โจ๋.. คิวต่อไปใครจะเล่าก่อน
ขนมปัง.. บางเอง ฟังเล่าเอง เรื่อง เสียวกระสือ
เรื่องนี้ปังเคยเจอมากับตัวเองตอนเด็กๆอายุได้ประมาณ 5 ถึง 6 ขวบได้ ตอนนั้น ครอบครัวของปัง อยู่ที่บ้าน ของแม่ ในชนบทเล็กๆ ค่อนข้างจะทุรกันดาร ช่วงนั้น ภายในหมู่บ้าน มีสิ่งแปลกๆเกิดขึ้น เป็ดไก่ภายในหมู่บ้าน ถูกกัดกิน ไส้พุง หายไป จนชาวบ้านเดือดร้อน แต่ก็ยังจับตัวไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้าน และคนในหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครรู้ว่า มันเป็นฝีมือของปอบหรือกระสือกันแน่ จนผู้ใหญ่บ้าน ได้เรียกประชุม ให้คนในหมู่บ้านจัดเวรยาม เฝ้าระวัง แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนมันรู้ ปังจำได้คือ มียายแก่ๆ ที่ย้ายมาจากที่อื่น อยู่ หนึ่ง คน เข้ามา แรกแรกก็ไม่ได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่ตั้งแต่ย้ายคนนี้เข้ามา ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ เวลาผ่านไป ได้ไม่นาน ทุกคนภายในหมู่บ้านคงคิดว่ากระสือมันไม่กล้าออกมาอีกเป็นแน่ ก็เลยไม่ได้จัดเวรยามเฝ้าอีกแล้ว แล้วเหตุการณ์แบบนี้มันก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้ไม่ได้กินแค่ ตับไตไส้พุงของเป็ดและไก่แต่มันยังลามไปถึงหมู หมา วัวควาย ชาวบ้านเสียหายหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะวัวควายต้องเอาไว้ใช้ทำนาไถนา จนต้องจัดเวรยามขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ไม่รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มันคือฝีมือของปอบหรือกระสือ แต่ถ้าเป็นกระสือ มันจะไม่สบตาคน และมันจะไม่ร่วมวงกินอาหาร กับใคร มันกลัวมะนาวและเกลียดมะนาว มันไม่กินมะนาว ผู้ใหญ่บ้านแจกมะนาวให้คนละชิ้น เพื่อจับพิรุธว่า ใคร คือ กระสือ ตอนนั้น ปังยังจำได้ดี ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่คนแก่ ต้องกินมะนาวคนละ หนึ่ง ชิ้น ทั้งเปรี้ยวและขม กระสือมันจะไม่กินมะนาวเป็นเด็ดขาด แต่ก็จับไม่ได้ ไม่มีใครแสดงพิรุธออกมาเลย ทุกคนกินมะนาวแต่ ปังสังเกตเห็นว่า มะนาวหล่น หนึ่ง ชิ้น โดยที่ไม่ได้แตะต้องเลย ไม่มีรอยบีบมะนาวไม่มีรอยกัด เหมือนทิ้งไว้เฉยๆ ใครกันนะ ต้องมีคน หนึ่ง คน ที่ไม่ได้กินมะนาว แล้วก็ทำท่าเป็นว่ากิน
เล้ง.. )”ทำไมมันไม่กินมะนาววะ? อันนี้กูไม่ได้กวน ทีนนะ แค่สงสัย”
พีเจ..)'’ สงสัยมันไม่ชอบกินเปรี้ยวมั้งมันเข็ดฝัน”
จุ๊บ..)” อันนี้กูว่ามึงกวนทีนและ”
