“เอ้า...ไหงงั้นบอส” แมวเดินมาสมทบกลัวลูกน้องโดนยักษ์กินหัว
“มันเป็นทอม ฉันไม่ให้ทำงานในนี้”
“ทอม มันเป็นก็ผู้หญิงไหมคะ”
“ทอม คือผู้หญิงเป็นสาวหล่อ ชอบผู้หญิง ฉะนั้นก็ไม่ต่างกับผู้ชาย”
“อ่า...บอสหึงหรือคะ”
“หึง...คืออะไร” เขาสะกดคำนี้ไม่เป็นนะ ช่วยหน่อยคำว่าหึงสะกดยังไง “I don’t agree with you” ผมไม่เห็นด้วยกับคำถามของคุณแมว เชื่อได้เลยผมไม่เห็นด้วยจริงนะ
“หึงเลขาไง” ข่าวหนาหูจะตายบอสยักษ์ชอบโยนเลขาเข้าปาก ยามว่างจากงาน
“แม่ชีมีอะไรให้หึง” ผมหึงหราหน้าผมเหมือนคนหึงมากหรือ ผมแสดงออกมากขนาดนั้นเลย
“พวกแกว่าไงวะ” แมวหันไปขอความเห็นทีมงานผู้หญิง เห็นว่าต่างยืนเอ๋อใบ้แดก ทุกคนยักไหล่ไม่มีอะไรจะพูด เหมือน ‘เมิดคำเว้า’ อะไรทำนองนั้น บอสมึงเป็นไบโพลาร์เปล่าวะ หึงแรงขนาดนี้ ยังกล้าอ้าปากปฏิเสธ เคยเห็นบอสทำแบบนี้ด้วยหรือ ทุกคนลงความเห็นว่าไม่เคย
ถ่ายแบบทุกทีแค่มาดู มีหรือลงมาดูมุมกล้องถ่ายเอง ไล่ผู้ชายออกไปข้างนอกเกลี้ยง ตัวเองยังต้องจ่ายค่าจ้างอยู่ไหม จ่ายสิ แต่ตัวเองลงมาทำเองนี่นะ
ก่อนออกมาแมวช่วยแนะนำการวางท่าทาง เลียนแบบน้องผัดฉ่า หากแต่ในหัวของวีรอร เชื่อว่าเธอทำได้มากกว่าเลียนแบบนางแบบร้อนฉ่าตามชื่อคนนั้น ทีมงานเอาภาพเก่าๆ ที่นางแบบคนนั้นเคยถ่ายงานไว้ อืม...ดูมืออาชีพ
ทีมงานสาวคนหนึ่งเดินมาหาเธอ หลังจากสาวทอมผมสั้นโดนไล่ให้ออกไปด้านนอก ไม่รู้เพราะอะไร วีรอรไม่เข้าใจ เธออยากทำงานให้จบ เพื่อทำให้ไอ้คุณบอสรู้ว่าคนมีสมอง ความสามารถล้นอย่างเธอสามารถทำได้แค่งานจิ๊บจ้อยเท่านี้ เห็นแบบนี้หญิงสาวต่างไปจากรูปลักษณ์ที่เขาเรียกเธออย่างน่าอาย ‘แม่ชี’ คำนั้นห่างไกลจากเธอ ขอบอกมันไม่ใช่
“ไม่ต้อง” เลขาสาววางมาดนางแบบ ด้วยดีกรีสมาร์ท คนรุ่นใหม่ กางมือห้ามการก้าวของแมว หญิงสาวสลัดเสื้อคลุมขนฟรุ้งฟริ้ง โยนปลิวห่างตัว
“โอ้ววววว” Dead Meat ตายแน่ไอ้ยักษ์ มือผมสั่นจนทำให้กล้องขยับ
“บอส...เหงื่อแตก” แมวเดินกลับมายืนข้างตากล้อง เห็นเม็ดเหงื่อผุดตามใบหน้า “บอส” แมวเรียกเจ้านายยื่นมือไปแตะเรียกสติ
“อะไร” ผมไม่ควรตกใจแต่ผมตกใจไปแล้วทำไงได้ แม่งแมวเรียกทำไมวะ ฉิบหายแล้วกูมีอารมณ์ ทำไงดีวะเป้าเริ่มตุงแล้วเนี่ย หยุดไอ้น้องชาย ผมร้องเตือนน้องชายที่ไม่รักษาหน้าพี่ชายเอาซะเลย ยัยนั่นแม่ชีผู้ทรงศีล อย่าได้แตะต้อง อย่าได้คิด นั่นคือภาพลวงตา
