เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคละเคล้ากับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อายใคร
“นิ่มไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวดึงนัยไว้เลย เอาเป็นว่านิ่มดีใจและขอบคุณที่นัยรักนิ่มนะ แต่ถ้านัยบังเอิญพบคนที่พร้อมจะเข้ามาเป็นคู่ชีวิต นิ่มก็อยากให้นัยเปิดโอกาสให้ตัวเองและรับเขาเข้ามา จะได้ไม่ต้องรอนิ่มถึงสองปีไง”
แม้จะเสียใจมากมาย แต่ก็ไม่อาจเห็นแก่ตัวรั้งเขาไว้ได้ ในเมื่อยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าชีวิตสองปีข้างหน้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงกับตัวเองและคนรอบข้างบ้าง มันคงจะดีหากไม่ผูกมัดเขาไว้ให้เสียเวลา ให้ทนทุกข์ทรมานเพราะรัก
“นิ่มห้ามพูดแบบนี้อีก เพราะเราจะไม่มีวันมองใคร มีเพียงคนเดียวที่เราจะรักและแต่งงานด้วย นั่นก็คือนิ่มเท่านั้น เราอย่าเสียเวลามาเถียงกันอีกเลยนะ เพราะเราไม่มีวันทำอย่างที่นิ่มบอกเด็ดขาด และตอนนี้เราก็อยากใช้ทุกวินาทีที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าด้วยการอยู่ใกล้ ๆ นิ่ม”
แล้วสองหนุ่มสาวก็เดินเข้ามาในบ้าน นั่งอิงแอบกันอยู่กับชุดรับแขกหน้าทีวี คุยกันด้วยเรื่องสารพัดโดยไม่รู้จักง่วงเลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำน้ำตาของทั้งสองยังไหลเป็นช่วง ๆ เมื่อหวนคิดถึงปัญหา แม้ใจทั้งสองดวงอยากจะปล่อยให้ความสัมพันธ์เกินเลยไปมากกว่านี้
แต่เอาเข้าจริง ๆ ความเสียใจก็บดบังจิตเสน่หาเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็นเลย ทั้งสองจึงเพียงแค่นั่งกอดกันนิ่ง ๆ ต่างคนต่างคิดอะไรไปเรื่อย ๆ จนความเหนื่อยเรียกร้องให้กัณหาหลับลงในเวลาตีสี่ ธีระนัยค่อย ๆ อุ้มแฟนไปวางไว้กับชุดรับแขก โดยมีตักเขาเป็นหมอนให้นอนหนุน
คละเคล้ากับน้ำตาของเจ้าของหมอนที่เสียใจจนไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดให้ใคร ๆ เข้าใจได้ และความเสียใจของเขาก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่คนรักต้องเดินขึ้นไปนั่งรถหรู ที่แล่นเข้ามาจอดรับอยู่หน้าประตูบ้าน แล้วขับพาหัวใจของเขาหนีไป
จำเลย VS จำเป็น
“พวกนั้นจะมากี่โมงเหรอเสือ”
กรองแก้วเงยหน้าขึ้นไปหาลูกชายเดินลงมาจากชั้นบน ตรงเข้าห้องอาหารอย่างเคย คว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมาระหว่างรอให้คนรับใช้เสิร์ฟมื้อเช้า แล้วตอบแม่ขณะเปิดหาคอลัมน์ประจำ
“เห็นทัตว่าเช้านะครับ แต่ไม่รู้กี่โมง แม่อยากเจอพวกนั้นเร็ว ๆ เหรอครับ”
ลูกชายแหย่น้อย ๆ ขณะยกกาแฟขึ้นจิบ ควบคู่กับกวาดสายตาไปตามสิ่งพิมพ์ แม่ทำสีหน้าเอือมระอาด้วยซ้ำ เพราะไม่ใคร่จะเห็นด้วยกับการเอาคืนคู่อริวิธีนี้ของลูกเลย ด้วยความเกลียดในตัวคุณหนูนิสัยเสีย จิตใจโหดถึงขนาดทำให้ลูกสาวคนเดียวของกรองแก้วต้องจากไปได้ลงคอ
