“นี่นายเคยโดนยิงขู่มาแล้วเหรอ” คาริสาพูดทั้งที่ยังตกใจอยู่เล็กน้อย
“ที่เธอบอกว่าไม่รู้จักฉัน ฉันไม่เชื่อ”
“โอ๊ย!” แดเนียลกระชากแขนคาริสาเดินไปยังรถคันหรู เขากำลังจะเปิดประตูรถออก แต่ยัยตัวแสบก็บ่ายเบี่ยงด้วยการเหยียบเท้าและกระแทกศอกเข้าที่หน้าท้องแกร่ง ยังดีที่เขารู้ทันลูกเล่นของเธอ แดเนียลจึงขยับขาออกแล้วรวบตัวเธอไว้ในวงแขนหนา จากนั้นจึงเปิดประตูรถออกแล้วใช้กำลังดันร่างของคาริสาเข้าไปภายในรถ
คาริสาพยายามต่อต้านเพื่อที่จะออกจากรถของแดเนียลให้ได้ แต่มือหนาก็ดันศีรษะของเธอเข้าไปในรถอีกครั้ง ก่อนจะปิดประตูพร้อมจัดการล็อกรถเอาไว้
เมื่อคาริสาเปิดประตูรถจากอีกฝั่งไม่ออก เธอจึงรีบดันประตูทางฝั่งคนขับแต่ก็ยังช้ากว่าแดเนียลที่เปิดประตูเข้ามานั่งได้ก่อน เขาดันศีรษะคนร่างเล็กไปนั่งที่ตำแหน่งเดิม ก่อนจะปรับเบาะให้เธอนอนลงอย่างนึกสนุก
“อ๊ะส์!” คาริสาตกใจร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ เบาะที่นั่งมันเอนลงจนเธอต้องนอนราบอย่างเลี่ยงไม่ได้
แดเนียลเอื้อมมือไปดึงที่คาดเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้กับเธอ แล้วปรับเบาะให้เธอนั่งดังเดิม คาริสาถึงกับหายใจเข้าออกอย่างไม่เป็นจังหวะ ตกใจคิดว่าเขาจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับเธอ
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกนะ เพราะฉันขื่นใจผู้หญิงไม่เป็น”
“ให้มันได้อย่างที่พูดเถอะ” คาริสาหันมองที่เบาะหลังด้วยความหวั่นใจ ก็เมื่อวานดันไปเห็นเขาทำกิจกรรมร่วมรักกับผู้หญิงภายในนี้
“มองอย่างกับรู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นตรงนั้น” เขาเอ่ยเสียงทะเล้น “แค่เจ็ดคน”
“เจ็ดคนเลยเหรอ” คาริสางึมงำเสียงเบาพลางหันหน้าไปทางอื่น เขากล้าพูดออกมาได้อย่างภาคภูมิใจทีเดียว
“แต่เจ็ดคนนั้นมีอะไรกับฉันแค่ตรงเบาะหลัง ฉันไม่เคยเอาใครตรงเบาะหน้าเลย เธออยากไหมล่ะ ฉันจะให้สิทธิ์นั้นกับเธอเดี๋ยวนี้” แดเนียลพูดขณะที่สวมเข็มขัดนิรภัย เขายกยิ้มแฝงความร้ายกาจ ก่อนจะเร่งเครื่องแล้วกระชากรถออกไปด้วยความเร็ว
“นายจะพาฉันไปไหน”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้”
@คฤหาสน์ตระกูลวงศ์วริศ
“เธอตกใจอะไร” แดเนียลหันไปถามคาริสาเมื่อเห็นเธอสะดุ้งตัวโยนจนมีพิรุจ
“เปล่า นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“เธอเป็นคนของคุณย่าใช่ไหม” คาริสานิ่งเงียบไปสักพัก มาถึงที่นี่แล้วเธอเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวกับเขายังไง
“ตอบช้า แปลว่าใช่” แดเนียลถอดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนที่จะเปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปดึงคาริสาออกมาจากรถ
“ปล่อยนะ ไม่ต้องมาจับ ฉันเดินเองได้”
“ปล่อยให้โง่สิ ผู้หญิงอย่างเธอมันไว้ใจไม่ได้”
“โอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ยชอบใช้ความรุนแรง”
“นี่มันอะไรกัน” คุณหญิงพูดด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคนของตนถูกโยนลงไปกองอยู่ที่พื้นของห้องรับแขก
“เขาเป็นคนของคุณย่าใช่ไหมครับ” แดเนียลเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาตามติดชีวิตส่วนตัวของเขา และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาจับได้
ในขณะที่แดเนียลพูดอยู่คาริสาก็ลุกขึ้นยืน
“ออกไปก่อน แต่อย่าเพิ่งกลับนะฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอต่อ” คาริสาพยักหน้ารับคำคุณหญิง ก่อนจะเดินออกไปรอข้างนอก
“ทำไมคุณย่าต้องให้คนมาติดตามผมด้วย ผมบอกแล้วไงว่าผมต้องการพื้นที่ส่วนตัว แล้วอีกอย่างผมก็ดูแลตัวเองได้”
“หลานมีพื้นที่ส่วนตัว แล้วก็ได้ทำอะไรส่วนตัวตั้งหลายอย่าง แล้วนี่ปากไปโดนอะไรมา” เมื่อเห็นว่าหลานชายมีเลือดซึมตรงมุมปากคนเป็นย่าจึงเอ่ยทัก
“ก็ยัยนั่นตบหน้าผม คุณย่าต้องไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปนะครับ”
“ถ้าหลานไม่ทำอะไรเขา เขาก็ไม่ตบหลานหรอก”
“ทำไมคุณย่าถึงได้เข้าข้างคนอื่นแทนที่จะเข้าข้างผม ผมหลานคุณย่านะ”
“ถ้าหลานมาหาย่าบ้าง ย่าก็คงจะหวงหลานมากกว่านี้ และอีกอย่าง ย่าก็รู้จักเคสดี เธอไม่มีทางทำอะไรใครก่อน”
“ชื่อเคสงั้นเหรอ” แดเนียลพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
“แล้วย่าก็เชื่อว่าเธอสามารถดูแลหลานย่าได้”
“ผมไม่ต้องการให้ใครมาดูแล แล้วตกลงคุณย่าจะไม่ไล่ผู้หญิงคนนั้นออกใช่ไหมครับ”
“แน่นอน”
“ได้ ถ้าวันไหนผมไม่มีผู้หญิงมาปรนเปรอ ยัยเคสนั่นจะต้องเป็นคนมาปรนเปรอผม โอ๊ย! คุณย่าตีผมทำไม” แดเนียลถึงร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ คนเป็นย่าก็มาตีเข้าที่ท่อนแขนอย่างแรง
“หลานนี่จริงๆ เลยนะ ถ้าเคสเขายอมย่าก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเคสไม่ยอมแล้วทำร้ายหลานอีก ย่าก็จะไม่ว่าอะไรเหมือนกัน”
“คุณย่าปกป้องผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว” แดเนียลโวยวายใหญ่โต เมื่อผู้เป็นย่าดูจะปลื้มอกปลื้มใจในตัวหญิงสาวถึงขนาดออกโรงปกป้องเธอจนแทบจะไม่เห็นหัวเขาด้วยซ้ำ
คาริสาเดินไปเดินมาอยู่ครู่หนึ่ง คุณหญิงกับแดเนียลก็เดินออกมาจากห้องรับแขกด้านในตัวบ้านหลังใหญ่ และกำลังตรงมาหาเธอ
“ผมกลับก่อนนะครับคุณย่า” แดเนียลพูดพร้อมยกมือไหว้ผู้เป็นย่าของตน ก่อนเดินจากไปเขาหันมาทำหน้าเขม็งใส่คาริสาอย่างคาดโทษ ซึ่งเธอก็มองสวนชายหนุ่มกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“เคส ตามฉันมา”
“ค่ะ..คุณหญิง” คาริสาเดินตามคุณหญิงเข้าไปภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์อีกครั้ง
“ทำไมตาแดนถึงจับได้”
“วันนี้มีคนมายิงขู่คุณแดเนียล”
“ว่าไงนะ!”
“คาดว่าน่าจะเคยลงมือมากกว่าสองครั้ง”
“แดนเขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ”
“เปล่าค่ะ เคสแค่ได้ยินคุณแดเนียลเขาพูดว่าพวกเดิม”
“หลานชายของฉันนี่มันจริงๆ มีอะไรก็ไม่เคยบอก แล้วนี่มีอะไรที่น่าสงสัยอีกไหม”
“เคสคิดว่าพวกมันแค่ยิงขู่ เพราะถ้าพวกมันคิดจะฆ่า ระยะแค่นั้นไม่น่าจะพลาดได้ แต่พวกมันพลาดแล้วเพราะที่เกิดเหตุเป็นบริเวณลานจอดรถซึ่งมีกล้องวงจรปิดแน่นอน และอีกอย่างเคสจำทะเบียนรถของพวกมันได้ โจรกระจอกแบบพวกนั้นไม่น่าจะทำอะไรซับซ้อนหรอกค่ะ”
“แล้วหลานชายฉันได้ทำอะไรเธอหรือเปล่า” คาริสาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะตอบคำถามคุณหญิง
“นอกจากโยนเคสลงไปคุยเล่นกับพื้นแข็งๆ แล้ว ก็มีแต่คำพูดแดกดันให้เคสเจ็บใจเล่นเท่านั้นล่ะค่ะ” คาริสาเอ่ยพูดออกไปตรงๆ ตามนิสัย ทำเอาคนฟังถึงกับอมยิ้มเพราะถูกใจในคำตอบที่ตรงไปตรงมาของเธอ