“ทิชชู่หน่อยไหม” แมวหวังดียื่นทิชชู่ให้เจ้านาย ห้องนี้ค่อนข้างเย็นจากแอร์ แต่ไหงเจ้านายเหงื่อแตก เขาว่าเหงื่อแตกตามจมูกแสดงความมีพิรุธ แอบซ่อนความลับคับอกเอาไว้
“ฉันมีเหงื่อไง” ผมไม่รู้จักตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ถามกลับแมวด้วยเสียงดุเกรี้ยวกราด
“ไม่มีมั้งคะบอส” แมวชักทิชชู่กลับ ลากเสียงยาวประชดล้วนๆ
“ถามนิดพี่แมว บอสอยากเยนางแบบหรือหวงวะ” ทีมงานสาวกระซิบถามพี่แมว ระยะไม่ไหวหูบอสเท่าไหร่
“มึงคิดว่าไง”
“แหม...ใครก็รู้อยู่ว่าบอสหัวงู เพลย์บอยแค่ไหน” ทีมงานสาวออกความเห็น
“ไม่นินทาเจ้านาย จบนะ” ผมได้ยินเสียงเอาความจริงมาพูดกันสนุก ตกลงทีมงานผู้หญิงปากเปราะพวกนี้กระซิบกันใช่ไหม
คำว่าจบนะ เหมือนวาจาศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งการวัตถุมงคล ควรกราบไว้บูชาเคาระ ทีมงานหญิงล้วนที่เหลืออยู่หุบปากฉับ
แม่งผมควรจัดการกับอารมณ์ตัวเองแบบไหนดี ดูแม่เลขานางชีของผมสิ โพสต์แต่ละท่า เรียกเลือดในตัวผมจนแข็งทิ่มแทงเนื้อ รูปร่างดีสมเป็นผู้หญิงสาวเต็มตัว ท่วงท่าบวกกับชุดชั้นในแบรนด์ AS เติมความเซ็กซี่ร้อนแรงมากทวีความรุนแรง โดยเฉพาะตอนจิกสายตา ในการสวมชุดชั้นในลูกไม้สีดำเข้ากับเธอยิ่งกว่าสั่งมาเพื่อเธอ
“ใครช่วยเอาปีกนางฟ้าไปติดให้นางแบบด้วย” ผมตะโกนสั่งทีมงาน ใครในที่นี้หมายถึงผู้หญิงห้ามผู้ชายแจ๋เข้าไปเด็ดขาด ถ้าเห็นหน้าผู้ชายโผล่มาผมเชื่อว่าตัวเองในอารมณ์ป่วนคงไม่ไว้หน้า
ถ่ายแบบไม่มีปีกผ่านไป ผมก็ร้องหาปีกนางฟ้า อยากเห็น ปีกสีขาวสวยๆ อยู่บนตัวนางฟ้าของผม หึๆ ว่าไงนะผมคิดว่าเลขาวีคือนางฟ้าหรือ ไม่ๆ ผมปัดความคิดนั้นทิ้งไป เธอแค่แม่ชีผู้รักสงบพูดช้า ชม้ายตาไม่เป็นเท่านั้นเอง
“คุณเลขาโพสต์ท่าเก่งมากเลยนะคะบอส ขนาดแนะนำนิดหน่อย พอเวลาเอาจริงเล่นเกินเบอร์ สวยมาก แบบนี้คอลเลคชั่นนี้ต้องขายดีแน่” เท่าที่ดูโพสต์ฝีมือเข้าขั้นนางแบบมืออาชีพเลยนะเนี่ย น้องผัดฉ่าเห็นมีตาย ไม่ได้เกิดในวงการ ถ้าคุณเลขาจะหันมาเอาดีทางการเป็นนางแบบเซ็กซี่ อินเนอร์มาเต็ม