มิหนำซ้ำยังยืนดูร่างอ่อนปวกเปียก หมดลมหายใจตรงหน้าได้อีก การกระทำแบบนี้ ถ้าไม่มีเลือดชั่ว ๆ ของพ่อกับแม่และย่าผสมผสานอยู่ในตัวไหนเลยจะเกิดขึ้นได้ แล้วลูกชายคนเดียวของตัวเองยังจะหอบแม่นั่นมาอยู่ในบ้านอีก ต่อให้เป็นการมาอย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีก็ตาม กรองแก้วก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี
“ถ้าเลือกได้ แม่จะไม่ให้พวกมันมาเหยียบบ้าน เอาเสนียดจรรไรมาใส่ให้บ้านแม่มัวหมองด้วยซ้ำ”
“แต่วิธีนี้จะทำให้พวกมันเป็นทุกข์เหมือนตกนรกทั้งเป็น สองปีเองแม่ทนหน่อยนะครับ หรือถ้าเกลียด ถ้าไม่อยากเห็นหน้าพวกมันมาก ๆ แม่ก็ไม่ต้องออกไปดูก็ได้นี่ครับ ผมจัดการเอง”
“ไม่หรอก แม่จะไปดูน้ำหน้าพวกมัน ให้มันรู้ว่า ใช่แต่พวกมันเท่านั้นมีเงิน และเอาเงินซื้อชีวิตคนได้ หวังว่ามันคงยังไม่ลืมสิ่งที่มันทำกับเราไว้นะเสือ”
“รับรองครับว่าพวกมันจะจำเราไปจนวันตายเลยทีเดียว เงินไม่กี่ล้านกับการได้เห็นพวกมันมีสภาพเหมือนหมาจนตรอกนี่ คุ้มจะตายไป”
สีหน้าบ่งบอกว่าเกลียดชังอย่างที่สุดของสองแม่ลูกนี้ ผู้มาเยือนรับรู้ได้โดยไม่ต้องคิดนาน ทันทีที่เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์อันใหญ่โตหรูหราและเต็มไปด้วยข้าวของมีค่ามากมาย เฟอร์นิเจอร์หรือของประดับก็ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลับทั้งนั้น
“พวกคุณคงจะไม่ลืมแม่ผมหรอกนะ และคงจะไม่เป็นการลำบากนักถ้าจะยกมือไหว้ อ้อ! ยกเว้นคุณก็ได้ สงสาร! เห็นว่าเกิดนานแล้ว ไหว้คนอายุน้อยกว่า เดี๋ยวแม่ผมอายุสั้น อีกอย่างคนดี ๆ อย่างแม่ มัจจุราชยังไม่อยากได้ไปอยู่ด้วยหรอก แต่ถ้าเป็นพวกคุณล่ะไม่แน่”
แม้จะโกรธมากแค่ไหน แต่วิโรจน์กับเมียก็ฝืนใจยอมทำตามคำบอกของเจ้าหนี้หนุ่ม แต่สำหรับกัณหาที่มาในคราบคุณหนูมิว พร้อมกับแสงดาวสาวใช้ในบ้านพ่อ กลับไม่รู้สึกอะไรกับการให้ยกมือไหว้กรองแก้ว ส่วนยุพาพรนั้นยังคงนั่งเชิดหน้าคอแข็ง ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แม้ตัวเองจะจนตรอกแล้วก็ตาม
ชาครีย์ยิ้มมุมปากด้วยความเกลียดชังเมื่อมองไปหา ก่อนจะกวาดสายตาไปยังคุณหนูจอมวีน เขาจำได้ไม่มีวันลืม ซึ่งมาในลุ๊คแปลกใหม่ สวยไฉไลในสไตล์สาวนักเรียนนอก ดูดีไม่มีที่ติ
หากเขาก็เดาได้ไม่ยาก ว่าไส้ในนั้นเน่าเฟ๊อะและแหลกเหลวสักแค่ไหน จนไม่แน่ใจสักนิด ว่าจะหลับหูหลับตาเอาเจ้าหล่อนลงไปได้ยังไงหรือเมื่อไหร่
“ผมจะให้คนพาไปดูที่พัก เชิญ!”
เพราะนึกเกลียดขี้หน้าคู่อริจนทนดูต่อไปไม่ได้ จึงไล่เอาดื้อ ๆ และนั่นก็เป็นความต้องการของผู้มาเยือนไม่น้อย จะได้หนีไปให้ไกล ๆ เช่นกัน ทั้งหมดเดินออกจากคฤหาสน์หลังงามตามหลัง เจียงสาวใช้วัยยี่สิบกว่า ๆ ลัดเลาะไปตามถนนคอนกรีตเล็ก ๆ
สองฝั่งมีต้นไม้นานาชนิดขึ้นสูง พื้นเขียวขจีด้วยหญ้ามาเลจนเต็มไปหมด สนามกลางแจ้งอันกว้างใหญ่ มีหญ้าญี่ปุ่นปลกคลุมเอาไว้มองแล้วสบายตา จนทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของคุณหนูกำมะลอ คลายความเจ็บช้ำลงได้บ้าง