ขนมปัง.. ตามนั้น เขาว่ามันไม่กินมะนาวเพราะว่ามันเข็ดฝัน แล้วมันจะไม่สามารถกัดกินอะไรได้ อีกเป็นอาทิตย์มันจะหิวโหยจนตาย ชาวบ้าน เชื่อกันว่า ยายแก่คนนั้น ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ คือกระสือ ทุกคนต่าง ลงความเห็นว่า ให้ขับไล่ ยายคนนั้น ออกจากหมู่บ้านไป แต่เมื่อ ยายได้ถูกขับไล่ไปแล้ว เหตุการณ์ ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ใครกันนะ ที่เป็นกระสือ หรือว่าปอบ จนกระทั่งวัน หนึ่ง มีชาวบ้านคน หนึ่ง นำเสื้อ ที่ตากไว้ที่เราผ่า มีรอย เลือด และ สิ่งปฏิกูล เลอะเต็มไปหมด นำมาให้ผู้ใหญ่ดู ผู้ใหญ่ได้เรียก ชาวบ้าน มาประชุมอีกครั้ง
ข้าว่า มันต้องเป็นกระสือแน่ๆแล้วคงไม่ใช่ปอบ เพราะเสื้อตัวนี้มีรอยเลือดและสิ่งปฏิกูลป๊อปมันจะกินตับไตไส้พุงสดของสด แต่ ก็ซื้อ มันกินของเน่าเหม็น คิดว่าในหมู่บ้านนี้มีกระสือแน่นอน คืนนี้เราจัดเวรยามอีก ถึงจะจับมันไม่ได้แต่ก็ป้องกันมันได้มันจะได้ไม่ต้องออกมาหากิน ถ้ามันไม่ออกมาหากินเดี๋ยวมันก็อดแล้วมันก็ตายไปเอง กระสือมันกลัวคนอยู่แล้ว เราไม่ต้องกลัวมัน มันไม่ใช่ผี แต่มันคืออมนุษย์ถ้าใคร ได้เจอมันจังจัง ให้จำหน้ามันจ้องหน้ามันจ้องตามัน แล้วมันจะตายไปเอง’
สิ่งที่ผู่ใหญ่บ้านพูด ปังจำได้ดี แต่ตอนนั้นก็คิดว่า ใครอยู่วะใครจะไปกล้าจ้องตากับกระสือ แค่เห็น ไฟแวบ แว๊บกูก็วิ่งป่าราบแล้แต่คนที่ปังสงสัยอีกคนก็คือ ยายแก่ ที่อยู่ ท้ายวัด ท่าทางมีพิรุธมาก ไม่ชอบสุงสิงกับใครชอบอยู่คนเดียว ปังคิดว่าคนนี้แหละใช่แน่ ไม่นาน ก็มีคนเริ่มเห็น แสงไฟของกระสือ ชาวบ้านในหมู่บ้านพากกันหวาดกลัว ยายแก่ท้ายวัดชอบมาด้อมด้อมมองมอง วนเวียนอยู่ที่บ้านของปัง พวกชาวบ้านชอบพูดกันว่า กระสือมันจะมาวนเวียนอยู่ที่บ้านของคนที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด ซึ่งตอนนั้นแม่ของปัง กำลังท้องใกล้จะคลอด ปังกลัวมาก ไม่กล้ามองหน้า ยายคนนี้ น่ากลัวมากจริงๆ ปังคิดว่า ใช้แน่ๆ ปังยิ่งมั่นใจมาก เพราะแม่ท้องแก่ใกล้จะคลอด อีกไม่กี่วันนี้ ตกดึกคืน หนึ่ง แม่ร้องโอดโอ้ย ด้วยความเจ็บปวด
“ขนมปัง..แม่ใกล้จะคลอดน้องแล้ว สวัสดีไปตามคนมาช่วยหน่อย”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ตอนพ่ออยู่แม่ไม่รู้สึกอะไรไม่เจ็บไม่ปวด แต่พอพ่อออกไปทำงาน ต่างจังหวัด แม่ก็มาปวดท้อง ปังเพิ่งอายุได้ 5 ถึง 6 ขวบ เด็กตัวเล็กๆ ด้วยความกลัว ว่าแม่จะเป็นอันตราย ปังวิ่งไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมันห่างไกลจากบ้านของแม่มาก ผู้ใหญ่และเมียของผู้ใหญ่ก็มาที่บ้านของแม่ แต่ตอนนั้น ได้ยินเสียงเมียผู้ใหญ่พูดว่า
“ไม่ทันแล้ว ส่งโรงพยาบาลไม่ทันแล้วหัวเด็กออกมาแล้ว ไปตามยายสามา “ ยายสาที่ว่านี้ก็คือ ยายแก่ที่ปังกลัว
“ป้า ไปตามย้ายมาแล้วย้ายไม่กินรก ของน้องหนูหรอ?”
“ไอ้เด็กบ้า ยายสาเขาเป็นหมอตำแยเก่า ถ้าเขาเป็น็กระสือป่านนี้เขาถอดหัวลอยไปไหนต่อไหนแล้วดึกขนาดนี้
ยายสามา บอกให้ป้าเมียผู้ใหญ่ไปต้มน้ำ รอ เพียงแค่อีกไม่นาน ก็ได้ยินเสียงร้อง ของน้องแม่คลอดน้องออกมาแล้ว ยายสานำรก ที่ห่อผ้าอย่างดี ให้ป้าเมียผู้ใหญ่ รีบนำไปฟัง แต่ขณะที่กำลังชุลมุนวุ่นวายกันอยู่นั้น ทุกคนก็ลืมห่อผ้า นั้นไปเสียสนิท ปัง คอยเฝ้าระวังห่อผ้านั้น อยู่ไม่ห่าง เพราะ ยัยสาวบอกว่า ถ้ากระสือมันได้กินรกเข้าไปแล้ว น้องจะตาย ขณะที่ปัง นั่งหลับอยู่ตรงห่อผ้า ก็ได้ยินเสียงหมาเห่า จึงลืมตาตื่นขึ้นมา ทันใดนั้น… ตา ของปัง บังเอิญไปสบสายตากับ กระสือ ตัวจริงๆ อย่างประชิด
“กรี๊ดดดด…..”
ปังร้องด้วยความตกใจ และหมดสติไป ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นป้า เมียผู้ใหญ่กับยายสา อยู่ข้างๆ
“ เห็นหน้ามันไหม? มันเป็นใคร? จำได้ไหม? นี่ถ้าไม่ได้ยายสานะ น้อง เอ็งตายแน่ มันเกือบเอาห่อผ้าไปได้ ดีนะที่ยัยซัคเตรียมน้ำภัยอันยาวๆไว้ ฟาดมัน จนมันกลัวนี้ไป”
ออมสิน.. )”แล้วมึงจำได้ไหมอีปัง ใครคือกระสือ”
ขนมปัง.. )”กูก็กำลังจะเล่าอยู่นี่ไง จำได้สิ คนที่กูไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นเขาคนนั้น ที่เป็นกระสือ เขาคือคนที่ชอบมาเล่นกับกูบ่อยๆ สนิทกันมาก ซื้อขนมมาให้กิน และก็เคยมากินข้าวอยู่ที่บ้าน แต่ ตั้งแต่ยายคนนั้น ยายคนแรก ที่โดนขับไล่ออกไปนั้น มาอยู่ในหมู่บ้าน พี่สาวคนสวย ที่ชอบมาเล่นกับกู เค้าก็ไม่มาอีกเลย กูคิดว่า ยายคนนั้น คงถ่ายทอด ความเป็นกระสือ ให้กับพี่สาวคนนี้แน่ๆ กูไม่กล้าบอกใคร ว่ากระสือก็คือพี่สาว ที่กูรัก กูสงสารเค้า เพราะ ตามที่ผู้ใหญ่บ้านบอก ถ้ากกระสือได้สบตากับใครแล้ว มันจะตายของมันไปเอง กูเลยไม่บอกใคร ต่อมาอีก สอง วัน พี่สาวคนนั้น ก็ป่วย โดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วก็ตายไป”
แมงปอ..)”อีห่า อีปังโลกสวย มึงไม่คิดว่า พี่สาวคนสวยมึงจะถ่ายทอด เชื้อก็สือให้กับใครหรอ?”
“ ขนมปัง… กูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะ เมื่อพ่อกูกลับจากทำงาน พ่อกูก็ได้ย้ายพวกกูมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่นั้นและก็ไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกเลยใครจะเป็นก็ช่างมันสิวะกูไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว กระสือมันคงไม่ลอยมาที่นี่หรอก”
โจ๋…)” แล้ว รกที่ฝังไว้ก็ซื้อมันไม่ขุดเอาไปกินหรอ?”
ตูมตาม..)”ไอ้โง่ กระสือมีแต่ไส้จะใช้อะไรขุดเอาหน้าคุ้ยหรือไง?”
โจ๋.. )”อืม ก็จริง ใครต่อไป กูชักเริ่มสนุกแล้วล่ะมีใครเล่าได้เสียวกว่านี้ไหม?”