ผมไม่อยากฟังเสียงแมวพูดอยู่ข้างๆ จัดการรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง ภาพไหนก็ดีมุมไหนก็จัดจ้าน
วีรอรรู้สึกว่าตัวเองสั่น เวลาเห็นสายตาบอสมองผ่านมายังเธอ บางครั้งไม่อยากมอง หากว่าจำเป็นต้องมองกล้อง บางท่าหันมองไปทางอื่นทำให้เธอผ่อนคลายหน่อย
นางแบบจำเป็นอย่างเธอถูกพาไปเปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนทีมงานเปลี่ยนฉากก็เปลี่ยนไปตามหน้าที่ ไม่ใช่ชุดไม่โป๊ ขึ้นชื่อว่าชุดชั้นในคือมันโป๊มาก อายสายตาทุกคน ดีหน่อยที่เหลือทีมงานแค่ผู้หญิง “ขอบคุณค่ะบอส” วีรอร กล่าวขอบคุณบอสในใจ บ้างส่งสายตาเยิ้มผ่านเลนส์
ผมอ่านปากนางแบบสุดเซ็กซี่ คล้ายเธอพูดว่า Thank you ผมแอบยิ้มเข้าข้างตัวเอง
“ยิ้มอะไรคะบอส”
การที่ผมเชื่อว่าตัวเองแอบยิ้มคนเดียว ไม่จริงเสมอไป พอมีคนจับได้ผมจึงปั้นหน้าบึ้งฉับ ชุดสีแดงก็เซ็กซี่ร้อนแรง สีดำลึกลับ สีขาวโคตรบริสุทธิ์จนอยากจับฉีกโยนทิ้ง ยิ่งเป็นสีม่วงแม่คุณเอ๊ย ผมอยู่ไม่ได้อีกต่อไป ผละจากกล้องเดินเข้าห้องน้ำแม่งซะเลย
“บอส...บอสจะไปไหน” แมวร้องตามตากล้องกิตติมศักดิ์ ผูกขาดตัวเองถ่ายนางแบบแค่คนเดียวในชีวิต ระหว่างที่บอสจากไปไม่บอกกล่าว แมวเดินมาดูนางแบบดึงเสื้อคลุมมาคลุมตัวให้ “บอสไม่เคยถ่ายใครเลยนะคะ” แมวพูดกับเลขาวี
“อืม...หรือคะ” ไม่คิดตั้งแต่แรกเขาสามารถถ่ายรูปได้ด้วยหรือ
“อย่างมากก็แค่มาดูการถ่ายทำไม่กี่นาที ขอตัวกลับ”
“ทำไมเขา...” อยากรู้ว่าทำไมเขาถ่ายเธอ ผู้ชายที่กำลังจะพูดถึงเดินกลับมา แมวกับวีรอรเด้งออกจากกัน สายตาบอสจ้องมองนางแบบสาวเหมือนจะปลอกเปลือก ดีดนิ้วเป็นคำสั่งให้แมวออกไปพ้นฉาก เดินเข้าไปจัดจัดท่าให้เธอด้วยตัวเอง
“ทำดีนะ ใช้ได้นี่” เอ่ยชมหญิงสาวเบา ไม่เต็มปาก
“ฉันไม่ชอบคนดูถูก”
“ผมอยากดูอย่างอื่น”
“หึ...ว่าไงนะ”
การที่ผมตราหน้าว่าเลขาของผมหน้าอกเล็ก วินาทีนี้ผมขอถอนคำพูด อย่างต่ำที่เห็นคัพดีล่ะวะ ซ่อนรูปได้อย่างไรละเอียดขนาดนี้ “ซ่อนรูปนะ” ผมตั้งใจชมนะคำนี้ ไม่ได้ประชด โดนเมินเว้ยเฮ้ย โดนนางแบบเมิน คนอย่างผมนี่นะจะยอมหน้าแตก “ล้อเล่นน่า...อย่าผยองนักเลยแม่ชี” ผมแก้ต่างให้ตัวเอง ไม่ใช่เพราะเธอหรือไงล่ะ ทำให้ผมต้องหนีไปเข้าห้องน้ำ จัดการกับอารมณ์ตัวเอง ล้างหน้าเผื่อให้ตัวเองผ่านเวลาทรมานตรงนี้