ถ่ายโฆษณา

1387 คำ
“น้องปิ่น หยุดๆๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้ นั่นไม่ใช่ของเล่น” เฟย่าวิ่งเข้าไปคว้าปัตตาเลี่ยนไร้สายออกจากมือปิ่นมุกที่กำลังจะไถลงไปบนหัวของปราบ เธอใจหายแป้ว ดีนะที่มาทัน มันเป็นอุปกรณ์แต่งตัวที่จะนำมาแต่งทรงผมให้เด็กๆ ซึ่งอยู่ในตะกร้าบนโต๊ะด้านนอก “น้องปาบอยากหย่อ อันนี้หย่อน้อย” ปิ่นมุกชี้ไปยังผมหยิกๆ ของน้องชายที่ตนเองไม่ชอบ เฟย่ามองไปยังปราบที่ยังหลับสนิท ไม่ได้มีคำร้องขอว่าอยากหล่อแต่อย่างใด “น้องปิ่นปีนโต๊ะไปหยิบปัตตาเลี่ยนมาจากตะกร้าของแม่ใช่ไหมคะ แม่เคยบอกแล้วไงว่าห้ามเล่นของมีคม” ไวนักละ ลูกสาวของเธอ เรื่องปีนโต๊ะ ปีนตู้เป็นเรื่องปกติไปแล้ว ส่วนตะกร้านี่ถ้าเห็นเมื่อไรเป็นต้องค้นต้องรื้อ “ปัตตาเยี่ยนมีคมเหยอ” ปิ่นมุกทำหน้าสงสัย “ใช่ค่ะ ของที่มันตัดสิ่งของได้เรียกว่าของมีคม เฮ้อ แล้วน้องปราบก็ไม่ได้อยากหล่อไปกว่านี้” เฟย่าอธิบายไปก็ไม่รู้ว่าลูกสาวจะเข้าใจหรือเปล่า “เหยอ แต่กะโปกหย่อมากนะ” เด็กน้อยแสดงความคิดเห็น พลางเอื้อมมือดึงขวดนมมาจากมือแม่และล้มตัวลงนอน ดึงผ้าเน่ามาซุกอก “ปกหล่อเหรอ แสดงว่า...” พอปะติดปะต่อได้ เฟย่าก็รีบวิ่งไปทางห้องรับแขกทันที “ปิ่นปิ๊นแก้ง เอาไอ้นั่นไถตอนปกหลับ ปกไม่หล่อแล้ว ถ่ายโฆษณาไม่ได้ด้วย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ” ปกป้องยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงหน้าพ่อกับแม่ ปานดวงใจรีบโอบตัวปกเข้ามากอดๆ ลูบๆ “ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวมันก็งอก คิ้วก็เหมือนผมนั่นแหละ มันงอกใหม่ได้ สวยกว่าเดิมด้วย” ปานดวงใจให้กำลังใจลูกชาย “ปก ปิ่นแกล้งอะไรหรือเปล่า ไหนหันมาให้อาเฟย่าดูหน่อยซิ” เธอมองพยัคฆ์กับปานดวงใจอย่างขอโทษขอโพย พยัคฆ์ยกมือบอกว่าไม่เป็นไรตอบ แต่พอปกป้องหันกลับมา เฟย่าก็พบว่าสิ่งที่ปิ่นมุกทำไป คำว่าไม่เป็นไรมันใช้ไม่ได้เลย มันเป็นเอามากๆ คิ้วหนาๆ สุดเท่และมีเสน่ห์บนใบหน้าของปกป้องด้านซ้ายหายไปเกือบหมด เหลือไว้ให้ดูต่างหน้าแค่กระจุกน้อยๆ ผมบนกระหม่อมซ้ายก็แหว่งไปอย่างเห็นได้ชัด “ปิ่นปิ๊นขี้แก้ง ปกต้องไปโรงเรียน ต้องโฆษณา แต่ปกไม่หล่อแล้ว” ปกป้องโอดครวญ “โถๆ กว่าจะไปโรงเรียนคิ้วก็ขึ้นเต็มแล้วครับ เอาแบบนี้นะ ตอนถ่ายโฆษณาอาเฟย่าจะเขียนคิ้วให้หล่อเหมือนเดิมเลย