาน้องไปเขาเคยเป็นแม่ของน้อง น้องไม่มีทางได้กลับมา” “ ไม่จริงแกใช่ไหมที่พาน้องไปให้คนอื่นจับตัวแล้วก็หนีเอาตัวรอดคนเดียว แล้วก็มาสร้างเรื่องกูไม่เชื่อเอาลูกกูคืนมามึงไม่ใช่หรอที่เป็นตัวต้นเรื่องชวนกันเล่นบ้าๆเนี่ยเอาลูกกูคืนมา…!..เอาคืนมา” เสียงแผดร้องโวยวายด้วยความรู้สึกเสียใจ ผิดหวังของคนเป็นแม่ที่สูญเสียลูกไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ภาพนั้น เราจำได้ดีไม่มีวันลืมด้วย ความสงสัยก็เลยถามย่าว่าผีมีจริงหรือผีลักพาตัวเด็กไปซ่อนจริงหรือ? “ อย่าก็ไม่รู้เหมือนกัน” “อ้าว…แล้ววันที่อย่าพาหนูกลับบ้านอย่าบอก ว่าผีจะจับไปซ่อนนี่นา” “ย่าก็แค่หลอกนะมันเป็นกุศโลบายของคนโบราณเพื่อไม่ให้เด็กๆออกมาเล่นในเวลาพลบค่ำเพราะสัตว์ร้ายจะออกมาหากินช่วงเวลานั้นเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆก็เท่านั้นแหละ” “ แล้วที่พี่ปุ้ยพูดนั่นหล่ะเรื่องจริงไหมจ่ะย่า?” “ย่าก็ไม่รู้ ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานหากเด็กแน่นโกหกก็จะต้องเผยพิรุธออกมา” แต่ไม่ว่าจะสอบเค้นสักกี่รอบ พี่ปุ้ยก็พูดแบบเดิมทุกครั้งและมีท่าทีหวาดกลัวทุกครั้งที่เล่า ซึ่งเด็ก 9 ขวบไม่น่าจะแสดงได้ขนาดนั้นจนตำรวจก็ปวดหัวต้องใช้เครื่องจับเท็จขณะสอบสวนแต่ก็ไม่มีพิรุธแต่อย่างใดเมื่อตำรวจสเก็ตช์ภาพคนร้ายลักพาตัวตามที่พี่ปุ๋ยบอกภาพที่ออกมาคือผู้หญิงใส่ สวมชุดสีดำ ดูน่ากลัวผมยาวรุงรังยุ่งเหยิง ภาพที่ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์เพื่อหาตัวคนร้ายแต่แล้วก็มีพลเมืองดีคน หนึ่ง เขาให้การกับตำรวจว่าผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนอยู่จริงแต่ตอนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว เธอเป็นบ้าก่อนที่จะเสียชีวิตลง ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเพราะถูกรถชนผู้หญิงบ้าคนนี้เที่ยวจับลูก ของคนอื่นไปหาว่าเป็นลูกของตัวเองที่ตายไปแล้วจนชาวบ้านต่างหวาดกลัวไปพักนึง เมื่อหญิงบ้าคนนี้เสียชีวิตลงชาวบ้านต่างโล่งใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่พลเมืองดีเล่าให้ฟังและนำหลักฐานมาด้วยคือใบมรณะของคนบ้าคนนั้นซึ่งพลเมืองคนนี้ก็คือญาติของ หญิงบ้าคนนั้นนั่นเองตำรวจไม่สามารถสืบค้นได้ว่าเด็กอยู่ไหนจึงเป็นคดีที่ปิดไม่ลง กลายเป็นคดีคนสูญหายจนทุกวันนี้ก็ยังคงตามหาเด็กคนนั้นไม่เจอ” มินนี่.. …)”แล้วพี่ปุ้ยละยังอยู่ไหม?” ปิงปอง.. )”อยู่แต่ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว พ่อและแม่พี่ปุ้ยพาออกจากหมู่บ้านไปแล้วเพราะทุกคนเชื่อว่า พี่ปุ้ยเป็นสาเหตุให้น้องถูกลักพาตัวไป” โจ๋…)” แล้วแม่เด็กล่ะ?” ปิงปอง…)” ก็ทำใจไม่ได้พักใหญ่เกือบจะเป็นบ้าแต่ว่า พอท้องและมีลูกคนใหม่ก็เริ่มทำใจได้แต่คราวนี้ เลี้ยงลูกอย่างกับไข่ในหินดูแลไม่ห่างสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียวและที่แปลกคือเด็กคนที่เกิดใหม่หน้าตาเหมือนเด็กที่หายไปอย่างกับคนคนเดียวกัน” อ้อย… )”เราว่าเด็กที่หายไปคงตายและก็มาเกิดใหม่กับแม่ของตัวเองเพราะทนเห็นแม่ของตัวเองทุกข์ไม่ได้” ผิงผิง… )”…ฮึกๆๆๆๆๆๆ” ออย… )”อี ผิงผิง…มึงร้องทำไมวะ?” ผิงผิง..)” กูสงสารแม่ของน้องที่หายไปและกูก็สงสารน้องที่หายไปมึงลองคิดดูว่ากว่าน้องจะตาย มันจะทรมานขนาดไหน คงร้องไห้หาแม่แต่ไม่มีใครได้ยินคงเห็นพ่อแม่เดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่มีใครเห็น กูสงสาร…อีผีบ้าตายแล้วยังบ้าอีก” “ปัง..!… กรี๊ดดด (เสียงกรีดร้องพร้อมกัน) ปิงปอง…)” อี…ผิงผิง..อีห่าปากไม่ดีกูตกใจหมด” จบตอนผีซ่อนแอบ

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม