ตอน..เสียดาย VS เสียใจ
เสียงไอโฟนดังขึ้นหลายต่อหลายรอบ ร่างอ่อนแรงนอนขดอยู่กับเตียง ก็ยังไม่คิดจะขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งที่รู้ว่าทั้งน้อง ทั้งคนรักและทั้งยายโทรมาก็ตาม พอฉุกคิดขึ้นได้ว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จึงฝืนใจลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยความยากลำบาก
เกือบสี่โมงเย็นแล้ว เมื่อกัณหาเดินมาทรุดกายลงนั่งกับชุดรับแขกด้านล่าง ถึงได้โทรกลับไปหาน้องเป็นคนแรก
“ไม่มีอะไรหรอกพี่นิ่ม ยายกลับจากโรงพยาบาลมาก็บ่นคิดถึงพี่ไม่ขาดปาก หนุ่มเลยโทรมาให้ เดี๋ยวคุยกับยายนะ หนุ่มจะไปอุ่นแกงให้ยายก่อน ชวนนั่งกินหอยทอดร้อน ๆ ที่ร้านก็ไม่ยอม กลัวแต่จะเปลืองท่าเดียว”
แม้จะเศร้าใจสักเพียงไหน แต่หลานผู้กตัญญู ก็ฝืนพูดคุยกับยายด้วยน้ำเสียงปกติสุดอยู่หลายนาที ก่อนจะวางสายไป ส่วนสายไม่ได้รับของแฟนหนุ่มนั้น เลือกที่จะไม่โทรกลับ เพราะกลัวจะร้องไห้ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
แต่จนแล้วจนรอดน้ำตาก็ไหลรินออกมาอย่างไม่ยากเย็นอยู่ดี
ปฏิทินบนโต๊ะ ถูกมือบางหยิบดินสอขึ้นมา แล้วกากบาทลงไปตรงวันที่ นั่นหมายถึงช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน เพิ่งจะผ่านพ้นไปแค่สองจากเจ็ดร้อยสามสิบวัน กว่าจะได้รับอิสระภาพ
พอคิดถึงคำนี้ขึ้นมา น้ำตายิ่งไหลรินออกมาอีก พลอยคิดถึงสัญลักษณ์ของมันขึ้นมาทันใด มือขาวค่อย ๆ ฉีกกระดาษจากสมุดโน๊ตมาหนึ่งแผ่น
พับไปมาอย่างเชื่องช้า น้ำตาตกลงเปรอะเปื้อนกระดาษหยดแล้วหยดเล่า แต่เจ้าของก็ไม่สนใจ ยังคงพับไปเรื่อย ๆ กระทั่งคลีออกมาแล้วได้นกตัวแรก ไม่นานก็มีตัวสองตามมา
จำได้ว่าในครัวมีขวดโหลใบใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในตู้ จึงลุกไปเอามาแล้วหย่อนสองตัวลงไปเก็บไว้ พร้อมกับอาการท้อแท้ใจยิ่ง กว่านกน้อยจะเต็มขวดนั้น มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน
ร่างอ่อนแรงเอนตัวนอนกับชุดรับแขก หลับตาลงอย่างขมขื่นใจ ปล่อยให้หยดใส ๆ ไหลไปตามหางตา เมื่อคิดถึงวินาทีถูกชายปากร้ายตักตวงความสุขจากเรือนร่าง
โดยไม่คิดจะสนใจสักนิด ว่าจะกำลังเจ็บปวดทั้งกายและใจมากแค่ไหน ยิ่งคิดถึงภาพเหล่านั้น น้ำตาแห่งความเสียใจก็ยิ่งไหลรินออกมาไม่ขาด จึงปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ให้สาสมใจ
ใกล้จะทุ่มแล้ว ท้องเรียกร้องหาอาหารมื้อแรกของวัน ร่างอ่อนแรงจึงเดินเข้าครัวไป ไม่นานก็ประครองชามบะหมี่มานั่งโต๊ะอาหาร มันเป็นทรีอินวันนั่นคือ มื้อเช้า เที่ยงและเย็น
ทว่าพอตักเข้าปากได้คำสองก็ตื้อไปหมด จนกลืนไม่ลง แม้แต่น้ำเปล่าก็ยังฝืดคอด้วยซ้ำ จึงตัดสินใจทิ้งชามยังมีเส้นอยู่เต็มไว้เสียตรงนั้น ก่อนจะเดินไปล็อคประตูบ้าน ขึ้นชั้นบนทันที
สายน้ำเมื่อคืนเคยนั่งร้องไห้ให้มันไหลลงมาชำระล้างคราบคาวโลกีย์เป็นชั่วโมง ช่วยทำให้ร่างกายค่อยเย็นสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง เมื่อยืนอยู่ใต้ฝักบัวอีกครั้ง
ชุดนอนบางเบาถูกสวมใส่อย่างไม่พิถีพิถันนัก กระปุกเครื่องประทินผิว ก็ถูกหมางเมินเช่นกัน เพราะไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรทั้งสิ้น หรือจะพูดให้ถูกคือ วินาทีนี้มันหมดอาลัยตายอยากในชีวิตไปแล้ว
“คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าบ้านนี้ไม่มีคนรับใช้ให้ ถึงได้กินไม่รู้จักเก็บล้างอย่างนั้น”
ร่างในชุดบาง ๆ สะดุ้งสุดตัว กับประโยคอันดังและฟังชัด จนต้องหันไปหาระเบียงห้อง ซึ่งเป็นที่มาของเสียง ก็เห็นร่างในชุดที่เกือบเหมือนเมื่อคืนเลื่อนประตูกระจกเดินเข้ามา
กัณหาไม่คิดจะรอช้า รีบวิ่งไปหาประตู หมายจะไปให้ไกล ๆ ทันที เมื่อรู้ดี ว่าจะต้องเจอกับการกระทำอันป่าเถื่อนของเขาอีก
“จะไปไหนไม่ทราบ! หรือคิดจะเล่นวิ่งไล่จับกันให้เหงื่อออกก่อน หรืออยากเล่นละครญี่ปุ่นแบบเมื่อคืน อ้อ! สงสัยจะชอบแบบนั้นล่ะมั้ง ถึงอยากจะชวนผมเล่นอีก แต่ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ เพราะอยากจะเก็บแรงไว้เบิ้ลสักหน่อย เมื่อคืนตบรางวัลให้ครั้งเดียวเพราะเห็นว่ายังซิง ซึ่งผิดคาดจนผมคิดว่าฝันไปด้วยซ้ำ แต่คืนนี้และคืนต่อ ๆ ไปอย่าหวังว่าผมจะออมแรง ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนก็ตาม เมื่อไหร่ที่ผมอยาก คุณมีหน้าที่ต้องให้! จำเอาไว้ให้ขึ้นใจด้วย!”
ชาครีย์ที่เดาทางคุณหนูขาวีนออก จึงรีบก้าวยาว ๆ ไปจับลูกบิดเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับส่งประโยคตอกย้ำให้คนฟังคิดถึงภาพอันทุเรศ ๆ ขึ้นมาอีก
“ด้วยการข่มเหงคนอ่อนแอกว่าน่ะเหรอ คิดว่าฉันจะยอมง่าย ๆ เหรอ! ไม่มีทาง!!! ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด!!!”
มือบางผลักร่างใหญ่สุดแรงเกิด เพื่อหมายจะเปิดประตูให้ได้ แต่นอกจากจะทำไม่สำเร็จ แล้วยังถูกเขารวบข้อมือทั้งสองลากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลตรงไปหาเตียง
แล้วเหวี่ยงจนชุดนอนที่สั้นเหนือเข่าร่นขึ้นไปเกือบถึงเอว จนต้องรีบดึงลงมา จังหวะนั้นเองที่เป็นโอกาสทอง ให้เขากระโจนขึ้นไปผลักร่างในชุดวาบหวิวให้ล้มไปหาเตียง
“ปล่อยฉันนะ!!! ปล่อย!!! บอกให้ปล่อย!!!”
ตามด้วยเสียงร้องดังคับบ้าน เมื่อถูกเขากดสองแขนตรึงไว้กับที่นอนแล้วจูบอย่างรุนแรง โดยไม่สนว่าอีกคนจะดิ้นหนีเอาตัวรอดแค่ไหน มือหนารีบเลื่อนไปบีบอกอวบที่มีบราเซียร์กับชุดนอนหุ้มไว้ นั่นจึงเป็นโอกาสให้มือของกัณหาว่างจึงรีบยกขึ้นฟาดเขาไปทั่วทั้งที่หน้า ไหล่ แขนหรืออก
“ชอบความรุนแรงอีกแล้วเหรอ ได้!!! ผมจัดให้!!!”
จนเขาเจ็บและเริ่มโกรธขึ้นมา จึงขยุ่มชุดบาง ๆ ฉีกออกพรวดด้วยมือเพียงข้างเดียวจนได้เศษผ้าติดมือมาด้วย
“หยุดนะ!!! ออกไปให้พ้น!!! ได้ยินมั้ยว่าออกไป!!!”
ปากบางไม่ยอมหยุดร้อง รวมทั้งสองกำปั้นก็ไม่ยอมหยุดกระหน่ำไปหาอกของเขานับครั้งไม่ถ้วน