โอเคไหม หรือจะทำคิ้วบากๆ ด้วยก็ยังได้ เอาไหม” เฟย่าคือที่สุดของผู้นำแฟชั่นที่เด็กๆ เชื่อใจ ปกป้องจึงค่อยยิ้มออก “ทำผมสีๆ ให้ปกแบบพี่เต่าเต่าด้วยเด้อ” “โอเค เพื่อเป็นการขอโทษแทนน้องปิ่น อาเฟย่าจะทำสีผมให้ด้วยครับ” เฟย่ายกมือรอให้ปกป้องมาตีเพื่อทำสัญญา “เอาละ ฝนยังตกอยู่เลย ปกกล้ากลับไปนอนในห้องนั้นไหม” ปานดวงใจลองเชิงลูกชาย “น้องปิ่นได้นมไปกินแล้ว เดี๋ยวก็หลับ” เฟย่าเสริม อาจจะเพิ่มความกล้าหาญให้ปกป้องกลับไปนอนต่อได้ “สบายมาก ไม่กลัวหรอก ฮะๆๆๆ” เจ้าหนูคิ้วแหว่งเดินออกไปอย่างอุกอาจ “ขอโทษนะเมย์ เสือ น้องปิ่นซนมากๆ เลย” เฟย่าพูดประโยคนี้เป็นรอบที่พันแล้วมั้งตั้งแต่ปิ่นมุกเดินได้ “ไม่เป็นไร ปกก็ไม่ใช่ว่าจะเรียบร้อย ขอแค่อย่าซนกันจนหัวร้างข้างแตกก็พอ เวลาเด็กๆ เขาเล่นกัน ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ บ้าจี้ตามที่เด็กฟ้อง โกรธกันมานักต่อนักแล้ว ทั้งๆ ที่เด็กๆ เขาก็ยังอยากเล่นกันแบบปกติ” พยัคฆ์บอกกับเพื่อนสนิท ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ “แม่จ๋า แม่จ๋า ฮือๆๆๆๆๆ” มือข้างหนึ่งของปิ่นมุกกำบางสิ่งบางอย่างเข้ามา ส่วนอีกมือกำขาตุ๊กตาเน่ามาด้วย “ตายแล้ว ปกทำน้องใช่ไหม” ปานดวงใจลุกพรวดเดินออกจากห้องไปทันที “ไอ้กะโปกฉับๆ ผมน้องปึ่ม” เฟย่าจับผมหน้าม้าของปิ่นมุกซึ่งแทบจะจับไม่ติดมือ เพราะถูกตัดขึ้นไปถึงตีนผมบนหน้าผาก “ไม่เป็นไรนะคะคนสวย ยังไงน้องปิ่นก็ยังสวยมากอยู่” เฟย่าปลอบลูกสาวที่รักสวยรักงามมาก “ฉาวน้อยฉวยไม่มากแย้ว” ปิ่นมุกสะอึกสะอื้นขณะส่งผมที่ถูกตัดให้เฟย่า “เอากาวแปะๆๆ ให้น้องปึ่มนะ” “มันแปะกาวไม่ได้ค่ะ แต่มันจะยาวออกมาเอง แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ น้องปิ่นต้องได้เป็นสาวน้อยสวยมากแน่นอนค่ะ” เฟย่าลูบหัวทุยๆ ของลูกสาวและพามานั่งตัก และตอนนั้นปานดวงใจก็จูงปกป้องเข้ามา “ไปรื้อเอากรรไกรตัดกระดาษในลิ้นชักโต๊ะทำการบ้านของพี่พลอยมาน่ะสิ” ปานดวงใจบอกกับทุกคนพลางส่ายหน้า “ไอ้กะโปกตัวแฉบ” ปิ่นมุกชี้หน้าปกป้อง “ยัยตัวร้ายปิ่นปิ๊น” “ไอ้กะโปกหน้าหมู” ปิ่นมุกโกรธมากขึ้น ด่าด้วยคำแทนอวัยวะเพศที่ใช้เลียนแบบพลอยใสกับแพรสวย “ปิ่นปิ๊นคนจ๋วย ฮะๆๆๆ” “ไม่ปึ่มปึ๊ม ไม่ปึ่มปึ๊ม” ปิ่นมุกไถตัวลงจากตักเฟย่า วิ่งเข้าไปทุบปกป้องที่หน้าและหัว