คอนโดแห่งหนึ่ง
อืออออ อืออออ
“ซี๊ดอ่าส์”
อืออออ อืออออออ
“อู้ยยยยยยย”
อือออออ
“สะสุดยอดอ่าส์”
จึก!!!
“โอ๊ยยยย! ช่างทำอะไรเนี่ย?!” เสียงของลูกค้าผู้ชายร้องเมื่อฉันกดเข็มสักลงไปแรง ๆ
“ก็เสียงร้องครางน่ารำคาญฉิบ!!ถามจริงนี่โดนสักหรือโดนกระทืบร้องอย่างกับหมา!” ฉันด่าออกไปแรง ๆ ไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะเป็นลูกค้าหรือไม่
“ก็คนมันเจ็บก็ร้องไหมวะ?!”
“เหอะ!!ใครได้ยินเขาก็คิดเป็นอย่างอื่นทั้งนั้นแหละเพราะงั้นกรุณาหุบปาก!ฉันไม่มีสมาธิ!” ฉันบอกก่อนจะลงมือสักอีกครั้งอยากให้มันเสร็จ ๆ ไปแล้วเนี่ย
“ช่างก็เบามือหน่อยเถอะครับ”
“บอกตรง ๆ นะที่ผ่านมาไม่มีใครร้องได้น่าเกลียดเท่ามึงแล้ว!”
“โห่ พริกไทยปากดีวะ”
“หุบปาก!ถ้าหุบไม่ได้ก็เอาหมอนมาอุดซะฉันจะรีบสักอยากกลับแล้ว” วันนี้ฉันสักมาทั้งวันและพรุ่งนี้ก็ไปเรียนอีกปวดหลังจะตายแล้วเนี่ย
“เออ ๆ เข้าใจแล้วโหดฉิบ!” เขาบ่นก่อนจะหยิบหมอนมาปิดปากตัวเอง
สวัสดีขอแนะนำตัวหน่อยละกันฉันชื่อพริกไทย อายุเหรอ 21 ปีเรียนปีสามแล้วที่คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัย A ฉันมีอาชีพเสริมคือช่างสักแต่ตัวฉันเองไม่มีรอยสักเพราะชอบสักคนอื่นแต่ตัวเองไม่ชอบสัก งงไหม?
ฉันมีหน้าร้านเป็นของตัวเองแต่ไม่ค่อยเปิดเนื่องจากฉันก็รับงานนอกสถานที่เหมือนกันเช่นวันนี้ ฉันมีสักที่คอนโดแห่งนี้ให้ลูกค้าที่นอนอยู่และเพื่อนของเขาอีกคนที่สักเสร็จและกลับออกไปแล้ว ฉันไม่มีพ่อแม่อยู่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด และอาชีพช่างสักก็ได้มาจากที่นั้นนั่นแหละ เด็กผู้หญิงคนอื่นไปเรียนเย็บปักถักร้อยแต่ฉันเรียนสักแปลกไหม?
ฉันว่าไม่หรอกเพราะว่าฉันชอบมันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและฉันชอบศิลปะมากด้วย แต่การจะเรียนศิลปะที่ประเทศนี้ต้องมีเงินระดับหนึ่งเพราะค่าอุปกรณ์ สี แพงมากกก เพราะงั้นฉันเลยต้องหางานทำนี่ไงและแน่นอนว่ามันรายได้ดีมากแม้ว่าชื่อเสียงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
งงใช่ไหมว่าทำไมเป็นช่างสักถึงชื่อเสียงไม่ค่อยดี?
เพราะฉันสักนอกสถานที่ไปทั่วราชอาณาจักร เข้าห้องนู้นออกห้องนี้ไปคอนโดนั้นไปคอนโดนี้คนอื่นเลยคิดว่าฉันทำอย่างอื่นมากกว่าสักนั่นเอง... แต่ฉันไม่สนใจหรอกพวกปากหอยปากปู แต่ถ้าได้ยินมีตบสักฉาบ!! ข้อหาปากดี!!
แกร๊ด!
“เสร็จแล้ว...” ฉันบอกเมื่อจัดเก็บอุปกรณ์เสร็จแล้ว
“เดี๋ยวโอนให้บัญชีเดิมใช่ไหม?” ลูกค้าคนนี้เรียกว่าเป็นลูกค้าประจำเลยก็ว่าได้เราเลยสนิทกันนิดหน่อย
“อืม” ฉันตอบกลับไปด้วยเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินออกมาเมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว
ตึก...ตึก...ตึก...
“อุ๊ย! นั่นใครอะ?”
“พริกไทยศิลปศาสตร์ป่ะวะ?”
“ที่เขาว่าขายตัวและเอาอาชีพสักบังหน้าป่ะ?” กึก! ตอนแรกว่าจะไม่สนใจแล้วนะ!
เมื่อกี้เป็นเสียงของนักศึกษากลุ่มหนึ่งน่าจะเรียนที่เดียวกันกับฉันนั่นแหละชื่อเสียงเสีย ๆ ของฉันมันเป็นแบบนั้นแหละ ขายตัว เด็กเสี่ย เอาอาชีพช่างสักบังหน้าเพื่อเอาร่างกายหากิน ฉันเองก็ไม่ได้อยากฟังและผ่านไปนะ แต่คนพวกนั้นควรจะสำนึกซะบ้างว่าไม่ควรพูดเรื่องที่ตัวเองไม่รู้จริง!!!
ตึก ๆ ๆ ๆ ฉันสาวเท้ายาวเข้าไปหาผู้หญิงกลุ่มนั้นทันที...
“นี่...” ฉันเรียกเธอเบา ๆ
“อะอะไร?” เลิ่กลักกันใหญ่
เพี๊ยะ!!
“แก!!!”
เพี๊ยะ!!
“ทำเพื่อนกู...” เพี๊ยะ!! ฉันตบพวกมันเรียงตัวถ้าคิดว่าในเมื่อไม่ทำแล้วจะเดือดทำไม?
ก็แล้วใครใช่ให้พวกมันปากดีให้ฉันได้ยินล่ะ?? บอกแล้วไงนินทาได้แต่อย่าให้ได้ยินไม่งั้นเจอตบ!!
“ไม่ปากดีแล้วล่ะ?”
“ระรปภ.!!!มาลากตัวมันออกไปสิ!!!”
“ไม่ต้องเรียกเดี๋ยวฉันไปเองแต่อยากจะเตือนอะไรหน่อย...”
“..?!” ฉันเดินเข้าไปหาพวกนั้นช้า ๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“ปากหอย ปากปูได้ แต่อย่าปากดีให้กูได้ยิน!!” ปึก!! ฉันพูดจบก็เดินออกมาโดยไม่ลืมเหยียบตีนของมันอย่งหมั่นไส้
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!อีพริกไทย!!!!!!”