แต่ปกป้องก็ไม่สะทกสะท้าน น้องไม่ชอบชื่อนี้เขาก็จะเรียกชื่อนี้ตลอดไป “ปิ่นปิ๊น ปิ่นปิ๊น” เรียกแล้วก็วิ่งออกไปข้างนอก “ไอ้กะโปก” ปิ่นมุกวิ่งตามออกไป ทำให้ผู้ปกครองทั้งสามต้องตามออกไปด้วย กว่าฝนจะหยุดก็เล่นเอาเหงื่อตกไปพอสมควร ********* เช้าของวันถ่ายทำโฆษณา “ชุดของเสือสมิงไม่เคยแผ่ว เพราะทุกวันคือรันเวย์” เฟย์ย่ายืนกอดอกชื่นชมเมื่อเด็กๆ ทั้งสิบแต่งตัวกันเสร็จแล้ว เด็กผู้หญิงอยู่ในชุดกระโปรงบานสีพาสเทลคนละสี ใส่ซับในจนฟูฟ่อง บนตัวเสื้อปักเลื่อมแวววาว มัดผมเป็นจุกกลมๆ สองข้างประดับด้วยเครื่องประดับเป็นผลไม้สีเดียวกับชุดที่ตนเองใส่ ส่วนเด็กผู้ชายดูเท่ในกางเกงลายสก๊อตดำขาวเหมือนกัน เสื้อเป็นเสื้อยืดสีขาวมีโลโก้ร้านไอศกรีมขนาดใหญ่ด้านหน้า ผมทำตามคำเรียกร้องของปกป้อง คือแสกกลาง ฝั่งหนึ่งสีชมพู อีกฝั่งสีฟ้า ให้ความรู้สึกคัลเลอร์ฟูลเหมือนกับกระโปรงของผู้หญิง ดูไม่หลุดโทน “น้องปิ่นสวยแบบนี้พี่เต่าเต่าไม่มีที่ยืนเลยนะคะ” เต๋าเต้ยหรือเสือห้อยจับแก้มเสือโหย น้องตัวเล็กแต่อวบ พออยู่ในชุดไอศกรีมแล้วยิ่งดูน่ากิน ที่พิเศษกว่าเพื่อนๆ คือมีผ้าคาดตรงตีนผม ซึ่งคนอื่นไม่มี ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตามาก ส่วนปกป้อง คิ้วที่แหว่งไปเฟย่าใช้เทคนิคการแต่งหน้าจนดูมีคิ้วเหมือนจริงและบาก ในขณะที่ผมถูกถากอีกข้างให้เสมอกับข้างที่ปิ่นมุกทำไว้ กลายเป็นแบดบอยประจำกลุ่ม “ปี้เต่าเต่าฉวยฉุบๆ เป็นคนฉวยขาของน้องปึ่ม” ปิ่นมุกชมเต๋าเต้ย ยิ้มจนตาหยี “น่ารักจริงๆ เลย ขอคนสวยขาจุ๊บแก้มหน่อยนะคะ” เต๋าเต้ยจับแก้มปิ่นมุกและก้มลงจุ๊บจริงๆ “แล้วพี่พลอยล่ะ” พลอยใสทวงคำชมจากคนสวย “ปี้พอฉวยฉุบๆ เป็นคนฉวยขาด้วย” “พี่ล่ะ” แพรสวยนั่งลงตรงหน้าสาวน้อยหน้าหวาน แต่ตาดูเฉี่ยว “ปี้แพฉวยฉุบๆ เป็นคนฉวยขา” “คนนี้ล่ะ” น้ำมนต์ชี้ตัวเอง “ปี้มนต์ก็ฉวยฉุบๆ เป็นคนฉวยขาด้วย” ปิ่นมุกชมทุกคนเหมือนกันเพื่อไม่ให้น้อยหน้า “ปากหวานนะเนี่ย มาเริ่มกันเลยดีกว่า” เอิร์ธ ผู้กำกับมือทองคู่ใจของพยัคฆ์ยิ้มให้เด็กๆ และต้อนให้เข้าฉาก ซึ่งเริ่มตั้งแต่หน้าร้านไอศกรีมที่ดูเรียบหรู น่าเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้นทั้งวัน เด็กๆ เข้าไปยืนซ่อนตัวหลังพุ่มไม้หน้าร้านคนละพุ่ม จากนั้นก็เริ่ม...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม